ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
บุรพกรรมของชฎิล ๓ พี่น้อง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=63055 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 ม.ค. 2023, 13:05 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | บุรพกรรมของชฎิล ๓ พี่น้อง | ||
บุรพกรรมของชฎิล ๓ พี่น้อง ภิกษุทั้งลายทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ กัสสปะ ๓ ที่น้องมีอุรุเวลกัสปะเป็นต้น ท่านทำกรรมอะไรไว้เล่า พระองค์ตรัสว่า เขาปรารถนาพระอรหัตเหมือนกัน ได้กระทำบุญแล้ว ก็ใน ๙๒ กัปป์แต่ นี้ไป พระพุทธเจ้า ๒ พระองค์ คือ พระติสสะ พระปุสสะ เสด็จอุบัติแล้ว พระราชาพระนาม ว่า มหินท์ ได้เป็นพระบิดาของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ปุสสะ เมื่อพระองค์ทรงบรรลุพระ สัมโพธิญาณแล้ว พะโอรสองค์เล็กของพระราชาได้เป็นพระอัครสาวก บุตรปุโรหิตได้เป็นสาวก ที่ ๒ พระราชาได้เสด็จไปยังสำนักพระศาสดา ทรงตรวจดูชนเหล่านั้นว่า ราชโอรสองค์ใหญ่ของเรา เป็นพระพุทธจ้า ราชโอรสองค์เล็กเป็นอัครสาวก บุตรปุโรหิตเป็นพระสาวกที่ ๒" ทรงเปล่งพระ อุทาน ๓ ครั้งว่า พระพุทธเจ้าของข้าพเจ้า พระธัมม์ของข้าพเจ้า พระสงฆ์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ชอบเองพระองค์นั้น แล้วหมอบลง แทบบาทมูลของพระศาสดา ทรงรับฏิญญาว่า ข้าแต่พรองค์ผู้จริญ บัดนี้ป็นดุจเวลาที่หม่อมฉัน นั่งหลับ ในที่สุดอายุประมาณเก้าหมี่นปี ขอพะองค์อย่าเสด็จไปสู่ประตูเรือนของชนแก่อื่น จงทรงปัจจัย ๔ ของหม่อมฉัน ตลอดที่หม่อมวันยังมีชีวิตอยู่ แล้วทรงทำพุทธอุปฐากเป็นประจำ
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 ม.ค. 2023, 13:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บุรพกรรมของชฎิล ๓ พี่น้อง |
พระราชทรงมีพระราชโอรสอื่นอีก ๓ พระองค์ พระองค์ใหญ่มีนักรบเป็นบริวาร ๕๐๐ พระองค์กลางมื ๓๐๐ พระองค์เล็กมี ๒๐๐ พระราซโอรส ๓ พระองค์เหล่านั้น ทูลขอโอกาสกะ พระบิดาว่า แม้หม่อมฉันทั้งหลายจักนิมนต์พระเจ้าพี่เสวย" แม้ทูลอ้อนวอนอยู่ป่อย ๆ ก็ไม่ได้ ต่อมาเมื่อปัจจันตชนบทกำเริบแล้ว พระราชโอรสทั้งสามถูกส่งไปเพื่อประโยชน์ระงับปัจจันต ชนบทนั้น มื่อปราบปัจจันตชนบทให้ราบคาบแล้ว มาสู่สำนักพระราชบิดา ครั้งนั้น พระบิดาทรง สวมกอดพระโอรสทั้งสาม ตรัสว่า พ่อทั้งหลาย บิดาให้พรแก่พวกเจ้า" โดยกาลล่วงไปสองสาม วัน พระบิดาตรัสอีกว่า พ่อทั้งหลาย พวกเจ้าจงรับพรเสียเถิด" พระโรสกราบทูลว่า ความ ประสงค์ด้วยสิ่งไร ๆ อื่นของหม่อมฉันไม่มี ตั้งแต่บัดนี้ หม่อมฉันจักนิมนต์พระเจ้าพี่เสวย ขอ พระราชทานพรนี้แก่หม่อมฉันเถิด พระราชา. ให้ไม่ได้ พระโอรส. เมื่อไม่พระราชทานเสมอไป ก็พระราชทานเพียง ๗ ปี พระราชา. ให้ไม่ได้ พระโอรส ถ้ากระนั้น ก็พระราชทานเพียง ๖ ปี ๕ ปี ๔ ปี ๓ ปี ๒ ปี ๑ ปี ๗ เดือน ๖ เดือน ๕ เดือน ๔เดือน ๓ เดือน พระราชา ให้ไม่ได้ พระโอรส ช่างเถิด พระเจ้าข้า ขอทรงพระราชทานสัก ๓ เดือนแก่ข้าพระองค์ ทั้งหลาย คนละเดือน ๆ พระราชา. ดีละถ้ากระนั้น เจ้าจงนิมนต์ให้เสวยได้ ๓ เดือน ก็ชุนคลังของพระราชบุตรทั้งสามนั้นเป็นคนเดียวกัน สมุห์บัญชีก็คนเดียวกัน ท่านทั้ง สมพลองค์นั้นมีบุรุษ ด๒ นหุตเป็นบริวาร พระราชโอรสทั้งสามให้เรียกบริวารเหล่านั้นมาแล้ว ตรัส ว่า เราทั้งสามจักรับศีล ๑๐ นุ่งห่มผ้ากาสายะ ๒ ผืน อยู่ร่วมด้วยพระศาสดาตลอดไตรมาส นี้ พวท่นพึงรับค่าใช้จ่ายมีประมาณท่านี้ ยังของเดี๋ยวของบริโภคทุกอย่างให้เป็นไปทั่วถึงแก่ภิกษุ เก้าหมื่นรูป และนักรบของเราพันหนึ่ง เพราะแต่นี้ไป พวกเราจักไม่พูดอะไร ๆ พระราชโอรสทั้งสามนั้นพาบุรุษบริวารพันหนึ่งสมาทานศีล ๑๐ นุ่งห่มผ้ากาสายะ อยู่ แต่นวิหาร ชุนคลังและสมุห์บัญชีได้ร่วมกันเบิกเสบียงตามวาระ ๆ จากเรือนดลังทั้งหลายของ พระที่น้องทั้งสามถวายทานอยู่ |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 ม.ค. 2023, 16:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บุรพกรรมของชฎิล ๓ พี่น้อง |
ก็บุตรขอพวกกรรมกรร้องให้ต้องการข้าวยาคูและภัตเป็นต้น กรรมกรเหล่านั้น เมื่อ ภิกษุสงฆ์ยังไม่กันมา ก็ใด้ห้วิตถุมีข้วยาคูและภัตป็นต้นแก่บุตรเหล่านั้น ในเวลาที่ภิกษุสงฆ์ฉันเสร็จ เเล้วไม่เคยมีของอะไรเหลือแลย ในกาลต่อมา พวกกรรมกรเหล่านั้นพูดอ้างว่าเราจะให้แก่พวกเด็ก" แล้วรับไปกิน เสียเอง เห็นอาหรที่ชอบใจก็ไม่สามารถจะอดกลั้นได้ พวกเขามีประมาณเปดหมื่นสี่พัน พวก เขากินอาหารที่ถวายสงฆ์แล้ว เพราะกายแตกได้เกิดในเปตตวิสัยแล้ว ฝ่าบพระราชโอรส ๓ พี่น้องพร้อมด้วยบุรุษพันหนึ่ง ทำกาละแล้วเกิดในทวโลก ท่องเที่ยว จากเทวโลกสู่เทวโลก ยังกาลให้สิ้นไป ๙๒ กับป์ พระราชโอรส ๓ พี่น้องนั้นปรารถนาพระอรหัต ทำกัลยาณกรรมในกาลนั้น ด้วยประการอย่างนี้ ฎิล ๓ พี่น้องนั้นได้รับผลที่ตนปรารถนาแล้ว เหมือนกัน เราจะได้เลือกหน้าให้หามิได้ ส่วนสมุห์บัญชีของพระราชโอรส ๓ พระองค์นั้น ในกาลนี้ได้เป็นพระเจ้าพิมพิสาร ขุนคลังได้เป็นวิสาขอุบาสก กรรมกรของท่านทั้ง ๓ นั้นกิดแล้วในพวกเปรต ในกาลนั้นท่องเที่ยวอยู่ ด้วยสามารถแห่งสุคติและทุคติ ในกัปปนี้กิดในเปตตโลกสิ้น ๔ พุทธันดร เปรตเหล่านั้น เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า กกุสันธะ ผู้ทรงพระชนมายุได้ สี่หมื่นปี เสด็จอุบัติขึ้นก่อนพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกัปปีนี้ ทูลว่า 'ขอพระองค์โปรดบอกกาลเป็น ที่ได้อาหารแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย" พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า พวกท่านจักยังไม่ได้ในกาลของเราก่อน แต่ภายหลังแห่ง เรา เมื่อมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณได่ ๑ โยชน์ พระพุทธเจ้าพระนามว่า โกนาคมนะ จักอุบัติ ขึ้น พวกเจ้าพึงทูลถามพระองค์เถิด" เปรตเหล่านั้น ยังกาลมีประมาณท่านั้นให้สิ้นไปแล้ว เมื่อพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า โกนาคมนะนั้น้นเสด็จอุบัติขึ้นแล้ว จึงได้ทูลามพระองค์ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ตรัสว่า พวก ท่านจักยังไม่ได้ในกาลของเรา แต่ภายหลังแห่งเรา เมื่อมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณได้ ๑ โยชน์ พระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ จักอุบัติขึ้น พวกเจ้าพึงทูลถามพระองค์เถิด" เปรตเหล่านั้น ยังกาลมีประมาณท่นั้นให้สิ้นไปแล้ว เมื่อพระพุทธเจ้พระนามว่ากัสปะ นั้นแท็จอุบัติขึ้นแล้ว จึงทูลถามพระองค์ แม้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ตรัสว่า พวกเจ้าจักยังไม่ได้ ในกาลของเรา แต่ภายหลังแห่งเรา เมื่อมหาปฐพีงอกสูงขึ้นประมาณได้ ๑ โยชน์ พระพุทธเจ้า พระนามว่า โคดม จักเสด็จอุบัติขึ้น ในกาลนั้นญาติของพวกเจ้าจักเป็นพระราชาพระนามว่า พิมพิสาร พระเจ้าพิมพิสารนั้น ถวายทานแด่พระศาสดาแล้ว จักให้ส่วนกุศลทานถึงแก่พวกเจ้า พวกเจ้าจักได้ (อาหาร) ในคราวนั้น" พุทธันดรหนึ่ง ได้ปรากฎแก่เปรตเหล่านั้นเหมือนวันพรุ่งนี้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |