ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=60617 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 30 ก.ค. 2021, 13:40 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ | ||
โค้ด: อนินทรียพัทธรูปและบัญญัติก็เป็นสัจจวิมุตติ นอกจาก มัคคจิตตุปปาท ๒๙ ผลจิตตุปปาท ๓๗ เป็นสัจจวิมุตติดังกล่าว มาแล้วนี้ ยังมีธรรมที่เป็นสัจจวิมุตติ อีก ๒ คือ อนินทรียพัทธรูป และ บัญญัติธรรม อนินทรียพัทธรูป คือ รูปธรรมที่ไม่เนื่องด้วยอินทรีย์ นั่นก็หมายถึงรูปธรรม ที่ไม่เนื่องด้วยสิ่งที่มีชีวิต รูปธรรม ๒๘ ที่เป็นทุกขอริยสัจนั้น ต้องเป็น อินทรียพัทธรูป คือ รูปธรรมที่เนื่อง ด้วยอินทรีย์ เป็นรูปธรรมที่เนื่องกับสิ่งที่มีชีวิต เท่านั้น ส่วนรูปธรรมที่ไม่เนื่องกับสิ่ง ที่มีชีวิต คือ อนินทรียพัทธรูปนี้ จึงไม่ใช่ ทุกขอริยสัจ ก็เป็นธรรมที่พ้นพิเศษจาก อริยสัจ ๔ เป็น สัจจวิมุตติไปบัญญัติธรรม เป็นธรรมที่สมมติขึ้นบัญญัติขึ้นตามโวหาร ของชาวโลก เป็น สมมติไม่เหมือนกัน โค้ด: อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ ในคัมภีร์อัฏฐกถาที่ยกมาข้างต้นนั้น คำว่า เตภูมกธมฺเม "ในเตภูมกธรรม" นั้น คำว่า อริยทุกสัจ ท่านหมายเอาเฉพาะสภาวธรรมเป็นกามาวจร รูปาวจร และอรูปาวจร ซึ่งเกิดขึ้นในขันธสันดานของสัตว์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ส่วนอนินทริยพัทธรูปที่ไม่ นับเนื่องในอัตภาพ ท่านไม่ได้จัดเป็นอริยทุกขสัจ สาเหตุเพราะว่า อนินทริยพัทธรูป ทั้งหลายนั้นแม้จะได้ชื่อว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง เนื่องจากมีการเกิดการดับ ก็ตามแต่เนื่อง จากมิใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของสมุทัย นอกนี้เนื่องจากมิใช่ธรรมที่มรรคสัจจะ พึงประหานให้ดับไป จึงไม่จัดเป็นอริยทุกขสัจ เพราะฉะนั้น ในฐานะที่อนินทริยพัทธรูป หรือพหิทธรูปกล่าวคือรูปภายนอกนั้นเป็นรูปที่มิได้เกิดจากสมุทัย แม้แต่รูปที่ควรแก่การ เจริญวิปัสสนาเพื่อไม่ให้เกิดกิเลส โดยอาศัยพหิทรูปดังกล่าวมีเสื้อผ้าอาภรณ์ เป็นต้น เป็นอารมณ์ และเพื่อเป็นการเปรียบเทียบระหว่างพหิทธรูปและอัชฌัตติกรูปให้มองเห็นชัดเจนในเรื่องของหลัก ไตรลักษณ์ คืออนิจจังและอนัตตา โดยอาศัยพหิทธรูปที่มีลักษณะอนิจจะ อนัตตาที่ปรากฏ ชัดนั้นเป็นเครื่องเปรียบเทียบด้วยซึ่งแม้ว่าโยคีสามารถที่จะกำหนดหรือจะเจริญวิปัสสนา ในพหิทธรูปที่ปรากฏขึ้นทางทวาร ๖ ทวารใดทวารหนึ่งก็ตามแต่อนินทริยพัทธรูปทั้งหมดเหล่านั้น ก็ควรทราบว่ายังไม่ได้ชื่อว่า ปริญเญยยอริยทุกขสัจ "ทุกข์ที่ควรกำหนดรู้" อยู่ดี
|
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 30 ก.ค. 2021, 17:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ |
สัจจะของตนเท่านั้นเป็นสิ่งที่โยคีควรรู้ ในบรรดาสภาวธรรมที่เกิดขึ้นในขันธสันดานของสัตว์ทั้งหลายโยคีพึงทำการ กำหนดรู้เฉพาะอริยสัจ ๔ ที้เกิดขึ้นในขันธสันดานของตนเท่านั้น สาเหตุเพราะว่า ทุกขสัจที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของตัณหาสมุทัยของตนนั้นย่อมจะเกิดขึ้นภายในขันธสันดาน ของตนเท่านั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นในขันธสันดานของผู้อื่นได้ แม้แต่การที่ทุกขสัจ เกิดขึ้น เพราะตัณหาสมุทัยของบุคคลอื่น ก็ย่อมเกิดขึ้นได้เพราะในขันธสันดานของ บุคคลอื่นเท่านั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในสันดานของตัวเรา นอกจากนี้ มรรคสัจของตนนั่นแหละจึงจะสามารถทำให้ทุกข์และสมุทัยของ ตนดับได้มรรคสัจของตัวเรานั้นไม่สามารถทำให้ทุกข์และสมุทัยของผู้อื่นดับได้แม้แต่ มรรคของผู้อื่นก็เช่นกัน คือ ไม่สามารถทำให้ทุกขและสมุทัยของเราดับลงได้ นอกจากนี้ การดับแห่งสมุทัยและทุกข์ที่เกี่ยวข้องกับสันดานของพระอริยะ แต่ละท่านนั้น ในพระบาลีและคัมภีร์อัฏฐกถาทั้งหลาย ท่านได้อธิบายไว้ราวกับ ว่าการดับทุกขสมุทัยกล่าวคือนิโรธนั้นเป็นเสมือนอัชฌัตติกธรรมของพระอริยะ ทั้งหลายนั่นเทียว ก็อริยสัจของบุคคลอื่นนั้น คนอื่นไม่สามารถที่จะรู้แจ้งได้ จะรู้ แจ้งได้เฉพาะของใครของมันเท่านั้น แต่กระนั้น หากผู้แจ้งอริยสัจ ๔ ของตนแล้ว ก็สามารถที่จะอนุมานหรือรู้อริยสัจ ๔ ของผู้อื่นด้วยอนุมานญาณได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้แม้ว่าการเจริญวิปัสสนาในพหิทธรูปหรือสิ่งที่เป็นพหิทธสันดาน จะสามารถทำให้เกิดมรรค ผลได้ แต่ก็พึงทราบว่าการรู้อริยสัจที่เป็นภายในเท่านั้น |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 31 ก.ค. 2021, 08:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ |
โค้ด: การกำหนดรู้อริยสัจ ๔ ของตนสำคัญที่สุด ทั้งในคัมภีร์พระไตรปิฎกและอัฏฐกถาได้แสดงความหมายนี้ไว้โดยตรงว่า อนินฺทริยพัทธรูปที่ไม่มีจิตวิญญาณนั้น ไม่ได้จัดเป็นอริยทุกขสัจ(ทุกขสัจ) อริยสัจทั้ง ๔ นั้นมีอยู่เฉพาะในขันธสันดานของเหล่าสัตว์ทั้งหลายที่มีชีวิตเท่านั้น ในคัมภีร์ฎีกาได้อธิบายให้ปร่กฏชัดเจนดังนี้ว่า สำหรับนิโรธสัจแม้จะเป็น พหิทธธรรมกล่าวคือธรรมที่เป็นภายนอกอย่างแท้จริงก็ตาม แต่ถึงกระนั้นท่านก็จัด นิโรธสัจนั้นให้อยู่ในกลุ่มอริยสัจของตนและของบุคคลอื่นทั้งสองฝ่าย อนึ่ง ในการที่อริยสัจ ๔ อยู่ในขันธสันดานของสัตว์เหล่านี้ พึงทราบว่า โยคี สามารถละสมุทัยสัจได้เฉพาะที่เป็นของตนเท่านั้น ซึ่งการละสมุทัยสัจของตนนั้น นั้นแล จัดเป็นปหานปฏิเวธะและอภิสมยะ กล่าวคือการละรู้แจ้งแทงตลอด และการตรัสรู้ อนึ่ง โยคีนั้นย่อมสามารถดับได้เฉพาะสมุทัยสัจและทุกขสัจ ที่เป็นของตนเท่านั้น ซึ่งการกระทำให้แจ้งนิโรธะกล่าวคือการดับนั้นท่านเรียกว่า "สัจฉิกิริยาปฏิเวธะ และอภิสมยะ กล่าวคือการประจักแจ้งแทงตลอดและการตรัสรู้ โยคีนั้นย่อมสามารถทำภาวนาหรือเจริญมรรค ๘ เฉพาะในขันธสันดานของตน เท่านั้น ก็การทำภาวนาหรือเจริญมรรค ๘ นั้นนั่นเทียวเรียกว่า ภาวนาปฏิเวธะ อภิสมยะ การเจริญทำให้มรรคเกิดขึ้นและการรู้แจ้งแทงตลอดและการตรัสรู้ ส่วนขันธสันดานของบุคคลอื่นนั้นเราไม่สามารถที่จะละสมุทัย ไม่สามารถที่จะ กระทำให้แจ้งนิโรธ และสามารถที่จะเจริญมรรคของบุคคลอื่นได้ เพร่ะฉะนั้น สมุทัย นิโรธ และมรรคของบุคคลอื่นจึงไม่สามารถเป็นปหานปฏิเวธะ สัจฉิกรณะ และภาวนาสำหรับตัวเราได้ สรุปว่า การรู้อริยสัจ ๔ ที่เป็นของตนตามความเป็นจริง เท่านั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 03 ส.ค. 2023, 17:53 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อนินทริยพัทธรูปไม่ใช่ทุกขสัจ | ||
อนินทรียพัทธรูปและบัญญัติก็เป็นสัจจวิมุตติ นอกจาก มัคจิตตุปปทาน ๒๙ ผลจิตตุปปทาน ๓๗ เป็นสัจจวิมุตติดังกล่าวมา แล้วนี้ ยังมีธรรมที่เป็นสัจจวิมุตติอีก ๒ คือ อนินทริยพัทธรูป และ บัญญัตติธรรม อนินทรียพัทธรูป คือรูปธรรมที่ไม่เนื่องด้วยอินทรีย์ นั่นก็หมายถึงรูปธรรมทีไม่ เนื่องด้วยสิ่งมีชีวิต รูปธรรม ๒๘ ที่เป็นทุกขอริยสัจนั้นต้องเป็น อินทรียพัทธรูป รูปธรรมที่เนื่องด้วยอินทรีย์ เป็นรูปธรรมที่เนื่องกับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น ส่วนรูปธรรมทีไมเนื่อง กับสิ่งที่มีชีวิต คือ อนินทรียพัทธรูปนี้จึงจึงไม่ใช่ทุกขอริยสัจ ก็เป็นธรรมที่พ้นพิเศษจากอริย- สัจ ๔ เป็นสัจจวิมุตติไป บัญญัตติธรรม เป็นธรรมที่สมมติขึ้นบัญญัติขึ้นตามโวหารของชาวโลก เป็นสมมติ ไม่เหมือนกัน
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |