ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ภาษามคธมีชื่อเรียก ๘ ชื่อ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63265 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ก.พ. 2023, 14:14 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | ภาษามคธมีชื่อเรียก ๘ ชื่อ | ||
น/462 วิสุทธิมรรค เล่ม 4 ในสมัยพุทธกาลมีแคว้นใหญ่ ๒ แควัน คือ แควันมคธ และแควันโกศล ทั้งสองแคว้นนี้ เป็นมหาอำนาจแผ่แสนยานุภาพปกครองแควันต่างๆ กว่า ๒๐ แห่งทั่วชมพูทวีป เรื่องนี้ทราบได้ จากข้อความในคัมภีร์อุทาน ราชสูตร""* ในพระสูตรนั้นมีเรื่องที่ภิกษุทั้งหลายสนทนาเปรียบเทียบ พระเจ้าพิมพิสารที่ปกครองแคว้นมคธกับพระเจ้าปเสนทิโกศลที่ปกครองแคว้นโกศลว่า กษัตริย์ พระองค์ไหนมีพระราชทรัพย์ โภคสมบัติ ท้องพระคลัง แว่นแคว้น พาหนะ กำลังพล และ แสนยานุภาพมากกว่ากัน ประชาชนในแคว้นทั้งสองเหล่านั้นใช้ภาษามคธเป็นหลัก จะเห็นได้ว่า ในคัมภีร์อรรถกถา ของสีลักขันธวรรค" กล่าวว่า ประชาชนในแคว้นโกศลมักทักทายกันด้วยคำว่า กจฺจิ โภ กุสลํ ? (ท่านผู้เจริญ สุขภาพดีใหม ?) ซึ่งคล้ายกับคำอังกฤษว่า How do you do ? จึงเรียกว่า แคว้นแคว้นโกศล คือ แควันของตนที่ทักทายกันด้วยคำว่า กุลลํ ส่วนประชาชนในแควันโกศลมักทักทายกันด้วยคำว่า กจฺจิ ชมนียํ. กจฺจิ ยาปนียํ ? (สบายดีไหม ?) ซึ่งคล้ายกับคำอังกฤษว่า How are you ? เมื่อแควันทั้งสองปกครองเมืองต่างๆ ทั่วชมพูทวีปเช่นนี้ จึงเป็นธรรมดาที่ประชาชนใน แควันเหล่านั้นต้องสื่อสารกันด้วยภาษากลาง ซึ่งก็คือภาษามคธนั่นเอง อังกฤษที่เป็นภาษากลางของประเทศมหาอำนาจฝังตะวันตกในปัจจุบัน แสดงธรรมด้วยภาษากลางอันเป็นภาษาที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันในสมัยนั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทราบใด้ว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมด้วยภาษามคธเพื่อให้ซาวอินเดีย ในสมัยพุทธกาลสามารถเข้าใจสิ่งที่ตรัสสอนได้ และภาษามคธนี้ก็มีชื่อเรียกว่า สกนิรุตติ (ภาษา ของตน) พบในพระวินัยปิฎก จูฬวรรค ดังข้อความว่า อนุธานามิ ภิกฺขเว สกาย นิรุตฺติยา พุทฺธวจนํ ปริยาปุณิตุ๋ " ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะด้วยภาษาของตน สกาย นิรุตติยาติ เอตฺถ สกา นิรุตติ นาม สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตปฺปกาโร มาคธิกโวหาโร.
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ก.พ. 2023, 14:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาษามคธมีชื่อเรียก ๘ ชื่อ |
ในคำว่า สกาย นิรุตฺติยา (ด้วยภาษาของตน) นี้ ภาษาของตน คือ ภาษาของ ชาวมดธ อันมีลักษณะดังที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ นอกจากนั้น ภาษามคธยังมีชื่อเรียกอีก ๘ อย่าง พบในตัมภีร์อรรถกถา ดังนี้ ๑. มาคธภาสา: ภาษาอันมีในแคว้นมคธ พบในอรรถกถาของพระอภิธรรมบิฏก" ว่า - สพฺพตฺถ มาคธภาสาว อุสฺสนฺนา (มาคธภาษาเท่านั้นนิยมใช้มากในทุกสถานที่) ๒. มาคธิกภาสา : ภาษาอันมีในแคว้นมคธ พบในอรรถกถาของปฏิสัมภิทามรรค - มาคธิกภาสํ ภาสิสฺสติ (จักกล่าวมาคธิกภาษา) ๓. ตันติภาษา : ภาษาของพระพุทธพจน์ พบในอรรถกถาของธรรมบท" ว่า - ตนติภาสํ มโนรมํ (ภาษาของพระพุทธพจน์อันน่ารื่นรมย์) ๔. มูลภาษา : ภาษาตั้งเติมของคนตันกัป พบในอรถถาของปฏิสัมภิทามรรค" ว่า - สพฺพสตฺตานํ มูลภาสาย ปเกทคตํ ญาณํ นิรุตฺติปฏิสมภิทา (นิรุตฺติปฏิสัมภิทา คือ ปัญญาแตกฉาน(ในภาษามคธนั้น]ที่เป็นภาษาดั้งเติมของเหล่าสัตว์ทั้งปวง) ๕. อริยกะ หรือ อริยโวหาร : ภาษาของชาวอารยัน พบในอรรถกถาของพระวินัยปิฎก