ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ทุกข์ใจเรื่องงาน
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=28229
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  PIMMADA [ 06 ม.ค. 2010, 21:33 ]
หัวข้อกระทู้:  ทุกข์ใจเรื่องงาน

ไม่รู้ทำกรรมไรจะต้องทำไง
ไปทำงาน ไม่มีงานทำ นั่งไปวันๆ ใส่บาตรสวดมนต์ทุกวันก็แล้ว
หน้าที่การงานก็ไม่เจริญก้าวหน้า
ตอนนี้กำลังหาสมัครงานไปเรื่อยๆ เบื่อ ทุกข์ใจทุกวันเลยค่ะ
พยายามอ่านหนังสือเตรียมตัวไปสัมภาษณื ฟังภาษาอังกฤษ
เบื่อชีวิตมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

เจ้าของ:  Khun D [ 06 ม.ค. 2010, 22:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

:b18: ข้อมูลที่ให้น้อยจังค่ะ :b5: แต่อย่าท้อน่ะ สู้ ๆ ๆ ต่อไป ตั้งความฝันไว้ :b44:

ฟังเพลงคนล่าฝันของน้าแอ๊ดก่อนน่ะ :b25:
" โอ้ชีวิต...มีอะไรตั้งเยอะแยะ ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย คล้าย ๆ กัน
แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือความฝัน..อยู่ที่ใครจะล่ามันให้อยู่มือ "......... :b41: :b48: :b48:

แต่ชอบท่อนที่ว่า " มีชีวิตเกิดมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น อย่าปล่อยมันซังกะตายไปวัน ๆ " (เติมเอง)

เจ้าของ:  PIMMADA [ 06 ม.ค. 2010, 22:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

ขอบคุณมากกั้บๆๆ ไม่ใช่เป็นคนไม่ขยันนะค่ะ ขยันก็แล้ว

ก่อนเลื่อนป.โท หัวหน้าบอกจะปรับตำแหน่งหลังเรียนจบทั้งพร้อมขึ้นเงินเดือน

พอจบมาแล้ว ผิดคำพูด เครียดมาก
แล้วไปทำงาน ดูแล้วไม่มีอนาคต เครียด

เจ้าของ:  Khun D [ 07 ม.ค. 2010, 00:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

:b55: อย่าเพิ่งเครียดน่ะ ใจเย็น ๆ :b5: ลองปรึกษาหัวหน้าอีกครั้งว่าจบแล้วพอจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานให้ได้หรือไม่ เชื่อว่าถ้าองค์กรคุณใหญ่โตก็คงต้องพิจารณาคนเก่าก่อน (ถ้ามีตำแหน่ง) ถ้าเป็นองค์กรเล็กหากคุณต้องการก้าวหน้ากว่าเดิมก้อต้องบอกศาลากัน :b23:

" เป็นหิ้งห้อยในที่มืด ดีกว่าเป็นแสงนีออนในที่สว่าง "

เจ้าของ:  ทักทาย [ 07 ม.ค. 2010, 00:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

ใจเย็นๆค่ะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
มีอะไรทำก็ตั้งใจทำ งานน้อยซิค่ะดี ทำแบบให้มีคุณภาพ
ระหว่างนี้ ก็มองๆหางานใหม่ดู ถ้าดีก็เปลี่ยน ถ้าสู้ที่เก่า
ไม่ได้ ก็อยู่ที่เก่าไปก่อน ไม่มีอะไรที่จะอยู่คงทนหรอกค่ะ
เดี๋ยวมันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกฎ มีงานทำดีกว่า
ไม่มีนะค่ะ ขอให้โชคดีค่ะ :b4: :b4:

เจ้าของ:  หลวงจีนงมงาย [ 07 ม.ค. 2010, 10:50 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

น่าอิจฉา น่าอิจฉา น่าอิจฉา

วาสนา วาสนา วาสนา

ไม่ทำงาน มีคนให้เงิน

ไม่ทำงาน มีอยู่ มีกิน

ทำงานทางใจ สบาย สบาย อย่าให้ทุกข์

ทำใจให้ดี

เชื่อมั่นในกุศล

บุญจัดสรร บุญจัดสรร


เท้าหนึ่งยังเหยียบไม่มั่น อีกเท้าอย่าพึ่งยก

เดี่ยวจะหกล้มเจ็บ

:b53:

โอมฺ มณีปทฺเม หุมฺ

หลวงจีนงมงาย

:b51: :b51: :b51:

เจ้าของ:  ccc [ 07 ม.ค. 2010, 11:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

บางทีเราก็ควรบอกตัวเองว่า
"ฉันอยู่อย่างนี้ดีกว่าที่ไม่มีงานทำ
อย่างน้อยฉันก็มีหน้าที่สำหรับฉันอยู่ในปัจจุบัน"

ขอให้คุณให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ตรงหน้า
งานที่กำลังทำ และเวลาในตอนนี้นะครับ


:b8: ธรรมะสวัสดีครับ :b8:

เจ้าของ:  jinny [ 07 ม.ค. 2010, 13:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

ที่ทุกข์เพราะตั้งความหวังไว้มากหรือเปล่าคะ ลองทบทวนดูนะคะว่า ทุกข์ใจเพราะอะไร ทำไมถึงอยากก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน เพราะเงินเดือนหรือเปล่าคะ หรือศักดิ์ศรีอีโก้ เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันเค้าไปไกลแล้ว เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นหรือเปล่าคะ ถามใจตัวเองดูก่อนนะคะ หาสาเหตุของความเครียดอึดอัดคับข้องใจก่อน จะทุกข์หรือจะสุข เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ เดี๋ยวนี้เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน อย่าไปยึดติด อยู่กับสิ่งที่มีค่ะ ถ้าไม่พอใจก็หาใหม่ สิ่งที่ทำให้เราพอใจ ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนค่ะ คุณพิมเป็นคนโชคดีมากแล้วค่ะ ที่คุณมีงานทำ ได้เรียนป.โท สุขภาพแข็งแรง มีคนอีกนับพันล้านคนบนโลกใบนี้ที่เค้าทุกข์ระทมกว่าคุณเยอะๆเลย ทำใจให้สบายดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหน้าแก่ มะสวยค่ะ จิตใจดี หน้าตาดีนะคะ เครียดมากเดี๋ยวคิ้วผูกโบค่ะ มะเอาอย่าทำค่ะ หงุดหงิดบ่อยๆ เดี๋ยวคนใกล้ชิด เช่น ป่าป๊า มามี้ พี่น้อง เพื่อนฝูง และที่รักจะเบื่อหน่าย เซ้ง เซ็งอารมณ์ถ้วนหน้า
เคยคุยกับนายเป็นการส่วนตัวหรือยังคะ อย่าลืมใช้มารยาหญิงที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดให้เป็นประโยชน์นะคะ น้ำร้อนปลามันจะดิ้นแรงค่ะ น้ำเย็นๆ ดีกว่า ค่อยลูบไล้ ราดตัว แล้วสับโชะเลย ล้อเล่นค่ะ ไม่ทำค่ะ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ชั่วร้ายมาก บาปสุดๆ พยายามอาสานายทำงานค่ะ พยายามทำความรู้จักคนในองค์กรให้เยอะๆค่ะ แสดงความสามารถให้ใครก็ได้ให้เค้าเห็น กลองดี ไม่ตีมันจะดังหรือคะ cool
อย่าลืมยิ้มให้กับตัวเองก่อนนะคะ

เจ้าของ:  ชาติสยาม [ 07 ม.ค. 2010, 22:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

"เกลียดความเครียด" นั่นแหละความเครียด
ลองไม่ต้องอยากหายเครียดสิ อยาดเครียดก็ปล่อยเลย
ดูไปว่า เวลาเครียดแล้ว กายเรามันสั่นมันคับมันเค้นยังไง
อกมันคับ ใจมันตึง ปวดขมับอะไรยังไงก็ูไปตามที่มันเป็น

ดูไปสักระยะหนึ่ง แล้วจะได้ความรู้ใหม่ที่จัดการความเครียด


ถ้าเครียดมากๆ สุดๆ ก้ต้องไปหาอะไรสบายใจก่อนนะ
อย่าไปนั่งสะกดอารมณ์ให้มันหายเครียด
ให้ไปฟังเพลงดูหนังอะไรที่ชอบๆ ก็ทำไป
อยากไปเที่ยว อยากเบรก อยากทำอะไรสบายใจทำไปตามสมควร

เจ้าของ:  -dd- [ 08 ม.ค. 2010, 01:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

อ้างคำพูด:
ไม่รู้ทำกรรมไรจะต้องทำไง
ไปทำงาน ไม่มีงานทำ นั่งไปวันๆ ใส่บาตรสวดมนต์ทุกวันก็แล้ว
หน้าที่การงานก็ไม่เจริญก้าวหน้า
ตอนนี้กำลังหาสมัครงานไปเรื่อยๆ เบื่อ ทุกข์ใจทุกวันเลยค่ะ
พยายามอ่านหนังสือเตรียมตัวไปสัมภาษณื ฟังภาษาอังกฤษ
เบื่อชีวิตมากค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว


เรื่องความเจริญนั้น เป็นผลจากเหตุที่ดีครับ..ขออย่าเพิ่งท้อเลย และอย่าได้คิดว่าเราทำบุญมากแล้ว ทำไมผลบุญไม่ปรากฏ.. ข้อนี้ขอให้เข้าใจไว้ว่าแม้การที่เรายังไม่ประสบสิ่งที่ปรารถนาก็เกิดจากเหตุปัจจัยทั้งเหตุปัจจุบันและเหตุอดีต..เหตุปัจจุบันคือเข้าองค์กรที่ไม่เอื้อต่อความก้าวหน้า เหตุอดีตคือกรรมไม่ดีที่เคยทำมาแล้ว เช่นขัดขวางคนอื่นมิให้ก้าวหน้าประการใดประการหนึ่ง เมื่อเหตุปัจจัยเหมาะสมวิบากกรรมนั้นจึงส่งผลให้ได้มาทำงานในองค์กรนี้ ผลของวิบากที่มีกำลังกล้าย่อมขัดขวางบุญมิให้ส่งผลได้ทันที แต่บุญที่ทำไปแล้ว ผลย่อมไม่สูญหาย เพียงรอเหตุปัจจัยเหมาะสมเพื่อส่งผลเท่านั้น..

การที่คุณกำลังดิ้นรนขวนขวายเพื่อเปลี่ยนงาน ก็อาจเป็นช่องทางหนึ่งที่จะได้ความก้าวหน้าดังที่ตั้งใจ แต่หากแม้นอกุศลวิบากยังไม่อ่อนกำลังลง แม้จะได้งานใหม่ ผลอาจออกมาเสมอตัวหรือแย่กว่าเดิม ก็ต้องปลงใจว่านี่เป็นด้วยอิทธิพลของกรรมอันใครๆไม่อาจเข้ากำกับบังคับบัญชาให้เป็นไปตามใจปรารถนา..
และควรเข้าใจต่อไปว่า บาปกรรมเมื่อส่งผลแล้วย่อมลดกำลังหรือหมดอำนาจลง ไม่อาจตั้งอยู่ได้ตลอดไป....สังขารธรรมทั้งหลายล้วนตกอยู่ในอำนาจของกฏไตรลักษณ์.มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และหมดไปเป็นปรกติ..วันนี้แย่พรุ่งนี้อาจดีได้ใครจะรู้ เพราะเราทั้งหลายย่อมทำเหตุดีและเสียปนเปกันมามากแล้วในสังสารวัฏอันหาเบื้องต้นเบื้องปลายไม่พบ..

ส่วนความเบื่อชีวิตที่บ่นมาคือโทสะที่เกิดขึ้นเพราะเสื่อมลาภหรือยศในงานนั้น พึงฝึกที่จะลดโทสะนี้ลงเสียบ้างเพราะนี่คือการปล่อยจิตให้อยู่ใต้อำนาจของกิเลสอันเป็นอกุศล เมื่อใจเป็นบาปอยู่ บุญที่ใหนจะฝ่ามาส่งผลได้เล่า .. และเรื่องบุญนั้น ในเวลาทำก็อย่าตั้งปรารถนาว่าจะทำเพื่อให้งานก้าวหน้า นี่คือการทำบุญที่มีบาปล้อมหน้าล้อมหลังเพราะมีโลภะเป็นตัวนำไป อานิสงค์ของบุญจะน้อยมาก การทำบุญที่มีอานิสงค์มากคือทำเพื่อลดละกิเลสของตนเพื่อกำจัดความหวงแหนติดข้องในทรัพย์.. นี่จึงจะมีผลมาก..นอกจากบุญใส่บาตรสวดมนตร์แล้ว ยังมีบุญที่เกิดได้จากการรักษาศีลอีกด้วย อันว่าศีลนั้นคือการปรารภไม่เบียดเบียนผู้อื่น ศีลจึงนำผลคือการไม่ถูกใครๆเบียดเบียน วิบากบางอย่างแก้ด้วยทานไม่ได้ แต่อาจแก้ได้ด้วยศีล ..จึงพึงหมั่นประพฤติศีลให้ได้มั่นคงทุกวัน..

ขอให้ประสบความสำเร็จอันพึงปรารถนาโดยเร็วครับ :b46: :b47: :b48: :b41:

เจ้าของ:  Slot-C [ 08 ม.ค. 2010, 13:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

การทำบุญตักบาตรทำให้เรารู้สึกสบายใจ เป็นผู้ให้

แต่หากใจเายังไม่สงบ ไม่บริสุทธิ์ก็ยังไม่บังเกิดผลหรอกครับ

คุณต้องสงบจิตสงบใจ ลองทบทวน ข้อเสียของตัวเราเสียก่อนครับ

ตรึกตรองดู อาจต้องใช้เวลาซักนิด

ความทุกข์มันอยู่ไม่นานหรอกครับ

เดี๋ยวก็กลายเป็นความสุข วนสลับกันไป

ขอให้พบทางสว่างครับ :b1:

เจ้าของ:  yodchaw [ 10 ม.ค. 2010, 14:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

ก็รู้อยู่ไม่ใช่หรอ ว่าทำใจแบบนี้ ขอเกี่ยวแบบนี้มันทุกข์ มันเบื่อ ก็ไม่ต้องทำมันอย่างนั้น เลิกซะ เลิกตอกย้ำ ที่จะให้ได้ดั่งใจอะไรนั้น เลิกได้แล้ว ชีวิตก็ของมันเองอยู่แล้ว ของมันเองอยู่แล้วอย่างอัตโนมัติ จะงานไม่ได้งานก็ไม่แตกต่าง เพราะไม่ได้ให้ค่าความหมายมันมากมาย ได้งานไม่ได้งาน ระบบธรรม กรรมจัดสรรอยู่แล้ว เว้นแต่ได้แล้วไม่เลือกเอง ไม่เอาเองละเรื่องงานของเรา มันไม่ใช่สิ่งที่หน้ากังวนอย่างใด เบื่อมากก็ออกบวชซะ จะได้เข้าสู่เนื้องานจริงๆ ที่ทำแล้วอนุเคราะห์สงเคราะห์ ตัวเองและผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ ทำแล้วจบภพจบชาติเป็น

ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/

ขอให้ท่านมีส่วนในความ ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา แจ่มแจ้งในสัจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามองค์พุทธะ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต นั่นเทอญ

เจ้าของ:  chulapinan [ 25 ม.ค. 2010, 00:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

กรรมจริงๆค่ะ เพราะคุณเคยไล่คนออกโดยไม่มีเหตุผลมาก่อนในชาติอดีตน่ะค่ะ มาช่ตินี้คุณเลยไม่มีงานทำ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเตตาคุณค่ะ โอกาสมีเสมอ ตุณต้องไขว่คว้าเอง

แต่ก่อนอื่น คุณถือศีลบริสุทธิ์ ทำสมาธิ แผ่เมตตาและขออโหสิให้เจ้ากรรมนายเวรของคุณก่อน จุฬาภินันท์เชื่อว่า คุณจะคว้าโอกาสได้ในไม่ช้าค่ะ

อย่าหมดกำลังใจและท้อถอยซะก่อน

เจ้าของ:  Rosarin [ 15 ก.พ. 2010, 11:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

tongue

:b13:
...สัพเพสัตตา...สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น...
...ต้องฝึกฝนอบรมจิตใจในทางที่เป็นกุศล...ไม่สร้างทุกข์ให้ตนเองเดือดร้อนใจในภายหลัง...
:b16:
...ชีวิตเกิดมาแล้ว...เราต้องดูแลทั้งกายและใจ...ความคิดเบื่อหน่ายเป็นความคิดที่เป็นอกุศล...
...ความไม่อยากมากๆ...และความอยากมากๆ...เป็นการสร้างกิเลส(ความทุกข์)...เป็นความโลภ...
:b1:
...โลภมากก็ทุกข์มาก...สร้างมันในใจเอง...ทุกข์เกิดตั้งแต่เราเริ่มสร้างความคาดหวังหมายมั่นให้เป็น...
...แล้วก็คิดซ้ำๆอยู่อย่างนั้นว่า...ฉันต้องทำให้ได้ๆๆ...พอไม่เป็นไปอย่างที่คาดคิดก็ทุกข์นั้นเพิ่มขึ้น...
:b7:
...คนมักไม่เข้าใจว่าความสุขเป็นแค่ความทุกข์ในจิตใจที่ตนเองสร้างเอาไว้มันลดลงนิดเดียวเอง...
...ก็ตัวเองสร้างเองอยู่ตลอดเวลาตามแต่กิเลสจะไสให้ลงไป...เกิดจากความคิดคาดหวังไปล่วงหน้า...
:b22:
...พอสมหวังทุกข์ลดลงก็คิดว่าสุข...แต่เดี๋ยวก็หายไปเพราะเราขยันสร้างทุกข์อันใหม่อย่างอื่นแทน...
...แก้ได้โดยสอนจิตใจให้ขยันสร้างความคิดที่เป็นกุศล...รักและเมตตาตนเองและสรรพสัตว์ให้มาก...
:b27:
...อะไรหลายๆอย่างคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เราหามาได้เราทะนุถนอมและบำรุงรักษาให้ใช้งานได้นาน...
...ร่างกายก็หาปัจจัย4และที่5ที่6มาอำนวยความสะดวก...จิตใจก็ต้องการเยียวยาด้วยปฏิบัติธรรมะ...
:b11:
...ทำใจให้บริสุทธิ์...สร้างการคิดที่ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น...ของเราทำบุญกุศลประจำอยู่แล้ว...
...ขยันทำจิตใจให้ผ่องใส...ไม่คิดอกุศล...จะเกิดความรู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์...คือเฉยๆ...ทุกข์ก็ลดลงเอง
:b12:
...ยศและลาภหาบไปไม่ได้แน่...เว้นไว้แต่ต้นทุนบุญกุศล...
...ทำสิ่งใดเอาไว้ในใจตน...สุดท้ายตนเขายังเอาไปเผาไฟ...
:b4: :b4:
:b44: :b44: :b44: :b44: :b44:

เจ้าของ:  kyoung [ 11 มี.ค. 2010, 17:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทุกข์ใจเรื่องงาน

อาการนี้ ลองเข้าปฏิบัติธรรมดูครับ
บางทีการอยู่คนเดียว ทำอะไรก็ทำคนเดียว คิดอะไรก็คิดคนเดียว
มันสามารถดึงจิตของเราให้ตกอยู่ในสภาวะ อวิชชา(สิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์)ได้ครับ
ดังนั้น ลองน้องจิตเข้าไปปฏิบัติธรรม เพื่อชำระความหมองของจิตดูได้นะครับ
จะเห็นผลแตกต่างเลย :b12:

ปล.ลองให้อาหารทางใจมั่งครับ เพราะอาหารกายเราให้มาไม่รู้จะให้ยังไงแล้ว :b48:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/