ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=28750
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Nymphs [ 18 ม.ค. 2010, 16:48 ]
หัวข้อกระทู้:  สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

ก่อนอื่นต้องขอโทษ หากเคยมีคำถามนี้มาแล้วนะคะ

เคยได้ยินมาว่า "กรรมใครกรรมมัน" ส่วนตัวก็เชื่อว่าอย่างนั้นค่ะ เชื่อมากๆ ด้วยค่ะ

แต่... ก็ได้ยินบางเรื่องราวเขาเล่ากันเกี่ยวกับกรรมที่ตกทอดไปสู่ลูกหลาน
อย่างล่าสุดเพื่อนเล่าให้ฟังว่า "คนครอบครัวรู้จักของเขา ผู้เป็นพ่อเคยทำไม่ดีเอาไว้ ด้วยการล่ามโซ่หญิงสาวในซ่องโสเภณีแห่งหนึ่ง(ขอไม่ระบุว่าที่ไหนนะคะ) เกิดไฟไหม้ หญิงสาวเหล่านั้นไม่สามารถหนีออกมาได้ จึงถูกไฟคลอกตาย เวลาผ่านไป.... ลูกชายของคนนี้เกิดอุบัติเหตุ ขับรถตกน้ำ ทั้งๆ ที่ประตูรถน่าจะเปิดได้ แต่กลับไม่สามารถเปิดประตูรถหลุดออกมาได้ จึงเสียชีวิต ผู้เป็นพ่อคนนี้จึงสูญเสียลูกชาย ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะเขาเคยล่ามหญิงสาวเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน กรรมตกไปอยู่ที่ลูกของเขาที่หนีออกไม่ได้ ตายแบบทรมาน และตัวเขาเองต้องเสียใจ" เอ... ถ้าพูดกันจริงๆ แล้ว แบบนี้มันเป็นกรรมของใครอ่ะคะ เป็นกรรมของลูกชายเขาถึงเวลาต้องตายแล้ว หรือเป็นเพราะพ่อเขา และถ้าเป็นกรรมของทั้งคู่ กรรมช่างจัดมาให้แบบเหมาะเจาะพอดีเรย และยังมีหลายๆ เรื่องได้เคยได้ยินมา ก็ได้แต่สงสัย เช่น ถ้าไปข่มขืนลูกสาวเขา กรรมจะสนองให้ลูกคุณโดนเขาข่มขืนบ้าง อะไรทำนองนี้

ถ้าหากเป็นกรรมที่ตกทอดมาจริงๆ แบบนี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคนที่ต้องรับเคราะห์กรรมแทน เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเรย หรือกฎแห่งกรรมนั้นมีเหตุมีผลที่สามควรอยู่แล้ว แต่ดิฉันเองที่เขลา ไม่เข้าใจ T T
ช่วยแนะนำให้หายข้องใจด้วยค่ะ

ส่วนตัวยังเชื่อว่า กรรมใครก็กรรมมัน ค่ะ

เจ้าของ:  yodchaw [ 18 ม.ค. 2010, 18:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

ไม่ใช่ให้เป็นผู้พิพากษาเรื่องของกฏแห่งกรรมนี้ มันจะเป็นไปอย่างไรส่งผลอย่างไร จะตามกรรมนั้นละปรับเปลี่ยนสนองกรรมกันไปมากรรม ถ้ายังจองเวรกันก็จะมีความเป็นไปเช่นนั้น และสิ่งที่ว่ามาท่านเรียกว่า กรรมพันธุ กรรมไม่ได้ส่งผลเฉพาะผู้กระทำเท่านั้นแต่ยังผลสู่คนที่ใกล้ชิด คนที่เรารัก ลูกหลานได้
หากรู้เช่นนี้จะไม่ควรประมาท ไม่ทำกรรมที่เบียดเบียนตน คน สรรพสัตว์ รวมถึงสิ่งมีคุณทั้งหลาย เริ่มตั้งแต่ พ่อ แม่ ถึงองค์พุทธะ
และหากสร้าง กรรม ทำมาแล้ว ก็จะต้องมีการขอขมาอโหสิกรรม ตัดวงจร ปลดล็อค กรรม บ้างสิ่งบ้างอย่างมันหนักแค่ขอขมากรรมไม่พอก็ต้องมีเรื่องบุญกุศล ความไม่ติดไม่ขัด ไม่ ข้อง ไม่คา มาอุทิศ มาเคลียร์หนี้กรรม กันจึงจะสมกัน จึงจะเลิกจองกรรมกัน

ขอเล่าให้ฟังนิดหน่อย ปรกติที่วัดร่มโพธิธรรม ก็มีการขอขมาอโหสิกรรม กันเป็นประจำ โดยมีพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต เป็นประธาน ที่เชื่อมต่อระหว่างเจ้กรรมนายเวร สิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ให้ได้รับรู้รับในสิ่งที่เรากระทำนี้ ในการขอขมากรรมนี้ ให้อโหสิกรรม และให้มีส่วน ความไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ในผลบุญกุศลนี้ทั้งของเราและของท่าน เลิกเป็นกรรมในส่วนนี้ แล้วก้นบึงเบื้องหลังชีวิตก็ดีขึ้น เบา ฟังธรรมก็เข้าใจง่ายขึ้น ไม่จมเวทนาเกินไป ชีวิตหน้าที่การงานก็ปรับไปทางที่ดี

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/


ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

เจ้าของ:  -dd- [ 18 ม.ค. 2010, 19:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

Nymphs:

อ้างคำพูด:
ส่วนตัวยังเชื่อว่า กรรมใครก็กรรมมัน ค่ะ


ดีแล้วครับเชื่อถูกแล้ว ใครๆจะว่าอย่างไรก็ต้องพิจารณาด้วยปัญญาว่ามีเหตุผลรองรับหรือไม่ อุปมาเหมือนคนกินอาหาร เขากินเองอิ่มเอง ไม่อาจกินเพื่อให้คนอื่นอิ่มได้ฉันใด การทำกรรมก็ฉันนั้น ใครทำใครได้.. [color=#BF0000]เพราะกรรมคือเจตนาที่เกิดในใจของผู้ทำ เมื่อเจตนาเกิดที่ใจของใคร เขานั่นแหละเป็นผู้ที่ต้องได้เสวยวิบากหรือผลกรรม แม้จะอยากยัดเยียดผลนั้นให้ใครๆก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปได้..เหมือนชาวนาปลูกข้าวในนาตน ถามว่าต้นข้าวจะอาจไปโตในที่นาของคนอื่นได้ละหรือ? ข้อนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นได้..

หากใครๆทำกรรมแล้วคนอื่นมีส่วนรับวิบากของคนอื่นได้...เรื่องที่เราคงได้ยินย่อมมีว่า "พระพุทธบิดา(พระเจ้าสุทโธทนะ)ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าหรือเป็นพระอรหันต์...ด้วยเหตุที่พระราชโอรสคือเจ้าชายสิทธัตถะได้บรรพชาและบรรลุพระโพธิญานเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันเป็นบุญที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก" แล้ว แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ พระเจ้าสุทโธทนะก็ต้องฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า และเจริญวิปัสสนาเองจึงได้บรรลุธรรมได้..ยังมีเรื่องราวอื่นๆอีกมากมายให้พิศวงกันในโลกว่า ทำไมพ่อแม่เป็นคนดี แต่ได้ลูกเป็นคนปัญญาอ่อนหรือพิการ เป็นออทิสม ..หรือพ่อแม่ชั่วร้าย ฆ่าคนและปล้นชาติมากมาย แต่ลูกแสนดี ใฝ่ธรรม ทำแต่เรื่องกุศล..ฯลฯ เป็นต้น[/color]

เมื่อสงสัยเรื่องกรรม เราพึงถามพระพุทธเจ้าผู้รู้ดีที่สุดว่าพระองค์ตรัสสอนอย่างไร...

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาณพ [color=#FF0000]สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็น
ของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรม
เป็นที่พึ่งอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ ฯ[/color]


http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=14&A=7623&Z=7798

เราควรเชื่อพระพุทธเจ้าดีกว่าเชื่อเพราะ"เขาว่ากันว่า..." หรือเชื่ิอเพราะ"ได้ยินใครๆว่า..."..ครับ เพราะทรงเว้นจากมิจฉาวาจาทั้งหมดแล้ว ทรงตรัสสอนแต่คำจริง ] ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น.. การเชื่อพระพุทธเจ้าย่อมมีแต่คุณไม่มีโทษใดๆเลย.. :b46: :b47: :b48:

เจ้าของ:  ไวโรจนมุเนนทระ [ 18 ม.ค. 2010, 20:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

:b42: :b42: :b42:

ขอนำข้อมูลมาประกอบ ให้พิจารณาเพิ่มเติมครับ

(อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต อจินติตสูตร)


[๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด
เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน อจินไตย ๔ ประการ
เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑
ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑
วิบากแห่งกรรม ๑
ความคิดเรื่องโลก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด
พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ




ทั้ง ๔ อย่างนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าไม่ควรคิดมากเกินไป แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่คิดเลย แต่ให้ทราบว่า ความรู้ระดับคิดเอา มีข้อจำกัด คิดยังไงก็เข้าใจไม่หมด ผู้ที่คิดมากเกินไป จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากโดยเปล่าประโยชน์

ในอจินไตย ๔ อย่างนี้ อย่างแรกคือ พุทธวิสัย คือวิสัยของพระพุทธเจ้านั้น ผู้ที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าคิดอย่างไร ก็เข้าไปไม่ถึงวิสัยของพระพุทธเจ้า มีอานุภาพของพระพุทธคุณและพระสัพพัญญุตญาณเป็นต้น

อย่างที่ ๒ ฌานวิสัย วิสัยของผู้ที่ได้ฌานอภิญญา ผู้ที่ไม่ได้ฌานคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกว่า ทำไมผู้ที่ได้ฌานอภิญญาจึงสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ มีเหาะได้ หายตัวได้ ดำดินได้ เป็นต้น ผู้ที่ได้อภิญญาประเภทนั้นๆ เท่านั้นจึงจะรู้ได้

อย่างที่ ๓ กัมมวิบาก ผลของกรรมดี กรรมชั่ว

คือคนธรรมดาๆ ย่อมไม่อาจรู้ว่า ผลของกรรมที่ตนได้รับอยู่ในปัจจุบันนี้มาจากกรรมอะไร
ทำไว้แต่เมื่อใด คิดไปเท่าไรก็คิดไม่ออก คิดมากไปจะเป็นบ้าไปเสียเปล่าๆ ผู้ที่รู้ผลของกรรม
ได้อย่างถ่องแท้ต้องเป็นผู้ที่ได้กัมมสกตาญาณ ญาณเป็นเครื่องรู้ว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน และ
ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติก่อนๆ นับย้อนหลังไปได้โดยไม่จำกัดอย่างพระพุทธเจ้า
จึงสามารถจะทราบได้ถูกต้องแท้จริงไม่ผิดพลาด (ดูกรณีศึกษาปัจจุบัน คุณแม่ชีทศพร ฯ วัดพิชัยญาติ)

ท่านที่ระลึกชาติได้จำกัด เช่นระลึกได้ ๕๐๐ ชาติ แต่กรรมที่ทำไว้ ทำไว้เมื่อชาติที่ ๕๕๐
ผู้ที่ระลึกชาติได้ ๕๐๐ ชาติก็ไม่สามารถระลึกได้ เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่สามารถจะรู้กรรม
และผลของกรรมได้ถูกต้องตามความเป็นจริง เพราะพระองค์ทรงมีบุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ที่ระลึกชาติย้อนหลังได้โดยไม่จำกัด มียถากัมมูปคญาณ ญาณที่เข้าถึงกรรมของสัตว์ตามความเป็นจริง
พระพระสัพพัญญุตญาณ ญาณที่ทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนอื่นไม่มี ทั้งยังมีพระอนาวรณญาณ
ญาณที่ไม่มีอะไรมาปิดกั้น ที่คนอื่นที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าไม่มี เพราะฉะนั้น
ป่วยการคิดเรื่องผลของกรรมว่ามาจากกรรมไหน เมื่อใด เป็นต้น คิดมากไป อาจเป็นบ้าได้


อย่างที่ ๔ โลกจินตา ความคิดเกี่ยวกับเรื่องโลก เช่นคิดว่าใครสร้างพระจันทร์-พระอาทิตย์ ใครสร้างภูเขา ต้นไม้ จักรวาลสุดสิ้นตรงไหน ดวงอาทิตย์มีกี่ดวง จักรวาลมีกี่จักรวาล เป็นต้น คิดมากไปไร้ประโยชน์เพราะไม่อาจจะรู้ได้

ด้วยเหตุนี้ อจินไตยทั้ง ๔ อย่างนี้ บางท่านอาจจะคิดว่าตนเองคิดแล้วรู้ได้ ซึ่งก็รู้ได้เพียงวิสัยของตนเท่านั้น พระอรหันต์ก็รู้เท่าวิสัยของพระอรหันต์ จะรู้เท่าความรู้ของพระพุทธเจ้านั้นเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ท่านจึงเตือนว่า สิ่งทั้ง ๔ นี้ไม่ควรคิดเลยเถิดจนเกินไป คิดไปอาจทำให้เคร่งเครียด เป็นบ้า ลำบากโดยเปล่าประโยชน์ ทั้งนี้เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้สั่งสมสติปัญญาบารมีความรู้มาเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งต้องอบรมมาอย่างน้อยถึง ๔ อสงไขยแสนกัปทีเดียว


….ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าเคยถูกคนอื่นถามด้วยเรื่องอจินไตย เช่น….
….จักรวาลกว้างเท่าไร? มีขอบเขตแค่ไหน?….
….นรก สวรรค์มีจริงหรือไม่? ถ้ามีตั้งอยู่ที่ไหน?…
….ถ้าสำเร็จพระอรหันต์แล้วจะอยู่ยังไงหลังความตาย?….
….คนเราตายแล้วจะไปไหน?….
….พระพุทธองค์ทรงตอบได้ทุกเรื่อง และทรงเมตตาสั่งสอนต่อไปว่า….
….”ตถาคตทราบดีทุกเรื่องที่ท่านถาม รู้ลึกซึ้งกว่าที่ท่านอยากจะรู้”….

แล้วพระพุทธเจ้าให้คิดเรื่องอะไร

ย่อ ๆ

….”ทุกเรื่องล้วนเป็นอจินไตย คือท่านรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์”…
….”แต่ว่าท่านอยากจะรู้ไปทำไม ในเมื่อท่านรู้แล้วก็ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์มรรคผลใด ๆ”…
….“เพราะมันมิใช่วิถีทางแห่งการดับอาสวะกิเลส เพื่อทำให้สิ้นทุกข์”…

….”หากท่านอยากรู้ จงเร่งปฏิบัติให้สิ้นอาสวะกิเลสในตนเถิด แล้วท่านจะสามารถรู้ได้เอง”….

สิ่งที่พระองค์รู้ เหมือนใบไม้ที่อยู่ในป่าใหญ่ แต่สิ่งที่ท่านสอน เหมือนใบไม้ในกำมือ

:b53: :b53: :b53:

เจ้าของ:  murano [ 18 ม.ค. 2010, 20:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

กรรมไม่มีตกทอดหรอก... แต่บางทีเป็นการจับแพะชนแกะ คำนี้อาจจะฟังดูไม่ดี แต่หมายความว่า เมื่อเกิดเหตุหนึ่งขึ้น เราก็เอาไปโยงกับอีกเหตุ... จริงอยู่ การโยงแบบนี้อาจใช้ได้ในบางกรณี แต่มันต้องเป็นกรณีที่ อธิบายได้ยากจริงๆ ซึ่งมีไม่มากหรอก

กรณีรถจมน้ำแล้วเปิดไม่ได้นั้น เป็นเพราะน้ำหนักของน้ำที่อัดเข้ามา (เป็นตันๆ นะ) ไม่มีใครเปิดได้หรอก... บางที่เขาก็เลยแนะนำว่า ให้พกค้อนปลายแหลม ไว้ทุบกระจก
กรณีนี้มีการโยงเข้ามาเรื่องกรรม เพราะพ่อของเขาเคยก่อกรรมหนึ่งไว้... เท่านั้นเอง

เรื่องที่เล่ามา คนพ่อนั้น ก่อทั้งบาป กรรม และเวร เรามักจะเข้าใจผิดว่า กรรมนั้นมาแบบ ตาต่อตาฟันต่อฟัน ตีหัวเขาก็จะโดนตีหัวคืน มันเป็นการสื่อที่เข้าใจง่าย แต่จริงๆ กรรมนั้นมาได้ในหลายรูปแบบ ไม่ตายตัวขนาดนั้น...

ล่ามโซ่เขา ทำให้ตาย... อาจแต่งเรื่องได้ว่า เมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะ มาเกิดในภพชาติเดียวกัน คนพ่ออาจถูกจับ และ ญ นั้นสามารถเป็นพยานได้ ก็เมินเฉยเสีย ทำให้ติดคุกโดนนักโทษตื๊บตาย... แต่การสื่อแบบนี้ มันเข้าใจยาก...
กรรมเป็นเรื่อง อจินไตย คือตอบให้ชัดแจ้งไม่ได้ เพราะมันพัวพันกันจนยุ่ง อย่าลืมว่าคนเรา ตายไม่พร้อมกัน... กรรมมันจึงทับกันไปมา จนยากจะบอกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เป็นกรรมเก่าหรือกรรมใหม่ และกรรมจากกรณีใด...

เจ้าของ:  ningnong [ 18 ม.ค. 2010, 23:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

สวัสดีครับ คุณ Nymphs

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของของตน
มีกรรมเป็นผู้ให้ผล
มีกรรมเป็นแดนเกิด
มีกรรมเป็นผู้ติดตามหรือเป็นเผ่าพันธุ์พวกพ้อง
มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้ดี เลว ต่างกัน


...เรื่องกรรมเป็นเรื่องที่มีผลต่อผู้กระทำโดยตรง กรรมแต่ละอย่างให้ผลต่างกัน กรรมของใครก็เป็นของผู้นั้น กรรมใคร กรรมมัน ถูกต้องแล้วครับ เนื่องจากการให้ผลของกรรมเป็นเรื่องสลับซับซ้อนเกินกว่าคนธรรมดาจะหยั่งรู้ได้ พระพุทธองค์จึงตรัสว่ากรรมเป็นเรื่อง “อจินไตย” ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ลึกซึ้งเกินกว่าสามัญชนจะคิดค้นหาคำตอบ แต่การเข้าใจในเรื่องกรรม จะเป็นประโยชน์ เป็นแนวทางให้สร้างกุศลกรรม และละเว้นอกุศลกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตต่อไป เพื่อความสุข ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

เจริญในธรรมครับ
:b8: :b8: :b8:

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 19 ม.ค. 2010, 06:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

ขอคุยด้วยตามประสาคน "ภูมิธรรม" น้อยนะค่ะ
เคยได้ยินคำว่า "กรรมจัดสรร" ไหมค่ะ? ลูกชายแม้เราจะเห็นว่าเขาไม่ได้
มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของพ่อเขา แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่า เขาไม่
เคยกระทำการใดๆ ในทำนองเดียวกันมาเมื่ออดีตชาติ คุณคงไม่ปฏิเสธ
เรื่องของชาติภพใช่ไหมค่ะ?.... :b6:

ไม่มีอะไรจะเที่ยงตรง และยุติธรรม เท่ากับ "กรรม" หรอกค่ะ
เราเคยกระทำการใดๆไว้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน?จะไม่เล็ดลอดไปได้เลย
แม้แต่สักนิด ทุกอย่างต้องมาจากเหตุ ถึงได้รับผล..... :b1:

อนุโมทนา สาธุค่ะ :b8:

เจ้าของ:  Nymphs [ 20 ม.ค. 2010, 09:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

ขอบคุณทุกๆ ท่านค่ะ ^^

เจ้าของ:  Rosarin [ 20 ม.ค. 2010, 12:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

tongue
...โปรดใช้หลักความเชื่อตามกาลามสูตร 10 พิจารณาตามหลักเหตุที่เกิดและผลที่ตามมา...
:b1:
...มีการยกตัวอย่างกรรมตกทอด...ในหลักกรรมและการเวียนว่ายตายเกิดโดยอ.วศิน อินทสระ...
...นอกจากกรรมส่วนบุคคลแล้ว...ยังมีกรรมของครอบครัว...พ่อทำยังตกถึงลูกด้วยเนื่องจาก...
...1)กรรมจัดสรรให้วิญญาณที่ทำกรรมแบบเดียวกันมาเกิดเป็นลูก...2)กรรมที่รุนแรงหาโอกาส...
...ลงโทษผู้ทำคือบิดา...แต่ไม่มีโอกาสจึงไปทำกับลูกแทนเพื่อให้บิดาทรมาณใจแสนสาหัส...
...เช่นบิดาตัดมือลิงเพราะทำของมีค่าเสียหาย...ขณะนั้นภรรยากำลังตั้งครรภ์...พอคลอดบุตร...
...บุตรนั้นมือขาดข้างเดียวกับมือลิงที่ถูกทำร้าย...โดยพ่อแม่ไม่มีปัญหาทางพันธุกรรมแต่อย่างใด...
...กรรมใดที่บุคคลทำแล้วทรมาณผู้อื่น สัตว์อื่นแสนสาหัสด้วยความโกรธแค้น...จะให้ผลรวดเร็ว...
:b20:
...คนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน...เมื่อคนใดคนหนึ่งทำดี...ทำชั่ว...ย่อมส่งผลกรรมถึงกันได้...
...พ่อแม่มีชื่อเสียงลูกก็พลอยมีชื่อเสียงไปด้วย...เมื่อลูกยากจน...พ่อแม่ก็พลอยเดือดร้อนด้วย...
...ทำนองเดียวกันยังมีกรรมของหมู่คณะ...สถาบัน...หน่วยงาน...มีสัมพันธ์ทางชื่อเสียงเกียรติยศ...
...ก็ย่อมมีผลถึงชื่อเสียงเกียรติยศของเราด้วย...หรือกรรมของชาติ...ทำนองเดียวกันคนคนเดียว...
...อาจทำประโยชน์หรือเป็นภัยทำลายชาติได้...หรือมนุษย์ทำกรรมเหมือนๆกัน...ผลรวมของกรรม...
...บันดาลให้ธรรมชาติลงโทษ...เกิดภัยพิบัติต่างๆ...ผู้ไม่ทำก็เดือดร้อนด้วย...หลายๆชาติเดือดร้อน...
...โลกก็เดือดร้อนไปด้วย...อย่างที่เห็นภัยทางธรรมชาติและเศรษฐกิจที่ทำให้เดือดร้อนกันทั่วโลก...
:b6:
...จะทำสิ่งใดโปรดคิดให้ถ้วนถี่...เพราะกรรมย่อมส่งผลอย่างแน่นอนในไม่ช้านั่นเอง...
...เจ้ากรรมก็คือสิ่งที่เราทำไว้...นายเวรก็คือสิ่งที่เราทำไว้ให้ผล...ฉะนี้แล...
:b43: :b43: :b43:

เจ้าของ:  chulapinan [ 25 ม.ค. 2010, 00:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สงสัยในกฎแห่งกรรม (กรรมตกทอด)

กรรมเป็นของใครของมันจริงค่ะ การมาเกี่ยวข้องกันก็เป็นไปตามกรรม การถูกลงโทษโดยกรรม เพราะเขาทำของเขามาค่ะ ไม่มีสืบทอดเป็นมรดกเด็ดขาด

กรณีผู้หญิงถูกล่ามแล้วไฟคลอกตาย เพราะเขาเคยเป็นแม่เล้าแล้วขังคนไว้ให้ตาบแบบเดียวกัน

พ่อของลูกชายก้เป็นแมงดา

ลูกชายก็เป็นแมงดาที่เป็นลูกน่ะค่ะ

กรรมใครกรรมมัน

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/