มหาวรรค"ว่า - ตตฺถ อริยกํ นาม อริยโวหาโร มาคธภาสา (ในพากย์นั้น ที่ชื่อว่า อริยกะ คือ ภาษาของชาวอารยัน กล่าวคือ ภาษาของชาวมคธ) ๖. พรหมโวหาร : ภาษาของพรหม พบในอรรถกถาของพระอภิธรรมบิฏก" ว่า - อยเมเวกา ยถาภุจฺจพรหฺมโวหารอริยโวหารสงฺขาตา มาคธภาสา น ปริวตฺติ (มาคธภาษานี้เป็นเพียงภาษาเดียวที่เรียกว่า พรหมโวหาร (ภาษาของพรหม) และอริยโวหาร (ภาษาของชาวอารยัน) อย่างแท้จริง ไม่แปรเปลี่ยน(ตามกาลเวลา) ๗. ธัมมนิรุตติ : ภาษาคงที่ พบในอรรถกถาของพระอภิธรรมปิฏก" ว่า - ตตฺถ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป ญาณนฺติ ตสุมี อตฺเถ ธมฺเม จ ปวตฺตมานาย ตสฺสา |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 25 ก.พ. 2023, 16:04 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาษามคธมีชื่อเรียก ๘ ชื่อ | ||
ธมฺมนิรุตฺตืยา สภาวปญฺญตฺยา อภิลาเป ญาณํ (คำว่า ตตฺถ ธมฺมนิรุตฺตาภิลาเป ญาณํ(ความว่า รู้ในการพูดภาษาคงที่นั้น) หมายถึง ปัญญาในการพูดภาษาคงที่นั้น คือ ในการพูดคำบัญญัติที่ ไม่เปเลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นไปในผลและเหตุนั้น) ๘. สภาวนิรุตติ ภาษาคงที่ พบในอรรถกถาของพระอภิธรรมปิฎก ว่า -ตสมี สภาวนิรุตฺตาภิลาเป ปเภทคตํ ญาณํ นิรุตฺติปฏิสมภิทา ในการพูดภาษาคงที่นั้น ชื่อว่า มิรุตติปฏิสัมภิทา) ชื่อว่า ธัมมนิรุตติ และสภาวนิรุตติ มีความหมายเหมือนกัน โดยความเป็นภาษาคงที่ไม่ เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาเหมือภาษาอื่นๆ แม้ภาษานี้จะสาบสูญไปจากโลกมนุษย์แล้วก็คงอยู่ ในเทวโลกและพรหมโลกโดยพรหมเหล่านั้นจะมาเป็นคนต้นกัปเมื่อโลกพินาส แล้วอุบัติขึ้นใหม่ ตามขัอความที่กล่าวไว้ในทีนิกาย ปาฏิกวรรด อัคคัญญสูตร"* ภาษานี้จึงเป็นภาษาของพระ พุทธเจ้าทุกพระองค์ จะเห็นใด้ว่าพระเจ้ามหินทะผู้เป็นพระราชบิดาของพระพุทธเจ้าพระเจ้านามว่า ผุสสะ ผู้ตวัสรู้เมื่อ ๙๑ กัปที่ผ่านมา ได้กล่าวนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยบทมหานมัสการ ว่า นโม ตสฺส เป็นตัน ดังที่ปรากฏในอรรถถาธรรมบท"** และในมหาสุตโสมชาดก ก็มีเนื่อง ของพระเจ้าสุตโสมที่ให้ฟังคาถา ๔ บทซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้ากัสสปะผู้เสด็จดับข้นธ ปรินิพพานไปแล้ว แต่คำสอนที่เป็นคาถา ๔ คาถาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ในโลก การที่ภาษามคธนี้คงอยู่ตามธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลง อาจจะเป็นเพราะว่ามีรากศัพท์ที่ แน่นอนชัดเจน และไม่ชับช้อนเหมือนภาษาสันสกฤต เช่น วิภัตตินามในภาษามคธมี ๑๔ ศัพท์ แต่ ในภาษาสันสกฤตมี ๒๑ ศัพท์ วิภัตติอาขยาตในภาษามคธมี ๙๖ ศัพท์ แต่ในภาษาสันสกฤตมี คัพท์ อีกทั้งการผันคำในสันสกฤตก็ชับซ้อนและมีข้อยกเว้นมากมาย ภาษามคธจึงเป็นภาษาของ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ บางท่านเข้าใจว่า คำว่า ปาฬิ หรือ ปาลิ แปลว่า "บาลี" เป็นคำใหม่ที่พบในคัมภีร์อรรถ กถา ซึ่งไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก แต่แท้จริงแล้วคำว่า ปาฬิ มีมาตั้งแต่สมัยปฐมสังคายนา ข้อความในสังยุตตนิกาย มหาวรรคว่า
|
เจ้าของ: | sirinpho [ 01 มี.ค. 2023, 21:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ภาษามคธมีชื่อเรียก ๘ ชื่อ |
ภาษามคธเป็นภาษาคงที่และจะไม่วิบัติ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63271 เหตุผลที่ทรงเลือกภาษาปรากฤตประกาศพระศาสนา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=28085 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |