ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=31571 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กานพลู [ 10 พ.ค. 2010, 19:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ อยากถามคำถามที่สงสัยมานาน กับเพื่อนสมาชิก เกี่ยวกับการสวด..อิติปิโส ดังนี้ครับ 1.คำว่าสวด อิติปิโส 1 จบ หมายความว่า เริ่มด้วย นะโมฯ(3จบ) แล้วต่อด้วย อิติปิโส ภะคะวา..............(จนกระทั่งถึง)....พุทโธ ภะคะวา ติ แล้วจบเลย...... หรือว่า อิติปิโส...... ต่อด้วย สวากขาโต.........ต่อด้วย สุปฏิปันโน.....(จนกระทั่งถึง)...โลกัสสาติ กันแน่ครับ 2.คำว่าสวด อิติปิโส กับ คำว่าสวด อิติปิโส ฯ มีความหมายแบบนี้หรือไม่ คือการสวด อิติปิโส คือสวดเพียงห้องแรก (บูชาพุทธคุณ) แล้วจบ ส่วนการสวด อิติปิโสฯ คือการสวด ทั้งสามห้อง คือ สวดบูชาพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ ดังนี้ อิติปิโส........................(จนกระทั่งถึง) ภะคะวา ติ สวากขาโต.....................(จนกระทั่งถึง) วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน.....................(จนกระทั่งถึง) โลกัสสาติ ทั้งหมดนี้ผมเข้าใจผิด หรือ ถูก อย่างไรครับ |
เจ้าของ: | ธรรมบุตร [ 10 พ.ค. 2010, 20:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
การสวดอิติปิโส
ให้สวดเท่าอายุ+1 (หรือ 108 จบ ถ้านับไม่คล่องให้หาลูกปะคำมาถือขณะสวดครับ) "อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุธโธ วิชชา จะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะ ทัมมะ สาระถิ สัตถา เทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา ติ" อย่างนี้ เรียกว่า หนึ่งรอบครับ ส่วนจะสวดเท่าใดแล้วแต่จะเลือกนะครับ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 10 พ.ค. 2010, 21:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
![]() ![]() ![]() ไม่ใช่..อิติปิโส..อิติปิโส.อิติปิโส..หรือครับ 3 จบ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กานพลู [ 11 พ.ค. 2010, 09:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
ในคำถามของผม หมายความว่า การสวดอิติปิโส 1 จบ คือการสวดทั้ง 3 ห้องเลยมั้ยครับ และตามที่คุณ"ธรรมบุตร"ตอบนั้นเป็นการสวดอิติปิโส เท่าอายุ+1 ครับ ส่วนคุณ "วรานนท์" ตอบมานั้น ล้อเล่นใช่มั้ยครับ ถึงอย่างไร ก็ขอ อนุโมทนาบุญกับท่านทั้งสองด้วยครับ ที่ได้สละเวลาตอบคำถามนี้ และท่านอื่น ๆ มีมุมมองในเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ ผมอยากได้คำตอบ ในข้อสงสัยนี้ครับ และนมัสการหลวงพี่ หลวงพ่อ ได้โปรดเมตตาให้ความกระจ่างในข้อสงสัยของผมด้วยครับ ป.ล.ขอความกรุณาดูคำถามทั้ง 2 ข้อนะครับ |
เจ้าของ: | Rosarin [ 11 พ.ค. 2010, 10:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
![]() ![]() ...โดยปกติของการสวดมนต์ไหว้พระเป็นการกล่าวสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า... ...หมายถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตรัสรู้ในธรรมอันชอบโดยพระองค์เอง... ...แล้วทรงตรัสสั่งสอนให้ผู้อื่นรู้และปฏิบัติตามได้แล้วสามารถบรรลุธรรมตามได้... ...การสวดอิติปิโสเป็นการพูดสั้นๆ...ขึ้นกับแต่ละบุคคลจะกำหนดเข้าใจขณะปฏิบัติ... ...หากจะกล่าวให้ถูกต้อง...ควรเรียกว่าการสวดแบบเต็มบทต้องครบองค์สาม... ...คือการสวดทั้งบทพระพุทธคุณ บทพระธรรมคุณ และบทพระสังฆคุณ... ![]() ...การสวดอิติปิโส 108 จบก็คือต้องสวดครบทั้งองค์สามคือสามร่มโพธิ์ศรี... ...ซึ่งเป็นการระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์...ในที่นี้ถ้ารวมอานุภาพแล้ว... ...บทพระพุทธคุณเป็นบทหลัก...บทพระธรรมคุณและบทพระสังฆคุณเป็นบทรอง... ...ดังนั้นการสวดบทพระพุทธคุณจึงมีอานุภาพสูงสุด...ไม่มีอะไรเหนือพุทธคุณ... ...เพราะถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าแล้ว...ก็จะไม่มีพระธรรมและพระสงฆ์เกิดขึ้นค่ะ... ...ในการนำมาใช้สวดรักษาโรคจึงย่อมาเพียงบทพุทธคุณอย่างเดียวเท่านั้น... ![]() ...ลองพิจารณาเหตุผลด้วยตนเองว่าเป็นไปที่ข้าพเจ้าแสดงความคิดเห็นหรือไม่... ...ใครที่ขยันสวดอิติปิโส 108 จบ...จึงได้กุศลแผ่อานุภาพของการสวดให้เทวดา... ...และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็จะมีอานุภาพสูงขึ้นและแผ่อานุภาพนั้นมาคุ้มครองผู้สวด... ...เวลามีพิธีพุทธาภิเษกจึงมีการสวดทั้งบทพระพุทธคุณ บทพระธรรมคุณ และบทพระสังฆคุณ... ...โดยปกติถ้าเราสวดมนต์ไหว้พระอะระหังสัมมา...สวากขาโต...สุปฏิปันโณกราบ 3 ครั้งแล้ว... ...ตั้งนะโม 3 จบเราก็จะสวดสรรเสริญบทพระพุทธคุณ บทพระธรรมคุณ และบทพระสังฆคุณ 1 จบ... ![]() ...หลวงปู่มหาโชค...ท่านเทศน์สอนข้าพเจ้าว่าสวดมนต์เป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน... ...การสวดมากๆเพียงทำให้สติดี...ถ้าไม่มีศรัทธาทำเพียงสวดให้แล้วๆก็กุศลก็เป็นตามแรงน้ำไหล... ...น้ำที่พุ่งออกจากสายยางถ้ามีความแรงมากก็พุ่งได้ไกล...เช่นเดียวกับถ้าศรัทธามากอานุภาพก็มาก... ...บางคนสวดมากๆแล้วก็เหนื่อยแล้วก็ไม่มีเวลาภาวนาดูจิตตนเอง...ผู้ดูจิตตนเองจนรู้แจ้งก็จะรู้จิตผู้อื่น... ...ถ้าดูจากหลักคำสอนแล้วนั้น...พระพุทธเจ้าจึงเน้นให้ผู้ปฏิบัติภาวนาให้มาก...ไม่เน้นการสวดอ่ะค่ะ... ...ปกติสวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก็เพียงพอต่อการปฏิบัติ... ...ในชีวิตประจำวันแล้ว...จากนั้นก็กรวดน้ำแผ่เมตตาแล้วให้รีบเร่งปฏิบัติภาวนาดูจิตใจตนเอง...สาธุ... ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กานพลู [ 11 พ.ค. 2010, 19:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณ Rosarin อย่างสูง และขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ จะสรุปแบบนี้ได้ไหมครับว่า คำว่า สวด อิติปิโส นั้น จะกี่จบก็แล้วแต่ ควรจะสวดทั้ง 3 ห้องเลย คือ อิติปิโส.................(จนกระทั่งถึง) ภะคะวาติ สวากขาโต.............(จนกระทั่งถึง) วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน.............(จนกระทั่งถึง) โลกัสสาติ ***ยกเว้นแต่ว่า เป็นการสวด อิติปิโส เท่าอายุ+1 นั้นหมายความว่า ให้สวดเฉพาะ อิติปิโส............(จนกระทั่งถึง) ภะคะวาติ แล้วเริ่ม อิติปิโส ไปเรื่อย ๆ จนครบตามที่กำหนด ทั้งหมดนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ จะได้ใช้ข้อมูลนี้เป็นการอ้างอิง สำหรับผู้ที่สงสัยแบบผม ****หากผู้ใดคิดเห็นเป็นอย่างอื่น กรุณาเพิ่มเติมได้เลยครับ**** |
เจ้าของ: | ธรรมบุตร [ 11 พ.ค. 2010, 20:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
เอาเป็นว่าสวดตามนี้ได้เลยนะครับผมเรียบเรียงมาให้แล้ว สามารถพิมพ์เก็บไว้ในห้องพระได้เลยนะครับคุณกานพลู
1 อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ) สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ) สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ) 2 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ทวน ๓ ครั้ง) 3 พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ 4 อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ 5 สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติฯ 6 สุปะฏิปัน โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ 7 พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ อุกขิตตะ ขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ นันโทปะนัน ทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ 8 มะหาการุณิ โก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัมหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต 9 อิติปิโส (พุทธคุณ) เท่าอายุ+1 หรือ 108 จบ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ พอจบที่นี่ก็แผ่เมตตาได้เลยครับ หรือถ้าจะต่อหลังจากแผ่เมตตาแล้ว ใช้บทสวด พระคาถา ชินบัญชร และ คาถายอด พระกัณฑ์ไตรปิฎก เสร็จแล้วแผ่เมตตารอบสอง เลือกสวดนะครับว่าชอบแบบไหน ธรรมรักษาครับ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 11 พ.ค. 2010, 21:41 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส | ||
![]() ![]() ![]() อนุโมทนาสาธุด้วยครับ ตามความเห็นของผมว่า น่าจะสวดจนครบเลยนะครับ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ก็คือ กานพลู เขียน: อิติปิโส.................(จนกระทั่งถึง) ภะคะวาติ สวากขาโต.............(จนกระทั่งถึง) วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน.............(จนกระทั่งถึง) โลกัสสาติ ทั้งสามบทนี้แหละครับ ส่วนคำตอบข้างบนวรานนท์ล้อเล่นครับ..จะได้หายร้อน ![]() ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | กานพลู [ 12 พ.ค. 2010, 09:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
![]() พวกท่านทั้งหลาย เป็นกัลยาณมิตร อย่างแท้จริง |
เจ้าของ: | Bwitch [ 12 พ.ค. 2010, 16:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
อิติปิโส กับ อิติปิโส ฯ ............ ทำไมต้องยึดติดตัวหนังสือละคะ อิติปิโส........................(จนกระทั่งถึง) ภะคะวา ติ สวากขาโต.....................(จนกระทั่งถึง) วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน.....................(จนกระทั่งถึง) โลกัสสาติ >>>>ทั้งหมดนี่ละค่ะคือ 1 จบ บูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ) |
เจ้าของ: | กานพลู [ 12 พ.ค. 2010, 17:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
Bwitch เขียน: อิติปิโส กับ อิติปิโส ฯ ............ ทำไมต้องยึดติดตัวหนังสือละคะ อิติปิโส........................(จนกระทั่งถึง) ภะคะวา ติ สวากขาโต.....................(จนกระทั่งถึง) วิญญูหีติ สุปะฏิปันโน.....................(จนกระทั่งถึง) โลกัสสาติ >>>>ทั้งหมดนี่ละค่ะคือ 1 จบ บูชาพระรัตนตรัย (พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ) ครับ ที่ผมยังยึดติดกับตัวหนังสือ ก็เพราะหากมีผู้ที่สงสัยเหมือนผมแต่ไม่กล้าถาม=ผู้ที่รู้จริง= ความสงสัยนี้ก็จะถูกละเลยไป ในขณะที่ยังพอมีผู้รู้จริงอยู่ในยุคนี้ก็ต้องถาม ดีกว่าปล่อยไปเรื่อย ๆ และไปเจอผู้ที่ไม่รู้จริง ๆ มาตอบ อะไรๆก็จะคลาดเคลื่อนไป อิติปิโส กับ อิติปิโส ฯ ในตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นแล้ว เพราะผมได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากผู้ที่รู้จริงทุกท่านแล้ว ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 12 พ.ค. 2010, 19:33 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
![]() แล้วไม่สงสัยหรอว่าทำไมอิติปิโส ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กานพลู [ 12 พ.ค. 2010, 20:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
ไปค้นมาจากเวบวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี (หลวงพ่อจรัญ) ดังนี้ครับ เหตุ ใดต้องสวดพุทธคุณเท่าอายุเกิน ๑ (อิติปิโสเท่าอายุ+๑) "อาตมาเคยพบคนแก่อายุ ๑๐๐ กว่าปี มีคนเอากับข้าวมาให้ ก็สวด อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ๑ จบ ให้ตัวเองก่อน สวนอีกจบหนึ่งให้คนที่นำมาให้ เสร็จแล้วให้ถ้วยคืนไป อาตมาจับเคล็ดลับได้ จะให้ใครต้องเอาทุนไว้ก่อน ถึงได้เรียกว่า สวดพุทธคุณเท่าอายุเกินหนึ่งไงเล่า" ( จากหนังสือกฎแห่งกรรมเล่ม ๙ เรื่อง ทำความดีนี้แสนยาก โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์ ) และนี่คือบางช่วงบางตอนในห้วข้อ..ถาม-ตอบเรื่องการสวดมนต์ พิธีกร: หลวงพ่อขา การที่สวดมนต์เนี่ยนะคะ พอจิตเป็นหนึ่งแล้วเนี่ย ก็มีคุณค่าเท่ากับทำสมาธิเหมือนกัน หลวงพ่อจรัญ: ใช้ได้ ใช้ได้ นี่คือสมาธิ การสวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน ทาไปก่อน สวดไปก่อน สวดแล้วเนี่ยมันซึ้งใจ จะเป็นต่างชาติ ต่างภาษา คนจีนหรือคนฝรั่งเขานิยมเนี่ย เขาสวดโดยไม่รู้เรื่อง แต่สวดไปสวดไปเกิดสมาธิน่ะสิ เกิดสมาธิเกิดจิตสำนึกเกิดหน้าที่การงาน และการงานนั่นคือกรรมฐานอันหนึ่ง เรียกว่าภาวนา สวดมนต์ เป็นภาวนา พิธีกร: แล้วหลวงพ่อจะให้ลูกสวดสักกี่จบคะ เห็นบอกว่าให้สวด เท่าอายุบวกกับหนึ่งหรือคะ หลวงพ่อจรัญ: คืออย่างนี้ ขอเจริญพร ที่ว่าให้ว่าสวดเท่าอายุนี่ หมายความว่าอายุเท่าไหร่ ๒๐ ถ้าเราสวดแค่ ๑๐ เดียว มันก็ไม่เท่าอายุ สวดไปเนี่ยเท่าอายุก่อนนะมันคุมให้มีสติ แล้วก็เกินหนึ่งเพราะอะไร ที่พูดเกิน หนึ่งเนี่ยหมายความคนมักง่ายมักได้ คือมันมีเวลาน้อย ถ้าสวดแค่เกินหนึ่ง ทำอะไรให้มันเกินไว้ เหมือนคุณโยมเนี่ยไปค้าขาย ยังไม่ได้ขายได้สักกะตังค์เลย จะเอาอะไรไปให้ทาน ยังไม่ได้กำไรเลยต้องให้ตัวเองก่อนนะ นี่ต้องค้าขายต้องลงทุนนี่ ต้องลงทุนก็สวดไป แต่สวดมากเท่าไรยิ่งดีมาก ได้มีสมาธิมาก แต่อาตมาที่พูดไว้คือคนมันไม่มีเวลา ก็เอาเกินหนึ่งได้ไหม เกินหนึ่งได้ก็ใช้ได้นะ แต่ถ้าเกินถึง ๑๐๘ ได้ไหม ยิ่งดีใหญ่ ทำให้เกิด สมาธิสูงขึ้น ลิงค์เวบวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) http://www.jarun.org/v6/th/dhamma-pray.html#10 |
เจ้าของ: | กานพลู [ 12 พ.ค. 2010, 20:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
อินทรีย์5 เขียน: :b41: แล้วไปอ่านเจอจากที่ไหนมาคับ ถึงได้สะดุดตาเข้าอะคุณกานพลู แล้วไม่สงสัยหรอว่าทำไมอิติปิโส ![]() ![]() พอดีผมไปเจอในหนังสือ สมบัติพ่อให้ ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) หน้า 200 ในหัวข้อ "คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์" ดังนี้ครับ (ขอตัดตอนเลย) ก่อนนอนภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ และสวด "อิติปิโส ฯ" 3 จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ไป.......... ป.ล. ผมไม่ได้จะไปสนองกลับคุณไสย ใครนะครับ แต่แค่อยากรู้ว่า อิติปิโสฯ 3 จบ ในที่นี้ก็คือ ท่องทั้ง 3 ห้อง 3 เที่ยว ใช่ไหมครับ ????? |
เจ้าของ: | อินทรีย์5 [ 13 พ.ค. 2010, 19:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: สงสัยเรื่อง..การสวด..อิติปิโส |
ดีครับ ตอบได้ดี ผมชอบ ๆ ๆ เรียกว่าแชร์ความรุ้ให้กระจ่างขึ้นมาอีก ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |