ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
นิทานสีขาว...เรื่อง...หัวใจของนิสรีน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=5&t=22229 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 11 พ.ค. 2009, 15:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | นิทานสีขาว...เรื่อง...หัวใจของนิสรีน |
นิสรีนเป็นหญิงสาววัยแรกแย้ม หากเปรียบไปแล้วก็เหมือนดั่งดอกไม้ตูมที่กำลังเริ่มผลิบาน นิสรีนเป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผิวของเธอขาวนุ่มดุจหิมะในฤดูหนาว และผมยาวสลวยของเธอนั้นมีสีดำเงางามดั่งไม้มะเกลือ นอกจากความงดงามในรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว นิสรีนยังมีกริยามารยาทที่งดงามน่าเอ็นดูสมเป็นกุลสตรี และมีจิตใจเมตตากรุณาแก่ทุกคน ดังนั้นเธอจึงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ และรวมไปถึงเป็นที่รักของคนในหมู่บ้านเดียวกันอีกด้วย อยู่มาวันหนึ่งขณะที่กำลังเก็บดอกไม้อยู่ในสวนตามลำพัง นิสรีนเกิดความรู้สึกว่าตนเองหายใจขัดและเจ็บหน้าอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง เด็กสาวเจ็บปวดทรมานมากจนแทบจะยันกายยืนไว้ไม่ไหว แต่ด้วยความเข้มแข็งที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในใจ และความคิดถึงที่มีต่อพ่อกับแม่มากในตอนนั้น ทำให้นิสรีนแข็งใจพาร่างของตนเดินกลับไปถึงบ้านได้ในที่สุด พ่อกับแม่ของนิสรีนรีบเชิญหมอประจำหมู่บ้าน มาตรวจดูอาการของบุตรสาวทันที หมอประจำหมู่บ้านใช้เวลาตรวจอยู่สักครู่ ก็ออกมารายงานผลการตรวจ ซึ่งทำให้พ่อกับแม่ของเด็กสาวแทบจะล้มทั้งยืน “ข้าเสียใจด้วย นิสรีนน้อยมีปัญหาที่หัวใจ และเธอคงจะอยู่กับเราได้ไม่นาน” “ไม่ มีวิธีใดรักษาลูกสาวข้าให้หายได้เลยหรือท่านหมอ แม้จะต้องใช้เงินทองมากมายเพียงไรข้าก็จะหามาให้ท่าน ขอเพียงท่านช่วยชีวิตลูกสาวของข้าให้ได้เท่านั้น” พ่อของนิสรีนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ข้าเสียใจด้วย จริงๆ ตอนนี้เรายังไม่มีวิธีรักษาโรคหัวใจให้หายขาดได้หรอก โธ่..... นิสรีนน้อยผู้น่าสงสาร หากมีวิธีใด ที่ข้าจะช่วยลูกสาวของท่านได้ข้าไม่รอช้าแน่” หมอประจำหมู่บ้านให้คำมั่น แต่ทว่าเป็นคำมั่นที่แลดูเศร้าสร้อยมาก พ่อกับแม่ไม่ได้ปิดบังความจริงแก่นิสรีน เพราะคนในครอบครัวนี้ไม่เคยกล่าวเท็จแก่กัน นิสรีนนั่งฟังเรื่องเกี่ยวกับโรคร้ายของเธออย่างสงบ แล้วแย้มยิ้มกับพ่อและแม่เพื่อให้ทั้งสองคลายกังวลว่า “อย่ากังวลไปเลยจ้ะ พ่อจ๋าแม่จ๋า ลูกไม่เป็นไรหรอก ได้รู้ความจริงอย่างนี้ก็ดีแล้ว ลูกจะได้ใช้เวลาที่เหลือในแต่ละวันของลูก ทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด” แม้จะไม่มีวิธีรักษาโรคหัวใจของนิสรีนให้ หายขาด แต่นิสรีนก็ต้องไปพบหมอประจำหมู่บ้านที่โรงหมอ เพื่อรับยาบรรเทาอาการปวดทรวงอกมากินทุกวัน อันเป็นวิธีรักษาเพียงวิธีเดียวในตอนนี้ ที่หมอประจำหมู่บ้านจะช่วยเหลือเยียวยาเธอได้ อยู่มาวันหนึ่งขณะที่นิสรีนกำลังรอรับยาในโรงหมออยู่นั้น ชายคนหนึ่งท่าทางยากจนได้อุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ เข้ามาในโรงหมอเพื่อรอรับการรักษา เมื่อเด็กหญิงคนนั้นเห็นนิสรีนก็ส่งยิ้มให้อย่างไรเดียงสา นิสรีนยิ้มตอบอย่างใจดี แต่ก็แอบจับสังเกตได้ว่า เด็กคนนี้ตัวเล็กและผอมเซียวผิดจากเด็กทั่วๆ ไป และสีหน้าของพ่อเธอก็ดูอมทุกข์และเศร้าสร้อยมาก นิสรีนจึงนึกสงสัยว่าเด็กน้อยคนนี้เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายอันใดหนอ “ขอโทษนะคะ คุณน้า” นิสรีนกล่าวขึ้นกับพ่อของเด็กหญิง หลังจากที่เขาปล่อยให้ลูกสาวไปวิ่งเล่นกับเด็กคนอื่นอยู่ในบริเวณนั้น “ไม่ทราบว่าลูกสาวของคุณน้าป่วยด้วยโรคอะไรหรือคะ จึงทำให้คุณน้าดูเศร้าสร้อยถึงเพียงนี้” ชายผู้นั้นหันมามองนิสรีนด้วยแววตาเศร้าหมอง ก่อนจะตอบว่าอย่างไร้กำลังว่า “น้ามียาย่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว เมื่อปีที่แล้ว แม่ของแกเพิ่งป่วยตายไป หลังจากนั้นอีกสามเดือน น้าก็พบว่ายาย่าป่วยด้วยโรคเนื้อร้าย ที่ยากจะรักษาได้และต้องรอความตายเพียงอย่างเดียว” “แต่พอมีทางรักษาได้ไม่ใช่หรือคะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ แกต้องหายแน่” นิสรีนให้กำลังใจ แต่ชายผู้นั้นกลับมีสีหน้าทุกข์ระทมยิ่งกว่าเก่า “ไม่ หรอกหนู...ที่ประเทศของเรายังไม่มีหมอรักษาโรคนี้เลย ดังนั้นยาย่าจะไม่มีวันหายหรอก หากไม่ได้เดินทางไปรักษายังประเทศตรงโพ้นทะเลโน้น และนั่นต้องใช้เงินมากทีเดียว ตัวน้าเองก็เป็นเพียงช่างทำรองเท้า จะเอาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากที่ไหนเล่า” นิสรีนรู้สึกสงสาร ช่างทำร้องเท้าและลูกสาวของเขาเป็นกำลัง เธอเก็บเอาเรื่องนี้มานอนคิดที่บ้าน และอยากหาทางช่วยเหลือให้เด็กคนนี้ได้รับการรักษา แม้ครอบครัวของนิสรีนจะจัดได้ว่าเป็นครอบครัวผู้มีอันจะกินครอบครัวหนึ่ง แต่ทรัพย์สมบัติในครอบครัวเธอก็คงไม่พอที่จะช่วยให้เด็กน้อยยาย่า ได้รับการรักษายังโพ้นทะเลได้ อีกประการหนึ่ง เธอก็ไม่อยากรบกวนทรัพย์สมบัติของพ่อและแม่มากเกินไป เพราะอยากให้ทั้งสองได้ใช้สมบัติที่มีเลี้ยงดูตนเองให้อยู่ดีกินดีจนชั่วชีวิต แทนตัวเธอที่คงไม่มีโอกาสอยู่ดูแลพ่อแม่ไปจนแก่เฒ่า นิสรีนหมกมุ่นครุ่นคิดถึงวิธีช่วยเด็กน้อยอยู่หลายคืน จนกระทั่งคืนหนึ่งเธอก็คิดได้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเด็กคนนี้ โดยไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่นมากนัก เมื่อคิดได้ดังนั้น นิสรีนจึงแจ้งความคิดนี้ต่อพ่อและแม่ของเธอในทันที ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 11 พ.ค. 2009, 15:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานสีขาว...เรื่อง...หัวใจของนิสรีน |
“ลูกตัดสินใจว่าจะวิ่งไปทั่วประเทศ ผ่านทุกเขตการปกครอง ผ่านทุกหมู่บ้าน เพื่อขอรับเงินบริจาคมาช่วยยาย่าผู้น่าสงสาร ให้ได้เดินทางไปรักษายังโพ้นทะเล” พ่อกับแม่ของนิสรีนตกใจมาก ต่างพากันทัดทานเป็นการใหญ่ “ลูกกำลังเจ็บป่วยมากนะ ลืมไปแล้วหรือ...ลูกรัก พ่อกับแม่ไม่ยอมให้ลูกไปเสี่ยงชีวิตแบบนั้นหรอก” พ่อของนิสรีนกล่าวกล่าวแก่บุตรสาว แต่ตัวเธอนั้นมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือคนอื่นจนมองข้ามตัวเองไปนานแล้ว “พ่อ จ๋า...ลูกไม่มีวันลืมหรอกว่าลูกกำลังป่วยหนัก และกำลังจะตาย แต่เพราะเช่นนี้อย่างไรเล่า ลูกจึงอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ของลูก ทำสิ่งที่ดีที่สุดก่อนที่ลูกจะตาย โรคร้ายของลูกนั้นไม่มีทางรักษา แต่โรคร้ายของเด็กคนนั้นอาจหายได้ก็ได้หากเขาได้รับโอกาสนะจ้ะ” นิสรีนกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...มันจะ ไม่เสียแรงเปล่าหรือลูก ลองคิดดูสิว่าจะมีใครให้เงินลูกสักกี่มากน้อย เขาจะเชื่อหรือว่าลูกทำไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ไม่ใช่หลอกเอาเงินเขาไปใช้เอง ในเมื่อเขาก็ไม่รู้จักลูกสักหน่อย” แม่ของนิสรีนว่า “ ลูกไม่รู้หรอกจ้ะแม่ ว่าสิ่งที่ลูกทำจะประสบความสำเร็จแค่ไหน ลูกอาจจะได้รับเงินบริจาคกลับมามากมาย หรืออาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย แต่ลูกก็เชื่อว่าความตั้งใจของลูกจะส่งผลดีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หรืออย่างน้อยเมื่อลูกตายไปแล้ว ดินแดนแห่งความสุขหลังความตาย จะได้อ้าแขนรับลูกอย่างเต็มใจอย่างไรล่ะจ้ะ” เมื่อไม่อาจเปลี่ยนจิตใจอันแน่วแน่ของบุตรสาวได้ พ่อกับแม่ของนิสรีนจึงเปลี่ยนทัศนคติ แล้วหันมาสนับสนุนสิ่งที่เธอทำอย่างเต็มที่ พวกเขาทำแผนที่เส้นทางการเดินทางในประเทศให้แก่นิสรีน จ้างม้าข่าวไปกระจายข่าวยังหมู่บ้าน และเขตการปกครองต่างๆ ให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้การวิ่งรับเงินบริจาคของนิสรีนบรรลุผลมากที่สุด นิสรีนเริ่มออกวิ่งตามลำพังไปยังที่ต่างๆ ตามแผนที่ที่พ่อกับแม่ทำไว้ให้ ระหว่างทางเธอได้พบเจอผู้คนมากมาย และได้พูดคุยกับคนเหล่านั้นอย่างมีอัชฌาสัย ถึงเหตุผลที่เธอต้องวิ่งรอบประเทศเพื่อหาเงินบริจาค ทำให้ผู้คนที่ได้พูดคุยกับนิสรีนรู้สึกชื่นชมในน้ำใจของนิสรีนยิ่งนัก จึงยินยอมมอบเงินบริจาคให้ด้วยความจริงใจ อีกทั้งยังไปชักชวนเพื่อนๆ และคนรู้จักให้มาบริจาคกับเธออีกด้วย การกระทำของนิสรีนเป็น เรื่องที่พูดกันปากต่อปาก และแพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทุกคนเฝ้ารอการมาถึงของเธอและบางคนก็ขอวิ่งไปเป็นเพื่อนเธอด้วย ดังนั้นนิสรีนจึงได้รับเงินบริจาคเพิ่มมากขึ้นทุกที และได้เพื่อนร่วมเดินทางเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ต่อมาเรื่องนี้ ก็ได้แพร่เข้าไปโจษจันถึงในมหาปราสาท จนความทราบไปถึงเจ้าผู้ครองประเทศ จ้าวผู้ครองประเทศจึงสั่งให้ทหารไปสืบสาวความจริงเกี่ยวกับนิสรีน และการวิ่งขอเงินบริจาคของเธอ เมื่อรู้เรื่องทั้งหมด จ้าวผู้ครองประเทศได้กล่าวชื่นชม นิสรีน จากนั้นจึงมีคำสั่งให้กองทหารองครักษ์สามคนร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อคุ้มครอง นิสรีน และให้ความช่วยเหลือเธอตามความเหมาะสม นอกจากนั้นยังสละเงินส่วนตัวจำนวนมาก บริจาคให้แก่การเดินทางของนิสรีนอีกด้วย หลายคนคิดว่าเงินที่นิสรีนหาได้ตอนนี้น่าจะมากพอแล้ว สำหรับการรักษายาย่า จึงขอให้เธอหยุดวิ่งด้วยความเป็นห่วงว่า โรคหัวใจของเธอจะกำเริบแต่นิสรีนยังคงวิ่งต่อไปตามความตั้งใจเดิม เพราะเธอรู้ว่ายังมีคนอีกมากมาย กำลังรอคอยที่จะทำความดีร่วมไปกับเธอ ซึ่งความช่วยเหลือจากจ้าวผู้ครองประเทศ ก็ทำให้การเดินทางของเธอราบรื่นและ รวดเร็วขึ้นมาก จนกระทั่งการวิ่งขอรับเงินบริจาคของเธอ ก็สิ้นสุดลงเร็วกว่าเวลาที่คาดหมายไว้ เมื่อนิสรีนนำเงินไปให้พ่อของเด็กหญิงยาย่าซาบซึ้งใจ จนถึงกับร้องไห้และลงไปนั่งคุกเข่าพร่ำกล่าวคำสรรเสริญเธอด้วยใจจริง นิสรีนห้ามไม่ให้เขาทำเช่นนั้น และบอกว่า “ความช่วยเหลือเหล่านี้ไม่ได้มาจากหนูคนเดียว แต่มาจากทุกๆ คนที่ได้มอบเงินบริจาคมาให้ ด้วยความศรัทธาและความเชื่อมั่นของพวกเขา พวกเขาอยากให้ยาย่าได้รับการรักษาและมีชีวิตที่สดใสต่อไปค่ะ” เด็กน้อยยาย่าได้รับการรักษาโรคเนื้อร้ายของเธอยังโพ้นทะเล พ่อของเธอส่งข่าวมาให้นิสรีนและผู้บริจาคเงินทั้งหลาย ทราบเป็นระยะๆ ว่า เงินของพวกเขานั้นได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิต ของยาย่าให้ได้ดีขึ้นมากมายเพียง ไร และหมอบอกว่า ยาย่ากำลังจะหายจากโรคร้ายได้ในไม่ช้านี้ ส่วน นิสรีนหลังกลับมาจากการวิ่งรับเงินบริจาคช่วยเหลือยาย่าแล้ว ก็เกิดเหตุการณ์ น่าอัศจรรย์ใจขึ้นเมื่อหมอประจำหมู่บ้าน มาตรวจเธออีกครั้งแล้วพบว่าหัวใจของ เธอเป็นปกติดี ไม่ได้ผิดปกติแต่อย่างใดดังที่เคยตรวจพบก่อนหน้านี้ สร้างความยินดีให้แก่พ่อแม่และที่รู้จักนิสรีนเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น นิสรีนสาวน้อยผู้มีหัวใจมุ่งมั่นก็ใช้ชีวิตของเธออย่างมีความสุข และเมื่อถึงวัยออกเรือน เธอได้แต่งงานกับองครักษ์หนุ่ม ผู้ที่เคยเข้าร่วมคุ้มครองเธอในการเดินทางครั้งนั้น และมีลูกๆ ที่แสนน่ารักน่าเอ็นดูถึงสามคน ............................................ เธอทั้งหลาย... การมีชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นนั้นสำคัญมาก เพราะสิ่งนี้จะสอนให้เธอรู้จักการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ทำให้เธอไม่เห็นแก่ตัว หรือนึกถึงแต่ความสุขของตนเองเพียงผู้เดียว คนที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อคนอื่นนั้น สุดท้ายแล้วจะรู้สึกเป็นสุขยิ่งกว่าอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แม้จะสูญเสียสิ่งที่เป็นของตนไปให้ผู้อื่นแล้วก็ตาม จงอย่าตั้งคำถามเลยว่า ทำไปแล้วได้อะไร เพราะความเสียสละนั้นเป็นสิ่งที่กระทำอยู่บนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ใจ การเสียสละของเธออาจจะไม่ก่อให้เกิดผลใดๆ กระทั่งบางครั้งอาจแลดูสูญเปล่าไปด้วยซ้ำ หรือเธออาจจะได้รับสิ่งที่ไม่คาดฝันอันแสนวิเศษจากการเสียสละนั้น ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็ขอให้เธอดีใจไว้เถิดว่า ในหนึ่งชีวิตที่เกิดมานี้ เธอเป็นคนดีคนหนึ่งที่ทำให้โลกของเราน่าอยู่มากขึ้น .................จบเรื่องหัวใจของนิสรีน..................... คัดลอกจาก...mimin38 http://larndham.net/index.php?showtopic=24428 ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 11 พ.ค. 2009, 15:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานสีขาว...เรื่อง...หัวใจของนิสรีน |
![]() ![]() ![]() สาธุครับ ความดี ไม่เคยทอดทิ้ง ผู้กระทำความดี สักครั้งเดียวครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | jintana63 [ 12 พ.ค. 2009, 10:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: นิทานสีขาว...เรื่อง...หัวใจของนิสรีน |
อนุโมทนาสาธุค่ะ ![]() คิดดี ทำดี มีเมตตา ไม่ปราถนาสิ่งตอบแทน ได้รับแน่ๆรางวัลชีวิตไม่ช้าก็เร็ว ด้วยความเคารพ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |