ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
โลกุตรจิต : พระนิติเกษตรสุนทร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=20674 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 18 ก.พ. 2009, 15:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | โลกุตรจิต : พระนิติเกษตรสุนทร |
โลกุตรจิต โลกุตรจิต คือ จิตในขณะที่เข้าไปรู้อารมณ์พระนิพพาน เป็นจิตที่เกิดแก่พระอริยบุคคล ประพฤติเป็นไปใน โลกุตร พ้นจากโลกทั้ง ๓ อันได้แก่กามโลก รูปโลก และอรูปโลก อีกนัยหนึ่งหมายความว่า จิตที่มีอารมณ์เหนือรูปนาม บัญญัติ ที่มีอยู่ในโลก มีความสามารถที่จะรับอารมณ์ของสภาวะธรรม ที่นอกโลกหรือเหนือโลกได้ อารมณ์นั้นได้แก่นิพพาน โลกุตรจิตมี ๘ ดวง โดยสังเขป หรือ ๔๐ ดวง โดยพิสดาร คือ โลกุตรมรรคจิต ๔ หรือ ๒๐ และโลกุตรผลจิต ๔ หรือ ๒๐ โลกุตร = โลก + อุดร โลก แปลว่า ธรรมชาติที่แตกสลาย อุดรแปลว่า พ้นหรือเหนือ โลกุตร จึงแปลว่าพ้นไปจากธรรมชาติที่แตกสลายหรืออยู่เหนือโลก จิตที่สัมพันธ์กับโลกุตรชื่อว่า โลกุตรจิต มีอยู่ ๒ คือ มรรคจิตและผลจิต ๑.มรรคจิต หรือโลกุตรกุศลจิต ๔ ได้แก่โสดาปัตติมรรคจิต ๑ สกทาคามิมรรคจิต ๑ อนาคามิมรรคจิต ๑ และอรหัตตมรรคจิต ๑ ก.โสดาปัตติมรรคจิต เป็นจิตของพระอริยบุคคลที่ได้สำเร็จจากการเจริญวิปัสสนาภาวนา มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ในอันดับแรก โดยละอกุศลธรรม เช่น โลภมูลจิตที่ประกอบด้วยความเห็นผิด ๔ ดวง โมหมูลจิตที่ประกอบด้วยวิจิกิจฉาความสงสัย ๑ ดวง ฯลฯ ข.สกทาคามิมรรคจิต เป็นจิตของพระอริยบุคคลที่ได้ทำความเพียรต่อจากโสดาปัตติมรรคจิต จนได้สำเร็จเป็นพระสกทาคามี ได้พระนิพพานเป็นอารมณ์ในอันดับที่ ๒ โดยละอกุศลธรรมเป็นสมุจเฉทได้ตามที่พระโสดาบันละได้แล้ว กับทำให้ราคะ โทสะ โมหะ เบาบางลง ค.อนาคามิมรรคจิต เป็นจิตของพระอริยบุคคลที่ได้ทำความเพียรต่อจากสกทาคามิมรรคจิต จนได้สำเร็จเป็นพระอนาคามี ได้พระนิพพานเป็นอารมณ์ในอันดับที่ ๓ โดยละอกุศล คือ กามราคะ พยาบาท ได้สิ้นสุดลงเด็ดขาด ง.อรหัตตมรรคจิต เป็นจิตของพระอริยบุคคลที่ได้กระทำความเพียรต่อจากอนาคามิมรรคจิต จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้พระนิพพานเป็นอารมณ์ในอันดับที่ ๔ และละอกุศลธรรมที่ยังเหลืออยู่ได้เด็ดขาด ประหานอาสวกิเลสเป็นสมุจเฉทได้หมดสิ้น มรรคจิตทั้ง ๔ เกิดขึ้นได้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ดับไม่มีการเกิดซ้ำอีก ไม่เหมือนจิตที่เกิดได้บ่อยครั้ง ๒.ผลจิต หรือโลกุตรวิบากจิต ๔ เมื่อมรรคจิตเกิดขึ้นและดับลง ผลจิตก็เกิดขึ้นสืบเนื่องต่อโดยไม่มีจิตใดมาคั่นในระหว่าง เป็นอกาลิโก คือไม่มีกาลเวลาเป็นกำหนด เมื่อมรรคจิตเกิดขึ้นและดับลง ผลจิตก็เกิดขึ้นตามมาในทันทีทันใดนั้น ไม่ต้องปฏิบัติหรือกระทำอย่างใดอีกเพื่อให้เกิดผลจิต ผลจิตเป็นวิบากของมรรคจิตมีลำดับเกิดขึ้นดังต่อไปนี้ ก.โสดาปัตติผลจิต เกิดขึ้นเมื่อโสดาปัตติมรรคจิตดับลง อริยบุคคลผู้ได้โสดาบันนี้จะ ปฏิสนธิในกามภูมิคือมนุษย์หรือเทวดาอีกไม่เกิน ๗ ชาติ แล้วแต่บารมีที่อบรม ข.สกทาคามีผลจิต เกิดขึ้นเมื่อสกทาคามิมรรคจิตดับลง อริยบุคคลนี้เมื่อจุติจากมนุษย์ ก็จะบังเกิดขึ้นในเทวโลก จุติจากเทวโลกแล้วจะปฏิสนธิในกามภูมิ จนกว่าจะสำเร็จเป็นพระอรหันต์สิ้นสังสารทุกข์ ค.อนาคามีผลจิต เกิดขึ้นเมื่ออนาคามิมรรคจิตดับลง อริยบุคคลนี้จะไม่ปฏิสนธิในกามภูมิคือมนุษย์และเทวดาอีกแล้ว จะปฏิสนธิในพรหมโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสุทาวาสภูมิแล้วเข้าสู่พระนิพพานในภูมินั้น ง.