ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=27288
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ศิรัสพล [ 27 พ.ย. 2009, 12:29 ]
หัวข้อกระทู้:  นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

มีนักมวยปล้ำคนหนึ่งชื่อ "คลื่นยักษ์" เขาเป็นคนที่ชำนาญด้านการปล้ำมาก เวลาขึ้นเวทีซ้อมทีไร ไม่มีใครสู้เขาได้เลย แม้แต่อาจารย์ของเขาเองก็ยังชนะเขาไม่ได้ แต่พอถึงการแข่งขันจริงๆ เขากลับกระจอกยิ่งนัก ไม่สามารถที่จะเอาชนะใครได้เลย แม้กระทั่งนักมวยปล้ำหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ...เขาก็ยังพ่ายแพ้หมดทางสู้

เขาจึงเสียใจ น้อยใจ และหายหน้าไปจากวงการ เขาคิดกลุ้มใจว่าทำไม เป็นเพราะอะไร เขาถึงสู้คนอื่นไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาเก่งออกขนาดนี้ และแล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับผู้ทรงศีลผู้หนึ่งในป่า เขาจึงได้ไปร่วมทำบุญและรับฟังธรรมเทศนาพร้อมกับคนอื่นๆ หลังจากฟังธรรมเสร็จแล้ว ขณะที่เขาเดินกลับบ้าน เขาเกิดความคิดขึ้นว่าน่าจะลองปรึกษาปัญหานี้กับผู้ทรงศีลดู เผื่อจะได้วิธีการอะไรดีๆ บ้าง

ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เขาจึงได้มาหาผู้ทรงศีลอีกครั้ง เขาได้เล่าเรื่องราวต่างๆ และปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นให้กับผู้ทรงศีลฟัง เมื่อผู้ทรงศีลได้ฟังแล้ว จึงได้เอ่ยถามเขากลับไปว่า "ตัวท่านชื่อว่าอะไรล่ะ?" เขาก็บอกว่า "กระผมชื่อคลื่นยักษ์" แล้วผู้ทรงศีลจึงได้ พูดอีกครั้งว่า "ทำไมไม่ทำให้สมกับชื่อล่ะ ลองนั่งคิดถึงชื่อของตัวเองดู แล้วจะรู้คำตอบ" แล้วผู้ทรงศีลก็ขอตัวจากไป.....ทิ้งคำถามเอาไว้ให้เขาขบคิด ตลอดทางที่เดินกลับมาบ้าน เขาคิดถึงแต่คำพูดของผู้ทรงศีลอยู่ตลอดเวลาว่าหมายถึงอะไรกันแน่ พอกลับถึงบ้าน เขาจึงนั่งลงแล้วเริ่ม นึกถึงชื่อของตัวเองตามคำแนะนำของผู้ทรงศีลว่า "คลื่นยักษ์ๆ" เขาคิดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไรไม่ทราบได้ ในที่สุดเขาก็ได้พบคำตอบ แล้วกลับไปสู่วงการอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครเลยที่เอาชนะเขาได้ เขาจึงกลายเป็นนักมวยปล้ำที่เก่งกาจที่สุดในโลก....

จบ



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนเรานั้นแม้ว่าจะมีความรู้มาก แต่หากไม่รู้จักประยุกต์ใช้ความรู้นั้นให้เกิดประโยชน์อันแท้จริง นำไปใช้ได้ในชีวิตจริงๆ ได้ ก็เรียกว่า "ผู้มีความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด" เหมือนกับ นักมวยปล้ำ "คลื่นยักษ์" ที่มี ความชำนาญมาก เก่งมากเวลาซ้อม แต่เมื่อเจอกับสถานการณ์แข่งขันจริงๆ กลับไม่สามารถนำไปใช้ได้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังเหมือนกับนิสัยคนเรา ที่มีความรู้มาก มีความสามารถมากในการแก้ปัญหา แก้ไขความทุกข์ของคนอื่น แต่เมื่อเป็นปัญหาของตนเอง ความทุกข์ที่ตนเองต้องเผชิญแล้วกลับแก้ไขไม่ได้ ความรู้ต่างๆ ที่ร่ำเรียนมา หายไป คิดไม่ออก แม้บางครั้งปัญหาจะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม

ยามที่เราเกิดปัญหาอันใดขึ้นที่ไม่สามารถค้นพบทางออกได้ ให้เราปรึกษาผู้ที่เขามีความรู้ มีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ครูอาจารย์ พระสงฆ์ คือ ผู้ที่รู้และหวังดีต่อเรา อย่าได้จมอยู่กับปัญหา อย่าได้หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ปัญหาทุกอย่างนั้น สามารถแก้ไขได้ "หลายหัวดีกว่าหัวเดียว"

เหมือนกับ นักมวยปล้ำ "คลื่นยักษ์" ที่เขาเสียใจ กลุ้มใจ แต่เขาไม่ได้เก็บปัญหานี้ไว้คนเดียว เขาได้เข้าไปหา และปรึกษาปัญหานี้กับผู้ทรงศีล...


ปัญหาทุกอย่างนั้น มีแรงใจ หรือกำลังใจเป็นสำคัญ โดยถ้าหากเราคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเราสามารถแก้ไขได้ ปัญหาคือสิ่งที่ทำให้เราแกร่งขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องข้ามไป ก็จะสามารถแก้ไขได้ในสักวัน แต่ถ้าเราคิดว่าปัญหานี้ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับเราด้วย คิดว่าเราแก้ไขไม่ได้ เราก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ การกระทำทุกอย่างมีจิตใจ หรือกำลังใจเป็นสำคัญ ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ แก้ไม่ได้ "เราก็แพ้ตั้งแต่ต้น" แต่ถ้าเราคิดว่าทำได้ หนทางแก้ไขปัญหาย่อมรออยู่ข้างหน้า

และการแก้ไขปัญหาที่ดีเยี่ยมนั้น ก่อนที่จะไปแก้ไขปัญหาอื่นใดในภายนอก เราจะต้องรู้จักแก้ไขปัญหาอันเป็นภายในที่ "ใจ" ของเราเองเสียก่อน คือ ทำใจให้สงบ ไม่โกรธ ไม่หมกมุ่น ไม่หวั่นไหว เมื่อใจสงบได้แล้ว จึงคิดพิจารณาถึงปัญหาต่อไป แล้วปัญญารู้แจ้ง แทงตลอดซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาย่อมเกิด หาไม่แล้วจิตใจของเรายังว้าวุ่นสับสน ไม่สงบแล้วล่ะก็ ปัญญารู้แจ้ง แทงตลอด วิธีการแก้ไขปัญหาอันแท้จริง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เป็นกลาง รอบคอบจะไม่สามารถบังเกิดขึ้นได้...

เปรียบเหมือนกับผู้ทรงศีลที่ได้ถามกลับว่า "ทำไมไม่ทำให้สมกับชื่อล่ะ ลองนั่งคิดถึงชื่อของตัวเองดู แล้วจะรู้คำตอบ" แล้วผู้ทรงศีลก็ขอตัวจากไป...ทิ้งคำถามเอาไว้ให้เขาขบคิด เขาจึงได้นั่งลงแล้วเริ่มบำเพ็ญสมาธิ ภาวนา ในที่สุดเขาก็ได้คำตอบ แล้วกลับไปสู่วงการอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใคร เลยที่เอาชนะเขาได้ เขาจึงกลายเป็นนักมวยปล้ำที่เก่งกาจที่สุดในโลก


จาก : http://siratsapon.bloggang.com

เจ้าของ:  เอรากอน [ 27 พ.ย. 2009, 13:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

ศิรัสพล เขียน:
ยามที่เราเกิดปัญหาอันใดขึ้นที่ไม่สามารถค้นพบทางออกได้ ให้เราปรึกษาผู้ที่เขามีความรู้ มีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ครูอาจารย์ พระสงฆ์ คือ ผู้ที่รู้และหวังดีต่อเรา อย่าได้จมอยู่กับปัญหา อย่าได้หมกมุ่นอยู่กับตัวเอง ปัญหาทุกอย่างนั้น สามารถแก้ไขได้ "หลายหัวดีกว่าหัวเดียว"



ขอบคุณค่ะ กำลังมีปัญหาอยู่เลย... และยังไม่ยอมคาย ยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาอย่างไม่รู้ว่าจะหาทางออกไปในทางไหน..
เพราะยัง ไม่รู้จะไปคายกับใคร...ยังไม่รู้จะไปปรึกษาใคร...
เพราะยังไม่รู้ ว่าใครกัน...ที่เมื่อรับฟังเราแล้ว จะเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น...
และหาแนวทางออกที่เหมาะสมที่สุดให้กับเราได้...

ย้งคอยเสาะหาผู้ที่รู้ และหวังดีต่อเรา...จริง ๆ หง่ะ...

เมื่อยังไม่แน่ใจ... ก็เลยยังเหมือน แผลที่ช้ำเลือดช้ำหนอง...
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สภาวะธรรมค่ะ... ที่ยังไม่เคลียร์สำหรับเรา...

เรื่องการปฏิบัติ...รู้ทั้งรู้ แต่เวลาที่ต้องฝ่า มันก็หืดขึ้นคอ... :b32: :b32:

:b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  ศิรัสพล [ 27 พ.ย. 2009, 13:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

นิทานเรื่องนี้ ผมได้แต่งเอาไว้นานแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดเตือนใจ และกำลังใจที่ดีเรื่องหนึ่ง จึงได้นำมาปัดฝุ่นลงไว้ในที่นี้ครับ

เจ้าของ:  ศิรัสพล [ 27 พ.ย. 2009, 13:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

เอรากอน เขียน:
ขอบคุณค่ะ กำลังมีปัญหาอยู่เลย... และยังไม่ยอมคาย ยังหมกมุ่นอยู่กับปัญหาอย่างไม่รู้ว่าจะหาทางออกไปในทางไหน..
เพราะยัง ไม่รู้จะไปคายกับใคร...ยังไม่รู้จะไปปรึกษาใคร...
เพราะยังไม่รู้ ว่าใครกัน...ที่เมื่อรับฟังเราแล้ว จะเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น...
และหาแนวทางออกที่เหมาะสมที่สุดให้กับเราได้...

ย้งคอยเสาะหาผู้ที่รู้ และหวังดีต่อเรา...จริง ๆ หง่ะ...

เมื่อยังไม่แน่ใจ... ก็เลยยังเหมือน แผลที่ช้ำเลือดช้ำหนอง...
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ สภาวะธรรมค่ะ... ที่ยังไม่เคลียร์สำหรับเรา...

เรื่องการปฏิบัติ...รู้ทั้งรู้ แต่เวลาที่ต้องฝ่า มันก็หืดขึ้นคอ... :b32: :b32:

:b16: :b16: :b16:


ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นนะครับ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ หากเราช่วยกัน แต่ไม่ใช่ว่าปัญหานั้นปรึกษาแล้วจะแก้ไขได้เลย หมดปัญหาเลย การแก้ไขปัญหาจะทำให้สำเร็จได้ไม่ได้มาจากการปรึกษากันเท่านั้น แต่มาจากเริ่มทำการแก้ไขปัญหา....

ปัญหาบางอย่างไปปรึกษากัน แม้ว่าจะไม่มีใครเข้าใจ หรือไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ แต่อย่างน้อย ก็มีคนที่รับฟังและให้กำลังใจเรา ซึ่งไม่แน่ว่าคนที่รู้จักของคนที่เราปรึกษาอีกทีอาจจะช่วยได้ก็เป็นได้นะครับ...ตรงนี้เราไม่ควรคิดไปว่าปรึกษาใครไม่ได้ ไม่มีใครเข้าใจ

ขอเพียงเราเริ่มก้าวแรก ก้าวที่สอง สามก็จะตามมา แต่หากเราไม่เริ่มเดิน ก็จะไม่มีก้าวที่สอง สามครับ

เรื่องสภาวธรรมอะไร ลองเล่าให้ฟังบ้างก็ได้นะครับ ซึ่งอาจจะมีคนเข้าใจ และสามารถช่วยหาวิธีแก้ไขให้ข้ามไปได้ไม่มากก็น้อยครับ

เจ้าของ:  bbb [ 27 พ.ย. 2009, 14:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

ศิรัสพล เขียน:
นิทานเรื่องนี้ ผมได้แต่งเอาไว้นานแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดเตือนใจ และกำลังใจที่ดีเรื่องหนึ่ง จึงได้นำมาปัดฝุ่นลงไว้ในที่นี้ครับ



แต่งเองเหรอครับ
ผมคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นในหนังสือนิทานเซน
ผู้แต่งคนนี้นี่เอง คิคิ :b32:

เจ้าของ:  ศิรัสพล [ 27 พ.ย. 2009, 14:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

bbb เขียน:
ศิรัสพล เขียน:
นิทานเรื่องนี้ ผมได้แต่งเอาไว้นานแล้ว คิดว่าเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดเตือนใจ และกำลังใจที่ดีเรื่องหนึ่ง จึงได้นำมาปัดฝุ่นลงไว้ในที่นี้ครับ



แต่งเองเหรอครับ
ผมคลับคล้ายคลับคลาเหมือนเคยเห็นในหนังสือนิทานเซน
ผู้แต่งคนนี้นี่เอง คิคิ :b32:


ขอบคุณครับที่ร่วมแสดงความคิดเห็น :b8:

จะว่าไปนิทานนี้ ก็จะออกไปทางแนวเซนก็ว่าได้ครับ คือ เป็นนิทานแล้วก็ให้ข้อคิด

เอาไว้คุณนำนิทานเซนมาลงไว้ให้อ่านบ้างก็ได้นะครับ

เจ้าของ:  ศิรัสพล [ 27 พ.ย. 2009, 14:32 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

ถึงคุณ "bbb" ผมได้ลองไป search ใน google ดูแล้วครับ เห็นว่ามีนิทานเซนต์ เรื่อง "ข้าคือคลื่นยักษ์" อยู่ ไม่รู้ว่าจะมีคล้ายๆ กันด้วยครับ...งงเลยครับ :b10:

เจ้าของ:  เอรากอน [ 27 พ.ย. 2009, 18:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

ศิรัสพล เขียน:
เรื่องสภาวธรรมอะไร ลองเล่าให้ฟังบ้างก็ได้นะครับ ซึ่งอาจจะมีคนเข้าใจ และสามารถช่วยหาวิธีแก้ไขให้ข้ามไปได้ไม่มากก็น้อยครับ


ได้แต่เปรียบเปรย...

เหมือนกับว่าคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้า ๆ และคุณก็เจอ ขนมปังปิ้งอุ่น ๆ กาแฟร้อน ๆ ตั้งไว้ที่โต๊ะ...
รอให้คุณมากิน...โดยที่คุณไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้...ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า... วันแล้ว วันเล่า
พวกเขาเฝ้ารอให้คุณกินมัน...
แต่คุณไม่เคยวางใจที่จะแตะต้องมัน เพราะคุณระแวงมันว่ามันจะมียาพิษปน...
พวกเขาเป็นใคร และรสชาดที่แท้จริงของ กาแฟ และ ขนมปัง เป็นอย่างไร... ???
และทำไมเขาต้องมาคอยบริการคุณ นั่นคือความลับที่คุณเองก็ยังอยากรู้...

เรายังคงเดินไปเดินมาอยู่ตรงนั้น...เฝ้าครุ่นคิด
เราอยากจะเดินหนีไปจากตรงนี้ แต่ยังไม่มีกำลังที่จะไปพ้น...ดังนั้น
มันก็เลยเป็นอะไรที่ เดินไปเดินมามองดู ด้วยความรู้สึกครึ่งผีครึ่งคน พะอืดพะอม
จะนั่งลงสักครั้ง และลองกินมันดูสักตั้ง...
หรือจะ ... พยายามปฏิเสธมันต่อไป เพื่อว่าสักวัน
ไม่พวกเขาเบื่อที่จะเสริฟ หรือเราก็อาจจะไปพ้นได้... หน่ะ...

:b12: :b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 27 พ.ย. 2009, 19:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

อุ๊ย เข้าแก๊ปหนังผีเกาหลี "ผีอยากให้คนเห็น"

หลินหุ้ยมันก็สงสัยนะ ว่าเราๆ ไปอะไรกับมันนักหนา ดีก็ดีอยู่
แต่ก้ยังกลัวพวกหัวดำเดินสองขาพวกนี้
ใจมันก้คิดว่า เอ๊ะ พวกตัวเหม็นพวกนี้มันก็ไม่ทำร้ายเรานี่นะ
แต่ตลอดชีวิตมัน มันก็สงสัยเราอยู่ดี
สรุปว่าหลินหุ้ยสงสัยก็ไม่มีประโยชน์
หลินหุ้ยก็เลยเคี้ยวไผ่ต่อไปอย่างสบายอารมณ์

เจ้าของ:  เอรากอน [ 27 พ.ย. 2009, 22:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

ชาติสยาม เขียน:
หลินหุ้ยก็เลยเคี้ยวไผ่ต่อไปอย่างสบายอารมณ์


นี่ล่ะ คือคนหนึ่งที่คอยเสริฟ์ กาแฟอุ่น ๆ ให้หลินหุ้ย... :b16: :b16:

จริง ๆ หลินหุ้ยพยายามจะหามุขแอบมาหลอกชมคน...หน่ะ...

และคนที่หลินหุ้ย...คาดไว้...ก็มาจริง ๆ ด้วย :b9: :b9: ฟลุ๊คจัง.. :b4: :b4:

ความดีที่คุณทำ คุณทำมันลงไปโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัวหรอก...

ความดี ที่บางครั้งก็ยากที่จะมองให้ออกว่าเป็นความน่ารัก

ถ้าเพียงแต่ผู้มองจะพยายามเปิดสายตามองให้กว้าง เขาจะเห็นได้....

ว่าคุณเป็นผู้ปฏิบัติที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี...(แบบแสบ ๆ คัน ๆ)

....มุขนี้...ใช้ได้รึเปล่าคะ... :b4: :b4: :b4:

อิ อิ หลินหุ้ย ซนไปรึเปล่า...อาหย๋ามไม่ได้ซุกไม้เรียวเอาไว้ใช่ป่าวคะ... :b9: :b9:

:b9: :b9: :b9: :b9:

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 27 พ.ย. 2012, 00:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: นิทานเรื่อง นักมวยปล้ำกับผู้ทรงศีล

อ้างคำพูด:
ปัญหาทุกอย่างนั้น มีแรงใจ หรือกำลังใจเป็นสำคัญ โดยถ้าหากเราคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเราสามารถแก้ไขได้ ปัญหาคือสิ่งที่ทำให้เราแกร่งขึ้น เป็นสิ่งที่เราต้องข้ามไป ก็จะสามารถแก้ไขได้ในสักวัน แต่ถ้าเราคิดว่าปัญหานี้ทำไมต้องมาเกิดขึ้นกับเราด้วย คิดว่าเราแก้ไขไม่ได้ เราก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ การกระทำทุกอย่างมีจิตใจ หรือกำลังใจเป็นสำคัญ ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ แก้ไม่ได้ "เราก็แพ้ตั้งแต่ต้น" แต่ถ้าเราคิดว่าทำได้ หนทางแก้ไขปัญหาย่อมรออยู่ข้างหน้า
และการแก้ไขปัญหาที่ดีเยี่ยมนั้น ก่อนที่จะไปแก้ไขปัญหาอื่นใดในภายนอก เราจะต้องรู้จักแก้ไขปัญหาอันเป็นภายในที่ "ใจ" ของเราเองเสียก่อน คือ ทำใจให้สงบ ไม่โกรธ ไม่หมกมุ่น ไม่หวั่นไหว เมื่อใจสงบได้แล้ว จึงคิดพิจารณาถึงปัญหาต่อไป แล้วปัญญารู้แจ้ง แทงตลอดซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาย่อมเกิด หาไม่แล้วจิตใจของเรายังว้าวุ่นสับสน ไม่สงบแล้วล่ะก็ ปัญญารู้แจ้ง แทงตลอด วิธีการแก้ไขปัญหาอันแท้จริง ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต เป็นกลาง รอบคอบจะไม่สามารถบังเกิดขึ้นได้...


:b9: :b48: ღ ˚. ★ *˛ ✿◕‿◕✿•°°✿◕‿◕.ღ ˛˚ ♥♥ 。✰˚* ˚ . ˚ღ。กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ ˚. ★ *˛ ✿◕‿◕✿•°°✿◕‿◕.ღ ˛˚ ♥♥ 。✰˚* ˚ . ˚ღ。 :b8: :b8: :b8: :b20:

ไฟล์แนป:
ดอกบัวขาวอนุโมทนา 13.jpg
ดอกบัวขาวอนุโมทนา 13.jpg [ 22.49 KiB | เปิดดู 7046 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/