ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=33519
รวมคำสอน “หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=44339
จริยาของนักปกครอง (หลวงปู่กงมาถูกกล่าวหา)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=23099
ประมวลภาพ “หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ”
วัดดอยธรรมเจดีย์
ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
ภาพเขียนสีน้ำมัน “หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ” พระอาจารย์องค์แรก
ของพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
ประดิษฐานอยู่ภายใน “พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์”
พระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้อยู่ปฏิบัติสมาธิและเดินธุดงค์ติดตาม
“หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ” ไปในที่ต่างๆ เป็นเวลา ๘ ปีเต็ม
จึงมีความรู้เรื่องสมาธิสามารถสอนผู้อื่นได้ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะนั้นมีอายุ ๒๒ ปี
วันหนึ่งหลวงปู่กงมาก็พาท่านเดินธุดงค์จากจังหวัดจันทบุรีไปจังหวัดสกลนคร
เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่กงมาได้บอกหลวงพ่อวิริยังค์ว่า
“วิริยังค์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ เป็นปรมาจารย์และเป็นอาจารย์ของเรา
สมาธิทุกๆ ขั้นตอนเราได้สอนเธอไปหมดแล้ว
ต่อไปนี้เธอจะได้เรียนสมาธิกับท่านปรมาจารย์ เธอจงอย่าประมาท
จงปฏิบัติหลวงปู่มั่นแบบถวายชีวิต
เธอจะได้ความรู้อย่างกว้างขวาง ยิ่งกว่าที่เราสอนอีกมากนัก”
หลวงพ่อวิริยังค์รับคำตักเตือนจากหลวงปู่กงมาด้วยความตื้นตันใจ
ดังนั้น ในปี พ.ศ.๒๔๘๔ จึงเป็นปีเริ่มศักราชใหม่ของท่าน
โดยที่ท่านได้รับเลือกให้เป็นพระผู้อุปัฎฐากของพระอาจารย์มั่น
แบบใกล้ชิดที่เรียกว่า ท.ส. อยู่เป็นเวลา ๔ ปี
และอยู่นอกพรรษาหมายถึงเดือนตุลาคมไปถึงเดือนมิถุนายน
เป็นเวลาอีก ๕ ปี รวมทั้งหมด ๙ ปี
จึงเป็นอันว่าปัญหาของสมาธิได้ถูกชี้แจงอย่างหมดเปลือกจริงๆ
ซึ่งบางครั้งปัญหาเข้าขั้นสำคัญ พระอาจารย์มั่นก็ให้หลวงพ่อวิริยังค์
อยู่ด้วยกับท่านสองต่อสองตลอดเวลา และแก้ไขปัญหานั้นให้
ระหว่างที่อยู่ใกล้ชิดพระอาจารย์มั่น หลวงพ่อวิริยังค์ได้ทราบข้อเท็จจริงต่างๆ มากมาย
ในด้านสมาธิ ทั้งสมาธิตื้น สมาธิลึก ตลอดถึงวิปัสสนา ซึ่งเมื่อเข้าใจทุกประการแล้ว
หลวงพ่อวิริยังค์จึงมีความรักและหวงแหนในหลักการต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง
ไม่อยากที่จะให้หลักการเหล่านั้นต้องสลายไป เพราะท่านมีวิธีทั้งขั้นพื้นฐานและขั้นสูงสุด
หลวงพ่อวิริยังค์ถามพระอาจารย์มั่นว่า
“ต่อไปกระผมจะเขียนเป็นหลักการให้ชาวโลกเขาทำกันจะได้ไหม”
พระอาจารย์มั่นท่านตอบว่า
“ต้องเอาแบบขั้นพื้นฐานสำหรับเป็นประโยชน์แก่มหาชน
สำหรับขั้นสูงให้มีน้อย โอกาสที่เธอจะทำนั้นมีอยู่
แต่ต้องทำขั้นพื้นฐานเพื่อคนส่วนมากในโลกจะได้สงบ
และเธอต้องไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ ที่มีวาสนาบารมี มีอยู่ไม่น้อย”
นี้คือปฐมเหตุแห่งการสร้างพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์, นครธรรม
และ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” (Willpower Institute) ขึ้นที่วัดธรรมมงคล
เพื่อให้เป็นสถานการศึกษาสมาธิที่ทันสมัยในยุคปัจจุบันของหลวงพ่อวิริยังค์
๑ ในศิษย์รุ่นสุดท้ายของ “พระอาจารย์มั่น” ที่ยังดำรงขันธ์อยู่เวลานี้
--------------------------------------------
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=33519
รวมคำสอน “หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=44339
จริยาของนักปกครอง (หลวงปู่กงมาถูกกล่าวหา)
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=23099
ประมวลภาพ “หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ”
วัดดอยธรรมเจดีย์
ต.ตองโขบ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
ภาพเขียนสีน้ำมัน “หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ” พระอาจารย์องค์แรก
ของพระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)
ประดิษฐานอยู่ภายใน “พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์”
พระมหาเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ณ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ
หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้อยู่ปฏิบัติสมาธิและเดินธุดงค์ติดตาม
“หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ” ไปในที่ต่างๆ เป็นเวลา ๘ ปีเต็ม
จึงมีความรู้เรื่องสมาธิสามารถสอนผู้อื่นได้ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ ขณะนั้นมีอายุ ๒๒ ปี
วันหนึ่งหลวงปู่กงมาก็พาท่านเดินธุดงค์จากจังหวัดจันทบุรีไปจังหวัดสกลนคร
เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่กงมาได้บอกหลวงพ่อวิริยังค์ว่า
“วิริยังค์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ เป็นปรมาจารย์และเป็นอาจารย์ของเรา
สมาธิทุกๆ ขั้นตอนเราได้สอนเธอไปหมดแล้ว
ต่อไปนี้เธอจะได้เรียนสมาธิกับท่านปรมาจารย์ เธอจงอย่าประมาท
จงปฏิบัติหลวงปู่มั่นแบบถวายชีวิต
เธอจะได้ความรู้อย่างกว้างขวาง ยิ่งกว่าที่เราสอนอีกมากนัก”
หลวงพ่อวิริยังค์รับคำตักเตือนจากหลวงปู่กงมาด้วยความตื้นตันใจ
ดังนั้น ในปี พ.ศ.๒๔๘๔ จึงเป็นปีเริ่มศักราชใหม่ของท่าน
โดยที่ท่านได้รับเลือกให้เป็นพระผู้อุปัฎฐากของพระอาจารย์มั่น
แบบใกล้ชิดที่เรียกว่า ท.ส. อยู่เป็นเวลา ๔ ปี
และอยู่นอกพรรษาหมายถึงเดือนตุลาคมไปถึงเดือนมิถุนายน
เป็นเวลาอีก ๕ ปี รวมทั้งหมด ๙ ปี
จึงเป็นอันว่าปัญหาของสมาธิได้ถูกชี้แจงอย่างหมดเปลือกจริงๆ
ซึ่งบางครั้งปัญหาเข้าขั้นสำคัญ พระอาจารย์มั่นก็ให้หลวงพ่อวิริยังค์
อยู่ด้วยกับท่านสองต่อสองตลอดเวลา และแก้ไขปัญหานั้นให้
ระหว่างที่อยู่ใกล้ชิดพระอาจารย์มั่น หลวงพ่อวิริยังค์ได้ทราบข้อเท็จจริงต่างๆ มากมาย
ในด้านสมาธิ ทั้งสมาธิตื้น สมาธิลึก ตลอดถึงวิปัสสนา ซึ่งเมื่อเข้าใจทุกประการแล้ว
หลวงพ่อวิริยังค์จึงมีความรักและหวงแหนในหลักการต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง
ไม่อยากที่จะให้หลักการเหล่านั้นต้องสลายไป เพราะท่านมีวิธีทั้งขั้นพื้นฐานและขั้นสูงสุด
หลวงพ่อวิริยังค์ถามพระอาจารย์มั่นว่า
“ต่อไปกระผมจะเขียนเป็นหลักการให้ชาวโลกเขาทำกันจะได้ไหม”
พระอาจารย์มั่นท่านตอบว่า
“ต้องเอาแบบขั้นพื้นฐานสำหรับเป็นประโยชน์แก่มหาชน
สำหรับขั้นสูงให้มีน้อย โอกาสที่เธอจะทำนั้นมีอยู่
แต่ต้องทำขั้นพื้นฐานเพื่อคนส่วนมากในโลกจะได้สงบ
และเธอต้องไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ ที่มีวาสนาบารมี มีอยู่ไม่น้อย”
นี้คือปฐมเหตุแห่งการสร้างพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ ศรีรัตนโกสินทร์, นครธรรม
และ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” (Willpower Institute) ขึ้นที่วัดธรรมมงคล
เพื่อให้เป็นสถานการศึกษาสมาธิที่ทันสมัยในยุคปัจจุบันของหลวงพ่อวิริยังค์
๑ ในศิษย์รุ่นสุดท้ายของ “พระอาจารย์มั่น” ที่ยังดำรงขันธ์อยู่เวลานี้
--------------------------------------------
:: ที่มา :: 