ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อารัมมณปัจจัย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=62322 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 21 ก.ค. 2022, 09:17 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อารัมมณปัจจัย | ||
อารัมมณปัจจัย ธรรมที่เป็นอารมณ์ของจิตใจ ปัจจัยธรรม คือ ธรรมที่เป็นฝ่ายอารมณ์(สิ่งที่ถูกรับรู้โดยจิตใจ) ได้แก่อารมณ์ ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส (โผฏฐัพพะระและธรรมารมณ์) ปัจจยุบันนล?ธรรม ที่เป็นฝ่ายอารัมมณิกะ(จิตใจตัวที่รับรู้อารมณ์)ได้แก่ จิตที่เห็น จิตที่ได้ยิน จิตที่รู้กลิ่น จิตที่รู้รส จิตที่สัมผัส และจิตที่รู้ธัมมารมณ์ พระพุทธองค์ทรงแสดงความเป็น อารัมมณะปัจจัยไว้ดังนี้ว่า "เพราะการปรากฏเกิดขึ้นแห่งอารมณ์ มีรูปารมณ์เป็นต้น จึงทำให้เกิดจิตวิญญาณตัวรับรู้ เช่น เพราะการปรากฏแห่งรูป จึงทำให้เกิดการเห็น เพราะมีเสียงจึงทำให้เกิดการได้ยินเป็นต้น ทุกครั้งที่เกิดการบรรจบหรือการกระทบกับอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นดีหรือชั่วก็ให้เราฝึกฝนใช้สติพิจารณา(มองดู) อารมณ์นั้นด้วยหลักโยนิโสมนสิการซึ่งเป็นหลักของการมองโลกในแง่หากเรามองโลกอารมณ์ที่มากระทบ ในแง่ดีจิตใจของเราก็จะมีสภาพเป็นบุญเป็นกุศลหรือเป็นจิตที่งดงามแต่ตรงธรรม หากเรามองโลก ด้วยอโยนิโสมสิการ ซึ่งเป็นหลักมองโลกในแง่ร้ายจิตใจของเราก็จะมีสภาพเป็นบาปเป็นอกุศล เป็นจิตมาร หรือกลายเป็นจิตเน่า ยกตัวอย่างในเวลาที่เราเห็นพระพุทธรูปปฏิมาหรือพระพุทธรูป ซึ่งงดงามเหลืองอร่าม ไปด้วยสีแห่งทองคำนำมาซึ่งความน่าเลื่อมใสยิ่ง บางคนอาจเกิดผิดศรัทธา เลื่อมใสแต่บางคนอาจเกิดจิตทรามอยากจะไปลักขโมยขูดเอาทองคำไปขายก็ได้ บางคนอาจชื่นชมผู้ที่บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์แต่บางคนอาจจะมองในแง่ร้ายไม่พึงพอใจต่อบุคคลนั้นก็ได้ ท่านทั้งหลายลองคิดดูสิว่าความจริงแล้วอารมณ์ก็อยู่ตามธรรมชาติของเขาไม่สามารถมีอิทธิพล ต่อความงามและความต่ำทรามให้กับจิตใจของเราได้แต่เราเองไปปรุงแต่งจนเกิดจิตงามหรือจิตที่จะด้วย เหตุนี้การเกิดภาวะจิตไม่ ว่าจะดีหรือชั่วจึงขึ้นอยู่กับมุมมองของเราทั้งหลายเป็นสำคัญคือหากเรามอง อารมณ์นั้นในแง่ดีจิตเราก็จะดีหากเรามองในแง่ร้ายจิตเราก็ร้ายดังนั้นจึงไม่ควรที่จะไปโทษอารมณ์ ภายนอกใดๆเพราะแม้จะมีรูปารมณ์อยู่แต่หากเราไม่ดูเราก็ไม่เห็นแม้จะมีเสียงหากเราไม่เอาใจใส่เราก็ จะไม่ได้ยินดังนี้ เป็นต้น สรุปว่าหากเราไม่เอาใจใส่ต่ออารมณ์ใดๆแล้ว ไปอารมณ์นั้นๆก็จะไม่มีบทบาทสำคัญหรือมีอิทธิพลเหนือจิตใจ เราได้จึงควรที่จะโทษตัวเองเสียดีกว่าในฐานะที่ไม่สำรวมระวังด้วยสติสัมปชัญญะในการรับอารมณ์นั้นๆ ด้วยเหตุนี้เราตั้งทั้งหลายจงตระหนักให้ดีว่าอารมณ์นี้ได้เป็นผู้เนรมิตให้จิตเราดีหรือไม่ดีแต่โยนิโสมนัสต่างหาก และอโยนิโสมนัสนิคมที่ปรุงแต่งจิตใจเราเมื่อรู้ตัวเช่นนี้เราท่านทั้งหลาย จึงควรเลือกโยนิโสมมะหน้าที่การ มาใช้ในทุกครั้งทุกขณะที่จิตรับรู้อารมณ์ทั้งนี้ยกเว้นเวลานอนเพื่อให้จิตมีสภาพปกติไม่ยินดียินร้าย กับอารมณ์ที่มากระทบนั่นเอง คาถาเตือนใจ
ผุฏฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ อโสกํ วิรชํ เอตํ มงฺคลมุตฺตมํ
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |