ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=26742 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | อยากรู้มากๆเลยครับ [ 06 พ.ย. 2009, 12:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
อยากรู้ครับ ว่า 1.เวลาเรานั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา เราสามารถเผื่อแผ่บุญกุศลให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ไหม ถ้าทำได้ควรทำอย่างไร ถ้าทำไม่ได้ มีวิธีการทำอย่างอื่นหรือเปล่าที่จะทำให้กรรมของเขาบรรเทาเบาบางลง 2.ในปัจจุบัน คนที่ทำงานอาชีพผู้หญิงขายตัวเนี่ย เมื่อชาติก่อน เขาไปทำอะไรมาถึงต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้ เราสามารถช่วยพวกเขาได้ไหมเเบบเพื่อนมนุษย์คนนึง |
เจ้าของ: | bbb [ 06 พ.ย. 2009, 12:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
1. แผ่ได้หมดนั่นแหล่ะครับ สัพเพ สัตตา หมายถึงสัตว์ทั้งหมด ทั้งมวลครับ แผ่เมตตาแล้วอุทิศส่วนกุศล เพราะในบทสวดมันมีบอกนะครับ 2. กรรมของใครของมันนะครับ ถ้าคุณอยากเข้าไปช่วย คุณได้มีกิเลสในใจแล้วนะครับ คือ ความอยาก และความอยากนี่เเหล่ะเป็นบ่อเกิดของความทุกข์ อนุโมทนาครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | -dd- [ 06 พ.ย. 2009, 13:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
เรื่องการแผ่เมตตานั้น หากจะสงเคราะห์เข้าในทำนองเดียวกับการเจริญเมตตาภาวนานั้นก็น่าจะไปกันได้ ท่านได้แสดงเรื่องการเจริญ เมตตา ไว้โดยแสดงบุคคลที่เป็นโทษต่อเมตตาภาวนา หากไปแผ่เมตตาให้ก่อน ดังนี้ บุคคลประเภทที่แผ่ให้ก่อนไม่ได้ มี 4 ประเภท คือ 1.บุคคลอันไม่เป็นที่รัก จะเป็นโทษเพราะเป็นปัจจัยแก่โทสะ แผ่ให้ก่อนแล้วไม่สบายใจ 2.บุคคลที่เป็นที่รักมาก จะเป็นโทษเพราะถ้าเขามีความเดือดร้อนใจมาก ตนเองก็จะเดือดร้อนใจ อดกลั้นไม่ไหว เพราะรักมาก 3.บุคคลที่ไม่รัก ไม่ชัง เป็นกลางๆ เพราะยังไม่รู้ว่าบุคคลนั้นมีคุณธรรมอะไรที่จะทำให้รักเคารพ จิตใจก็จะไม่ค่อยสบายนัก 4. บุคคลผู้เป็นศัตรู หากแผ่ให้ก่อน ก็จะมีแต่ความไม่สบายใจ ขัดเคืองเพราะเป็นศัตรูกัน ส่วนอีก 2 ประเภทที่เป็นโทษต่อเมตตาภาวนา ก็ได้แก่ บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ..... และบุคคลผู้ตายไปแล้ว ...เพราะเมตตาเกิดไม่ได้เลย เนื่องจากอารมณ์ของเมตตาต้องเป็น ปิยมนาสัตวบัญญัติ คือ สัตว์ที่เป็นที่รักที่ชื่นชมและพอใจเป็นอารมณ์ จึงจะเรียกว่า เมตตา ดังนั้น การแผ่เมตตาจึงไม่เหมือนกับการแผ่อุทิศบุญให้ผู้ตายตรงนั้นเรียกว่า ปัตติทาน.... แต่การแผ่เมตตา อารมณ์ของเมตตาจะต้องเป็น สัตว์อันเป็นที่รักที่ชื่นชมที่พอใจเป็นพื้นฐาน ผู้ที่ตายแล้ว ใจเราจะไม่ได้รักชื่นชมพอใจ แต่ใจจะอาลัยอาวรณ์ เสียใจ เสียดาย เป็นต้น สมควรแผ่เมตตาให้ตนเองก่อนอยู่เสมอๆ ความไม่อยากตาย ต้องการสุข เกลียดทุกข์ อยากอายุยืนที่มีอยู่ประจำใจตนเองนั้น ย่อมเกิดขึ้นเป็นพิเศษ แล้วจะนึกเปรียบเทียบไปในสัตว์ทั้งหลายว่า ล้วนรักสุข เกลียดทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น เหมือนตนทุกประการ ด้วยเหตุนี้แหละ จะทำให้เมตตาเกิดขึ้นได้จริงๆก่อน แล้วตั้งมั่นขึ้น แล้วจึงค่อยๆแผ่เมตตาไปให้คนอื่นๆและสัตว์อื่นๆทีหลัง จึงควรเริ่มต้นที่เมตตาตนเองก่อน ฉะนั้น ผู้ที่รักตนย่อมไม่เบียดเบียนผู้อื่นแม้กระทั่งสัตว์เล็กน้อย การแผ่เมตตาให้แก่ตนแล้ว ก็พึงลำดับการแผ่เมตตาไปยังบุคคลต่อไปนี้ 1. บุคคลอันเป็นที่รัก 2. บุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง 3. บุคคลที่ไม่รัก ไม่ชัง 4. บุคคลที่เป็นศัตรูกัน อ้างคำพูด: 2.ในปัจจุบัน คนที่ทำงานอาชีพผู้หญิงขายตัวเนี่ย เมื่อชาติก่อน เขาไปทำอะไรมาถึงต้องมาชดใช้กรรมแบบนี้ มีหลายสาเหตุครับ..ตัวอย่างจากพระไตรปิฎกมีเช่นนางอัมพปาลีเถริ ผู้บรรลุอรหันต์ได้เล่าว่า.. ดิฉันเกิดในสกุลพราหมณ์ใน เมืองอรุณอันน่ารื่นรมย์ โกรธแล้ว ด่าภิกษุณีองค์หนึ่งผู้มีจิตพ้นแล้ว จากกิเลสว่า ท่านเป็นหญิงเพศยา ประพฤติอนาจารประทุษร้าย พุทธศาสนา ครั้นด่าอย่างนี้แล้ว ดิฉันต้องไปสู่นรกอันร้ายกาจ เพรียบพร้อมไปด้วยมหันตทุกข์ เพราะกรรมอันลามกนั้น เคลื่อน จากนรกนั้นแล้วมาเกิดในหมู่มนุษย์เป็นผู้มีลามกธรรม เป็นเหตุให้ เดือดร้อนครองความเป็นหญิงเพศยาอย่างหมื่นชาติยังมิได้พ้นจากบาป กรรมนั้น เปรียบเหมือนคนกินยาพิษอันร้ายแรง (คัดจาก อัมพปาลีเถริยาปทานที่ ๙) นอกจากการด่าว่าคนอื่นเช่นตัวอย่างข้างบนแล้ว อีกเหตุหนึ่งคือ การล่วงศีลข้อ๓ ทำกรรมที่เคยพรากภรรยาผู้อื่น เจ้าชู้มากรัก และหักอกให้ผู้อื่นต้องช้ำใจ ทำให้ต้องมาเกิดเป็นโสเภณี และบางรายก็มีเหตุจากสั่งสมอุปนิสสัยเสพคุ้นพฤติกรรมขายตัวจนเกิดชอบใจก็มีครับ อ้างคำพูด: เราสามารถช่วยพวกเขาได้ไหมเเบบเพื่อนมนุษย์คนนึง หากอยู่ในฐานะที่จะช่วยเขาได้ก็พึงทำครับ แต่ควรพิจารณาถึงเหตุต่างๆในปัจจุปันของเขาด้วยว่าอะไรทำให้เขามาทำอาชีพนี้ สิ่งที่ควรเริ่มต้นก่อนช่วยด้วยวิธีอื่นๆคือการให้ "ธรรมทาน" คือความรู้เรื่องโทษของอาชีพนี้ ให้เขาทราบถึงโทษของอาชีพนี้ หากเขาทำอาชีพนี้เพราะรักสบาย นี่ก็คงลำบากที่จะช่วยต่อไปเพราะคนรักสบายย่อมรังเกียจงานที่ไม่สบายแน่ๆ มีอาชีพมากมายที่ใครๆสามารถเลือกทำได้ แม้ไม่มีความรู้เลย จริงใหมครับ ![]() |
เจ้าของ: | murano [ 06 พ.ย. 2009, 20:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
-dd- เขียน: บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ..... อันนี้ ยืนยันว่าจริง... ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ศิริพงศ์ [ 06 พ.ย. 2009, 21:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
การแผ่เมตตาเป็นการตั้งใจที่เราจะให้ความดีที่เราทำนั้นให้คนอื่นมีส่วนร่วมในการทำความดีนั้นถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกันเราจำเป็นต้องบอกกล่าวให้เขารับทราบว่าเราทำความดีเพื่อเขาจะได้อนุโมทนากับความดีของเราเพื่อเขาจะได้บุญกุศลด้วยถ้าเขายินดี แต่ถ้าเขาไม่ยินดีกับความดีที่เราทำเขาก็ไม่ได้บุญกุศลนั้นหรอกครับ ความดีให้กันไม่ได้แบบยกให้นะครับต้องอนุโมทนา ส่วนสัตว์ที่อยู่ภูมิอื่นๆก็จะรับรู้สิ่งที่เราบอกกล่าวได้เมื่อเขารับรู้เขาก็อนุโมทนาเขาก็ได้บุญ ส่วนการเจริญเมตตาภาวนานั้นเป็นการสร้างความเมตตาให้เกิดขึ้นกับจิตของเราอันนี้เป็นการพัฒนาจิตของเราเอง เพื่อให้เกิดเป็นอุปนิสัยต่อไปอันนี้ก็เป็นการทำความดีแก่ตัวเรา อันนี้กระทำได้โดยหลายวิธี เช่นช่วยเหลือคน ให้ความรักแคนรอบข้าง และคนทั่วไปอื่นๆอีกมากมาย น่าจะเป็นอย่างนี้ครับ(ตามความเข้าใจผมนะครับ) |
เจ้าของ: | หนอนน้อย [ 16 พ.ย. 2009, 16:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
อนุโมทนาครับทุกท่าน ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 16 พ.ย. 2009, 19:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
murano เขียน: -dd- เขียน: บุคคลที่เป็นเพศตรงกันข้ามก็จะเป็นปัจจัยให้ราคะกำเริบ..... อันนี้ ยืนยันว่าจริง... ![]() ![]() ![]() หมายถึงเห็นใครก้ตาม จะกำหนัดไปหมดเลยเหรอครับ ![]() |
เจ้าของ: | Rosarin [ 01 ธ.ค. 2009, 23:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
![]() ตอบปัญาหาคาใจ...คุณอยากรู้มากๆเลยครับ ![]() ข้อแรก ...ว่ากันว่ากระแสจิตเป็นคลื่นชนิดหนึ่ง...สามารถส่งผ่านอากาศไปถึงกันได้... ...ผู้ส่งส่งคลื่นออกไป...ผู้รับก็มีเสาอากาศรับคลื่น...คล้ายมีลางสังหรณ์ล่วงหน้า... ![]() ...ข้าพเจ้าเป็นบ่อย...เวลาคิดถึงใครขึ้นมา...อยู่ๆเขาก็โทรศัพท์มาหาเจ้าค่ะ... ![]() ...มีที่ส่งกระแสอย่างแรงกว่านี้อีก...แบบว่าคนบนลานธรรมจักรเนี่ย...เขาชอบส่งไอเดียดีๆ... ![]() ...อย่างเวลาอ่านแล้วขำกลิ้ง...ขำจนหัวเราะคนเดียวได้...แสดงว่าคลื่นมันแรงม๊ากมาก... ![]() ![]() ข้อสอง ![]() ...ข้าพเจ้าว่า...คุณเธอทั้งหลายเหล่านั้น...เธอเลือกทางเดินของเธอเอง...สาเหตุน่าจะมาจาก... ...ความโลภมาก่อน...เพราะคิดแต่ทางที่จะได้...ไม่คิดทางที่จะเสีย...ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเอง... ...ข้ออ้างมาจากต้องใช้เงินจำนวนมาก...สารพัดข้ออ้าง...เนื้อแท้น่าจะเป็นวิธีที่ได้เงินง่ายดี... ...อาชีพที่สุจริตอื่นๆถมไป...เงินที่ได้มาแบบนั้น...เอาไปทำบุญ...มันจะได้บุญรึก็หาได้ไม่... ...เธอทั้งหลายเหล่านั้นต้องคิดช่วยตัวเอง...ให้พ้นจากที่ตรงนั้นด้วยตัวเธอเองนั่นแหละ ![]() ![]() ![]() ...ไม่มีใครฉุดรั้ง...ให้จิตใจเราตกต่ำได้...ถ้าจิตใจเราไม่ต้องการ... |
เจ้าของ: | Rosarin [ 02 ธ.ค. 2009, 10:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
![]() ![]() ...ลืมบอกอีกอย่างนึง...หลังสวดมนต์ไหว้พระให้นั่งสมาธิรวมบุญกุศลที่ทำก่อน... ...แล้วจึงแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์...เป็นบุญเป็นกุศลมากกว่าสวดมนต์อย่างเดียว... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ...นัตถิปัญญา สมาอาภา...แสงสว่าเสมอด้วยปัญญาไม่มี... ![]() |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 07 ธ.ค. 2009, 18:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: รบกวนผู้รู้ตอบปัญหาคาใจหน่อย |
Rosarin เขียน: ...มีที่ส่งกระแสอย่างแรงกว่านี้อีก...แบบว่าคนบนลานธรรมจักรเนี่ย...เขาชอบส่งไอเดียดีๆ... ![]() ...อย่างเวลาอ่านแล้วขำกลิ้ง...ขำจนหัวเราะคนเดียวได้...แสดงว่าคลื่นมันแรงม๊ากมาก... ![]() ![]() คนมันแรงน่ะจ๊ะ ![]() ยัง "แรงได้อีก" นะ อย่าได้"แคร"สื่อ Rosarin เขียน: ...ไม่มีใครฉุดรั้ง...ให้จิตใจเราตกต่ำได้...ถ้าจิตใจเราไม่ต้องการ... โอ๊ะ ชอบมากเลย คำพูดนี้ แจกมงกุฏให้เลย ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |