ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=29708 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ไวโรจนมุเนนทระ [ 24 ก.พ. 2010, 02:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ |
![]() ![]() ![]() อ่านเล่น ๆ ครับ ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ 1. ให้มหรสพเป็นทาน (สมฺมชฺชทานํ) 2. ให้น้ำเมา (มชฺชทานํ) 3. ให้หญิงแก่ชายอยู่ด้วยกัน (อิตฺถีทานํ) 4. ให้พ่อโคแก่แม่โค (หรือสัตว์) เพื่อสืบพันธ์ (และฆ่า) (อุสภทานํ) 5. ให้จิตรกรรมเกี่ยวกับเมถุนสังโยค คือ ภาพเสพกาม (จิตฺตกมฺมทานํ) จาก สารัตถสังคหะ การให้มหรสพ เป็นทานนั้น แม้ทางโลก เขาจะนิยมว่า เป็นการให้ความบันเทิงเริงรมย์แก่ผู้อื่น จึงนิยมจัดมหรสพในงานต่าง ๆ สนองความต้องการผู้มาในงาน ผู้มาในงานก็พอใจ เพราะ มีจิตอย่างเดียวกัน แต่ ทางธรรม ถือว่าไม่เป็นบุญ เพราะ คนทั้งหลายมี ราคะ โทสะ โมหะ มากอยู่แล้ว การละเล่นต่าง ๆ เป็นการไปเพิ่มราคะ เป็นต้น ขึ้นอีก ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ความขัดเกลา การให้น้ำเมา ก็เช่นกัน แม้จะเป็นที่พอใจของผู้รับ แต่ไม่เป็นบุญ เพราะ เป็นไปเพื่อการเบียดเบียนตนเองบ้าง ผู้อื่นบ้าง ความชั่วร้าย อุปัทวเหตุ อันมีสาเหตุมาจากน้ำเมานั้น มีมาก การดื่มน้ำเมา จึงเป็นการทำลายตนเอง ทำลายสังคม การให้หญิงแก่ชาย ให้ชายแก่หญิง เพื่ออยู่ด้วยกัน เพื่อสืบพันธ์ มองในสายตาพระอริยะ ท่านเห็นว่า เป็นการให้ทุกข์แก่กัน แม้จะมองเห็นเป็นความสุขเบื้องต้น แต่เป็นทุกข์ในกาลต่อมา เป็นการก่อภพก่อชาติ (ความเกิด) การให้พ่อโค แก่แม่โค เพื่อสืบพันธ์ (หรือเพื่อฆ่า) ก็ทำนองเดียวกับข้อต้น ให้จิตรกรรมเกี่ยวกับเมถุนสังโยค คือ ภาพเสพกาม ก็เหมือนกับการให้มหรสพเป็นทาน ![]() |
เจ้าของ: | aswakos [ 25 ก.พ. 2010, 00:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ |
![]() ![]() ![]() ขอต่อท่านตรงนี้นะ เผื่อมีคนสนใจ ก่อนนอน ทำบุญก่อน ทานมีผลน้อยกว่าศีล ศีลมีผลน้อยกว่าภาวนา การให้ทานนั้น บางแห่งท่านเรียกว่า ยัญ แต่ในกูฏทัณฑสูตร ทีฆนิกาย ศีลขันธวรรค พระพุทธเจ้า ตรัสเรียกบุญกุศลทั้งที่เป็นทาน ศีล และภาวนา ว่าเป็น ยัญ ที่ให้ผลแตกต่างกันเป็นลำดับ ดังนี้ ๑. การถวายทานเป็นประจำ แก่บรรพชิตผู้มีศีลที่เรียกว่า นิจทาน แม้จะยากจนลงก็มิได้ละเลย คงถวายอยู่เป็นนิจตามกำลัง เพื่อรักษาประเพณีที่เคยทำไว้ มีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การสร้างวิหารถวายสงฆ์ ที่มาจากทิศทั้งสี่ ๒. การสร้างวิหารถวายสงฆ์ ที่มาจากทิศทั้งสี่ มีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า สรณคมน์ คือการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ๓. การถึงสรณคมน์ ก็ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การรักษาศีล ๕ ของผู้ถึงสรณคมน์ อันให้ความไม่มีเวรไม่มีภัยแก่สัตว์ทั้งปวง ๔. การรักษาศีล ๕ ของผู้ถึงสรณคมน์ ก็ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การมีศีลสังวร คือการสำรวมในศีล ทั้งปาฏิโมกขสังวรศีล และอินทริยสังวรศีล คือสำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ด้วยสติ ไม่หลงใหล ไปตามนิมิต คือรูปร่าง และอนุพยัญชนะ คือส่วนปลีกย่อยของรูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ และธัมมารมณ์ ที่มาปรากฎทาง ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ เหล่านั้น ๕. การมีศีลสังวร ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การบรรลุปฐมฌาน - ฌานที่ ๑ ๖. การบรรลุ ปฐมฌาน ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การบรรลุทุติยฌาน - ฌานที่ ๒ ๗. การบรรลุ ทุติยฌาน ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การบรรลุตติยฌาน - ฌานที่ ๓ ๘. การบรรลุ ตติยฌาน ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า การบรรลุจตุตถฌาน - ฌานที่ ๔ ๙. การบรรลุ จตุตถฌาน ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า วิปัสสนาญาณ - ญาณของวิปัสสนา ๑๐. วิปัสสนาญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า มโนมยิทธิญาณ - ฤทธิ์ที่สำเร็จด้วยใจ ๑๑. มโนมยิทธิญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า อิทธิวิธญาณ - ความรู้ที่แสดงฤทธิ์ต่างๆ ๑๒. อิทธิวิธญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า ทิพโสตญาณ - ความรู้ที่สามรถฟังเสียงทิพย์ และเสียงมนุษย์ได้ทั้งที่อยู่ในที่ปกปิด อยู่ใกล้และไกล ด้วยทิพโสต คือหูทิพย์ ๑๓. ทิพโสตญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า เจโตปริยญาณ - ความรู้ที่กำหนดรู้ใจของ บุคคลอื่นได้ด้วยใจตนเอง ๑๔. เจโตปริยญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ - ความรู้ที่ตาม ระลึกถึงที่อยู่ในชาติก่อนได้ ๑๕. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า จุตูปปาตญาณ - ความรู้การ ตาย และการเกิดของสัตว์ทั้งหลายด้วยทิพยจักษุ คือตาทิพย์ ๑๖. จุตูปปาตญาณ ยังมีผลน้อยกว่า มีอานิสงส์น้อยกว่า อาสวักขยญาณ - ความรู้ที่ทำลายอาสว กิเลสให้สิ้นไป บรรลุเป็นพระอรหันตขีณาสพ การเจริญวิปัสสนา จนบรรลุอาสวักขยญาณเป็นพระอรหันต์ได้นั้น มีผลมากมีอานิสงส์มากที่สุด พระอรหันต์ได้เป็นความถึงพร้อมแห่งยัญคือบุญ เป็นยอดแห่งยัญ ยัญอื่นจะประณีตและมีค่าเสมอด้วยยัญ คือพระอรหันต์นั้นไม่มี เพราะการบรรลุพระอรหันต์นั้น เป็นบรมสุข คือเป็นยอดแห่งความสุข เป็นความสุขที่ปราศจากกิเลสโดยแท้ ![]() ![]() ![]() . |
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 01 เม.ย. 2012, 22:05 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ | ||
![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | view6628 [ 19 เม.ย. 2012, 12:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ |
ขอบคุณมากครับพึ่งทราบว่า ให้มหรสพเป็นทาน ไม่เป็นบุญ |
เจ้าของ: | tonnk [ 22 เม.ย. 2012, 14:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ |
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๘ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๘ ปริวาร หมวด ๕ การให้ไม่จัดเป็นบุญ แต่โลกสมมติว่าเป็นบุญมี ๕ คือ ให้น้ำเมา ๑ ให้มหรสพ ๑ ให้สตรี ๑ ให้โคผู้ ๑ ให้จิตรกรรม ๑. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v |
เจ้าของ: | เมธาพร ภูสอน [ 06 เม.ย. 2013, 01:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทานห้าอย่าง ไม่เป็นบุญ |
![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |