ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
เด็กผิดต้องลงโทษ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=43207 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 07 ก.ย. 2012, 09:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | เด็กผิดต้องลงโทษ |
(ภาพประกอบจากเว็บไซต์คณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชมงคล) ในอดีตกาล เมื่อครั้งพระเจ้าพรหมทัตครองกรุงพาราณสี พระองค์ทรงมีพระราชโอรสพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า "เจ้าชายพรหมทัต" เช่นเดียวกับพระนามของพระราชบิดา เมื่อทรงเจริญวัย พระราชบิดาทรงส่งไปศึกษาศิลปวิทยา ที่นครตักศิลากับอาจารย์ทิศาปาโมกข์ ซึ่งพระโพธิสัตว์ถือกำเนิดเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ดังกล่าว พระราชกุมารเป็นศิษย์ประเภทจ่ายทรัพย์ให้อาจารย์แล้วเรียนศิลปวิทยา โดยไม่ต้องทำงานให้อาจารย์เหมือนพวกศิษย์อื่นๆ วันหนึ่งขณะที่อาจารย์และศิษย์อีกหลายคนพากันไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ มีหญิงชราคนหนึ่งตากเมล็ดงา แล้วนั่งเฝ้าถาดงานั้นอยู่ในร่ม พระราชกุมารเห็นเมล็ดงานั้นจึงกำมากำมือหนึ่งแล้วเสวย หญิงชราก็ไม่ว่าอะไร วันรุ่งขึ้นพระราชกุมารก็ทำเช่นนี้อีก หญิงชราจึงโวยวาย ว่า อาจารย์ทิศาปาโมกข์ให้ลูกศิษย์มาปล้นตน เมื่ออาจารย์ทิศาปาโมกข์รู้เรื่องจึงสั่งลงโทษ โดยให้ศิษย์ ๒ คนจับแขนเจ้าชายไว้แล้วเอาซีกไม้ไผ่เฆี่ยน ๓ ที พร้อมกับสั่งสอนไม่ให้เจ้าชายทำเช่นนั้นอีก ฝ่ายเจ้าชายนั้นทั้งเจ็บทั้งอายจึงอาฆาตแค้นอาจารย์ว่า จะฆ่าอาจารย์เสียให้ได้ในวันหนึ่งข้างหน้า ในที่สุดการศึกษาของเจ้าชายพรหมทัตก็จบหลักสูตร จึงเข้าไปลาอาจารย์กลับพระนคร พร้อมรับสั่งว่า เมื่อตนได้ราชสมบัติจะส่งข่าวถึงอาจารย์ให้ไปพบให้ได้ เมื่อเสด็จถึงนครพาราณสี พระราชบิดาและพระราชมารดาทรงพอพระทัยมาก ได้สถาปนาไว้ในราชสมบัติเป็นพระเจ้าแผ่นดินสืบแทนพระองค์ต่อไป พระราชาจึงส่งทูตไปเชิญอาจารย์ที่นครตักสิลา ฝ่ายอาจารย์ทิศาปาโมกข์ เมื่อได้รับพระราชสาส์นก็คิดว่า ขณะนี้พระราชายังทรงรุ่นหนุ่ม มีอารมณ์รุนแรง จักไม่อาจถวายคำแนะนำให้เข้าพระทัยได้ จึงมิได้เข้าเฝ้าตามรับสั่ง ต่อเมื่อพระราชาทรงเข้าสู่มัชฌิมวัย อาจารย์จึงได้ออกจากนครตักสิลาไปเฝ้าพระราชา เพราะเห็นว่าพระราชาทรงเป็นผู้ใหญ่ สามารถเข้าพระทัยในเหตุผลต่างๆได้ ครั้นอาจารย์มาถึงตำหนัก พระราชาจึงรับสั่งกับอำมาตย์ที่เฝ้าอยู่นั้นว่า คนนี้เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ที่เคยเฆี่ยนตีพระองค์ รอยเฆี่ยนนั้นยังฝังอยู่ที่ใจ อาจารย์คงไม่รู้ว่า ตนเองมาหาความตาย จึงกล่าวสุภาษิตว่า "การที่ท่านจับแขนเราไว้แล้วเฆี่ยนตีด้วยซีกไม้ไผ่เพราะเหตุเพียงเมล็ดกำมือหนึ่งนั้น ยังฝังใจเราอยู่ทุกวันนี้ ดูกรพราหมณ์..ท่านไม่ไยดีในชีวิตของท่านแล้วหรือจึงมาหาเราถึงที่นี่ ผลที่ท่านให้จับแขนทั้งสองของเราแล้วเฆี่ยนตีถึง ๓ ทีนั้นจักสนองท่านในวันนี้" เมื่ออาจารย์ทิศาปาโมกข์ได้ฟังดังนั้นแล้ว จึงกล่าวสุภาษิตตอบว่า "อริยชนใดย่อมกีดกันอนารยชนผู้กระทำชั่วด้วยการลงโทษ การกระทำของอริยชนนั้นเป็นการสั่งสอน...หาใช่เวรไม่ บัณฑิตทั้งหลายย่อมรู้ชัดข้อนั้นอย่างนี้แล.." เมื่อฟังอาจารย์กล่าวเช่นนั้น เหล่าอำมาตย์ที่กำลังเฝ้าอยู่ จึงทูลสนับสนุนสุภาษิตของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ พระราชาก็ทรงได้พระสติ และ ทรงเข้าพระทัยในเหตุผลของอาจารย์ทุกประการ ในที่สุด จึงทรงประทานตำแหน่งปุโรหิตแก่อาจารย์และตั้งอยู่ในฐานะพระราชบิดา ดำรงอยู่ในโอวาทของพระอาจารย์นั้น บำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุมีทาน เป็นต้น มีสุคติเป็นเบื้องหน้า (ติลมุฏฐิชาดก ติกนิบาต สังกัปปวรรค ข้อ ๓๕๕-๓๕๗) คัดลอกจากหนังสือเรื่อง เตือนตนด้วยพุทธโอวาท เรียบเรียงโดย แก้ว สุพรรโณ กรุงเทพ : ไพลิน, ๒๕๔๒ หน้า ๓๘-๔๐ |
เจ้าของ: | sirinpho [ 06 ก.ค. 2018, 08:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เด็กผิดต้องลงโทษ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |