ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=29&t=33555 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Natural-Dhamma [ 31 ก.ค. 2010, 19:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
สวัสดีครับ ผมมีความสนใจในธรรมมะมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วครับ จึงได้อ่านธรรมมะหลากหลายที่มา แต่ไม่เคยได้ปฏิบัติจริงๆ ส่วนตัวผมเข้าใจดีว่ากรรมมีจริง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าชาติอดีตชาติหน้ามีจริงอย่างไร จากที่ได้ศึกษามารู้สึกได้ถึงเหตุผลที่สอดรับกันเป็นอย่างดีว่าภพอดีต ภพหน้านั้นมีจริงแต่กระผมต้องการจะพิสูจน์ด้วยตัวเอง นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลหลายๆข้อที่ผมเลือกที่จะปฏิบัติสมาธิครับ ต้องเรียนก่อนอย่างนี้นะครับกระผมมีความปรารถนาในทางโลกอยู่ มิได้ต้องการจะเข้าทางธรรมโดยส่วนเดียวเพียงแต่ต้องการบริหารทั้ง 2 รูปแบบ ให้ได้อย่างลงตัว ประวัติส่วนตัวโดยตรงที่เป็นผลให้ต้องการทราบว่า ภพ อดีต ภพ หน้า นั้นมีจริงหรือไม่ก็คือ ตัวกระผมเป็นโรคเรื้อรังชนิดหนึ่งซึ่งทำให้รู้สึก ไม่สบายใจมาก หากว่าผมสามารถรู้ได้ด้วยตัวเองว่าภพหน้ามีจริง ด้วยสัมผัสของตังเองมิใช่จากตำรา หรือสื่อทางอ้อมใดๆ เชื่อว่าจะทำให้มีความมุ่งหมายอย่างแรงกล้าที่จะสร้างชีวิต ให้เป็นอย่างที่ฝันไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ทราบดีว่าต้องอยู่ในธรรม เหตุผลอีกข้อที่ต้องการปฏิบัติสมาธินั้น เพราะต้องการปัญญา เนื่องด้วย ทราบว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ต่างสนับสนุนกันและกัน วิธีที่ผมตั้งใจจะปฏิบัตินั้นคือ นั่นสมาธิจนระลึกชาติ ได้ (มิทราบ ว่า นานเพียงไร ) ขออนุญาตถามนะครับ 1.การพิสูจน์ว่าชาติ ภพ อดีต และอนาคตนั้นว่า มีจริงหรือไม่ มีวิธีใดบ้างครับ แล้ววิธีที่กระผมทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ครับ 2.ทราบมาว่าการทำสมาธิควรมีพี่เลี้ยงแต่ผมไม่มีใครครับ เนื่องจากอยู่ในวัยเรียนไม่สะดวก ไปสถานปฏิบัติธรรมครับ จึงอยากทราบว่าหากการปฏิบัติคนเดียวนั้นมีภัย ภัยนั้นจะเป็นในรูปแบบไหนครับ และจะป้องกันได้อย่างไรบ้างครับ สุดท้ายนี้ ขอกล่าวจากใจจริง "ยินดีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ยินดีที่ได้พบ Web site ดี ดี เช่นนี้ " หากสิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นนั้นไม่เหมาะสมแต่ประการใด ต้องขออภัยด้วยนะครับ และขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบพระคุณครับ |
เจ้าของ: | sindyann [ 31 ก.ค. 2010, 19:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
สวัสดีค่ะ เราเพิ่งเริ่มศึกษาเมื่อต้นปีนี้เองค่ะ เนื่องจากเพื่อนเราสอน แล้วบวกกับ เราก็ชอบที่จะฟังธรรมะมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ว่าไม่ค่อยสนใจ พอเพื่อนได้มาสอนอย่างลึกซึ้ง จืงหาหนังสือมาอ่าน ในบ้านมีหนังสืออะไรเกี่ยวกับธรรมะอ่านหมดเลย เริ่มต้นเล่มเเรกเลยคือ หนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัล พออ่านแล้วรู้สึกเอิบอิ่มในธรรม เข้าถึง ใจอิ่มเอิบมาก จากนั้นมาพออ่านมาเรื่อย ๆ ก็พบว่า การศึกษาธรรมะต้องบวกกับการปฏิบัติ จึงเริ่มนั่งสมาธิมาเรื่อยมาทุกวัน น้อมธรรมเข้ามาสู่ใจ แม้ในชึวิตประจำวัน เจออะไร ก็นึกถึงแต่ธรรมะ แล้วนำมาคิด คิดเป็นเรื่องธรรมะหมดเลย รู้สึกว่าตัวเราโชคดี ที่มีกัลยานมิตรที่ดีที่มาแนะนำให้เรา แล้วโชคดีที่ได้เกิดมาพบพระพุุทธศาสนาแล้วมีใจสาบซึ้งในธรรมมาก ๆ เลยค่ะ ขอให้เจริญในธรรมนะคะ ส่วนเรื่องสมาธิเราก็ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไร แต่เท่าที่รู้สมาธิเป็นสิ่งดีไม่มีอันตรายอันใดเลยค่ะ เจริญในธรรมค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 01 ส.ค. 2010, 12:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
![]() ![]() ![]() ![]() สู่ ลานธรรมจักร ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยจ้า |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 01 ส.ค. 2010, 18:18 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ | ||
![]() ![]() ![]() ยินดีต้อนรับน้องใหม่ คุณ Natural-Dhamma และคุณ sindyann สู่ ลานธรรมจักร ณ แห่งนี้มีธรรมะ และกัลยาณมิตร ด้วยครับ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | Natural-Dhamma [ 01 ส.ค. 2010, 18:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
คุณ sindyann มีเพื่อนที่น่านับถือนะครับ ขอบคุณสำหรับการต้องรับ ครับ เจริญในธรรม ครับ |
เจ้าของ: | ชาติสยาม [ 01 ส.ค. 2010, 18:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
ลองไปฝึกที่วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 ดูสิครับ ที่นั่นเขาสอนสมาธิถึงขั้นฝึกครุสมาธิกันเลยทีเดียวนะ ส่วนเรื่องระลึกชาติ ลองหาโอกาสถามครุบาอาจารย์ดูครับ |
เจ้าของ: | โปรยปราย [ 01 ส.ค. 2010, 20:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
สาธุนะค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เราเองก็อยู่ในวัยเรียนเหือนกันค่ะ ตอนนี้ก็พยายามปรับเปรี่ยน ทางโลกกับทางธรรมอยู่ค่ะ ดีใจมากที่ได้เกิดอยู่ในศาสนาพุทธ |
เจ้าของ: | ณรงค์1962 [ 01 ส.ค. 2010, 22:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
ยินดีมากครับที่สามารถนั่งสมาธิจนระลึกชาติได้ ผมเองก็ปฏิบัติมานาน ยังไม่เห็นผลอะไรเลย นอกจากทำให้ใจสงบได้พอสมควร อย่างไรก็ตาม ส่วนตัว ผมก็ยังปฏิบัติอยู่ ครูบาอาจารย์ของผมบอกว่า นั่งสมาธิอย่าอยาก ยิ่งอยากก็ยิ่งยาก อย่ากำหนดอะไรตายตัว เช่น เวลา อย่าไปกำหนด นั่งเท่านั้น เท่านี้จึงจะลุก จงเชื่อในสิ่งที่อาจารย์สอน แต่เอาอย่างที่อาจารย์ทำ(หมายความว่า อย่าจำมาทั้งดุ้น ทั้งนิสัย ใจคอ ท่าทาง)การนั่งสมาธิ ให้ตั้งสติ ให้อยู่กับลมหายใจเข้าออก อยู่ในอริยาบทไหนได้ทั้งนั้น ยืน นั่ง นอน เดิน ลืมตา หลับตา การกำหนดบทบริกรรม ก็ใช้ถูกกับจริต เคยพุท โธ ก็พุทโธ ถ้ามีโอกาสไปต่างสำนักปฏิบัติ ที่ใช้บทบริกรรมต่างไปจากเรา เราก็ต้องไม่ไปเอาตามเขา เราเคยยังงัย ก็ทำเหมือนเคยทำ นี่ ครูบาอาจารย์ผม สอนผมมาอย่างนี้ เกี่ยวกับภพภูมิ ผมก็เชื่อว่ามีจริง การพิสูจน์ง่ายก็ง่ายๆ คุณรู้ความหมายของคำว่า"ถูกโฉลก"หรือถูกชะตามั๊ย คนเราเมื่อเจอหน้ากันครั้งแรก ความรู้สึกจะบอกเราได้ว่า เรารู้สึกถูกชะตา หรือ หมั่นไส้ คนที่เรามองเห็นอยู่ในขณะนี้ นี่ก็คือผลพวงจากอดีตชาติ อีกอย่างก็คือ สถานที่ ที่เราเพิ่งเคยไปครั้งแรก แต่เรามีความรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นมาก่อน ผมเคยมีความรู้สึกแบบนั้น นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ภพภูมิ โลกนี้ โลกหน้ามีจริง อีกข้อที่คุณถาม การนั่งสมาธิ จริงๆแล้วต้องมีคนคอยควบคุม ไม่ควรนั่งคนเดียว เหตุก็เพราะว่า เคยมีผู้หลงในจิต คือสิ่งที่เราเห็นในสมาธิ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า สิ่งที่เห็นนั้น เห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นนั้น มันไม่จริง พอเราหลงไปกับมัน อาจทำให้เราเพี้อนได้ บางคนคิดไปว่าตัวเองเหาะได้ โดดหน้าผาตายมาก็มากแล้ว อย่าไปหลงสิ่งที่เห็นในสมาธิ ท่านว่าอย่างนี้ ส่วนตัวผมก็อย่างที่บอกในตอนต้นๆว่า ผลการปฏิบัติยังทำไม่ได้เหมือนที่รู้มา หรือเหมือนนักปฏิบัติท่านอื่นประสพมาเลย ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความเพียร ก็ต้องเพียรกันต่อไปล่ะครับ |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 01 ส.ค. 2010, 23:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
ทาน ศิล ภาวนา ควรปฏิบัติ เพื่อฝึกอบรม ขัดเกลากิเลสออกไปจากใจ จะได้หลุดพ้น ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด ในสังสารวัฎฎนี้อีก ส่วนที่ปฏิบัติกันจน ระลึกชาติได้บ้าง อ่านใจคนได้บ้าง หรือหูทิพย์ ตาทิพย์บ้าง เป็นเพียงผล พลอยได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ กับเหตุและปัจจัยที่เราเคยสร้างสม มาทั้งในอดีตและปัจจุบัน มิใช่จุดหลักในการปฏิบัติธรรม "ความอยาก" เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการปฏิบัติ มิให้ก้าวหน้า ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ อนุโมทนาค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | จันทร์ ณ ฟ้า [ 05 ส.ค. 2010, 13:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
อ้างคำพูด: เหตุผลอีกข้อที่ต้องการปฏิบัติสมาธินั้น เพราะต้องการปัญญา หากจุดหมายปลายทางของจขกท.ต้องการปัญญาทางโลกุตระ ขอฝากเรื่องวิปัสสนูปกิเลสไว้ด้วยค่ะ ผู้รู้กล่าวว่าวิปัสสนูปกิเลสอาจกลายเป็นกับดักอันละเอียดประณีตล่อให้เราติดกับ ไปไหนต่อไม่ได้ การปฏิบัติธรรมไม่พัฒนา มีโอกาสหลงทางได้ เพราะอาจดีใจหลงใหล จนไม่เป็นอันปฏิบัติต่อ หากไม่ได้ครูบาอาจารย์คอยแก้ไข ชี้ทางที่ถูกต้องให้ วิปัสสนาจะเศร้าหมอง โลกุตรญาณหรือปัญญาเห็นแจ้งทางธรรมจะไม่เกิด ไม่ต่างจากคนที่หลงในกามสุขทางโลก สิ่งที่ทำให้วิปัสสนาเศร้าหมองมีดังนี้ แสงสว่าง เมื่อปฏิบัติไปสักระยะหนึ่ง แสงสว่าง(โอภาส)มักจะเกิดขึ้น ทำให้รู้สึกเหมือนมีรัศมีออกมาจากตัว เราอาจรู้สึกตื่นเต้น เกิดอัตตาที่เห็นว่าเราไม่ธรรมดาได้ ผู้ปฏิบัติต้องรู้เท่าทัน ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นกับแสงสว่างนั้น เพราะปัญญาเห็นแจ้งจะไม่เกิด โลกียอภิญญา บางคนปฏิบัติไปแล้วอาจเห็นเทวดา สวรรค์ นรก ป่าหิมพานต์ฯลฯ สามารถไปเห็นนั่น ได้ยินนี่ รู้ใจคนอื่น จึงอาจเกิดความคิดว่าตัวเองเก่ง แล้วก็ตกเป็นทาส ถูกกิเลสครอบงำโดยไม่รู้ตัว แม้จะเป็นปัญญาระดับสูง แต่หากเราไปรู้เห็นแล้วหลง เล่นไม่เลิก จะไปไม่ถึงไหน ปีติ เมื่อถึงขั้นหนึ่งผู้ปฏิบัติจะต้องพบกับปีติ ซึ่งอาการไม่เหมือนกันในผู้ปฏิบัติแต่ละคน เช่น ตัวลอย ขนลุกซาบซ่านฯลฯ ส่วนมากผู้ปฏิบัติมักเกิดความพอใจและติดใจในปีติเหล่านี้ ปัสสัทธิ (ความสงบ) เมื่อปฏิบัติจนจิตสงบ กายสงบแล้วจะรู้สึกดีมาก จนยึดติดกับความสงบ ปฏิบัติทีไรจึงติดอยู่ที่ความสงบนี้ทุกครั้ง ในที่สุดจึงไปไม่ถึงไหน นั่งเกาะติดยินดีอยู่กับความสงบนี้ตัวเดียว ความสุข ตัวนี้แก้ยาก เพราะสุขที่เกิดจากการปฏิบัตินั้น เป็นความสุขที่ละเอียดประณีต ไม่อยากปล่อยไป ไม่อยากไปไหน อยากอยู่กับความสุขเท่านั้น ศรัทธา วิริยะ สติ เมื่อปฏิบัติไปถึงขั้นหนึ่งจะเกิดศรัทธาขึ้นอย่างแก่กล้า ทำให้เกิดแรงฮึด วิริยะเกิด ต้องการลุกขึ้นปฏิบัติธรรมโดยไม่คำนึงถึงกาลเวลา ไม่นอน ข้าวไม่กิน น้ำไม่อาบ สติจะตื่นตัวต้องการปฏิบัติอย่างเดียว ในที่สุดร่างกายก็ทนไม่ไหว อุเบกขา ในที่นี้หมายถึง วางเฉยมากจนเกินไป รู้เห็นอะไรมากระทบก็ปล่อยวางหมด ไม่นำสิ่งกระทบไปพิจารณาให้เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โมหะจะเกิดขึ้นในใจ การปฏิบัติจึงไม่ก้าวหน้า |
เจ้าของ: | เอรากอน [ 30 ส.ค. 2010, 00:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สวัสดีครับ ยินดีที่ได้พบกับทุกๆท่านครับ |
อุ้ย....สวัสดีค่ะ... ดีใจจังเลยยยยย... อ่านแล้ว เห็นแต่คนน่ารักกันทั้งนั้นเลยยยย... ![]() ![]() ![]() ชื่อ เอกอน...ค่ะ ทั้งน่ารัก และน่ากระตืบในตัวเดียวกัน... อิ อิ แบบทูโทน...หง่ะ แบบดำ ๆ ด่าง ๆ อิ อิ ![]() ขอให้เจริญในธรรม...นะจ๊ะ นะจ๊ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |