ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=29&t=25898
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  kamigazie [ 29 ก.ย. 2009, 16:27 ]
หัวข้อกระทู้:  มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

พอดีว่าสนใจในเรื่องสมาธิมากๆ เพราะตัวเองเป้นคนสมาธิสั้น ตื่นเต้นง่าย คิดมาก นอนไม่หลับอะไรประมาณนี้

จากอยากมาปรึกษาเพื่อแก้ไขนิสัยพวกนี้ด้วยอ่ะครับ รวมถึงจะถามอะไรหลายๆ อย่างอยู่เหมือน

เริ่มเลยละกันนะครับ
1.ส่วนตัวพยายามปฏิบัติศีล 5 อยู่ให้ได้ดีที่สุด แต่มีอยู่ข้อนึงยากมากๆ คือข้อ 1 ของศีล 5 ครับ ที่บ้านยุงเยอะมากๆ แล้วก็เป็นพวกมีกรรม ยุงชอบกัดผมคนเดียว ซึ่งก็จะตบให้ตายเป็นประจำทุกๆวัน คือก็คิดอยู่เสมอว่าบาป แต่ถ้าไม่ทำอะไรจะกลายเป็นไข้เลือดออกแน่ๆ ก็เลยอยากถามว่าแบบนี้ผิดศีลมั้ยครับ แล้วจะแก้ไขอย่างไรดี

2.เคยได้ยินมาว่าการดูหนังลามก 1 ครั้งจะทำให้ อายุสั้นลง 7 วัน ถ้าขาย ก็จะอายุสั้นลดลง 7 ปี ในส่วนนี้มีความจริงอย่างไรบ้างครับ ตัวผมเองก็ไม่ได้ขายหรือยุ่งเกี่ยวไรกับตรงนี้ แต่เสียอย่างเดียวคือ มักดูอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็ไม่อยากแต่ มันเหมือนติดสิ่งเสพติดฉันนั้น อยากถามว่าการดูพวกนี้เป็นบาปอย่างไร แล้วผมจะต้องทำอย่างไรถึงจะหยุดดูสิ่งเหล่านี้ได้จริงๆ เพราะบังคับใจอยู่นาน แต่ยากมากๆครับ สังคมอินเตอร์เน็ตมันล้วนแต่มีสิ่งเร้าพวกนี้มากมาย แนะนำหน่อยนะครับ

3.จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั้งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ

4.เป็นสมาชิกใหม่สนใจปฏิบัติธรรมมากๆ แต่ก็เพิ่งจะเริ่มโดยการสวดมนต์ทุกวันให้ได้ แต่ยังติดเรื่องการนั้งสมาธินี่ล่ะครับ ควรจะนั้งอย่างไรดี ทั้งลักษณะในการเริ่มปฏิบัติไปจนถึงเวลาในการทำแต่ละวัน ช่วงเวลาใดๆเป็นต้น

5.การใส่บาตรที่กระทำกันทั่วๆไป ถ้าผมไม่สามารถตื่นเช้าใส่ได้ ผมไปทำบุญที่วัดแทนได้มั้ยครับ แบบว่าตื่นเช้าไม่ไหวจริงๆ แล้วถ้าไม่ใส่เลย ใช้การนั้งสมาธิ สวดมนต์ แทน สามารถทดแทนกันได้มั้ยครับ

6.เรื่องการผูกมิตรกับคนรอบข้าง คือเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดจาจึงมีมิตรน้อยมากๆ เพราะจะคิดเสมอว่าถ้าเข้าไปคุยกะเค้า คนๆนั้นจะคิดอย่างไรบ้าง จึงไม่กล้าเข้าไปทักทายเสมอ หรือไม่อยากจะคิดว่าคนๆนั้นเค้าคิดอะไรกับเรา อยากแก้ไขส่วนนี้มากๆ แต่ก็ไร้ที่ปรึกษาจริงๆ ก็อยากจะหาจิตแพทย์ปรึกษาเหมือนกันนะครับ แต่เมืองไทย คนที่พบจิตแพทย์มันดูเหมือนคนบ้าแหะ ขอคำแนะนำอีกเรื่องนะครับ

ถามมามากแล้ว แต่จริงๆก็อยากถามอีกนะครับ แต่ขอแค่นี้ก่อน ขอคำแนะนำด้วยนะครับ + ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

เจ้าของ:  วรานนท์ [ 29 ก.ย. 2009, 17:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

:b8: :b8: :b8:

สวัสดีครับ

ขอให้มีความสุขในลานธรรมจักรแห่งนี้ด้วยครับ


:b8: :b8: :b8:

ไฟล์แนป:
00008_1.jpg
00008_1.jpg [ 18.91 KiB | เปิดดู 4368 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ดอกพุทธ [ 29 ก.ย. 2009, 17:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

ยินดีด้วยค่ะ หากต้องการใฝ่มาในทางธรรมก็ดีที่สุดแล้ว

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 29 ก.ย. 2009, 23:43 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปครับ

กิเลสเครื่องกังวลใดมีอยู่ในกาลก่อน
เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น
ให้เหือดแห้งหายไป
กิเลสเครื่องกังวลใด
จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง
ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ในท่ามกลาง
ก็จักเป็นมุนีผู้สงบระงับแล้วเที่ยวไป....ดังนี้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 30 ก.ย. 2009, 14:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

เช่นนั้น เขียน:
เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปครับ

กิเลสเครื่องกังวลใดมีอยู่ในกาลก่อน
เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น
ให้เหือดแห้งหายไป
กิเลสเครื่องกังวลใด
จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง
ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ในท่ามกลาง
ก็จักเป็นมุนีผู้สงบระงับแล้วเที่ยวไป....ดังนี้



ท่านเช่นนั้น ไม่เอาดังนี้ได้ไหมขอรับ มันจะเป็นอะไรไหมเอ่ย :b32:

เจ้าของ:  ตรงประเด็น [ 01 ต.ค. 2009, 07:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

kamigazie เขียน:


3.จากการที่อ่านกระทู้ที่กล่าวว่าการนั้งสมาธิมีข้อเสีย ซึ่งผมก็อ่านไปถึง หน้า 4 ของกระทู้นั้นได้ ซึ่งบอกตรงๆว่า มันทำให้ผมเกิดความคิดว่าจะนั่งสมาธิดีหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีความต้องการนั้งมากๆเพราะจะได้ทำให้มีสติจำอะไรได้แม่นยำ เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ แต่พออ่านแล้วเกิดความกลัวที่จะเริ่มเลยทันที แต่ก็อ่านแล้วก็มีส่วนนึงกล่าวว่า ผุ้มีปัญญาน่าจะคิดได้ว่าดีหรือไม่ แต่ผมนั้นไร้ซึ่งปัญญาจริงๆ จึงอยากได้คำแนะนำในส่วนนี้มากๆ





ขออนุญาต นำข้อดีของสมาธิภาวนา ที่ได้รับการพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จนนักวิทยาศาสตร์ยอมรับถึงประโยชน์ของสมาธิภาวนา มาลงประกอบกระทู้

ลองอ่าน ข้อมูล เรื่องเหล่านี้ดูน่ะครับ

จาก

http://www.crs.mahidol.ac.th/news/article/part1.pdf

น.พ.บรูช แมคอีแวน จิตแพทย์ของมหาวิทยาลัยเยล ได้ศึกษางานวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับผลกระทบของความเครียดต่อสุขภาพ พบว่า ความเครียดทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดต่ำลงเป็นเหตุให้เซลล์มะเร็งแพร่หลายได้เร็ว ขึ้น และทำให้ร่างกายติดเชื้อไวรัสได้ เร็วขึ้น นอกจากนั้นยังทำให้ไขมันอุดตันในเส้นเลือด ที่หัวใจ เป็นเหตุให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้โรคเบาหวานกำเริบและอาการของโรคหอบหืดเลวลง เกิดอาการลำไส้อักเสบ ความเครียดที่เกิดติดต่อกันนานๆ มีส่วนทำให้เซลล์สมองเสื่อมลง ซึ่งส่งผลให้ความจำเสื่อมลงไปด้วย (Bruce Mcevan , Eliot Stellor , Stress and the Individual of Internal Medicine , 1993)

จิตแพทย์ เซลดอน โคเฮน แห่งมหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ทำงานร่วมกับหน่วยวิจัยเกี่ยวกับไข้หวัดของเมืองเซฟฟิลด์ประเทศอังกฤษ พบว่า ผู้ป่วย ที่ได้รับเชื้อหวัด ไม่ได้เป็นไข้หวัดทุกคน ถ้าหากมีภูมิต้านทานดี คนที่มีความเครียดน้อยจะติดหวัดได้ 27 % เมื่อได้รับเชื้อหวัดจะติดหวัดทันที ในขณะที่ผู้มีความ เครียดมาก จะติดหวัดเป็น 47 % นอกจากนั้น นายแพทย์ ผู้นี้ได้ทดลองด้วยการให้คู่สมรสจำนวนหนึ่งจดบันทึกไว้ติดต่อกัน 3 เดือน ปรากฏว่าคู่สมรสที่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยๆ ราว 3-4 วัน เมื่อได้รับเชื้อหวัดจะติดหวัดทันที เพราะภูมิต้านทานต่ำมาก เนื่องจากมีความเครียดสูง

นอกจากนั้น จิตแพทย์ผู้นี้ยังพบว่าในกรณีผู้ป่วยที่มักเป็นเริมที่ริมฝีปากหรืออวัยวะเพศ เริมมักจะเกิด ขึ้นอีกในเวลามีความเครียด โดยวัดระดับแอนตี้บอดี (หรือสารภูมิต้านทาน ที่เม็ดเลือดขาวสร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัสหรือสารเคมีที่เข้าสู่ร่างกาย) ในเลือด ซึ่งแสดงให้เห็นภูมิต้านทานโรคต่อเชื้อไวรัสเริมและนายแพทย์โคเฮน ยังพบว่า นักศึกษาแพทย์หญิงที่เพิ่ง หย่าใหม่ๆ หรือผู้ที่ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม (อัลไซ-เมอร์) มักจะมีเริมขึ้นบ่อยๆ เพราะมีความเครียดสูง (Sheldon Cohen, et al , ‘Psychological stress and susceptibility to common cold ,’ The new England Journal of Medicine , 1991)

การทดลองต่างๆ ชี้ให้เห็นความจริงของคำสอนใน พุทธศาสนาที่ว่า สาเหตุสำคัญของโรคคือกิเลสในใจเรา ซึ่งได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่าโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ เป็นผลมาจากการเป็นคนมีความโลภ และความโกรธ เช่น ความโลภทำให้รับประทานอาหารไขมันมากเพราะติดใจในรสอร่อย ทำให้เกิดความอยากที่ยับยั้งไม่ได้ ในทำนอง เดียวกัน ความโกรธหรือความเกลียด มีผลร้ายต่อสุขภาพเช่นเดียวกับความเครียด ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเหตุที่สภาพจิตใจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคต่างๆ ทั้งทางกายและทางใจ ดังนั้นความผ่อนคลายทั้งทางกายและใจ จึงเป็นวิธีสำคัญที่จะช่วยป้องกันและรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน โรคจิตประสาท หอบหืด รวมทั้งโรคร้ายต่างๆ เช่น มะเร็ง

วิธีการผ่อนคลายที่แพทย์แผนปัจจุบันให้ความ สนใจมากเป็นพิเศษ คือ นำการปฏิบัติในพุทธศาสนา มาใช้ในการบำบัดโรค

มีการสวดมนต์ การแผ่เมตตา และการปฏิบัติสมาธิวิปัสสนากรรมฐานเป็นสำคัญ




และ การพักผ่อนที่ดีกว่าการนอนหลับ

http://www.oknation.net/blog/surasakc/2 ... 12/entry-1


นอกจากนี้ มีการวิจัย ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย เรื่อง อานาปานสติกับ ความสามารถในการเรียนรู้ และ การจดจำ.

ทำเพียงวันละ30นาที เป็นเวลาต่อเนื่อง8สัปดาห์.

พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของ

1.ความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญก่อนและหลัง ของงานต่างๆ
2.สามารถจดจ่อกับข้อมูลที่ต้องการทำความเข้าใจมากขึ้น
3.มีความตื่นตัวมากขึ้น ไม่เฉื่อยชา

ๆลๆ




การระมัดระวัง รอบครอบ และ การหาข้อมูล เป็นสิ่งที่ดี.... แต่ อย่างถึงขั้น ระแวง ต่อสมาธิภาวนา จนละเลยการเจริญสมาธิภาวนาเลยน่ะครับ


ขอให้เจริญในธรรม ยิ่งๆขึ้นไป ครับ

เจ้าของ:  bbb [ 01 ต.ค. 2009, 12:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

ข้อ 1 การฆ่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถือว่า เขาได้สิ้นชีวิตไปแล้ว (อันนี้คิดเอานะว่าบาปไม่บาป)
ข้อ 2 ไม่รู้ว่าอายุสั้นจริง ๆ หรือเปล่านะ เพราะไม่เคยได้ยิน (เคยได้ยินแต่แบบว่า เกิดมาชาติหน้าตาบอดประมาณนี้ )
ข้อ 3 คนเราจะทำการใดสำเร็จได้ ต้องอาศัย สติ สมาธิ และปัญญา การนั่งสมาธิมีผลดีอย่างแน่นอน
การนั่งสมาธิก็เหมือนการกรั่นกรองความคิดให้อยู่ในสมองน้อยลง เพราะวันนึงๆ เราคิดเรื่องอะไรต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย สมองคงรกมาก
ข้อ 4 การนั่งสมาธิ อยู่ในท่าที่เราสบายที่สุด อาจไม่ต้องสำรวมมาก เพราะทำอยู่บ้าน ไม่จำเป็นต้องหาฤกษ์ยามในการนั่งหรอกนะ เวลาไหนเราสะดวก นั่งไปเลย แต่ที่แนะนำคือ ก่อนตื่นนอน และก่อนนอน เพราะก่อนตื่นนอน เป็นการเริ่มต้นของวัน ทำให้เราจะได้มีสติในการใช้ชีวิตในวันนั้น ๆ ส่วนก่อนนอน เพราะก่อนที่เราจะเอนตัวลงนอน ควรทำใจให้สบายที่สุด (อย่างน้อยก็เพื่อสุขภาพ)
ข้อ 5 ทำบุญ ถ้าสะดวกตอนไหน ทำตอนนั้นเลย อยู่ที่เจตนา
ข้อ 6 ควรจะเริ่มหัดพูดจา หัดซักถาม ถ้าคุณพูดน้อยได้ แต่ขอให้พูดแต่สิ่งดี ๆ จริงใจ คงจะพอแล้ว

เจ้าของ:  ตักบาตรถามพระ [ 01 ต.ค. 2009, 23:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

:b8:

ยินดีและอนุโมทนาบุญด้วยครับ

เจ้าของ:  คนล่องหน [ 14 ต.ค. 2009, 17:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

ผมว่าไม่น่าจะผิดนะครับเพราะเราไม่ได้ฆ่าเพื่อความสนุก(แต่อาจจะผิดที่เจตนา)
ถ้าเลิกได้ก็ดีครับ ลองใช้วิธีปัดแทนตบหรือไม่ก็นั่งอยู่ในที่ที่ยุงไม่กัดแทนน่าจะพอช่วยได้

บุญรักษาครับ

เจ้าของ:  ช่างปั้นเรื่อง [ 23 ต.ค. 2009, 20:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาใหม่ มาขอคำแนะนำครับ

ขอแนะนำตัวว่าชื่อ น้องนุ่น ค่ะ

ยินดีต้อนรับเพื่อนมิตรทางธรรมนะค่ะ :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/