ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเกร็ด
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=33675
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  บัวลอยไข่เค็ม [ 07 ส.ค. 2010, 17:42 ]
หัวข้อกระทู้:  ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเกร็ด

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ได้ไปฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ที่หมู่บ้านลานทอง
ท่านได้แสดงธรรมะเรื่อง ให้เมตตาตัวเอง การพัฒนาตนเอง และความโกรธ

ให้เราสังเกตดูจิตใจ ความคิดของตนเอง
จะเห็นว่าจิตใจของเราคิดแต่เรื่องของคนอื่นเสียเป็นส่วนใหญ่
ว่าเขาดี เขาไม่ดี น่ารัก น่าชัง
คิดเรื่องคนอื่นมากกว่า 90%
คิดเรื่องของตนเองน้อยกว่า 10%
อยากจะให้คนอื่นละความชั่วที่ไม่ถูกใจเรา
อยากจะให้คนอื่นทำความดีเพื่อให้ถูกใจเรา
อยากจะให้คนอื่นทำจิตใจให้บริสุทธิ์เพื่อจะไม่กระทบเรา
แต่จิตของเรากลับปล่อยให้ขุ่นมัว เศร้าหมอง เครียด ฟุ้งซ่าน
สนใจเอาใจใส่ดูตนเองเพิ่มขึ้น มากขึ้น จนดูตนเอง 90% ดูคนอื่น 10%
เราดูคนอื่นเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาตัวเอง
เห็นตัวเองในคนอื่น และเห็นคนอื่นในตัวเอง
เพราะไม่มากก็น้อย เราก็เหมือนๆ กันกับคนอื่น
เป็นการเจริญสติ สัมปชัญญะ ทำให้มีเมตตากรุณา

ตำหนิ ติเตียนคนอื่น ดูหมิ่น ดูถูกคนอื่น น้อยลง
ตำหนิ ติเตียนตนด้วยสติปัญญา แก้ไขพัฒนาตนเองมากขึ้น

ความคิดที่จะปรับปรุงแก้ไขตนเองนี้ เป็นกุศลกรรม
เมื่อสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีข้อที่คิดว่าน่าจะแก้ไข
ให้ตั้งใจทุกวัน พยายามแก้ไขอยู่อย่างนั้น ผิดพลาดไปเป็นร้อยเป็นพันครั้งก็ช่างมัน
พยายามคิดตั้งใจจะแก้ไขอยู่อย่างนั้นก็ใช้ได้

ไฟล์แนป:
100_7857 (Medium).JPG
100_7857 (Medium).JPG [ 56.83 KiB | เปิดดู 3564 ครั้ง ]

เจ้าของ:  บัวลอยไข่เค็ม [ 07 ส.ค. 2010, 17:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเ

ความโกรธ

ความโกรธเกิดขึ้นในกรณีต่าง ๆ ดังนี้
เขาพูดจริงโดยหวังดีต่อเรา แต่ไม่ถูกใจเรา = เราโกรธ
เขาพูดธรรมดา แต่ไม่ถูกใจเรา = เราโกรธ
เขาไม่พูด ไม่ถูกใจเรา = เราโกรธ
เราคิดว่าเขานินทาเรา (ที่จริงเขาไม่ได้นินทาเรา) = เราโกรธ
เขาว่าเรานินทาเขา (ที่จริงเราไม่ได้นินทาเขา) = เราโกรธ
เราเข้าใจผิดว่าเขาทำผิด (ทั้งๆ ที่เขาทำดี) = เราโกรธ
เขาเข้าใจผิดว่าเราทำผิด (ทั้งๆ ที่เราทำดี) = เราโกรธ
เขาหน้าบึ้ง ใจไม่ดี เรารู้สึกว่าเขาไม่พอใจเรา = เราโกรธ

เหตุปัจจัยทางกาย ที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ก็มี อารมณ์โทสะครอบงำจิตใจของเรา
เรารู้สึกหงุดหงิด ก็มี อย่างไรก็ตามเมื่อเรารู้สึกหงุดหงิด เราจะรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง
ใครจะอยู่รอบตัวเรา น่าโกรธทั้งนั้น เราจะรู้สึกว่า เขาคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ดี
น่าโกรธ สมควรโกรธ

ครูบาอาจารย์สอนไว้ว่า...
เหตุที่สมควรโกรธนั้นไม่มี อย่าเชื่อความรู้สึก อย่าเชื่อความคิด เพราะมันไม่แน่

ความโกรธเปรียบเหมือนอาหารที่ไม่อร่อย
หากมีใครนำมาให้เราแล้วเราไม่รับ ผู้ที่นำมาให้ก็จะต้องรับกลับไปเอง
ความโกรธก็เช่นเดียวกัน เมื่อเขาโกรธเรา แล้วเราเฉยๆ ก็เท่ากับเขาโกรธตัวเอง
หากเราโกรธตอบ ก็เหมือนกินอาหารไม่อร่อยนั้นด้วยกัน

เมื่อเกิดอารมณ์โกรธ โมโห การหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ
จนมีสติสัมปชัญญะ มีความรู้สึกตัวทั่วถึงลมหายใจแล้ว
อารมณ์โกรธก็ตั้งอยู่ไม่ได้
จึงเปรียบเหมือนการที่เราไม่กินอาหารไม่อร่อยที่เขาปรุงมาให้
เขาก็ต้องยกอาหารนั้นกลับคืนไป :b41:

ไฟล์แนป:
100_7856 (Medium).JPG
100_7856 (Medium).JPG [ 60.88 KiB | เปิดดู 3562 ครั้ง ]

เจ้าของ:  บัวลอยไข่เค็ม [ 07 ส.ค. 2010, 18:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเ

ท่านได้ยกเรื่ององคุลีมาล ที่ทำชั่วไปเพราะหลงผิด และได้ฟังคำเทศนาของพระพุทธเจ้า จนสำเร็จบรรลุพระอรหันต์ และยกเรื่องพระโมคคัลลานะ มาแสดงให้เราได้คิด วิเคราะห์

ว่าอย่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่น ภาวนามาก ๆ ดูตัวเองมาก ๆ

กลับเสียใหม่นะ ดูคนอื่นเหลือไว้ 10%
ดูเพื่อศึกษาว่า เมื่อเขาทำอย่างนั้น คนอื่นจะรู้สึกอย่างไร เพื่อเอามาสอนตัวเองนั่นแหละ ดูตัวเอง พิจารณาตัวเอง 90% จึงเรียกว่าปฏิบัติธรรมอยู่

ธรรมชาติของจิตใจมันเข้าข้างตัวเอง
โบราณพูดว่า เรามักจะเห็น ความผิดของคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดของตนเองเท่ารูเข็ม
มันเป็นความจริงอย่างนั้นด้วย เราจึงต้องระวังความรู้สึกนึกคิดของตัวเองให้มาก ๆ

เห็นความผิดของคนอื่น ให้หารด้วย 10
เห็นความผิดตัวเอง ให้คูณด้วย 10
จึงจะใกล้เคียงกับความจริงและยุติธรรม
เพราะเหตุนี้เราจะต้องพยายามมองแง่ดีของคนอื่นมาก ๆ
และตำหนิติเตียนตัวเองมาก ๆ
แต่ถึงอย่างไร ๆ เราก็ยังเข้าข้างตัวเองนั่นแหละ

พยายามอย่าสนใจการกระทำ การปฏิบัติของคนอื่น
ดูตัวเอง สนใจแก้ไขตัวเองนั่นแหละมาก ๆ

เห็นอะไร คิดอะไร รู้สึกอย่างไร ก็สักแต่ว่า ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน
ความเห็น ความคิด ความรู้สึกก็ไม่แน่ ..... ไม่แน่ อาจจะถูกก็ได้ อาจจะผิดก็ได้
เราอาจจะเปลี่ยนความเห็นก็ได้
สักแต่ว่า.....สักแต่ว่า....ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ยังไม่ต้องพูด

ดูใจเราก่อน สอนใจเราก่อน หัดปล่อยวางก่อน
เมื่อจิตสงบแล้ว เมื่อจิตปกติแล้ว จึงค่อยพูด จึงค่อยออกความเห็น
พูดด้วยเหตุ ด้วยผล ประกอบด้วยจิตเมตตากรุณา
ขณะมีอารมณ์อย่าเพิ่งพูด
ทำให้เสียความรู้สึกของผู้อื่น ทำให้เสียความรู้สึกของตัวเอง
ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร มักจะเสียประโยชน์ซ้ำไป

เพราะฉะนั้น อยู่ที่ไหน อยู่ที่วัด อยู่ที่บ้าน ก็สงบ ๆ ๆ ไม่ต้องดูคนอื่นว่าเขาทำผิด ๆ ๆ
ดูแต่ตัวเรา ระวังความรู้สึก ระวังอารมณ์ของเราเองให้มาก ๆ
พยายามแก้ไข พัฒนาตัวเรา ..... นั่นแหละ

เห็นอะไรชอบ ไม่ชอบ ปล่อยไว้ก่อน เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา
ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นไปเรื่อย ๆ
หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาเป็นเรื่องของเราหมด
มีแต่ยินดี ยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ ทั้งวัน
อารมณ์มาก จิตไม่ปกติ ไม่สบาย ทั้งวัน ๆ ก็หมดแรง

ตื่นมาตอนเช้า ก็ให้พยายามตามดูจิตของเรา ! รักษาจิตของเราให้เป็นปกติให้มาก
ใครจะเป็นอะไร ใครจะทำอะไร ดีหรือไม่ดี เรื่องของเขา
แม้เขาจะทำกับเรา ว่าเรา..... ก็เรื่องของเขา
อย่าเอามาเป็นอารมณ์ อย่าเอามาเป็นเรื่องของเรา

ดูใจเรานั่นแหละ พัฒนาตัวเองนั่นแหละ
ทำใจเราให้ปกติ สบาย ๆ มาก ๆ
หัด - ฝึก ปล่อยวาง นั่นเอง
ไม่มีอะไรหรอก
ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการตามรักษาจิตของเรา
คิดดี พูดดี ทำดี มีความสุข

ไฟล์แนป:
100_7867 (Medium).JPG
100_7867 (Medium).JPG [ 94.45 KiB | เปิดดู 3553 ครั้ง ]

เจ้าของ:  บัวลอยไข่นกกระทา [ 07 ส.ค. 2010, 19:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเกร็ด

อนุโมทนาด้วยนะคะ สองพี่น้อง ไข่หวานและไข่เค็มจ๊ะ

เจ้าของ:  กุหลาบสีชา [ 08 ส.ค. 2010, 13:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ฟังธรรมเทศนาพระอาจารย์มิตซูโอะ ที่หมู่บ้านลานทอง ปากเกร็ด

:b8: ขออนุโมทนาสาธุการกับ "ตระกูลไข่" ทุกท่านด้วยค่ะ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/