หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย


เมื่อได้ฟังคำสอนพระพุทธเจ้าแล้วให้พึงพากันพิจารณา
ให้เห็น “โทษของบาปกรรม” ให้มากๆ อันนี้สำคัญทีเดียวแหละ
แต่คนส่วนมากนี่ไม่ค่อยเห็นโทษของบาปกรรมน่ะ
เพราะว่าบาปกรรมที่บุคคลกระทำลงไปแล้ว
มันไม่ให้ผลในปัจจุบันนี้ ทำไปแล้วก็แล้วไปอย่างนี้นะ

เอ้า ยุงมากัดตัวนึง ตบเปี๊ยะลงไปแล้วก็
หืม..มึงมากินกู มึงต้องตาย อย่างนี้แล้วก็เฉยไปเลย
ไม่เห็นว่าการตบยุงนั้นมันจะให้ผลปัจจุบัน
บาปมันจะตามสนองเอาปัจจุบันอย่างนั้นอย่างนี้นี่ไม่มี
นี่ล่ะมันทำให้คนเราย่ามใจอะ ต้องตบยุงบ่อยๆ เลยบัดนี้
เพราะตบไปแล้วมันไม่ให้ผลเป็นทุกข์เดือดร้อนอะไรในปัจจุบันนี้
นี่ยกตัวอย่างให้ฟังเน้อ ทำบาปอย่างอื่นๆมันก็เหมือนกันนั่นแหละ
คนไปชะล่าใจตรงนี้แหละ มันจึงย่ามใจ
ทำบาปได้อย่างไม่สะดุ้งกลัวต่อบาปมันจะตามสนองให้เป็นทุกข์

เพราะทำลงไปเมื่อมันไม่ให้ผลในปัจจุบันนี้แล้ว
เลยถือเอาว่าบาปนี้มันจะไม่ให้ผลต่อไปอีก
คนส่วนมากเข้าใจไปทำนองนั้นแหละ
ดังนั้นจึงอยากจะเตือนเพื่อนพุทธบริษัททั้งหลายในที่นี้
ไม่ควรที่จะเข้าใจอย่างนั้น ก็อย่างที่เคยพูดมาบ๊อยบ่อยแล้วน่ะแหละ
แต่ว่าต้องพูดเรื่อย ก็เมื่ออัตภาพร่างกายนี้อาศัยบุญกรรม-บาปกรรม
ที่ได้ทำมาแต่ก่อนนั้นน่ะมันตามมาตกแต่งให้
เมื่อมันตกแต่งให้เป็นรูปเป็นนามนี้ขึ้นมาแล้ว
มันก็ “รักษา” นี้บัดนี้ มันก็ตามรักษามาโดยลำดับอย่างนี้

แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะไปทำบาปทำชั่วอะไรใส่ตัวเองมาอย่างนี้
กรรมชั่วที่เขาทำในปัจจุบันนั้นมันก็ให้ผลไม่ได้
เพราะว่ากรรมดีหรือว่ากรรมชั่วที่เขาทำมาแต่ก่อนนั้นมันกำลังให้ผลอยู่
กรรมชั่วที่บุคคลทำใหม่ๆ นี้มันจึงให้ผลไม่ได้
นี้นะต้องให้เข้าใจอย่างนี้ เมื่อผู้ใดเข้าใจอย่างนี้แล้วนั่นแหละ
เพื่อนจึงไม่ทำบาป จึงเว้นเลย หาทางหลีกเว้นเลย

เพราะว่า เมื่อหมดจากผลบุญผลบาป
ที่ตนได้ทำมาแต่ชาติก่อนนั้นลงเมื่อใดแล้ว
บุญใหม่บาปใหม่นี้มันจึงให้ผลสืบต่อได้
ถ้าบุญใหม่นี้มันมีกำลังมากกว่าบาปใหม่
บุญใหม่มันก็มีสิทธิให้ผลไปก่อน
แต่บาปนั้นมันก็คอยสะกดรอยตามไปอยู่อย่างนั้นแหละ
พอบุญอันใหม่ที่มันให้ผลไปนั้นมันหมดอายุลง
บาปนั้นมันก็ให้ผลสืบต่อ มันเป็นอย่างนั้นเรื่องมันน่ะ
ให้พากันเข้าใจให้ดี ถ้าบาปมีกำลังเหนือกว่าบุญในปัจจุบันนี้
เวลาหมดบุญเก่ากรรมเก่านั้นแล้ว
บาปนี้มันก็มีสิทธิให้ผลไปก่อนเลยบัดนี้
บุญก็คอยให้ผลตามหลัง เป็นอยู่อย่างนี้แหละชีวิตคนเรา
อย่าสงสัยเลย ไม่ควรจะสงสัยแล้ว

เราจะสงสัยทำไมในเมื่อมันปรากฏชัดอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว
เป็นสักขีพยานเห็นชัดอยู่แล้วนี่ เพราะบางคนนี่
อยู่มาดีๆ เนี่ยเกิดมีอันเป็นไปขึ้นปัจจุบันทันด่วนเลย
หมายความว่าเกิดความวิบัติอะไรชึ้นปัจจุบันทันด่วนอย่างนี้ก็มี
ใครจะไปนึกไปฝันว่าคนผู้นี้นะมีกำลังกายแข็งแรงอยู่ดีๆ นี่นะ
กินได้นอนหลังอยู่อะไรงี้นะ จู่ๆ แล้วไปเกิดหัวใจวายตายลงไปอย่างนี้นะ
หรือจู่ๆ บางทีก็เกิดมีคนเขามาดักฆ่าให้ตายลงอย่างนี้นะ
หมู่นี้แหละ มันเห็นได้ชัดๆ เลยนี่

หรือบางคนนี้ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไรต่างๆ หมู่นั้นเลย
ตลอดชีวิตอย่างนี้ก็มีนั่นแหละดำเนินชีวิตไปอย่างราบรื่นไป
ถึงจะมีอุปสรรคก็เพียงเล็กน้อย แก้ไขตกไปได้อย่างนี้นะ
ก็ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาแต่บุญกรรมแต่ง
ต่างคนต่างกระทำมาไม่เหมือนกัน
นั่นแหละมันอำนวยผลให้แตกต่างกัน

ดังนั้นนักปราชญ์ทั้งหลายท่านรู้อย่างนี้
ท่านจึงพยายามเว้นบาปกรรมให้มันหมดมันสิ้นไปจริงๆ
พยายามสั่งสมบุญกุศลให้เจริญขึ้นในตนอย่างเต็มความสามารถ
บุญกุศลนี้นะเมื่อเจริญมากขึ้นไปเท่าไร
มันก็จะขจัดกิเลสบาปอธรรมนี้
ให้เบาบางออกไปเท่านั้นจนกว่ามันจะหมดสิ้นไป





:: ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=43689