ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=66&t=48169
หน้า 4 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

[๒๐] วิปปยุตปัจจยนิทเทส :



๑. รูปิโน มฺมา อรูปีนํ ธมฺมานํ วิปฺปยุตปจฺจเยน ปจฺจโย.
วัตถุรูป ๖ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่วิญญาณธาตุ ๗ เจตสิก ที่ประกอบ (เว้นอรูปวิปาก ๔) ด้วยอำนาจสหชาตวิปปยุตตะ และปัจฉาชาตวิปปยุตตปัจจัย

๒. อรูปีโน มฺมา รูปินํ ธมฺมานํ วิปฺปยุตปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จตุสมุฏฐานิกรูป ด้วยอำนาจสหชาตวิปปยุตตะ และปัจฉาชาตวิปปยุตตปัจจัย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

[๒๑] อัตถิปัจจยนิทเทส :


๑. จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตัตถิปัจจัย

๒.จตฺตาโร มหาภูตา อญฺญมญฺญํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย.
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตัตถิปัจจัย

๓. โอกฺกนฺติขเณ นามรูปํ อญฺญมญฺญํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ และหทัยวัตถุในขณะปฏิสนธิกาล ในปัญจโวการภูมิ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตัตถิปัจจัย

๔. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺฐานานํ รูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิต ๗๕ เจตสิก ๕๒ (เว้นทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ อรูปวิบากจิต ๔ และจุติจิตของพระอรหันต์) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตัตถิปัจจัย

๕. มหาภูตา อุปาทารูปานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มหาภูตรูป เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่อุปาทายรูป ด้วยอำนาจสหชาตัตถิปัจจัย

๖. จกฺขายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย

๗. โสตายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย

๘. ฆานายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย

๙. ชิวฺหายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๐. กายายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๑. รูปายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุ และสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๒ . สทฺทายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
สัททารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๓. คนฺธายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
คันธารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๔. รสายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
รสารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๕. โผฏฺฐพฺพายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
โผฏฐัพพารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๖. รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺฐพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ คือ ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่มโนธาตุ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับมโนธาตุ (เว้นวิริยะ ปิติ ฉันทะ) ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

๑๗. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิญญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ เจตสิก ๕๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔) อาศัยหทัยวัตถุใดเกิดขึ้น หทัยวัตถุนั้นเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔ ) เจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับมโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิ และวัตถารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

[๒๒] นัตถิปัจจยนิทเทส :



๑. สมนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ นตฺถิปจฺจเยน ปจฺจโย
จิตเจตสิกนามขันธ์ ๔ ทั้งหลาย ที่นอกจากจุติจิตของพระอรหันต์ที่ดับไปแล้ว โดยไม่มีเหลือในลำดับของตนที่เป็นปัจจัย เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ ที่เกิดขึ้นต่อจากตน ด้วยอำนาจนัตถิปัจจัย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

[๒๓] วิคตปัจจยนิทเทส :


๑. สมนนฺตรวิคตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปฏุปฺปนฺนานํ จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ วิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
จิตเจตสิกนามขันธ์ ๔ ทั้งหลาย ที่นอกจากจุติจิตของพระอรหันต์ที่ปราศจากไปแล้ว โดยไม่มีเหลือในลำดับของตนที่เป็นปัจจัย เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จิตเจตสิกนามขันธ์ ๔ ทั้งหลาย
ที่นอกจากจุติจิตของพระอรหันต์ที่เกิดขึ้นต่อจากตน ด้วยอำนาจวิคตปัจจัย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

[๒๔] อวิคตปัจจยนิทเทส :



๑. จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อญฺญมญฺญํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย.
นามขันธ์ ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตอวิคตปัจจัย

๒.จตฺตาโร มหาภูตา อญฺญมญฺญํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย.
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตอวิคตถิปัจจัย

๓.โอกฺกนฺติขเณ นามรูปํ อญฺญมญฺญํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
นามขันธ์ ๔ และหทัยวัตถุในขณะปฏิสนธิกาล ในปัญจโวการภูมิ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะซึ่งกันและกัน หรือแก่กันและกัน ด้วยอำนาจสหชาตอวิคตปัจจัย

๔. จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺฐานานํ รูปานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
ธรรมทั้งหลาย คือ จิต ๗๕ เจตสิก ๕๒ (เว้นทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ อรูปวิบากจิต ๔ และจุติจิตของพระอรหันต์) เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน ด้วยอำนาจสหชาตอวิคตปัจจัย

๕. มหาภูตา อุปาทารูปานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มหาภูตรูป เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่อุปาทายรูป ด้วยอำนาจสหชาตอวิคตปัจจัย

๖. จกฺขายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๗. โสตายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๘. ฆานายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๙. ชิวฺหายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตวิคตปัจจัย

๑๐. กายายตนํ กายวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มัชฌิมายุกจักขายตนะ ที่เกิดพร้อมกันกับอดีตภวังค์ดวงแรก หรือฐีติปัตตจักขายตนะ ๔๙ เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุและสัพพจิตสาธารณเจตสิก ๗ ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๑. รูปายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่จักขุวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับจักขุวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๒ . สทฺทายตนํ โสตวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
สัททารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่โสตวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับโสตวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๓. คนฺธายตนํ ฆานวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
คันธารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ฆานวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับฆานวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๔. รสายตนํ ชิวฺหาวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
รสารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับชิวหาวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๕. โผฏฺฐพฺพายตนํ จกฺขุวิญฺญาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
โผฏฐัพพารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่กายวิญญาณธาตุ และสัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวง ที่ประกอบกับกายวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๖. รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺฐพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ คือ ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัย คืออุปการะ แก่มโนธาตุ และอัญญสมานเจตสิก ๑๐ ที่ประกอบกับมโนธาตุ (เว้นวิริยะ ปิติ ฉันทะ) ด้วยอำนาจอารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

๑๗. ยํ รูปํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิญญาณธาตุ จ วตฺตนฺติ ตํ รูปํ มโนธาตุยา จ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานญฺจ ธมฺมานํ อวิคตปจฺจเยน ปจฺจโย
มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ เจตสิก ๕๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔) อาศัยหทัยวัตถุใดเกิดขึ้น หทัยวัตถุนั้นเป็นปัจจัย คือช่วยอุปการะ แก่มโนธาตุ ๓ และมโนวิญญาณธาตุ ๗๒ (เว้นอรูปวิปากจิต ๔ ) เจตสิก ๕๒ ที่ประกอบกับมโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ ด้วยอำนาจวัตถุปุเรชาตัตถิ และวัตถารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

บาลีและคำแปลในปัจจัย 24 จบลงเพียงเท่านี้
แด่
มารดา บิดา
พี่น้อง ญาติ มิตรสหาย
บริวารทั้งหลาย
เพื่อนร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย
และสัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏฏนี้

ขอจงร่วมอนุโมทนาบุญ โดยทั่วถึงกันทุกคนทุกท่านเทอญ ฯ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

คำว่าเหตุและปัจจัยในปัฏฐาน


เหตุ มีความหมายแคบกว่า เพราะหมายเอาเฉพาะเหตุ 6 ที่ในเหตุปัจจัยเท่านั้น มีโลภเหตุเป็นต้น
ปัจจัย มีความหมายกว้างกว่า เพราะหมายเอาธรรมที่อุปการะเป็นได้ทั้ง 24 ปัจจัย

แต่ถ้ากล่าวโดยทั่วไป คำว่า เหตุ และ ปัจจัย ก็แปลว่าสิ่งที่ทำให้เกิดผล หรืออุปการะให้ผลเกิดขึ้นนั่นเอง
ความหมายของ เหตุและผล ในปัจจัย 24 นี้ หมายถึงธรรมที่เป็นปัจจัยเนื่องกัน หรืออิงอาศัยกันในธรรมอันเดียวกัน
ซึ่งเป็นธรรมที่เป็นเหตุธรรมที่เป็นผล และธรรมที่นอกจากผลดังนั้น เหตุและผลดังนี้จึงไม่จำเป็นต้องได้รับผลตรงกันเสมอไป
เหมือนการหว่านข้าวเปลือกเป็นเหตุ ผลก็ต้องเป็นข้าวเปลือกเหมือนกัน ซึ่งเป็นเหตุเป็นผลกันโดยตรง แต่เหตุและผลตามปัจจัย 24 นี้
หมายเอาเป็นเหตุเป็นผลเพราะอิงอาศัยกัน หรือ อุปการะกันให้ผลอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เช่นหว่านข้าวเปลือกเป็นเหตุ ทำให้เกิดต้นข้าวเป็นผลก็ได้
หรือวิบากจิตเป็นปัจจัยให้เกิดวิบากจิตก็ได้ เช่น สัมปฏิจฉนจิตเป็นปัจจัยให้เกิดสัณตีรณจิตก็ได้ โดยอนันตรปัจจัย เป็นต้น
แต่ถ้ากล่าวถึงเหตุผลโดยตรง วิบากซึ่งเป็นผลแล้วจะเป็นปัจจัยให้เกิดผลอีกไม่ได้

ในการเรียนมหาปัฏฐานนี้ จะต้องเข้าใจสังคหะพอสมควร เพราะจะเกี่ยวด้วยจิตตุปบาทแต่ละดวง คือจิตดวงหนึ่งเกิดขึ้น
จะต้องรู้ว่ามีเจตสิกประกอบได้เท่าไร เรียกว่าสังคหะ ที่ต้องรู้สังคหะ เพราะปัจจัยบางปัจจัยเป็นเหตุเป็นผลกันในจิตดวงเดียวกันก็มี
เช่นโลภเหตุ โมหเหตุเป็นปัจจัยแก่โลภจิต 1 เจตสิก 17 (เว้นเหตุ 2 ที่เป็นปัจจัยออกไป) เป็นต้น และข้อสำคัญอีกประการหนึ่ง
จะต้องเข้าใจวิถีจิตด้วย เพราะการเป็นปัจจัยของธรรมย่อมเป็นปัจจัยกันที่วิถีจิต จะต้องเกี่ยวเนื่องด้วยการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของนามรูป
จึงจะสามารถรู้ว่าปัจจัยนั้นเกิดในกาลไหน เป็นปัจจัยกันในขณะไหน ในทวารไหน และวิถีจิตอะไรได้บ้าง เพราะเมื่อยกวิถีจิตขึ้นแสดงแล้ว
ก็สามารถรู้การเป็นปัจจัยของธรรมนั้นได้ชัดเจนทั้ง 24 ปัจจัย

ได้กล่าวแล้วว่าการเรียนปัฏฐานนั้น ก็คือการเรียนธรรมในมาติกา ซึ่งเป็นแม่บทของธรรมทั้งปวง เพราะไม่มีธรรมอะไรที่นอกไปจากธรรมทั้งปวง
เพราะไม่มีอะไรที่นอกไปจากธรรมในมาติกา เพราะฉะนั้นจึงได้เอาธรรมในมาติกามาแจกให้รู้ว่าเป็นปัจจัยกันอย่างไร หรือทำเหล่านั้นเกิดขึ้นจากอะไร
เช่นกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศล กุศลเป็นปัจจัยแก่อัพยากตะ และกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศล และกุศลเป็นปัจจัยแก่กุศลและอัพยากตะเป็นต้น
ด้วยอำนาจเหตุปัจจัย จนครบ 24 ปัจจัย

เหตุนี้การเรียนปัฏฐาน คือการเรียนปัจจัย 24 เพราะปัฏฐาน แปลว่าผลธรรมที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ คือเกิดจากปัจจัย 24 ได้แก่ สังขารธรรม
คือธรรมที่เกิดจากปัจจัยปรุงแต่งย่อมมีการเกิดดับ เว้นพระนิพพานอันเป็น วิสังขารธรรม คือธรรมที่พ้นจากปัจจัยปรุงแต่ง ไม่มีการเกิดดับ
เพราะพระนิพพานนั้นมีอยู่แล้ว พระนิพพานไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจัย พระนิพพานจึงเป็นผลไม่ได้ แต่พระนิพพานเป็นปัจจัยได้ คือเป็นอารัมมณปัจจัยได้
แม้แต่บัญญัติธรรมก็เป็นธรรมที่พ้นจากปัจจัยปรุงแต่ง บัญญัติธรรมก็เป็นผลไม่ได้ แต่เป็นปัจจัยได้ คือเป็นอารัมมณปัจจัยก็ได้ เป็นอุปนิสสยปัจจัยก็ได้
เพราะฉะนั้น ธรรมในปัจจัย 24 ย่อมได้ทั้งปรมัตถธรรม และบัญญัติธรรม

เหตุที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปัจจัย 24 ก็เพื่อให้เวไนยสัตว์ ได้รู้ธรรมที่เป็นเหตุและเป็นผลของปรมัตถธรรม โดยแบ่งปรมัตถธรรมออกเป็น 3 อย่าง คือ
1. ธรรมที่เป็นเหตุ เรียกว่า ปัจจัยธรรม
2. ธรรมที่เป็นผล เรียกว่า ปัจจยุบบันธรรม
3. ธรรมทีนอกจากผล หรือธรรมที่เหลือจากผล เรียกว่าปัจจนิก
สรุปแล้วการเรียนปัฏฐาน เพื่อให้รู้เหตุ และผลของธรรมที่เป็นสังขตธรรม และทางที่จะดำเนินไปสู่พระนิพพาน อันเป็นอสังขตธรรม

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 18 ก.ย. 2016, 10:23 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

คำอธิษฐานบารมี


ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ข้าพเจ้าฯ ได้เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า
ผู้ทรงไว้ซึ่งพระมหาปัญญาธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณ พระมหาบริสุทธิคุณ
ซึ่งได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บังเกิดขึ้นในโลก ณ แท่นวัชรอาสน์
ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิแห่งนี้ และพุทธสถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพุทธกิจ

ณ กาลครั้งนี้ จงอานุภาพ มีพลานุภาพ มีบุญฤทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ จงอำนวยพรบันดาลส่งผลให้ข้าพเจ้า
จงตั้งมั่นในสัมมาทิฏฐิตลอดชีวิต และกาลในที่ข้าพเจ้ายังต้องเกิดอยู่ขอให้ได้เป็นสัมมาทิฏฐิตลอดไป
และขอให้ได้พบพระพุทธเจ้า ในชาติที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ที่ทรงอุบัติขึ้น และได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์โดยตรง
เมื่อบุญบารมีส่งผลมาพร้อมขอให้ข้าพเจ้าได้เข้าถึงพระนิพพานในชาตินั้นด้วยเถิด

บุญที่ข้าพเจ้าได้ตั้งใจกระทำไว้ดีแล้วในครั้งนี้ ขอให้ มารดา บิดา ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติมิตร สหายทั้งหลาย
เพื่อนร่วมเว็บลานธรรมจักร เพื่อนที่ร่วมเกิดแก่เจ็บตายทั้งสิ้น ตลอดจนผู้ที่กำลังอ่าน และกำลังจะมาอ่าน
และยังไม่มาอ่านทั้งหลาย และผู้ที่ได้อ่านแล้ว ตั้งมั่นในสัมมาทิฏฐิ
ขอให้พบกับกัลยานิมิตรที่ดีงามปราศจากซึ่งคนพาลทั้งหลาย ตลอดทั้งชีวิตและครอบครัว

ธุระกิจการงานจงชนะ ปลอดภัย ร่ำรวย โชคดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดชีวิต ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง มีพลานามัยที่สมบูรณ์ยิ่ง

ได้ดวงตาเห็นธรรม รู้แจ้งเห็นจริงในอริยสัจสี่ประการ ขอปฏิสัมภิทาญาณทั้ง ๔ จงบังเกิดขึ้นในดวงจิตของข้าพเจ้า
คือ อัตถปฏิสัมภิทา ธัมมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณสัมภิทา บังเกิดขึ้นในดวงจิตของข้าพเจ้า

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสธรรมไว้อย่างไร ขอให้ข้าพเจ้า จงรู้แจ้งตามธรรมอย่างนั้นด้วยเทอญ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 24 ก.ย. 2016, 15:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

คำปณามของพระอนุรุทธาจารย์

ไฟล์แนป:
background_12.jpg
background_12.jpg [ 79.6 KiB | เปิดดู 3812 ครั้ง ]

เจ้าของ:  Duangtip [ 13 ส.ค. 2022, 07:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


ไฟล์แนป:
fiberglass-mahatma-gandhi-statue-500x500-5f706f5fc5c967000197ad42.png
fiberglass-mahatma-gandhi-statue-500x500-5f706f5fc5c967000197ad42.png [ 143.56 KiB | เปิดดู 1400 ครั้ง ]

เจ้าของ:  sirinpho [ 16 ม.ค. 2024, 09:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: บทสวดมนต์ในคัมภีร์มหาปัฏฐาน

:b8: :b8: :b8:

หน้า 4 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/