ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=23218 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 23 มิ.ย. 2009, 00:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
กรรมคือเจตนา การกระทำบุญหรือบาป เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า กรรม คำว่า กรรม เป็นคำกลาง ๆ แปลว่า การกระทำ ใช้ได้ทั้งทำดีเรียกว่า กุศลกรรม และทำชั่วเรียกว่า อกุศลกรรม กรรมมิได้หมายความเฉพาะการกระทำที่ประกอบด้วยความตั้งใจที่ แสดงออกทางกาย และทางวาจา ใจเท่านั้น แม้ความนึกคิดในใจก็นับว่าเป็นกรรมเช่นกัน เช่นนึกคิดไปทางหยาบช้าก็เป็นอกุศลกรรม นึกคิดในทางบุญดีงามก็เป็นกุศลกรรม แต่ผลที่จะเกิดสนองนั้นหนักเบาแตกต่างกัน เพราะถ้าทำกรรมลงขนาดถึงแสดงออกด้วยกาย วาจา ผลสนองก็รุนแรงสมตามที่แสดงออกนั้น ถ้ากระทำแต่เพียงคิดนึกอยู่ในใจ ผลสนองก็เบากว่าที่แสดงออกทางกาย วาจา ( ยกเว้น มหัคคตะและโลกุตรกุศล ) กรรมในคติทางพระพุทธศาสนาต้องประกอบด้วยเจตนา เจตนานี้มีลักษณะละเอียดประณีต ผิดกว่าเจตนาที่เข้าใจกันตามธรรมดาทางโลก ซึ่งหมายเอาเพียงความตั้งใจ พระพุทธองค์ตรัสว่า “ เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาคือกรรม ” เจตนานี้หมายถึงเจตนาเจตสิกที่เกิดพร้อมกับจิตทุกครั้ง คราวใดที่จิตเกิดขึ้นรับอามรณ์มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น ฯลฯ เจตนาเจตสิกก็จะเกิดพร้อมด้วยทุกขณะ มีลักษณะชักจูงสัมปยุตธรรมอื่นที่เกิดร่วมด้วยตน ให้กระทำหน้าที่การงานตรงไปยังอารมณ์โดยไม่บกพร่อง กรรมเกิดขึ้นโดยอาศัยเจตนาเป็นสังขารปรุงแต่ง กล่าวคือ เจตนาเป็นธรรมที่เกิดก่อนกรรม เป็นธรรมที่เกิดภายหลัง ท่านจึงกล่าวว่าเจตนาคือกรรม กรรมทั้งที่เป็นกุศลหรืออกุศลย่อมเกิดขึ้นได้ในทุกอารมณ์ แม้ในขณะนอนหลับ จิตฝันเป็นอารมณ์โกรธ รัก ชอบ ไม่ชอบ เป็นไปต่างๆ นั้น กรรมที่เกิดขึ้น ทุกครั้งที่กรรมเกิดขึ้นก็ ย่อมประทับเก็บสะสมไว้ในจิต และคอยสนองผลปรุงแต่งให้ในเมื่อถึงคราวที่มีโอกาส กรรมไม่ว่าเล็กน้อยปานใดย่อมให้ผลสนองโดยยุติธรรม ไม่มีขาดตกบกพร่อง เจตนาที่เรียกว่า มโนสัญญาเจตนา คือเจตนา ๒๙ เป็นตัวกรรมวัฏฏ์ ( ปรุงแต่งนำเกิด ) ทำให้เกิดวิปากวัฏฏ์ ( รูปนาม ) วนเวียนอยู่ไม่ออกไปจากสังสารวัฏฏ์ได้ ตามสภาวะ กรรมก็คือเจตนาของผู้กระทำ มีความปรารถนาพอใจอยากให้ผลเกิดขึ้นดังที่ต้องการ เมื่อปรารถนาพอใจมุ่งมั่นต่อผลในการประกอบกรรมใดและกระทำกรรมลง วิบากคือผลก็ย่อมเกิดสนองให้สมคล้อยสมเจตนารมณ์ ไม่ขาดตกบกพร่องไปจากเจตนาปรารถนานั้น เช่นผู้ฆ่าสัตว์ย่อมมีเจตนาปรารถนาให้สัตว์ตาย ให้สัตว์นั้นอายุสั้น ให้เจ็บปวดเดือดร้อน วิบากอันเป็นผลของกรรมที่ผู้ฆ่าสัตว์จะได้รับก็คือ มีโรคภัยไข้เจ็บ เดือดร้อนทุกข์ลำเค็ญ มีอายุสั้น ตายไปเกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน ทนทุกขเวทนายากแค้น อันเป็นผลตามอำนาจของกรรมที่ได้กระทำไว้ กรรมย่อมให้ผลเป็นไปตามความปรารถนาพอใจ ของผู้กระทำ อย่าประมาทสำคัญหมายว่าเป็นกรรมเล็กน้อย กุศลกรรมย่อมนำสุขสมบูรณ์มาให้ แต่อกุศลกรรมย่อมนำมาซึ่งโทษทุกข์ ที่เข้าใจและกล่าวโทษว่าภูตผีปีศาจ พระเสาร์ พระราหู เทวดา มาดลบันดาลให้เกิดเคราะห์กรรมเป็นไปนั้นหาใช่ความจริงไม่ ที่แท้ก็คือวิบากของกรรมในอดีต ที่เนื่องมาจากจิตใจมีเจตนาปรารถนาเช่นนั้น ภูตผีปีศาจเป็นเพียงแต่พลอยผสมอาศัยหากิน มีผลพลอยได้ด้วยเล็กน้อยในบางคราว ท่านสอนให้หมั่นนึกถึงไว้เสมอว่าเรามีกรรมเป็นของเรา เราเป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 23 มิ.ย. 2009, 00:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
เจตนาที่นับว่าเป็นกุศล หรืออกุศลกรรมนั้น ได้แก่เจตนาเจตสิกในกุศลจิต ๑๗ และอกุศลจิต ๑๒ รวม ๒๙ ดวง ที่เกิดในขณะจิตเสพย์อารมณ์อันเป็น ชวนจิต กล่าวคือ กามาวจรกุศล ๘ รูปาวจร ๕ อรูปาวจรกุศล ๔ รวม ๑๗ ดวง เป็นฝ่ายกุศล ส่วนโลภะ ๘ โทสะ ๒ โมหะ ๒ รวม ๑๒ ดวง เป็นฝ่ายอกุศล กุศลหรืออกุศลจะเกิดมีขึ้นได้ก็แต่ใน ชวนจิต เท่านั้น หาได้เกิดในจิตทั่วไปไม่ การทำบุญกุศลก็ตาม การทำบาปอกุศลก็ตาม จะเป็นบุญหรือบาปมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยเจตนานี้เป็นสังขารปรุงแต่งกรรมนั้น ๆ กรรมเมื่อได้กระทำลงแล้ว ไม่ว่าจะเล็กน้อยปานใด ย่อมจารึกประทับไว้ในจิตใจของผู้นั้นทุกครั้งที่กระทำลง มิได้สูญหายไปไหน กรรมดีที่เก็บสะสมไว้ก็เป็นเหตุให้จิตใจดีขึ้น ถ้าเป็นกรรมชั่วก็ทำให้จิตใจชั่วเลวลง นี่เป็นผลประการหนึ่งที่เห็นได้ว่ากรรมนั้นเก็บสะสมไว้ในจิต ถ้าหากเป็นกรรมที่กระทำลงโดยเจตนาอันแรงกล้า ก็ถูกประทับเก็บเป็นความทรงจำไว้ในจิตใจของผู้นั้นเด่นชัดไม่ลืมเลือน และจะปรากฏขึ้นในจิตใจอยู่เสมอ แม้ผู้นั้นต้องการลืมเสียก็หาใคร่ลืมได้ไม่ ซ้ำยังจะก่อให้เกิดกรรมใหม่ต่อไปด้วย เพราะอกุศลกรรมที่ได้กระทำแล้ว ทุกครั้งที่นึกคิดปรากฏขึ้น ย่อมจะทำให้จิตใจของผู้นั้นเศร้าหมองขุ่นมัวไม่ชอบใจ แต่ถ้าเป็นกุศลกรรมแล้วก็จะทำให้เกิดความปลื้มปีติยินดี .................................................................. จิตของผู้กอปรไปด้วยกรรมที่ได้กระทำลงย่อมเป็นเหตุให้เกิดวิบาก คืออำนาจให้ผลสนองกรรมที่ไม่ให้ผลสนองนั้นไม่มี ( นอกจากยังสนองไม่ได้และอโหสิกรรม ) ไม่ว่าจะทำในที่ลับหรือแจ้ง ย่อมให้ผลไม่ขาดาตกบกพร่อง |
เจ้าของ: | แมวขาวมณี [ 23 มิ.ย. 2009, 00:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
โดยเหตุที่เรามีกรรมเป็นของเรา เราเป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ท่านจึงสอนให้งดกระทำความชั่ว กรรมชั่วใดที่ได้กระทำแล้วก็พยายามลืมไปเสีย ถ้านึกถึงขึ้นก็จะเกิดอกุศลใหม่ และจะทำให้ทรงจำไว้ระลึกถึงได้ง่ายเมื่อเวลาใกล้ตาย กับให้พยายามกระทำแต่กรรมดีเป็นกุศลให้มาก เมื่อกระทำแล้วก็ให้หมั่นระลึกถึงกุศลนั้นเสมอ ระลึกถึงกุศลคราวใดก็ย่อมได้กุศลและ จะทำให้ระลึกถึงกุศลได้ง่ายเมื่อเวลาใกล้ชีวิตจะแตกดับ จะได้ยึดเอาอารมณ์กุศลนั้นนำไปสู่สุคติสวรรค์ภพชาติใหม่ กรรมย่อมบันดาลผลเป็นวิบากเกิดขึ้นแก่ผู้กระทำ สมคล้อยตามเจตนารมณ์ของผู้กระทำ ครั้งหนึ่ง สุภมานพผู้เลื่อมใสในลัทธิเดียร์ถีย์ มีความเชื่ออยู่ว่า มนุษย์จะชั่วดีมีจนต้องเป็นไปตามพรหมลิขิต ได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า อะไรเป็นเหตุ มนุษย์จึงมีอายุไม่เท่ากัน เหตุใดบางคนจึงมีโรค บางคนไม่มี ฯลฯ พระพุทธองค์ทรงตอบมีสาระสำคัญว่า กรรมที่ได้กระไว้ย่อมเป็นสมบัติตามให้ผลสนองเสมอไป กล่าวคือ การฆ่าสัตว์ ทำให้มี อายุสั้น ละการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเสีย ทำให้มี อายุยืน โหดร้ายทำทารุณต่อสัตว์ เป็นเหตุให้ มีโรค กรุณาปราณีต่อสัตว์ เป็นเหตุให้ ไม่มีโรค เมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อสัตว์ เป็นเหตุให้ สวยงาม อาฆาตพยาบาทชิงชังแก่สัตว์ เป็นให้ ไม่สวยงาม มีมุทิตาจิตแก่สัตว์ เป็นเหตุให้ มีบริวารสมบูรณ์ อิจฉาริษยา เป็นเหตุให้ อาภัพ ตระหนี่เหนียวไม่บริจาคทาน เป็นเหตุให้ ยากจน นิยมบำเพ็ญทานอยู่เป็นนิจ เป็นเหตุให้ มีทรัพย์ มีความเคารพในผู้ทรงคุณวุฒิและวัยวุฒิ เป็นเหตุให้ เป็นผู้ที่สูงศักดิ์ ขาดความเคารพยำเกรงผู้ใหญ่ เป็นเหตุให้ เป็นผู้ที่ต่ำศักดิ์ คบหาอยู่กับบัณฑิตเป็นอาจิณ ย่อมเป็น ผู้มีปัญญาเฉียบแหลม เมื่อไม่นำพาต่อการคบหาสมาคมกับบัณฑิต ย่อมเป็น ผู้โง่เขลา ปัญหาทำนองเดียวกันนี้ พระพุทธองค์ก็ได้เคยทรงตอบแก่พระนางมัลลิกา มเหษีของพระเจ้าปเสนทิโกศล |
เจ้าของ: | อมิตาพุทธ [ 23 มิ.ย. 2009, 03:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับ คุณแมวขาวมณี |
เจ้าของ: | คนไร้สาระ [ 23 มิ.ย. 2009, 05:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
อนุโมทนาสาธุค่ะ คุณแมวขาวมณี ชอบบทความนี้จริง ๆ ค่ะ และขอเสนอความเห็น เล็กน้อยค่ะ ผู้ที่เข้าใจ ในเรื่องกรรม จริง ๆ จึงไม่มีการผิด ศีลเพราะ เข้าใจว่า แค่จิตคิด เท่ากับมีเจตนาไปแล้ว ไม่ต้อง กล่าวถึงว่าถ้า ลงมือไปแล้วจะหนักสักเพียงใด แม้กระทั่ง คำพูดวาจา เล็กน้อย ยังเกิดการเบียดเบียน ก่อภพชาติ และต้อง รับวิบากกัน โดยไม่รู้ตัว กรรมเป็นเหมือนบัญชีทวงหนี้ที่ไม่มีใบเสร็จ ไม่รู้ว่าใช้หนี้ก้อนใด จะเป็นดอกเบี้ยหรือต้น ไม่รู้ว่า จะมาทวงตอนไหน เราจึงควรไม่ประมาทตามที่ พระพุทธเองค์ตรัสกล่าวไว้ ไม่มีความแน่นอน ใน สังสารวัฏฏ์นี้ ต้องขอบคุณกรรมดี ที่นำเรามาพบกัน สาธุค่ะ |
เจ้าของ: | ลุงชู [ 24 มิ.ย. 2009, 08:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
สาธุครับ คุณแมวขาวมณี |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 24 มิ.ย. 2009, 15:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
สาธุ สาธุ สาธุค่ะ ธรรมะสวัสดีค่ะ |
เจ้าของ: | สุนันท์ [ 09 ก.ค. 2009, 12:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
สาธุ เจ้าคะ |
เจ้าของ: | ไหว้พระปล่อยปลา [ 11 ก.ค. 2009, 08:16 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... | ||
อนุโมทนาในธรรมทานอันยอดเยี่ยมครับ
|
เจ้าของ: | ฟ้าใสใส [ 07 พ.ค. 2012, 21:57 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... | ||
กรรมไม่ว่าเล็กน้อยปานใดย่อมให้ผลสนองโดยยุติธรรม กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่านนะเจ้าค่ะ ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครองนะเจ้าค่ะ
|
เจ้าของ: | สมาธิมือใหม่ [ 01 มิ.ย. 2012, 21:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ |
เจ้าของ: | plekaran [ 25 มิ.ย. 2012, 21:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
---------------- อนุโมทนาสาธุครับ |
เจ้าของ: | bluebird [ 26 มิ.ย. 2012, 13:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
เจ้าของ: | เมธาพร ภูสอน [ 04 เม.ย. 2013, 23:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
สาธุคะ |
เจ้าของ: | ouie [ 05 พ.ค. 2013, 11:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: อย่าประมาทแม้....กรรมอันเล็กน้อย... |
ขอบคุณธรรมะดีๆๆ สาธุๆๆ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |