ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ลักษณะการปกปิดสันตติ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=61300 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 12 พ.ย. 2021, 07:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | ลักษณะการปกปิดสันตติ |
ลักษณะการปกปิดของสันตติ ตัวอย่างเช่นในกรณีของผู้ที่ไม่ได้กำหนดรู้แยกแยะอาการต่างๆ เช่น (อาการอยากดู อาการดู อาการที่เห็น อาการที่พิจารณา) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นในขณะที่เห็น ย่อมสำคัญผิดคิดว่า อาการทั้งหมดเหล่านั้นเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นกลุ่มเดียวกัน อาการที่ปรากฏเช่นนี้แหละ ท่านเรียกว่า สันตติฆนะ เมื่อใดที่สันตติฆนะเกิดขึ้น บุคคลที่จะเกิดสภาวธรรมเป็นกลุ่มเป็นก้อนเดียวกัน ท่านเรียกว่า ถูกสันตติฆนะปกปิดไม่ให้เห็นตามสภาพตามความเป็นจริง ซึ่งจะทำให้เกิดความสำคัญผิดคิดว่า ตนเองสามารถดูหรือเห็นได้ตามที่ตนต้องการพิจารณาหรือรู้ได้ตามความต้องการ และในที่สุดก็จะเกิดอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นว่า อัตตาตัวตนที่ทำให้เป็นไปตามความปรารถนานั้นมีอยู่ ที่กล่าวมานี้เป็นตัวอย่างในกรณีของรูปเท่านั้น ส่วนในกรณีของการได้ยินเสียง ดมกลิ่น เป็นต้น ก็พึงทราบโดยนัยทำนองเดียวกันนี้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ไม่ได้กำหนดรู้ขั้นตอนของอาการซึ่งเกี่ยวกับอิริยาบถต่างๆ เช่นในขณะกำลังยืน เดิน นั่ง นอน เป็นต้น ในอาการเหล่านี้ ถ้าไม่สามารถกำหนดแยกแยะอาการของนามคืออาการอยากยืน หรืออาการอยากเดินออกจากอาการของรูปคือ อาการยืน หรืออาการเดินแล้วละก็จะทำให้ผํนั้นเกิดความสำคัญผิดคิดว่าเป็นอาการเดียวกัน คือสำคัญว่า สามารถยืนได้ตามความต้องการ หรือเดินได้ตามความต้องการจนในที่สุดก็เกิดทำให้อุปาทานยึดมั่นว่า อัตตาตัวตนที่ทำได้ตามความต้องการนั้นมีอยู่ซึ่งนี่ก็เป็นผลของการที่ไม่สามารถกำหนดรู้ขั้นตอนของนามและรูปซึ่งเกิดขึ้นคนละขณะ นทำให้ถูกสันตติฆนัปิดบังมิให้เห็นอนัตตลักษณะตามควาทเป็นจริงได้ ถ้าทำลายสันตติได้ อนัตตลักษณะก็จะปรากฏ เมื่อนักปฏิบัติสามารถกำหนดรู้นามรูปเป็นอย่างๆ ไปไม่ปะปนกัน เป็นต้นว่าความอยากดู อยากเห็นก็เป็นอีกอย่าง การดู การเห็นก็เป็นอีกอย่างไม่ใช่สิ่งเดียวกันไม่ว่านักปฏิบัติจะเห็นหรือได้ยิน หรือเกิดอาการอื่นๆ เขาก็ไม่สำคัญธรรมทั้งหลายว่าเป็นสิ่งเดียวกัน หรือว่าวัตถุเดียวกัน นี้ชื่อว่า สันตติฆนะ ได้สลายไปจากจิตของเขาแล้ว และเมื่อสันตติฆนะได้ถูกทำลายลงแล้วเขาย่อมเกิดความเข้าใจได้อย่างถูกต้องว่าธรรมแต่ละอย่างล้วน ทำหน้าที่ของตนๆ อาการอยากเห็นไม่สามารถทำหน้าที่การเห็นได้ และการเห็นก็ไม่อาจยังกิจคืออาการอยากให้สำเร็จได้ ดังนี้เป็นต้น เมื่อเข้าใจดังนี้แล้ว ย่อมทำให้เกิดญาณปัญญาสามารถรู้แจ้งอนัตตลักษณะว่า"ไม่มีอัตตาตัวตน ซึ่งเป็นผู้สามารุดูได้-เห็นได้-พิจารณาได้-รูได้ ตามความต้องการ จะมีก็เฉพาะแต่สภาวธรรมที่เกิดขึ้น เมื่อมีเหตุปัจจัยอันเหมาะสมเท่านั้น" แม้ในกรณีนี้ของการได้ยินได้ฟัง ก็พึงทราบโดยนัยเดียวกันนี้ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |