ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

การให้ทานเป็นปทัฏฐานแก่ความรอบรู้ปริยัติ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62501
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 13 ส.ค. 2022, 03:27 ]
หัวข้อกระทู้:  การให้ทานเป็นปทัฏฐานแก่ความรอบรู้ปริยัติ

ทานมยํ ปุญฺญกิริยาวตฺถุ ปรโต จ โฆสสฺส สุตมยิยา จ
ปญฺญาย สาธารณํ ปทฏฺฐานํ


การให้ทานเป็นปทัฏฐานแก่ความรอบรู้ปริยัติ

ประ โยคนี้ ก็คล้ายกับประ โยคที่ผ่านมาเพียงแต่ว่าท่านต้องการจะแสดงว่า
"ทานมัย บุญกิริยาวัตถุ" นี้ นอกจากจะเป็นปทัฏฐานแก่ปรโตโฆสะ แล้วยัง
สามารถเป็นปทัฏฐานให้แก่ธรรมอย่างอื่นด้วย ก็เลยหวนกลับมาแสดงทานมัยอีก
ครั้งหนึ่ง ความจริงแล้ว ถ้าจะแสดงพร้อม ๆ กันก็ได้ แต่ท่านเกรงว่าจะเกิดความ
สับสน จึงแยกกล่าวต่างหาก แต่เวลาแปลเราสามารถแปลรวมกันได้ นั่นหมาย
ความว่าเราสามารถนำ ทานมัย ประโขคแรก มารวมเข้ากับทานมัย ประโยคที่

ทานมยํ ปุญฺญกิริยวตฺถุ -บุญกิริยาวัตถุที่เป็นทานมัย
ปทฎฺฐานํ -เป็นปทัฏฐาน สาธารณํ -หนึ่ง ปรโต จ โฆสสฺส -
แก่ปร โตไฆสะด้วย สุตมยิยา จ ปญฺญาย -แก่สุตมยญาณ หรือ
สุดมยปัญญาด้วย

ข้อนี้แสดงว่า ทานมัยเป็นปทัฏฐานทั้งแก่ปรโตโฆสะและสุตมยปัญญา.
ก็คงใช่. เพราะว่าการให้ทานนอกจากจะเป็นเหตุได้ฟังธรรมแล้ว ยังเป็นเหตุให้
ได้มาซึ่งสุตมยปัญญา (ปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรมนั้น) ท่านบอกว่า "ปจฺจยา"
"เป็นปัจจัย" คือนอกจากสามารถเป็นปัจจัย หรือเป็นปทัฏฐานให้แก่ปัญญาตามที่
กล่าวมาแล้วยังสามารถเป็นปัจจัยให้เกิด ปริยตุติพาหุสจฺจ (ความรู้ด้านปริยัดิ
หรือความรู้เชิงทฤษฎี สุตมยปัญญาในที่นี้หมายถึง ปริยตฺติพาหุสจฺจที่เกิดจาก
การได้ขึ้นได้ฟัง ความเป็นผู้มีพหูสูตในพระปริยัติ ก็คือคงแก่เรียนในพระปริขัติ
อันนี้ก็อันหนึ่ง ส่วน ปริยตฺดิพาหุสจฺจ กล่าวคือ คือ ปรโตโฆสะ นี้หมายถึงความรู้
ที่ได้จากการฟังธรรม ส่วนสุตมยปัญญา หมายถึง ความเป็นผู้มีพหูสูตในพระ
ปริยัติ เพราะฉะนั้น การให้ทานก็สามารถเป็นปัจจัยให้เกิดสิ่งเหล่านี้ ได้

ไฟล์แนป:
Beggar-Poeple-PNG-Image.png
Beggar-Poeple-PNG-Image.png [ 267.25 KiB | เปิดดู 1118 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/