อรหัตผลจิต เกิดขึ้นเมื่ออรหัตตมรรคจิตดับลง อริยบุคคลนี้ไม่มีชาติภพอีกต่อไป เข้าสู่พระนิพพานขาดจากวัฏฏสงสารในชาตินั้น กามาวจรจิต รูปาวจรจิต อรูปาวจรจิต และโลกุตรจิต ที่ได้แสดงมาทั้งหมดข้างต้นนี้ เมื่อกล่าวโดยสภาวจิตมีเพียงดวงเดียวเท่านั้น แต่เมื่อจำแนกออกตามอารมณ์ที่สัมปยุตตธรรมเกิดร่วมด้วยแล้ว ก็ย่อมได้จิต ๘๙ ดวง คือ อกุศลจิต ๑๒ ดวง โลภมูลจิต ๘ โทสมูลจิต ๒ โมหมูลจิต ๒ กุศลจิต ๒๑ ดวง มหากุศลจิต ๘ รูปาวจรกุศลจิต ๕ อรูปาวจรกุศลจิต ๔ โลกุตรกุศลจิต(มรรคจิต) ๔ วิบากจิต ๓๖ ดวง อเหตุกอกุศลวิบากจิต ๗ อเหตุกกุศลวิบากจิต ๘ มหาวิบากจิต ๘ รูปาวจรวิบากจิต ๕ อรูปาวจรวิบากจิต ๕ โลกุตรวิบากจิต(ผลจิต) ๔ กิริยาจิต ๒๐ ดวง อเหตุกกิริยาจิต ๓ มหากิริยาจิต ๘ รูปาวจรกิริยาจิต ๕ อรูปาวจรกิริยาจิต ๔ รวม ๘๙ ดวง แต่ที่จัดเป็นจิตพิสดาร ๑๒๑ คือ ในจิต ๘๙ ดวงนั้น มีโลกุตรจิต ๘ ได้แก่มรรคจิต ๔ ผลจิต ๔ แต่วิธีปฏิบัติที่จะให้มรรคจิตผลจิตเกิดมีอยู่ ๒ ประการ คือบุคคลที่เจริญวิปัสสนาภาวนาโดยอาศัยรูปนามเป็นอารมณ์ จนได้มรรค – ผล มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ สำเร็จเป็นอริยบุคคลชื่อว่า สุกขวิปัสสกบุคคล ได้โลกุตรจิตคือมรรค ๔ ผล ๔ แต่บุคคลอีกประเภทหนึ่ง บำเพ็ญทางสมถะมาก่อนและสำเร็จได้รูปฌาน หรืออรูปฌานแล้ว(ชื่อว่า ฌานลาภีบุคคล) เอาองค์ฌานนั้นมาเจริญวิปัสสนาภาวนาจนได้มรรค – ผลเป็นอริยบุคคล จิตของฌานลาภีบุคคลนั้น ในขั้นโลกุตระมีฌานประกอบด้วย จึงแตกต่างกับจิตของสุกขวิปัสสกบุคคล ตามลำดับของฌานที่ได้ คือ ------------------------ ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ปัญจมฌาน โสดาปัตติมรรคจิต ๕ ------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ --------- ๑ --------- ๑ สกทาคามิมรรคจิต ๕ ------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ --------- ๑ --------- ๑ อนาคามิมรรคจิต ๕ --------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ --------- ๑ --------- ๑ อรหัตมรรคจิต ๕ ------------ ๑ ------ ๑ ------- ๑ --------- ๑ --------- ๑ รวม ๒๐ โสดาปัตติผลจิต ๕ ---------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ --------- ๑ --------- ๑ สกทาคามิผลจิต ๕ ---------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ -------- ๑ --------- ๑ อนาคามิผลจิต ๕ ------------ ๑ ------ ๑ ------- ๑ -------- ๑ --------- ๑ อรหัตผลจิต ๕ --------------- ๑ ------ ๑ ------- ๑ -------- ๑ --------- ๑ รวม ๒๐ ในชั้นโลกุตระนี้ สำหรับอริยบุคคลที่ไม่ได้ฌาน จึงนับเอาจิตในมรรค ๔ ผล ๔ รวมเป็น ๘ ดวง แต่สำหรับอริยบุคคลที่ได้ฌาน ก็ต้องนับจำนวนฌานจิตของท่าน จึงเป็นมรรคจิต ๒๐ ผลจิต ๒๐ รวมเป็น ๔๐ ดวง เพิ่มขึ้นจากจิตสังเขป ๘๙ ดวงที่กล่าวมาแล้ว เป็นจำนวนจิตพิสดาร ๑๒๑ ดวง ที่มา : พระอภิธรรมสังเขป : พระนิติเกษตรสุนทร : ๒๕๐๕; ๔๔-๕๑ |
เจ้าของ: | ฌาณ [ 21 ก.พ. 2009, 21:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โลกุตรจิต...พระอภิธรรมสังเขป... |
โมทนาด้วยครับ ![]() |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 22 ก.พ. 2009, 13:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: โลกุตรจิต...พระอภิธรรมสังเขป... |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |