ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
เวรกรรมของแม่ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=35936 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | saturday_pk [ 21 ธ.ค. 2010, 15:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | เวรกรรมของแม่ |
หนูพึ่งทราบมาไม่นานมานี้จากแม่ของหนูเองว่าเมื่อก่อนแม่ของหนูเคยทำแท้งมา 2 ครั้งค่ะ โดยพ่อหนูตอนนั้นไม่มีความพร้อมที่จะดูแลแม่เลยต้องให้แม่ไปทำแท้ง แล้วพอหนูเกิดมาแม่ก็เอาหนูไปฝากกับยายให้เลี้ยงน่ะค่ะ พอหนูโตขึ้นประมาณซัก ป.4 เห็นจะได้ แม่กับพ่อเลยรับไปอยู่ด้วย แต่หนูไม่อยากไปอยู่กับพ่อแม่เลยค่ะ ร้องไห้ทุกวันไม่กินข้าวนอนไม่หลับถึงขนาดพยายามหนีกลับมาหายายเอง จนสุดท้ายแม่เลยต้องพาไปอยู่กับยายอีกค่ะ นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่หนูคิดว่าเป็นเวรกรรมของแม่เนื่องจากการทำแท้งค่ะ และพ่อแม่มีอาชีพค้าขายแต่ว่าทำมาค้าขายไม่ขึ้นเลยค่ะ ไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรต้องขาดทุนตลอด และต่อมาไม่นานพ่อหนูก็ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายและเสียวิตไปเมื่อ 3 ปีก่อนนี้ค่ะ ส่วนแม่หนูนั้นก้ป่วยเหมือนกันค่ะ หนูเลยบอกแม่ให้กลับมาอยู่กับยาย แต่แม่ไม่ยอมมาค่ะ แม่ต้องการอยู่คนเดียวที่บ้านพ่อ ส่วนหนูเรียนจบ ปวส. ช่วงที่พ่อเสียพอดี แม่เลยไม่ยอมให้เรียนต่อ อยากให้ทำงานเลย ตอนนั้นหนูสอบติดที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ แต่ก็ไม่ได้เรียนเลยต้องออกมาทำงานเพื่อส่งเงินให้แม่ค่ะ ต่อมาหนูมาเจอกับแฟน และแฟนก็ส่งให้หนูเรียนต่อ และตอนนี้หนูก็เรียนไปด้วยและสอบงานราชการไปด้วย ตอนนี้เหลืออีก 1 ปีจะจบปริญญาตรี และสอบขึ้นบัญชีของหน่วยงานราชการไว้ได้ 2 ที่ค่ะ แต่ตอนนี้หนูกังวลเรื่องบาปกรรมที่แม่หนูเคยทำแท้งไว้จะส่งผลกรรมมายังหนูหรือเปล่าคะ เพราะหนูอยากรับราชการมาก เพราะแม่จะได้สบายไปด้วยถ้าหนูได้งานการที่ดีค่ะ และหนูต้องทำยังไงที่จะช่วยให้บาปกรรมของแม่ได้บรรเทาลงบ้างคะ |
เจ้าของ: | นายฏีกาน้อย [ 21 ธ.ค. 2010, 18:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
สุขทุกข์ ล้วนเป็นไปตามเหตุและปัจจัยของแต่ละบุคคล ไม่มีใครทำให้ใครได้ ตั้งใจเรียนให้จบ สอบเข้าทำงานให้ได้ พยายามพึงพาตนเองให้มาก อย่าประมาทว่าเราสบายแล้วดีแล้ว เพราะวันใดวันหนึ่ง ประมาท ขาดสติปัญญาคอยแก้ปัญหา ตัดสินใจทำอะไรผิด ๆ ใช้แต่อารมณ์ ชีวิตที่มีโอกาสพร้อมอยู่มากมาย ก็กลายเป็นของมืดมนไปสำหรับหลาย ๆ คนที่ขาดสติ เวลาเจอปัญหา บ้างวิตกกังวลจนเกินไป บ้างชอบเปรียบเทียบจนหาความสุขให้ตนเองไม่ได้ บ้างไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี บ้างอยากได้แต่ไม่อยากทำก็มี เที่ยวแต่ขอเที่ยวแต่อธิษฐานไม่พึ่งพาตนเองก็ยังมีอยู่มากมาย... ผิดกับคนที่โอกาสไม่อำนวย แต่ใจแข็ง อดทนและกัดฟันสู้ ไม่ประมาท กระทำไปด้วยความเพียรพร้อมและพึ่งพาตนเอง หนทางที่ดูเหมือนมืดมน ก็เปิดออกสำหรับคนที่มีควมเพียร พระท่านจึงว่า บุคคลล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร แบบนี้ก็มีให้เห็นไม่น้อยอยู่เหมือนกัน มองดูตัวเราเองว่าจัดอยู่ในกลุ่มไหน ถ้าไม่ได้หมดโอกาสเสียทีเดียว และก็มีความมานะอดทน กลาง ๆ พอดี ๆ ก็ให้มีความบากบันอดทน ประกอบตนในทางสุจริต คิดพูดทำให้เป็นประโยชน์ ไม่เบียดเบียนใครด้วยคำพูดและการกระทำตลอดจนถึงความคิด อนุโมทนาในกุศลจิตที่ อยากช่วยเหลือคุณแม่ เมื่อมองย้อนดูตัวเราตัวคุณแม่ ก็อาจจะเห็นอะไรบางอย่างสำคัญและมีสาระกว่า เรื่องไร้สาระเกี่ยวกับเวรกรรม ! ทำไมกล่าวอย่างนี้ก็เพราะว่า สุขภาพเมื่อแก่เฒ่าชราลงย่อมเจ็บป่วยไม่มีเจริญขึ้น อาหารการกินเป็นทั้งคุณและโทษที่สะสมอยู่ในร่างกาย การใส่ใจในสุขภาพอนามัยมีระเบียบวินัยในการบริหารจัดการดูแลหรือไม่ ควรเอามาประกอบพิจารณา อย่าชื่อได้ว่าเรียนสูงไปเปล่า ๆ คนเจ็บ ๆ ออด ๆ แอด ๆ ทำมาค้าขายจะเอาใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสที่ไหนไปเรียกลูกค้า ทำเลที่ตั้ง ตลอดจนการบริหารจัดการ การบริการและการแข่งขันพร้อมสำหรับ การเจริญเติบโตในชุมชนและสังคมที่อยู่หรือไม่ เชื่อเรื่องกรรมนะดี ไม่ใช่บาปกรรมไม่มี การฆ่าสัตว์ทำลายเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น เป็นโทษทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในชาตินี้และชาติหน้า หากคุณแม่ได้รุ้จักทำบุญอุทิศส่วนกุศล สำนึกในความผิด รักษาศีล ๕ ทำบุญทำทาน ตลอดจนหัดภาวนา เพื่อผ่อนผันชำระหนักเป็นเบา สิ่งใดล่วงแล้วก็ไม่ควรคำนึงถึง สิ่งใดยังไม่มาก็อย่าไปวิตกกังวล อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ ธรรมเหล่านี้ก็จะปกป้องคุ้มครองรักษาคุณแม่เอง เอาใจใส่สอบถาม อย่าให้ท่านวิตกกังวลกับสิ่งที่ทำไปแล้ว ผ่านไปแล้ว หรือจะปล่อยให้คุณแม่นอนรอให้กรรมขี่คอ ไม่รู้จักสู้และอยู่กับปัจจุบัน เราเองก็อย่าไปซ้ำเติม เรื่องเวรกรรมอะไรหากเราไม่ได้รู้จริง ! จะทำให้ท่านทุกข์ใจจนสุขภาพก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้ ให้ท่านทำทานรักษาศีลภาวนา เอาเป็นที่พึ่งสุดท้ายบุญกุศลจากการเริ่มต้นที่ถูกต้อง จะนำพาพ้นวิบากไปได้ไม่มากก็น้อย หมั่นทำแต่ความดีทำจิตใจให้สบาย เมื่อสุขภาพดีขึ้นจิตใจดีขึ้น ทุกอย่างก็ดีขึ้น เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยตามที่กล่าวมา มาเรื่องของคุณเจ้าของกระทู้เอง ก็อย่างที่กล่าวไปตั้งใจเรียนและทำงาน พึ่งพาตนเองให้ได้ ช่วยแม่ให้พบธรรม นั่นคือการตอบแทนที่สูงที่สุดในชีวิตของลูก ๆ ทุก ๆ คนเจริญพร ![]() ทิป : ถวายสังฆทาน กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล หาเสื้อผ้าเด็กนำไปบริจาค ช่วยเหลืออาหารกลางวันเด็กที่ขาดโอกาส ทุกครั้งที่ทำบุญทำทานรักษาศีลได้ ได้ยินได้ฟังธรรมก็ดี ภาวนาก็ดี ให้คุณแม่และตัวเราเองตั้งจิต อธิษฐานขอกุศลผลบุญเหล่านี้จงแผ่ไปให้ไพศาล ไปให้ถึงพ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย คนเคยรวมงานกิจการเดียวกัน ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวร จงมีส่วนแห่งผลบุญของฉัน สัตว์ทั้งหลายที่ทุกข์ขอให้ได้รับสุข ที่มีความสุขขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข สุขภาพพลานมัยแข็งแรง ขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งทุกภาพทุกชาติไปเทอญ |
เจ้าของ: | หุบเขาไร้รัก [ 21 ธ.ค. 2010, 19:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | saturday_pk [ 21 ธ.ค. 2010, 20:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | tangzgz [ 24 ธ.ค. 2010, 17:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | student [ 02 ม.ค. 2011, 02:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
อ้างคำพูด: ผิดกับคนที่โอกาสไม่อำนวย แต่ใจแข็ง อดทนและกัดฟันสู้ ไม่ประมาท กระทำไปด้วยความเพียรพร้อมและพึ่งพาตนเอง หนทางที่ดูเหมือนมืดมน ก็เปิดออกสำหรับคนที่มีควมเพียร พระท่านจึงว่า บุคคลล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร แบบนี้ก็มีให้เห็นไม่น้อยอยู่เหมือนกัน มีศีลเป็นน้ำมันเบนซิล หรือโซล่า ต้องอาศัยความบริสุทธ์ มีสติเป็นเครื่องยนต์ มีศรัทธาเป็นล้อ มีมรรคมีองค์เป็นแผนที่ มีสมาธิเป็นเหมือนน้ำมันหล่อลื่น มีความเพียรมันเป็นเหมือนเกียร์รถยนต์ เครื่องก็ติดแล้ว ล้อก็สูบลมยางแล้ว คนก็นั่งในรถแล้ว น้ำมันก็เต็มถังแล้ว เมื่อไหร่ที่ใส่เกียร์ขับเคลื่อน จุดหมายปลายทางก็ใกล้เข้ามา หากเปรียบเทียบไม่สมบูรณ์ ขออภัยมาณ ตรงนี้ครับ |
เจ้าของ: | siyapat [ 09 ม.ค. 2011, 14:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เวรกรรมของแม่ |
กราบอนุโมทนากับท่านพุทธฎีกาเจ้าค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |