| วันเวลาปัจจุบัน 25 ต.ค. 2025, 18:03 |
|
เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
กฎการใช้บอร์ด
Facebook ลานธรรมจักร - http://www.facebook.com/larndhammajak
ห้องแชดสนทนาธรรม - http://www.dhammajak.net/chat/
|
หน้า 2 จากทั้งหมด 3 |
[ 32 โพสต์ ] | ไปที่หน้า ย้อนกลับ 1, 2, 3 ต่อไป
|
|
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2009, 04:12 โพสต์: 1067
|
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2009, 08:32 โพสต์: 38
อายุ: 0 ที่อยู่: ประจวบ |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 เม.ย. 2009, 06:18 โพสต์: 731
อายุ: 0 |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
|
||||||
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55 โพสต์: 4062
แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ อายุ: 0 ที่อยู่: ตรงปลายจมูก |
|
|||||
|
หน้า 2 จากทั้งหมด 3 |
[ 32 โพสต์ ] | ไปที่หน้า ย้อนกลับ 1, 2, 3 ต่อไป |
|
เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
ผู้ใช้งานขณะนี้ |
่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน |
| ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้ ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้ |
|



ขออนุโมทนาบุญกับคุณตักบาตรถามพระด้วยค่ะ สาธุ 




"อารมณ์ที่หมักหมมเรื้อรังนั้นมีพิษต่อจิตใจและร่างกายอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง เราจำเป็นต้องรู้จักจัดการกับอารมณ์เหล่านี้ไม่ให้ หมักหมมเรื้อรัง สำหรับอารมณ์ขุ่นข้อง โกรธเคือง และน้อยเนื้อต่ำใจ คงไม่มีวิธีการใดดีกว่าการให้อภัย"
"อารมณ์ที่หมักหมมเรื้อรังนั้นมีพิษต่อจิตใจและร่างกายอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง เราจำเป็นต้องรู้จักจัดการกับอารมณ์เหล่านี้ไม่ให้ หมักหมมเรื้อรัง สำหรับอารมณ์ขุ่นข้อง โกรธเคือง และน้อยเนื้อต่ำใจ คงไม่มีวิธีการใดดีกว่าการให้อภัย"
มีต่อ
เหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่พอใจนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวในอดีตที่ไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ การครุ่นคิดถึงมันเพียงเพราะใจ อยากคิดนั้น ย่อมไม่มีประโยชน์อะไร กลับจะเป็นโทษด้วยซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าต้องการทบทวนเพื่อสรุปหาบทเรียนหรือทำความเข้าใจกับ มันให้ถ่องแท้ (แม้กระนั้นก็ต้องระวังไม่ให้ตกลงหลุมอารมณ์โดยไม่รู้ตัว) พูดง่าย ๆ คือต้องรู้จักปล่อยวาง เชื่อหรือไม่ว่าตัวการสำคัญที่ทำให้คนเราทุกข์อย่างยิ่งนั้น อยู่ที่ใจซึ่งปล่อยวางไม่เป็นต่างหาก หาได้อยู่ ที่คนอื่นหรือเหตุการณ์ภายนอกไม่ แม้จะมีอะไรมากระทบอย่างแรง แต่ถ้าใจรู้จักปล่อยวาง มันก็ทำอะไรเราไม่ได้ รู้เมื่อใด ละเมื่อนั้น ไม่ว่าอารมณ์จะหมักหมมเรื้อรังเพียงใด ก็ไม่เกินวิสัยที่จะปล่อยไปจากใจ ขอเพียงมีสติระลึกรู้ทันว่ากำลังหลงยึดมันอยู่ อย่าลืมว่ามัน ค้างคาในใจเราได้ เพราะใจเรานั่นแหละที่ไปยึดมันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทันทีที่ใจปล่อย มันก็หลุด แต่เผลอเมื่อไร ใจก็อาจไปยึดมันเอาไว้อีก ถ้าจะไม่ให้เผลอ ก็ต้องมีสติระลึกรู้อยู่เสมอ
มีต่อ
ปัญหาทั้งหลายก็มีแง่ดีหรือมี ประโยชน์ ถ้ามองให้เป็น อารมณ์อกุศลก็ยากจะหมักหมมหรือยืดเยื้อเรื้อรังได้ เยียวยาใจด้วยการให้อภัย ถ้าหากอารมณ์ที่หมักหมมนั้นเป็นความโกรธ เกลียด พยาบาท
วิธีหนึ่งที่ช่วยเปลื้องอารมณ์เหล่านี้ไปจากใจอย่างได้ผลมากคือ การให้ อภัย หรือดียิ่งกว่านั้นคือการแผ่เมตตาให้ ให้อภัยคือไม่ถือโทษโกรธเคืองในเรื่องที่ผ่านมา ส่วนแผ่เมตตาหมายถึงการตั้งจิตปรารถนาดี ให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป
สาเหตุที่ความไม่พอใจสะสมมากขึ้นเพราะเราไม่กล้าเล่าความในใจให้อีกฝ่ายรับรู้ ว่ารู้สึกข้องขัดอย่างไรบ้าง การปิดปากเงียบ ทำให้ อารมณ์คุกรุ่นจนอาจระเบิดออกมา และก่อความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ในการอยู่ร่วมกัน เราควรส่งเสริมซึ่งกันและกันให้พร้อมที่จะเปิดปากซักถามเมื่อมีความสงสัยไม่แน่ใจ หรือเปิดปากเล่าความในใจเมื่อ มีความขุ่นข้องหมองใจกันขึ้นมา แต่จะทำเช่นนั้นได้ทุกฝ่ายต้องพร้อมเปิดใจรับฟังสิ่งที่อาจไม่ถูกใจ หรือไม่ตรงกับความคิดของตน การ เปิดใจรับฟังอย่างมีสติ และความเห็นอกเห็นใจ จะช่วยให้ผู้คนพร้อมเปิดปากซักถามและเล่าความในใจได้อย่างเต็มที่ แล้วเราอาจพบ ว่าปัญหานั้นแก้ได้ไม่ยากเลย ใช่หรือไม่ว่าปัญหาเล็ก ๆ ลุกลามจนเป็นเรื่องใหญ่ได้ก็เพราะการไม่เปิดปากเปิดใจให้แก่กันและกัน การเปิดปากเปิดใจไม่จำเป็นต้องหมายถึงการใส่อารมณ์เข้าหากัน


