ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
พระขี่ม้าบิณฑบาต http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=36226 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระขี่ม้าบิณฑบาต |
ภาพจาก http://www.thaitripdd.com/webboard/inde ... opic=141.0 สำนักปฏิบัติธรรม ถ้ำป่าอาชาทอง ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่มาของการขี่ม้าบิณฑบาต จากเดิมที่พระครูบาเหนือชัยเดินขึ้นลงเขาเพื่อรับบาตรจากญาติโยม ได้ฉันบ้าง ไม่ได้ฉันบ้าง ด้วยหนทางที่ห่าง ไกลกว่าท่านจะเดินถึงวัดก็เลยเวลาฉันเพล ชาวบ้านจึงสงสารนำม้ามาถวายเพื่อให้ท่านใช้เป็น พาหนะในการเดิน ทาง ซึ่งม้าดังกล่าวเป็นม้าที่มีลักษณะดี ร่างกายกำยำ พระครูบาจึงตั้งชื่อให้ว่า 'ม้าอาชาทอง' และใช้ชื่อดังกล่าว เป็นชื่อวัดด้วย จึงเป็นที่มาของ "วัดป่าอาชาทอง" และพระขี่มาบิณฑบาต ซึ่งสร้างความแปลกใจจนกลายเป็น หนึ่งใน 'unseen Thailand'เมื่อท่านมีม้าเป็นพาหนะจึงทำให้การบิณฑบาตและเดินทางเผยแผ่ธรรมะ ได้รับความ สะดวกมากขึ้น แม้พระครูบาจะต้องขี่ม้าเป็นระยะทางไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตรเพื่อรับบาตรจากสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา บางครั้งอาหารที่ได้มาตกหล่นไปกว่าครึ่ง เพราะเวลาม้าควบตะบึงไปตามทาง มันคดโค้ง ขรุขระ ของก็กระเด้ง กระดอนหล่นหมด พระครูบาท่านทนร้อนทนหนาวข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่า เพื่อนำอาหารที่เหลือจากฉันไปแจกจ่าย ให้ชาวเขาเพราะพวกนี้ยากจนมาก ท่านก็เผยแผ่ธรรมะไปด้วย ท่านก็ไม่เคยบ่นไม่เคยท้อนะ ท่านอยากให้ชาวบ้าน มีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมสุทธิพงศ์ ชุติมากุลทวี ผู้ประสานงานของวัดป่าอาชาทอง หนึ่งในลูกศิษย์ที่ติด ตามรับใช้พระครูบาเหนือชัยมาตลอด เล่าถึงภารกิจของพระครูบา เนื่องจากชาวเขาส่วนใหญ่นับถือผีและเป็นคริสต์ศาสนิกชนตามคำแนะของฝรั่งที่เข้าไปช่วยพัฒนาความเป็น อยู่ ชาวบ้านจึงไม่เข้าใจการเผยแผ่ธรรมะของพระครูบาเหนือชัย บางครั้งท่านถูกชาวเขาหลายสิบคนรุมทำร้าย แต่ก็ รอดมาได้ด้วยบุญบารมีและวิชาหมัดมวยที่ท่านร่ำเรียนมา ด้วยปณิธานของท่านที่ต้องการดึงชาวเขาที่หลงผิด ไปค้ายาและรับจ้างขนยาตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่าให้หันมาประกอบสัมมาอาชีพ และเป็นแนวร่วมในการ ดูแล รักษาผืนแผ่นดินไทย พระครูบาจึงเมตตาให้ความช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อนไปพร้อมๆกับการอบรมธรรมะ " ชาวเขาส่วนใหญ่จะรับจ้างขนยา แล้วพวกนี้ก็เสพยาเองด้วย เด็กอายุแค่ 10 ขวบก็ติดยาแล้ว ติดกันทั้งหมู่บ้าน ฝิ่น เฮโรอีน ยาบ้า มีหมด ครูบาท่านมองว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ท่านก็พยายามเอาชาวเขามาเรียน หนังสือ มาฝึกอาชีพ สอนมวยไทยให้เด็กๆ พอโตหน่อยพวกนี้ก็ไปรับจ้างแสดงในเมือง มีรายได้ขึ้นมา ใครมาวัด ก็ให้ข้าวของติดมือกลับไป แล้วก็สอนธรรมะไปด้วย สอนว่ายาเสพติดมันไม่ดี หลังๆชาวบ้านก็เลิกเสพเลิกค้าไป เยอะจนขุนส่าเริ่มไม่พอใจ ก็มาดูตัว มาคุยกับพระครูบา แต่สุดท้ายราชายาเสพติดอย่างขุนส่าก็ยอมรับในตัวครูบา และขอให้ท่านไปอยู่ที่เมืองยอน ซึ่งเป็นเมืองของพวกว้าแดง เขาจะสร้างวัดให้ แต่ครูบาท่านไม่ไป ท่านบอกท่านเป็นคนไทยจะอยู่และตายบนผืนแผ่นดินไทย" สุทธิพงศ์ เล่าถึงช่วงวิกฤตที่ครูบาเหนือชัยรับมือกับขุนส่า พระครูบาเหนือชัยพยายามดึงชาวบ้านเข้ามาร่วมในกิจกรรมของวัด โน้มน้าวให้ชาวเขาส่งลูกๆ มาบวชเรียนมีการ มีการสอนหนังสือให้แก่ชาวเขาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยท่านเป็นผู้เลี้ยงดูอาหารการกินทั้งหมด ชาวบ้านที่มาเรียน หนังสือ มาฟังธรรมะ หรือช่วยงานวัด นอกจากจะได้รับความรู้และข้อคิดคุณธรรมต่างๆ แล้ว ยังได้ข้าวปลาอาหาร รวมถึงข้าวของเครื่องใช้กลับไปบ้านด้วย ข้าวของที่ญาติโยมถวายมานั้นพระครูจะแจกจ่ายให้เกือบหมด เหลือไว้ ให้พระเณรที่วัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากหมู่บ้านใดอยู่ไกล ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาที่วัดท่านและลูกวัดก็จะ ขี่ม้าข้ามเขานำข้าวของไปให้ ด้วยคุณธรรมของท่านทำให้ผู้มีจิตศรัทธานำข้าวของและม้ามาถวายให้ท่านเป็นจำนวนมาก ด้วยต้องการสนับ สนุนการเผยแผ่ธรรมะของท่าน จากสถานปฏิบัติธรรมเล็กๆ ปัจจุบันวัดป่าอาชาทองจึงมีวัดสาขาถึง 10 วัด มีม้าถึง 100 กว่าตัว มีโค-กระบือ 10 ตัว มีคนงานชาวเขาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ถึง 60 คน ซึ่งม้าดังกล่าวนั้นครูบาอนุญาตให้ ชาวเขา ข้าราชการครูและตำรวจ-ทหารในพื้นที่หยิบยืมไปใช้ได้ หลังจากที่ข่าวเรื่องพระขี่ม้าบิณฑบาตได้รับการกล่าวขานออกไปแบบปากต่อปากจนเป็นที่สนใจ ของนัก ท่องเที่ยทั่ว ไป การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงมาขอให้พระครูบาเหนือชัยนำวัดป่าอาชาทองเข้าร่วมในโครงการ 'unseen Thailand' เพื่อช่วยโปรโมตการท่องเที่ยวของเชียงราย ซึ่งครูบาเหนือชัยใช้เวลาคิดใคร่ครวญอยู่นานถึง 3 ปี จึงตัดสิน ใจตกลงเข้าร่วมโครงการเมื่อปี 2547 เนื่องจากพระครูบารู้ดีว่า เมื่อการท่องเที่ยวย่างกรายเข้ามา วิถีชีวิตอันเงียบสงบ ของชาวเขาย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ทุกๆ เช้า ท่านครูบาเหนือชัย ท่านจะออกมารับ บิณฑบาตรตั้งแตเวลาประมาณ 07.00 - 07.30 น. (หรือวันไหนมีคนมาใส่บาตรเยอะ ก็ถึง 8 โมงเช้า) |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระขี่ม้าบินฑบาต |
ภาพจาก http://www.thaitripdd.com/webboard/inde ... opic=141.0 ประวัติพระขี่ม้าบิณฑบาตร "อาชาทอง'ม้าหนุ่มร่างกำยำ ควบตะบึงพา'พระครูบา'ข้ามเขาลูกแล้วลูกเล่าเพื่อรับบาตรจากญาติโยมผู้มีจิต ีจิตศรัทธา แลเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธองค์ อาหารที่เหลือจากการบิณฑบาตถูกแจกจ่ายให้ชาวเขาผู้ยากไร้ กว่า 13 ปีแล้วที่ 'พระครูบาเหนือชัย'พากเพียร ให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมแก่ชาวเขาเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ตาม แนวตะเข็บชายแดน จ.เชียงราย เพื่อเปลี่ยนพวกเขาจากกลุ่มผู้ลักลอบขนยามาเป็นชาวไร่ผู้หวงแหนและร่วมพิทักษ์ ์ผืนแผ่นดินไทยพระครูบาเหนือชัยโฆสิโต' เจ้าอาวาส 'วัดป่าอาชาทอง' อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้เปลี่ยนฐานะจาก "นายเสมอชัย ใจบินตา " หนุ่มวัย 29 ปีที่ชอบวิชาหมัดมวยมาบวชเป็นภิกษุเพื่อศึกษาธรรมะ ท่านตัดใจจากภรรยา และลูกน้อยชาย-หญิงทั้ง 2 คน หลังจากมีครอบครัวได้เพียง 8 ปี ด้วยเห็นทุกข์ของชีวิตทางโลก จะบวชเพียง 7 วัน แต่นับจากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 13 ปีแล้วที่ท่านมุ่งศึกษาและเผยแผ่ธรรมะแก่บรรดาชาวเขาตามแนวตะเข็บ ชายแดนหลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ได้เพียง 1 วัน ท่านก็ออกธุดงค์เพื่อแสวงหาความสงบ โดยยึดโอวาทจากพระ อุปัชฌาย์ว่า 'บวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง' ท่านเดินทางมาจนถึง'ดอยผาม้า'และเห็นว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสมจึง ยึดเป็นที่ปฏิบัติธรรม พระครูบานั่งสมาธิ พิจารณาขันธ์ 5 ด้วยใจมุ่งมั่นที่จะบรรลุธรรม ครั้งหนึ่งท่านนอนหลับและว่า 'หลวงปู่สด' วัดปากน้ำภาษีเจริญ มาสอนวิชาธรรมกาย ให้ท่านทำใจใสๆ กำหนดองค์พระอยู่ศูนย์กลางกายท่านไม่ มั่นใจว่าฝันนั้นเป็นจริงหรือไม่ จึงอธิษฐานจิตว่าหากหลวงปู่สดมาพบในฝันจริงขอให้มีญาติโยมนำปัจจัยมาถวาย 1,000 บาท พอรุ่งเช้าก็มีนักข่าวของสถานีวิทยุท้องถิ่นนำปัจจัยมาถวายตามคำอธิษฐาน และขอสมัครเป็นศิษย์ ท่านจึงให้ญาติโยมดังกล่าวพาท่านไปยังวัดปากน้ำ และนำเงิน 1,000 บาทที่ได้ทำบุญกับทางวัด จึงนำคำสอนของ หวงปู่สดมาใช้ในการนั่งสมาธิเรื่อยมา ครั้งหนึ่งท่านนั่งสมาธิบนโขดหินโดยอธิษฐานว่า " จะขอนั่งอยู่ตรงนี้จนกว่าจะบรรลุธรรม แม้ตายก็จะไม่ลุก จากที่นี่ " ท่านนั่งนิ่งอยู่ 15 วัน จนผึ้งมาเกาะทำรังตามเนื้อตัว ท่านรู้สึกเจ็บจึงพยายามแยกความรู้สึกของกายออก จากจิต แม้กายจะเจ็บ แต่จิตนิ่งใสสว่าง ความเจ็บก็ทุเลาลง ท่านนั่งจนหมดสติไป และในฝันท่านเห็น 'หลวงปู่เกษม' ซึ่งศึกษาฌานสมาบัติอยู่ ณ สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง มาบอกว่า นี่คือการเข้านิโรธสมาบัติ แยกจิตกับกายและ ให้มั่นเพียรนั่งสมาธิ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา อันเป็นหนทางแห่งการบรรลุธรรม เมื่อท่านยังเห็นพระซึ่งเป็นครูบาอาจารย์มากมายมารายล้อมและบอกกับท่านว่า "นับแต่นี้จะมีผู้คนมากมายมา สนับสนุนการเผยแผ่ธรรมมะของท่าน" และก็เป็นจริงเช่นนั้น เพราะหลังจากท่านฟื้นขึ้นก็พบว่า มีชาวบ้านเดินทางมา กราบไหว้และถวายอาหาร เนื่องจากในช่วงที่พระครูบาเหนือชัยนั่งหลับตาและมีผึ้งมาเกาะนั้น มีชาวบ้านมาพบเข้า และเกิดจิตศรัทธาจึงไปชักชวนชาวบ้านคนอื่นๆมากราบไหว้ พร้อมทั้งช่วยกันสร้างที่พักให้ จนกลายเป็น 'วัดป่าอาชาทอง' จนถึงปัจจุบัน ขอขอบคุณเรื่อง http://www.paiduaykan.com/76_province/n ... keema.html |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:35 ] | ||||
หัวข้อกระทู้: | Re: พระขี่ม้าบินฑบาต | ||||
![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:41 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: พระขี่ม้าบินฑบาต | ||
![]() ![]()
|
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระขี่ม้าบินฑบาต |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 ม.ค. 2011, 12:45 ] | ||||
หัวข้อกระทู้: | Re: พระขี่ม้าบินฑบาต | ||||
![]() ![]() http://www.youtube.com/watch?v=pNfFJaJRSn8&feature=fvw
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |