วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 06:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านกรรมแห่งกรรมจากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=4



กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 23:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แม่ที่ไม่เลี้ยงดูลูก แต่เมื่อลูกโตก็มาขอเงินให้ส่งเสียโดยอ้างบุญคุณที่ให้กำเนิด จะทำอย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2009, 00:02
โพสต์: 111

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: :b48: เคยมีคนใกล้ตัวคนหนึ่ง พ่อกับแม่เขาเลิกกันตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องของแม่ พอคลอดเขาออกมา ก็เอาเขาใส่หีบไม้ปิดฝา ถ้าไม่มีญาติคนอื่นเห็นเขาคงตาย ญาติเอาเขาไปเลี้ยง แล้วแม่เขาก็ไปมีสามีใหม่ แต่พอเด็กคนนี้โตขึ้นมาเขากลับไม่รู้สึกโกรธแม่เลย อาจจะมีน้อยใจบ้าง เขาปฏิบัติกับแม่เขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้จนถึงวันสุดท้ายของแม่ เขาบอกกับคนอื่นว่า "ยังไงก็แม่ เขาให้กำเนิดมา ยังไงก็มีบุญคุณ"
การให้อภัย น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด คุณก็ช่วยเหลือแม่เท่าที่คุณสามารถทำได้ก็แล้วกัน เราชาวพุทธถูกสอนมาว่าผู้ให้กำเนิดมีบุญคุณ ถ้าเราเชื่อตามนี้จิตใจสบายก็ควรปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามอาจรู้สึกไม่ดี ควรทำดีต่อกันเมื่อยังมีชีวิตอยู่ เพราะแท้จริงแล้วทุกคนอยากมีแม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขาไม่ใช่หรือ

:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 02:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 เม.ย. 2010, 17:20
โพสต์: 29

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นด้วยกำคำตอบพ่อแม่เราก็ไม่ได้เลี้ยงเราเหมือนกันให้อภัยเค้าให้กำเนิดเรามาต้องคิดว่าถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่เกิดนะแล้วจะดีเองเราอาจเคยทำกับเค้ามาในชาติก่อนๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 11:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 12:54
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากการเลี้ยงดูเขาแล้วเราไม่ทุกข์ก็แบ่งปันไปเถอะ คิดเสียว่าเรากับเขามีกรรมผูกกันมา(ทางธรรม)

คิดว่าเขาเป็นหญิงยากจนคนหนึ่ง ที่ต้องตกทุกข์เพราะเวรกรรมของเขาเอง ถึงขนาดมาขอเรา

แต่เขาต่างจากหญิงอื่นที่เราอาศัยดูดกินเลือดเขามา9เดือน ใน9เดือนแห่งความทุกข์ทรมาน

มันหนักหนาสาหัสเพียงใด ต้องถามคุณแม่ผู้ประเสริฐทั้งหลายครับ

หรือลองเอาแตงโมแขวนไว้ที่ท้องตลอด24ช.ม.สักอาทิตย์น่าจะพอรู้นะ

เขาให้ร่างกายนี้เรามา ก็ต้องขอบใจในเลือดน้ำตาและความอดทนของเขา

ยังไงเราก็ยังเป็นหนี้เลือดน้ำตาและความอดทนนั้น ถ้าเราไม่คิดว่าเขาเป็นแม่

มีความรู้สึกอยากลงโทษผู้หญิงคนนี้ให้สาสมที่ทิ้งเรา แต่อย่าเบี้ยวค่าอุ้มท้อง

ปัจจุบันราคาท้องตลาดก็2-5ล้าน เราก็ต้องจ่ายเขาแล้วจบกัน(อโหสิกรรมต่อกัน)

แต่ถึงแม้ออกมาไม่ได้เลี้ยงเรา เพราะมีสาเหตุ ธรรมชาติก็จัดสรรค์ที่กินที่ดื่มให้เรา

จนเติบโตจนเป็นผู้ให้ได้ เราก็น่าจะชดใช้คืนเขาเสีย ชาติหน้าจะได้ไม่เจอกัน

แต่ถ้าเรื่องธรรมะของพระพุทธเจ้าผู้ไขปริศนาแห่งจักรวาล ก็ต้องเข้าไปดูถึงต้นเหตุแห่งกรรมนั้น

ลองวางความเจ็บปวดในอดีตที่เป็นโมหะ โทสะ พยาบาทแล้วตามเข้าไปหาความจริงของต้นเหตุ

อะไรเป็นเหตุทำให้เขาต้องทิ้งเรา สืบเอาจากผู้เลี้ยงเรา สืบเอาจากปากแม่เรา สืบเอาจากสถานที่เราเกิด

แล้วพิจารณาหาคำตอบตามความเป็นจริง เราอาจจะสงสารแม่มากกว่าคนรับจ้างเราอุ้มท้อง

ชีวิตผู้หญิงมักเสียเปรียบผู้ชาย 90%เหตุเกิดจากผู้ชายทำให้แม่ทิ้งลูก ผู้หญิงเป็นเหยื่อเป็นผู้ถูกกระทำ

อาจพบคำตอบที่ดีที่สุด หากพบว่าเขาเป็นผู้ถูกกระทำบีบคั้นจนต้องทำทั้งน้ำตา เราจะซ่ำเติมเขาไหม

แต่ถ้าเป็นแค่คนอุ้มท้อง ก็ชดใช้ให้พอใจทั้งสองฝ่าย ก็หมดเวรกรรม กวดน้ำคว่ำขันกันไป...
แนบไฟล์:
07120213424084281788642817.jpg
07120213424084281788642817.jpg [ 32.22 KiB | เปิดดู 6694 ครั้ง ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แม่ที่ไม่เลี้ยงดูลูก แต่เมื่อลูกโตก็มาขอเงินให้ส่งเสียโดยอ้างบุญคุณที่ให้กำเนิด จะทำอย่างไร


ก่อนที่คุณrelexจะคิดว่า แม่ไม่เลี้ยงดูลูก คุณrelexได้หาข้อมูลจากเรื่องเก่าๆ ของคุณแม่ของคุณ
มามากหรือยัง ว่าเพราะอะไร แล้วก็สาเหตุอะไร
ท่านถึงต้องไปจากคุณ ทำไม ท่านถึงไม่เลี้ยงดูคุณ
บางอย่างสิ่งที่คุณเห็นสิ่ง ที่คุณฟังมาอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้

ที่เราเขียนมา คือเราเคยเห็นคนที่เป็นแม่ ต้องเสียลูกของตัวเองให้คนอื่นไป หลายคนค่ะ
แต่พอเด็กโตขึ้นมา เด็กๆจะใช้คำว่าแม่ไม่ดี แม่ไม่รักลูก ถ้ารักลูก
ทำไมถึงทิ้งไป

แม่คนอื่นๆ ทำไมถึงเลี้ยงลูกตัวเองได้ ทำไมแม่ของเราถึงต้องทิ้งเราไป
พอฟังอย่างนี้แล้ว ก็สงสารทั้งคนที่เป็นแม่ และคนที่เป็นลูก
คือถ้าจะใช้คำว่า กรรมทั้งของคนเป็นแม่น่าจะถูกกว่า

เราจะเล่าให้คุณฟังเรื่องของผู้หญิง2คน ที่ต้องจากลูกตั้งแต่ลูกยังเด็กให้ฟังน่ะ
ผู้หญิงคนหนึ่งคือญาติของเราเอง ทุกวันนี้ก็ตามหาลูกตามมา30ปีแล้วค่ะ

ส่วนผู้หญิงอีกคน คือคนที่อยู่ข้างบ้าน ของเราที่เมืองไทย ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมากๆ
เผื่อว่าจะเป็นข้อคิด ให้คุณrelexและคนอื่นๆ ที่คิดว่าแม่ไม่เลี้ยงดู
แม่ทิ้งไป ก็ทำให้ไม่รักแม่ของตัวเอง
คุณๆจะได้เข้าใจอะไรได้มากขึ้น :b41: :b55: :b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


เราขอเล่าเรื่องของพี่เจ(นามสมมุติ) พี่เจอยู่บ้านติดกับเรา
ครอบครัวพี่เจอยู่กัน4คน พ่อ-แม่- ลูก2คนลูกก็ยังเล็ก

ทีนี้ก็มี ญาติของสามีพี่เจมาอาศัยอยู่ด้วย เป็นผู้หญิงเด็ก ก็เรียกคำว่า อา
ญาติของสามีพี่เจ ก็มาทำงานอยู่ที่เดียวกับสามีพี่เจ
ก็คือตอนเช้าไปทำงานด้วยกัน ตอนเย็นก็กลับมาด้วยกัน

พอตอนหลังสามีพี่เจก็สอนให้ญาติตัวเองขับรถ
พี่เจก็สังเกตุว่า 2คนนี้เหมือนแปลกๆ แล้วลูกของพีเจก็มีพูดให้พี่เจฟัง
แต่พี่เจไม่เชื่อ เพราะเด็กพูด ซึ่งเพื่อนของพี่เจก็เตือนพี่เจ
จนกระทั่งวันหนึ่ง สามีพี่เจก็ขอให้พี่เจโอนชื่อบ้าน เป็นชื่อของเค้า

เพื่อนๆพีเจก็ห้ามพี่เจ แต่พี่เจก็ให้เหตุผลว่า เค้าจะโอนบ้านให้เป็นชื่อของสามี
เพื่อต้องการให้สามีรู้ว่า เค้ารักสามีของเค้า พอโอนชื่อบ้านเป็นชื่อสามีเสร็จ

สามีก็ออกรถคันใหม่ แต่เป็นชื่อของผู้หญิงที่เป็นญาติ ทีนี้ผู้หญิงที่เป็นอา
ก็ขับรถพาลูกๆของพี่เจไปเที่ยว ไปหาของกินบ่อยๆ เด็กๆก็ติดคนที่เป็นอากับพ่อ

เด็กๆก็ไม่สนใจพี่เจ สามีพี่เจก็ไม่ให้เงินพี่เจใช้ พี่เจก็ไม่มีเงินจะซื้อของอะไรให้ลูก
อากับพ่อก็พาเด็กๆไปซื้อ แล้วก็มักจะพูดว่า แม่ไม่สนใจลูก ไม่เคยซื้ออะไรให้ลูก
ลูกๆของพี่เจ ก็รักคนที่เป็นอามากกว่าแม่

ทุกๆคืนจะไปนอนในห้องอา รวมทั้งสามีพี่เจด้วย พอถึงตอนนี้
พี่เจก็ต้องเปลี่ยนจากเจ้าของบ้าน เป็นผู้อาศัย พี่เจก็เครียดก็ไปหาพี่สาวที่ต่างจังหวัด
พอกลับมาผลปรากฏว่า ของในห้องนอนตัวเอง โดนเปลี่ยนไปหมดแล้ว
เสื้อผ้าของใช้อยู่ในกล่องกระดาษ วางอยู่ด้านนอก โดนสามีไล่ออกจากบ้าน
พี่เจพูดกับลูกๆ ลูกๆก็ไม่สนใจ

พี่เจก็ไปอยู่กับพี่สาวทำงาน พอวันหยุดมาหาลูก ก็ได้แค่มายืนเกาะประตูรั้ว
เรียกชื่อลูก แต่ลูกๆก็ไม่ออกมา เพราะพ่อสั่งไม่ให้ออกมา ถ้าออกมาโดนตีและก็ไม่พาไปเที่ยว
พี่เจยืนตะโกนเรียกลูกๆเป็นชั่วโมง ได้แค่เห็นลูกๆเดินไปมาในบ้านเท่านั้นเอง

ซึ่งหลายๆบ้าน รวมทั้งบ้านเราก็สงสารพี่เจน่ะ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง
พี่เจทำอยู่อย่างนี้เป็นปีน่ะ ไม่เคยได้กอดลูก จนลูกเข้าโรงเรียนไปหาลูกที่โรงเรียน
ลูกก็วิ่งหนี เด็กรู้อย่างเดียวคือ อาดี อารักพวกเค้า แม่ไม่ดีแม่ทิ้งพวกเค้าไป
คุณๆอ่านแล้ว คุณๆยังจะกล้าคิดว่าแม่ไม่ดี แม่ไม่รักพวกคุณหรือปล่าว

คนเป็นแม่ โดนพ่อของลูกกับเมียน้อยทำร้ายจิตใจ ก็ทุกข์มากอยู่แล้ว
ยังต้องมาเจอกับการเมินเฉยจากลูกอีก คุณคิดดูแล้วกันคนเป็นแม่จะช้ำขนาดไหน

ชีวิตของผู้หญิง อาจจะลืมสามี อาจเลิกรักสามีได้ แต่ผู้หญิงที่เป็นแม่
ไม่มีทางที่จะลืมลูกของตัวเองไปได้ ลูกคือหัวใจของแม่ค่ะ
คุณrelex และหลายๆท่าน ที่คิดว่าแม่ไม่รัก แม่ทิ้งไป
หาข้อมูลให้ดีๆก่อนค่ะ ก่อนนี่จะไปทำร้ายท่าน ทางความคิด :b41: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 14:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ทีนี้เราจะเล่าเรื่องของญาติเรา คือญาติของเรา ตอนอายุได้ประมาณ17ปี
โดนผู้ชายปล้ำ จนเสียตัวให้ผู้ชาย ผู้ชายมีฐานะอ่ะน่ะ

ทีนี้ผู้ชายก็พูดกับเค้าว่า ตัวเค้าไปคบกับผู้ชายคนอื่นไม่ได้แล้วน่ะ ถ้าเค้าเห็น
เค้าจะบอกกับใครๆว่า ญาติเราคือเมียเค้า คือผู้หญิงสมัยแต่ก่อนจะซื่อๆน่ะ

พอเดือนต่อมา ปรากฏว่าเค้าท้อง เค้าก็ออกจากบ้านไปอยู่กับผู้ชาย
ซึ่งที่บ้านเราก็ไม่มีใครรู้ว่าเค้าไปไหน

พอไปอยู่กับผู้ชาย (คือผู้ชายคนนี้เค้ารักญาติเรามากน่ะ) เค้าถึงได้รู้ว่า
ผู้ชายคนนี้มีภรรยาแล้ว แล้วก็กำลังจะคลอด

เค้าก็ไม่รู้จะทำยังไง ทีนี้แม่ผู้ชายรู้ ก็เห็นว่าญาติของเรายังเด็กอยู่
แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของญาติเราด้วย ท่านก็สงสารให้ไปอยู่กับท่าน

แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่เลิกเจ้าชู้ พอญาติของเราคลอด ก็บอกกับแม่ผู้ชาย
ขอกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งแม่ของผู้ชายขอเป็นผู้ดูแลเด็ก

ญาติของเราก็พูดกับแม่ผู้ชายว่า เค้าจะกลับมาเรียนต่อ พอจบแล้วมีงานทำ
จะเอาลูกไปเลี้ยงเอง ทุกๆเดือน ญาติของเราก็จะไปหาลูกที่กรุงเทพฯ

แต่เด็กก็จะติดคุณย่าและป้าๆของเค้า จนญาติของเราเรียนจบ ก็ไปที่บ้านแม่ของผู้ชาย
ผลปรากฏว่า แม่ของผู้ชายย้ายบ้าน ไปอยู่กับลูกชายคนเล็ก
โดยเอาลูกของเค้าไปด้วย เค้าก็ถามพวกพี่ๆของผู้ชาย แต่ทุกคนไม่ให้คำตอบ
ไม่มีใครบอกว่า บ้านของน้องชายของผู้ชายอยู่ที่ไหน


พอถึงวันหยุด เค้าก็จะไปกรุงเทพฯ ไปถามก็ไม่เคยได้คำตอบ
พอนานๆเข้า พวกนั้นเห็นญาติเราไป ก็ทำเหมือนไม่รู้จัก
จนพวกเค้าย้ายบ้าน ทุกคนย้ายที่อยู่

เค้าพยายามตามหาลูกของเค้า เค้ารู้แต่แค่ว่า ลูกของเค้า ชื่อตั้ม
แล้วก็นามสกุล
แต่ชื่อจริงของเด็ก ทางญาติของผู้ชายเปลี่ยนชื่อ ทุกๆครั้งที่เค้าเห็นผู้ชาย
ที่อายุรุ่นเดียวกับลูกของเค้า (น่าจะ30-31น่ะ) เค้าจะร้องไห้ทุกครั้ง

นี่แหละค่ะ บางครั้งไม่ใช่คนที่เป็นแม่ อยากจะทิ้งลูก แต่บางครั้งคนที่เลี้ยงเด็ก
คิดว่าไม่อยากให้ใคร มาพรากเด็กไป จนลืมนึกถึงหัวอกของคนที่เป็นแม่

ว่าจะต้องทุกข์ขนาดไหน จนสร้างกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
แล้วเด็กๆ พอโตขึ้นมา ไม่รู้ว่าเรื่องราวในอดีตเป็นอย่างไร

ก็ทำร้ายคนเป็นแม่ ทางความคิดที่ไม่ดีอีก ใครที่ยังไม่เจอแม่
ตามหาท่านเถิดค่ะ เพราะท่านก็ตามหาคุณๆอยู่เช่นกัน :b41: :b55:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 15:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2008, 14:14
โพสต์: 3835

อายุ: 12
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้..เท่าที่ให้ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 15:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 12:54
โพสต์: 22

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้าว...เชิญครับเชิญ ใครมีประสพการชีวิตเป็นจากคนใกล้ชิดหรือจากตัวเอง

ถ่ายทอดอารมณ์ของความรักของแม่ที่มีต่อลูก จะสุดประเสริฐเลิศล้ำปานใด

มีอุทาหรณ์สอนใจแนวธรรมะอย่างไร ระบายให้หมด รักแม่แค่ไหน ไม่เข้าใจแม่อย่างไร

ท่านผู้รู้ในนี้มียาดีหมอดี ของฟรีจากพระพุทธเจ้า ทั้งยาดมยาอมยาหม่องขั้นโลกีย์(ผมเอง)

ยาขม(ขั้นโลกกุตระ)กรุณาแปลบาลีให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง

ขอเป็นกระทู้เพื่อแม่ในเดือนบุญ เดือนถือศีลกินเจ เป็นกุศลให้แม่ทุกท่าน

ใครมีแม่เชิญเข้ามา ลูกกับแม่อาจมาเจอกันในกระดานนี้ก็ได้ใครจะรู้??

ขอกราบเท้า แม่ทุกท่านในโลกนี้ แม่คนดีที่สุดในโลกเลยคร้าบ...
แนบไฟล์:
mam.jpg
mam.jpg [ 36.77 KiB | เปิดดู 6604 ครั้ง ]


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2010, 17:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


: ท่านลำบาก เดือดร้อน จริงหรือเปล่า สืบดูให้แน่ชัด ถ้าท่านลำบากจริง และคุณมีกำลังที่จะช่วยเหลือได้ ต้องช่วยครับไม่ต้องคิดมาก คิดน้อยๆนี่แหละแต่คิดให้เป็น (ในกรณีที่ท่านไม่ลำบาก มีกินมีใช้ปกติ ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วย แต่เอาเงินไปใช้ปรนเปรอตัวเองในทางที่ผิด เช่นเล่นไพ่ เล่นหวย กินเหล้าหรือแม้กระทั้งไปปรนเปรอคนอื่น อันนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของคุณแล้ว) คุณเห็นคนอื่นตกทุกข์ได้ยาก คุณเห็นหมาแมวอดอยาก คุณเคยช่วยเหลือไหม ถ้าคุณเคยช่วย นั่นแค่สัตว์ที่เกิดมาร่วมวัฏฏะสงสาร นี่แม่ผู้ให้กำเหนิดคุณ ถ้าท่านลำบาก ท่านเดือดร้อน บุญกุศลที่คุณไปดูแล ช่วยเหลือท่าน มันเป็นร้อยเท่าพันทวีกว่าช่วยคนอื่นมากมายนัก พระอรหันต์องค์แรกของคุณนะครับ ไปหาอ่านดู ที่พระพทธองค์ทรงตรัส ถึงความยากลำบากและโอกาสที่สัตว์โลกจะเวียนกลับมาเกิดอีกในภพภูมิมนุษย์ มันยากแค่ไหน แค่ท่านให้โอกาสคุณได้เวียนกลับมาเกิดเป็นมนษย์อีกในชาตินี้ บุญคุณอันนี้มันก็ตอบแทนไม่หมดแล้วในชาตินี้....อีกอย่างนี่ผมพูดกันไว้ ถ้าลูกยังมีความสุขดี ปั้นหน้าเป็นคนดีมีศีลธรรมอยู่ในสังคม โดยปล่อยให้พ่อ-แม่บุพพการี ต้องอดอยาก เจ็บไข้ได้ ป่วย ทุกทรมานอยู่เบื้องหลัง ป่วยการไปทำบุญสร้างกุศลอย่างอื่นมันไม่มีประโยชน์ เพราะบุญกรรมที่สร้างกับพ่อแม่นั้น ถ้าเป็นบุญมันยิ่งกว่าสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แต่ถ้าเป็นกรรมมันจะเป็นอนันตริยกรรมพึงระวังไว้ ผมเป็นคนพูดตรงๆ ไม่อยากอ้อมค้อม อาจขัดหูสักหน่อย คิดเสียว่า หวานเป็นลม-ขมเป็นยาก็แล้วกัน ด้วยความปรารถนาดีจริงๆ...../เจโตวิมุตติ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 22:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 23:10
โพสต์: 5

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่าน รู้สึกเป็นสุขและเห็นทางออกจริงๆ ก่อนอื่นๆ ขอบอกก่อนว่าไม่เคยคิดจะทิ้งแม่เลย ตอนที่ได้งานทำใหม่ๆ ติดต่อแม่จะให้ลงมาอยู่ด้วยกันด้วยซ้ำไป (ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงาน) แต่ท่านปฏิเสธเราแบบว่าฟังแล้วเสียใจมากๆ ท่านมีสามี และมีลูกใหม่ (มาจับได้ทีหลังว่าโกหก เพราะท่านยังไม่อยากมาอยู่กับเรา ท่านอยู่ กทม.เมืองฟ้า ไม่อยากกลับมาอยู่ต่างจังหวัด) เราจึงตัดสินใจแต่งงานมีครอบครัว และคิดว่าจะดูแลท่านยามแก่เฒ่าแทน แต่ไม่คิดว่าท่านจะมาในขณะที่เราในตอนนี้ก็มีปัญหามรสุมชีวิตมากมาย มันทั้งเครียดทั้งเหนื่อย รู้เพียงแต่ว่ายิ่งพยายามก็ยิ่งแย่ ใจมันจึงคอยคิดแต่ว่าไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย เพราะตอนที่ตัดสินใจจะไม่มีครอบครัวเพราะต้องการดูแลแม่และอยู่กัน 2 คน เขาก็ไม่อยากมา พอตอนเราเดือดร้อนอยู่เขาก็มา ไหนจะป่วยด้วยความเครียดจนบางครั้งเคยคิดว่านอนตายไปเลยได้ก็ดี (ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย ไม่อยากวนเวียนเกิดมาใช้กรรมทุกชาติ)......แต่ก็ช่างเถอะนะ เพราะขณะนี้ได้รู้แล้วว่าทุกข์ที่เกิดในใจที่ผ่านมาตนเป็นผู้กระทำให้เกิด น้อยใจแม่ มันสะสมมานานตั้งแต่จำความได้ รู้สึกเพียงว่าแม่มีแต่คำโกหกหลอกลวง พอน้อยใจสะสมมากๆ เข้าจนล่วงมาก็นานพอดู กลายเป็นชิงชัง โกรธแค้น โทษแม่ต่างๆนาๆ ว่าถ้าท่านเลี้ยงดูให้ความรักเราชีวิตเราคงดีกว่านี้ ทั้งๆ ที่ตอนนี้จะสุขหรือทุกข์เราเป็นผู้กำหนดเองแท้ๆ จริงๆ ไม่ใช่ไม่รู้แต่มันสับสนระหว่างการที่เราจะทำดีให้แม่ แต่ในใจก็ยังมีแผลอยู่ ถึงขนาดว่าตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะมีลูกเลย กลัวว่ากรรมจะวนเวียนไม่มีที่สิ้นสุด พูดจากับแม่ไม่ดี ถึงจะส่งเสียให้แม่แต่ก็ให้ไปพร้อมคำที่ว่าร้ายท่าน กรรมมีจริงรู้สึกเลยว่าชีวิตตัวเองมีแต่แย่ลง มิหนำซ้ำยังไปนั่งโทษชะตาฟ้าลิขิตอีก จะปรึกษาใครก็ไม่ได้สังคมที่เน่าหนอนฟอนเฟะในที่ทำงานก็เกินจะทน ถ้าไปปรึกษาเขามีแต่จะถูกกระหน่ำซ้ำเติมให้ได้เจ็บใจเพิ่มมาอีก ตอนนี้รู้แล้วว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร จะให้เท่าที่ให้ได้ ขอขอบพระคุณในคำแนะนำดีๆ อ่านแล้วน้ำตาใหลเลยทีเดียว หวังว่าในโอกาสต่อไปจะได้รับคำปรึกษาดีๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้ก้าวเดินต่อไปอีก ตอนนี้จะสู้ต่อไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 01:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เคยเห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง
ที่แม่ขึ้เมา เปลี่ยนสามีเป็นว่าเล่น ติดทั้งการพนัน ติดทั้งยา
ไม่เคยเลี้ยงลูกเลย....มีเงินเท่าไหร่ก็เอาไปเสเพลหมด
หนักเข้า....หมดทางทำมาหากิน....นำลูกสาวไปขาย
พอตำรวจจับเด็ก...สอบสวน เด็กไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
เพราะกลัวแม่จะได้รับโทษ...กลัวแม่จะเดือดร้อน
จนตำรวจต้องสืบสาวราวเรื่องเอง เมื่อทราบเรื่องแล้วจับตัว
แม่ของเด็กมา...เห็นเด็กกอดแม่แล้วร้องไห้..ขอร้องตำรวจ
ให้ปล่อยตัวแม่....ตัวเองยอมรับผิดคนเดียว

เห็นอะไรเยอะแยะจากข่าวนี้...แต่ที่เห็นชัดที่สุดก็คือ
"ความกตัญญู" ของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุยังไม่ใช่
วัยที่จะต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ แต่เธอก็เต็มใจทำ
เต็มใจที่จะปกป้องแม่ผู้ให้กำเนิด...ไม่รู้ด้วยซ้าว่า ถึงแม้
แม่จะเป็นผู้ให้ชีวิต...แต่ก็ทำลายชีวิตของแม่หนูน้อย
ด้วยน้ำมือของตัวเอง....
เราเลือกผู้ให้กำเนิดไม่ได้...แต่เราเลือกได้ว่าจะเป็นลูก
ที่กตัญญู หรือไม่?......หาคำตอบให้กับตัวเองนะค่ะ :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ คุณrelex
ชีวิตมีทั้งมืด แล้วก็สว่างค่ะ

<ขอให้ผลบุญที่เราได้ทำมา ขอให้ผลบุญนั้น
ช่วยให้ คุณrelex ได้พบกับแสงสว่าง ในเร็ววันนี้ด้วยเทอญ.สาธุ> :b8: :b8: :b8:

ถ้าทางด้านปฏิบัติ คิดว่าคงมีท่านผู้รู้
ที่เคยเจอชีวิตในด้านมืด แล้วเค้าทำอย่างไร
ชีวิตเค้าถึงได้เจอแสงสว่าง
ท่านคงมาแนะนำคุณน่ะค่ะ :b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 12 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 24 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร