ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ละความยึดมั่นในบาปอกุศล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=52221 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 08 เม.ย. 2016, 03:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | ละความยึดมั่นในบาปอกุศล : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ |
![]() หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ดังนั้นเมื่อเราเพ่งพิจารณาดูความทุกข์อันพิสดารดังกล่าวมานี้แล้วก็ให้มาสรุปลงที่ ความยึดมั่นในขันธ์ห้า ว่าเป็นตัวเป็นตน นี่แหละ ถ้ามาปล่อยวางขันธ์ห้าอันนี้ลงได้เสียแล้วก็เท่ากับว่า ปล่อยวางโลกอันนี้ทั้งโลกเลยทีเดียว เมื่อไม่มีขันธ์ห้านี้แล้วก็ไม่มีโลกอันนี้ หมายความว่า เมื่อดวงจิตนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ในขันธ์ห้านี้แล้วก็เป็นอันว่า จิตนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ในโลกนี้ทั้งหมดเลย ถ้าจิตนี้อาศัยอยู่ในขันธ์ห้านี้อยู่ตราบใด ก็ชื่อว่า อาศัยโลกนี้อยู่ เพราะขันธ์ห้าก็อาศัยแผ่นดิน อาศัยน้ำ อาศัยไฟ อาศัยลม อาศัยสรรพสิ่งต่างๆ ในโลกนี้หล่อเลี้ยงไว้จึงเป็นอยู่ได้ ดังนั้นน่ะก็จงพากันทำใจให้สงบลงเป็นหนึ่งลงไปแล้ว ก็ใช้ปัญญาวินิจฉัยดูความเป็นไปของโลกทั้งภายในทั้งภายนอก ดังพรรณนามานี้แหละ แล้วเราจะได้เห็นได้ว่า การมาอาศัยโลกอันนี้อยู่มันเป็นทุกข์จริงๆ บาดนินะรวมความลงแล้วนะ นั่นแหละมันก็ควรที่จะปลงจะวางเสีย ไม่ควรที่จะมายึดถือเอาไว้ ผู้ที่วางความยึดถือนี้ไม่ได้ทั้งหมด ก็ให้ละวางได้เป็นบางส่วน วางส่วนไหนล่ะ ก็วางส่วนที่เป็นบาปเป็นอกุศลนั่นแหละ เมื่อการกระทำอะไรมันจะเป็นไปเพื่อบาปเพื่ออกุศลแล้ว อย่าไปทำมัน สอนใจให้ละความวิตกอันนั้นเสีย นั่นแหละวางอันนั้นก็ชื่อว่า วางอุปาทานความยึดมั่นในบาปอกุศล แล้วมายึดมั่นในกุศลดังกล่าวมาแล้วนั่นแหละ กุศลนี้ก็จะนำไปเกิดในที่สุขสบาย...เรื่อยไป เมื่อผู้ใดละความยึดมั่นในบาปอกุศลได้ในชาตินี้เด็ดขาด ออกไปแล้ว เออ ถึงแม้จะไปเกิดอีกก็ไม่เป็นไรหรอก เกิดอีกก็เกิดดี มีความสุขสบาย ถ้าจะกลับมาสู่โลกนี้อีก มาเกิดในโลกนี้ก็เกิดดี เกิดในตระกูลสูงเช่น ตระกูลพระราชามหากษัตริย์ ตระกูลเศรษฐีคหบดีผู้มีเงินทองมากมาย เกิดมาแล้วก็ไม่ลืมความดีที่ตนยทำมาแต่ก่อน บุญกุศลมากระตุ้นเตือนใจให้สั่งสมบารมีเพิ่มเติมขึ้นไปเรื่อยๆ ไป และให้เกลียดต่อการทำบาป เพราะว่าในชาตินี้ฝึกใจให้เกลียดต่อบาปจนติดนิสัยเลย เมื่อไปชาติหน้ามันก็เกลียดแหละเรื่องบาปกรรมไม่อยากทำ นี่เพราะฉะนั้นนะ ถ้าใครอยากมีความสุขความเจริญอะไรในชาตินี้ก็ดี ชาติหน้าก็ดี ก็แต่งกายวาจาใจของตนนี่ ให้มันดี ให้ตรงตามศีลตามธรรม ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเสีย เมื่อบุคคลสั่งสมบุญบารมียังไม่เต็ม แม้นว่าจะปรารถนาร้องอ้อนวอนขอให้พ้นทุกข์พ้นภัย ขอให้ได้บรรลุถึงซึ่งพระนิพพานอย่างไร มันก็ไม่ได้บรรลุหรอก เออ ไม่ได้บรรลุด้วยการอ้อนวอน ให้เข้าใจ บุคคลจะบรรลุพระนิพพานได้ก็ต้องอาศัยการสั่งสมบุญบารมีให้มันเต็ม แล้วก็ละบาปให้หมด สั่งสมบุญกุศลให้มันเต็ม เมื่อมันเต็มแล้วมันก็ละกิเลสนี้ได้ขาดไปเลย ก็เมื่อกิเลสหมดแล้วก็ไม่มีมูลไม่มีปัจจัยอะไรที่จะนำดวงจิตนี้ให้ไปเกิดในภพน้อยภพใหญ่ต่อไป ![]() ![]() ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ “นั่งสมาธิ เพื่อฝึกจิต” :: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ” http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |