ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=44788
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  ดาวบนพื้นทราย [ 28 ก.พ. 2013, 13:27 ]
หัวข้อกระทู้:  เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

เรื่องราวมีอยู่ว่าคบกับแฟนมาได้ ปีกว่าๆ ผู้ชายคนนี้เป็นทหารอยู่ที่ใต้คะ ตลอดเวลาที่คบกันก็มีความสุขดีเพราะเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ต่อมาไม่นานลายเขาก็ออก เขาแอบหนีไปเที่ยวผับที่ยะลา จนไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่นั้นสมมติชื่อ ปัท นะคะ ปัทเป็นผู้หญิงอิสลามในพื้นที่ ตอนแรกที่จับได้ว่าแฟนมีคนอื่นเขาก็เลือกดิฉัน แต่ต่อมาเขาก็บอกว่า เขาไม่อยากโกหกขอเวลา สี่เดือน เพื่อเลิกกะปัท ตอนนั้นก็ทำใจไม่ได้ ไปไหว้พระ และพาเขาไปดูหมอ หมอดูบอกว่าเขาโดนผู้หญิงคนนี้ทำของอิสลามใส่ ใจมันก้เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งคะ หลังจากแฟนกลับไปที่ยะลา ก็ห่างเหินกันมาก รุ่นพี่ที่ทำงานแฟนก็บอกว่าแฟนไม่ค่อยมาทำงาน ที่บ้านพักก็ไม่อยู่คือรู้เลยว่าเขาไปหาผู้หญิงอีกคน ผ่านมาสักเดือนนึง ตอนนั้นดิฉันก็ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ บอกกับแฟนไป แฟนก็บอกให้เอาเด็กออก และแฟนก็บอกให้หญิงอีกคนมาขอแฟนกับดิฉันคือเขาอยากอยู่ด้วยกันมาก ตอนนั้นมืดแปดด้านมาก เลยปรึษาพ่อแม่แฟน แม่แฟนบอกให้เอาลูกไว้ เพราะเขาไม่ชอบปัทที่เป็นผู้หญิงเที่ยว หลังจากนั้นพ่อแม่ฝ่ายดิฉันและเขาก้ตกลงกันว่าจะจัดงานแต่งงานให้ โดยที่ดิฉันรู้มาตลอดว่าแฟนกับปัทก็ยังคบไปมาหาสู่กันอยู่ ดิฉันเคยขอร้องเขาว่าตอนนี้ดิฉันท้องลุกของเขาขอให้เขาเลิกกับอีกคน แต่เขาก็โกหกมาตลอด ว่าเลิกแล้ว แต่ก็มีเรื่องให้ดิฉันจับได้ทุกทีว่ายังไม่เลิกกัน ผู้หญิงก็รู้ว่าดิฉันท้อง หลังจากงานแต่งงาน จนมาตอนนี้ดิฉันท้องได้ 7 เดือนแล้ว แฟนไม่เคยมาสนใจดิฉันเลย เคยมาหาอยู่2 ครั้ง ไม่เคยพาไปหาหมอ แฟนเคยบอกผู้หญิงอีกคนว่า รอให้ดิฉันคลอดลูกก่อน ระหว่างนี้เขาจะทำตัวเลวให้ดิฉันทนไม่ได้ และไปจากเขาเอง แฟนมีบ้านพักที่ค่ายเขาก็พาหญิงอีกคนไปอยู่อย่างออกหน้าออกตา ดิฉันต้องทุกข์ทรมานมาก ต้องแบกท้องอยู่คนเดียว สงสารลูกน้อยมาก ตอนนี้ไม่รุ้จะทำยังไง เขาไม่มีจิตสำนึกเลยสักนิด ว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน เขาสนใจอยู่อย่างเดียวคือผู้หญิงคนนั้น พ่อแม่เขาพูดเขาก็ไม่ฟัง ดิฉันมีเวรกรรมอะไรนักหนา ทำไมต้องมาทนรับสภาพแบบนี้ ทุกครั้งที่ดิฉันถามว่าทำไมทำแบบนี้ เขาก็มักจะตอบว่า ก็รู้แล้วว่าหมดรักแล้ว บอกให้เอาเด็กออกก็ไม่เอาออก ก้รับสภาพไปละกันนะ ก็รับผิดชอบแต่งงานให้แล้วจะเอาอะไรอีก นี้คือสิ่งที่เขาพูด ดิฉันอยากรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันเป็นคนผิดจิงๆอย่างที่เขาบอกรึป่าว ตอนนี้สับสน สงสารลุก ในอนาคตจะตอบลูกอย่างไร ว่าพ่อไปไหน ทำไมเด็กต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ทำไมแฟนกับผู้หญิงคนนั้นถึงอยู่ดี มีความสุข มีแต่ดิฉันและพ่อแม่ที่ต้องทนทุกข์อยู่อย่างนี้ เวรกรรมมีจริงไหม

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 28 ก.พ. 2013, 21:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

อดทนเอานะโยม ผู้หญิงเมื่อตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่อารมณ์แปรปรวนสูง
ถ้าภูมิคุ้มกันในร่างกายไม่ค่อยดี สุขภาพจิตเสีย ด้วยเหตุที่ควรเสีย
ก็มีแต่จะนำความเดือดร้อนมาด้วยเรื่องต่างๆ ทั้งสูญเสียคน(รัก)ไม่มีศีล
ก็น่าแปลกคน(รัก)ไม่ดี คน(รัก)ไม่มีศีล กำลังจะออกไปจากชีวิต ถ้าไม่รวม
เรื่องอื่นๆ มาคิดรวมกันเป็นเรื่องเดียว ต้องอยู่กับคนมากรักตลอดชีวิต ต้องห่วง
ต้องหวง ต้องวุ่นวายใจ ทั้งหลับทั้งตื่น ชีวิตจะมีความสุขจริงๆ หรือ?


หากมองในแง่ที่ว่า อ้าวอยู่ดีๆ ก็มีคนมาเอาคนมากรัก! เจ้าชู้หลายใจ
ที่เคยเป็นของๆ เรา มาเอาไปเฉยๆ ก็เหมือนมีคนเอาขยะไปทิ้งให้ เอาของโสโครก
ออกจากบ้าน อันคือ ใจของเราออกไปฟรีๆ หลังจากนี้ เมื่อเวลาเยียวยารักษาใจเราได้
เราก็จะรู้สึกว่า เออดีเหมือนกัน ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้อง คอยหวงห่วง น้ำตาตกอกช้ำ
ไม่ต้องคอยทุกข์ทรมานใจ กับคน(รัก)ไม่ดี ก็ถ้าเขาเป็นคนดี มีศีลรักเดียวใจเดียว
ถ้าจะต้องสูญเสีย คนดีๆ ไป เราค่อยมารู้สึกทุกข์ รู้สึกเหมือนสูญเสียอวัยวะสำคัญ
เหมือนเสียดวงตา จนมองไม่เห็น เสียดวงใจแทบไร้สติเหมือนขาดใจ ก็ไม่ผิดกติกา!


แต่ทีนี้ มีคนที่ทางบ้านเขาบอกว่าเป็น หญิงเี่ที่ยว มาเอาของๆ เราไป
ไม่ต้องเอาเรื่องโดนของมาปะปนให้ วิตกจนกระวนกระวายใจ ธรรมดา
ไม่ต้องโดนของ ถ้าอยู่ใกล้ใครสักคนที่ พูดจาน่าฟัง อ่อนโยน เรียบร้อย
แม้คบกันไปนาน ก็ไม่เปลี่ยน ยังพูดจาดี มีเหตุผล มีน้ำอดน้ำทน ไม่ลุโทสะ
ลุแก่อำนาจ ไม่ขึ้นเสียง ก็ต้องเป็นที่พอใจของคนอื่นๆ ทั้งสิ้น

ไม่ว่าคนที่จะได้ยินได้ฟังเป็นใคร หากเป็นคนที่เคยรักและรักเรา ก็มีแต่จะพูด
กันด้วยเหตุด้วยผล แต่ถ้าเป็นคนไม่มีเหตุผล เป็นคนที่เคยรักและไม่ได้รักเราแล้ว
ก็มีแต่จะใช้อารมณ์ และไร้เหตุไร้ผลต่อกัน ต่อเราโดยสิ้นเชิง!


แม่ของทั้งสองฝ่าย ก็รู้ว่าเรื่องอย่างนี้ ขึ้นอยู่กับคนที่จะอยู่และคนที่จะไป
แปลว่าต่างฝ่ายไม่ได้ มีความต้องการที่ตรงกัน เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
การจัดงานแต่ง เป็นไปเพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีสตรี ไม่ให้อายหน้าใคร
ชดเชยความอับอายไปครึ่งหนึ่ง ที่เหลือคือทรัพย์สินเงินทองที่จะเป็นทุน
ของลูกและของเราในการ เป็นแม่คน ด้วยสินสมรส! ก็ยังดี

ไม่ต้องเป็นแม่คนดี โดยหวังหรืออาศัย ผู้ชาย....อะไรก็ว่าไป...อีกต่อไป!

เวรกรรมก็ไม่มีอะไรนักหนา เพียงแต่คิดได้สักทีว่า ของไม่ดีคนไม่ดีสิ่งไม่ดี
ใครๆ ก็ไม่ปรารถนาใครๆ ก็รังเกียจ บอกตัวเองว่าเราไม่ใช่คนแรกที่ต้องเดิน
ผ่านเรื่องนี้ไปคนเดียวรำพัง บอกตัวเองอีกว่า เราไม่ใช่คนแรกที่ต้องเสียใจ
เราไม่ใช่คนแรกที่ต้องแก้ปัญหานี้ไปคนเดียว


ถ้าคนดี มีความรับผิดชอบ รู้ว่าตนได้ให้ชีวิตเด็กน้อยๆ ขึ้นมาลืมตาดูโลก
สามัญสำนึก อาจจะมีอยู่บ้าง แต่ด้วยติดภารกิจหน้าที่ ด้วยระยะทางและ
ความห่างไกล ช่วงรักหลงใหม่ๆ พอน้องพอลูกลืมตาขึ้นมา บางทีอาจมี
จิตสำนึก กลับมาเยี่ยมสายเลือดสายใยชีวิตบ้างก็เป็นได้ วันข้างหน้า!

ขอเพียงแต่ คุณโยมลองใจเย็นๆ ตัดเรื่องเสียทองท่วมหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร
ออกไปจากใจ จากความคิดให้ได้เสียก่อน ซักหน่อย แล้วค่อยมองว่าเราเป็น
แม่ของลูกเขา แม้เขาจะไม่รับผิดชอบเพราะกำลังหลง ๑ เพราะอยู่ห่างไกล ๑
เพราะภาระหน้าที่ ๑ ยังไงก็ให้คิดว่า เราจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดี เขาได้ให้โอกาสเรา
สิ่งที่เขาทำกับเรา มันกลับกลายเป็นเื่รื่องดีที่สุดในชีวิตของเรา!


ถ้าิคิดบวกได้ขนาดนี้ บางที ความเจ็บปวดเรื่องเสียผัว ความน้อยเนื้อต่ำใจ
ที่คนรักคู่ครองไม่สนใจ อาจค่อยๆ คลายลง มีสติ พูดจาไม่ขึ้นเสียงขึงเครียด
ต่อกันและกัน พ่อแม่ของเขาก็ยอมรับเรา เพราะเราแต่งเป็นเมีย(ที่เขาไม่รัก-
ข้อนี้ให้จำใส่ใจเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่รอ ไม่หวังความรักจากเขา
)

แต่เรายังเป็นสะใภ้ที่น่ารักที่ดีได้ ยังเป็นแม่ที่ดี ที่ลูกจะรักเรามากที่สุดได้!
และเราก็จะเป็นผู้หญิงที่ชื่อว่า มีน้ำใจเหนือชายชาติทหาร! คนหนึ่ง


ตัดปัญหา ตัดวิบากกรรม ตัดรักตัดหลง ทิ้งขยะไป ของ(คน)โสโครกของไม่สะอาด
ของที่ไม่มีหัวใจ มันก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีกแล้ว เป็นคนถ้าไม่รับผิดชอบ ก็เหมือน
ของที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว เราจะไปหวังอะไรได้ นอกจาก ต้องซ่อมต้องดูแล
ถ้าเราปรับปรุง
พูดดี คิดดี ทำดี อ่อนโยนมากๆ (เพื่อซ่อม เพื่อปรับปรุงตัวเรา และอารมณ์ของเขา)โดยไม่ได้
หวังสิ่งดีๆ อะไรจากเขามาตอบแทน แต่เราทำเพื่อรักษาความดี ความเป็นคนน่าเคารพ
น่าบูชา น่ากราบน่าไหว้ของลูกเรา ในวันข้างหน้า แล้วบทเรียนนี้ก็จะทำให้คุณโยมได้รู้ว่า
วิบากกรรมที่แท้เพราะความหลง ความรัก ความยึดถือไม่ปล่อยวางมันลงนั่นเอง


ขอเจริญพร.

เจ้าของ:  แม่ผู้อดทน [ 01 มี.ค. 2013, 10:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

กราบนมัสการท่านพุทธฎีกาเจ้าค่ะ

ได้อ่านบทความของท่านแล้ว ดีมากๆ ขออนุญาติแชร์ไปให้เพื่อนๆที่มีปัญหาได้อ่าน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไปเจ้าค่ะ


กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
แม่ผู้อดทน

เจ้าของ:  ดาวบนพื้นทราย [ 01 มี.ค. 2013, 12:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

กราบนมัสการคะ

ดิฉัน จะจดจำ และนำคำสั่งสอน มาเป็นแนวทาง ต่อไป

ขอบพระคุณ ท่าน ที่ชี้ทางสว่าง ให้ คะ

เจ้าของ:  แม่ผู้อดทน [ 01 มี.ค. 2013, 13:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

คุณดาวบนพื้นทรายคะ ดิชั้นเป็นกำลังใจให้คุณสู้ต่อไปนะคะ
คำสอนของท่านพุทธฎีกาดีมากๆอยู่แล้วค่ะ ไม่ใช่คุณคนเดียวนะคะที่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ทุกคนในลานธรรมแห่งนี้ก็ล้วนแต่ประสบกับเรื่องเลวร้ายทั้งนั้น รายละเอียดของเหตุการณ์ก็แตกต่างกันไป แต่ทุกคนก็ต่างเป็นกำลังใจให้กันและกัน ชักนำกันไปในทางที่ถูกที่ควร คุณก็เช่นกันต้องเข้มแข็งฝ่าฟันไปให้ได้ รักตัวเอง รักลูกที่กำลังจะเกิดมา คิดบวกนะคะ ผู้ชายคนนั้นหมดบุญ แต่คุณหมดกกรมค่ะ
บางทีหนทางข้างหน้าของคุณอาจจะดีกว่าที่คุณคิด อย่าคิดว่าไม่มีเค้าแล้วคุณจะอยู่ไม่ได้ คนไม่ดีปล่อยเค้าไปเถอะค่ะ รั้งไว้ข้างกายคุณจะมีแต่ทุกข์ พระคุ้มครองค่ะ

เจ้าของ:  McArowana [ 01 มี.ค. 2013, 21:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ไฟเป็นของร้อน หินก็หนัก รู้แบบนี้ก็อย่าไปแบกหามมันไว้ครับ
พระผู้พิชิตมารเคยตรัสแก่พุทธเวไนยว่า ดุ้นไฟที่ร้อน วางลงก็หายร้อน
มิใช่ถือดุ้นไฟแล้ววิ่งตะโกนไปมาว่าร้อนๆๆ อย่างนี้ผิดทาง
ขอให้ฝ่าฟันวิบากกรรมครั้งนี้ลุล่วงครับ :b8:

เจ้าของ:  ดาวบนพื้นทราย [ 02 มี.ค. 2013, 12:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

คะ ขอบคุณทุกคนมากคะ ตอนนี้ก็มองเห็นทางแล้วคะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มืดแปดด้าน อยากให้ลูกมีพ่อมีครอบครัวที่อบอุ่น พยายามทุกทางดิ้นรน จนเหมือนคนไร้ยางอาย เพียงเพื่อให้เขากลับมา แต่ตอนนี้ไม่ละคะ ผุ้ชายคนนี้ไม่มีค่าคู่ควรอะไรจะเป็นพ่อใครได้เลย ทหารร้อยละ 90 ก้มักจะเป็นแบบนี้แทบทุกคน

เจ้าของ:  McArowana [ 02 มี.ค. 2013, 14:47 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ดาวบนพื้นทราย เขียน:
คะ ขอบคุณทุกคนมากคะ ตอนนี้ก็มองเห็นทางแล้วคะ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มืดแปดด้าน อยากให้ลูกมีพ่อมีครอบครัวที่อบอุ่น พยายามทุกทางดิ้นรน จนเหมือนคนไร้ยางอาย เพียงเพื่อให้เขากลับมา แต่ตอนนี้ไม่ละคะ ผุ้ชายคนนี้ไม่มีค่าคู่ควรอะไรจะเป็นพ่อใครได้เลย ทหารร้อยละ 90 ก้มักจะเป็นแบบนี้แทบทุกคน





เมื่อรู้ว่าไฟมันร้อนแค่ไหน โยนทิ้งเสีย ความเย็นสงบก็จะมาเองครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 07 มี.ค. 2013, 22:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ยังดีที่พ่อแม่ของสามียืนอยู่ข้างเรา แล้วจดทะเบียนกันหรือเปล่าครับเนี่ย :b10:


จดแล้วก็ดีปาย ถ้ายังไม่จดก็พากันไปจดเสีย ชีวิตทหารชายแดนภาคใต้ไม่แน่นอน เกิดอะไรขึ้นลูกเมียจะได้ไม่ลำบากไปกว่านี้

http://www.youtube.com/watch?v=fuK_JgIx ... e=youtu.be

เจ้าของ:  ดาวบนพื้นทราย [ 10 มี.ค. 2013, 18:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ก่อนแต่งงาน เขาก็บอกว่าจะจด แต่ต่อมาเขาก็บอกว่าจดไม่ได้คะ เพราะผู้หญิงอีกคนไม่ยินยอมให้เขาจดเขาบ่ายเบี่ยงมาเรื่อย ดิฉันก็ไม่อยากจะบังคับอะไรอีก ในเมื่อใจในเมื่อตัวเขาไม่ได้อยู่กะเรา ก็ป่วยการจิงๆ ทุกวันนี้ดิฉันก็อยู่กะลุกในท้อง กะ พ่อแม่กะพี่น้องกะ ครอบครัว เขาทำดิฉันเจ็บแสบมาก แต่งงานได้ 6 เดือนก็มาขอบอกเลิก อ้างว่าหมดรัก และไม่ขอรับผิดชอบอะไรอีก พ่อแม่ขายหน้าพี่น้องขายหน้า ดิฉันเองก็อับอาย เลยได้แต่ปล่อยวางเท่านั้น จริงๆ ปากเขาก็บอกนะคะว่ารักลูกแต่การกระทำตรงข้ามทุกอย่าง ดิฉันย้ายมาอยู่หาดใหญ่ เขาเองอยู่ปัตตานี เขาทำงานจันทร์-ศุกร์ แต่เสาร์ อาทิตย์ไม่เคยมาดูแลลูกเลย เขาเอาแต่ความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง ตัณหาราคะ มันกลบจิตใจ จนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทุกวันนี้งานดิฉันก็ทำไม่ไหวแพ้ท้องหนักจนต้องลาออก เงินก็ไม่มีจะ ไปหาหมอแต่ละเดือน ต้องเกาะพ่อแม่กิน คิดแล้วสมเพชตัวเองจริงๆคะ ในขณะที่ตัวเขาก้มีความสุขกะผู้หญิงอีกคน โดยไม่เคยหันมาสนใจเราสองแม่ลูกเลย

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 10 มี.ค. 2013, 19:10 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ถ้ายังงั้น ช่วงนี้ก็ทำใจไปก่อนไหว้พระสวดมนต์ทำใจให้เป็นสุขให้เป็นกุศล (แม้จะยากก็ต้องพยายาม) เพื่อลูกในครรภ์จะได้รับอานิสงส์มีสุขภาพจิตดีไปด้วย

...เมื่อไหร่คลอดลูกแล้ว ลองพูดใหม่ ขอร้องให้พ่อแม่ของเขาช่วยพูดด้วย เพื่อให้สามีจดทะเบียนรับรองบุตร

เจ้าของ:  ดาวบนพื้นทราย [ 11 มี.ค. 2013, 18:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

คะ ทุกวันนี้ก็ปลงอย่างเดียว ไม่สนใจทั้งเขาและผู้หญิงอีกคนที่มีมาระรานบ้าง วันพระก็จะไปวัด เกือบทุกวันพระ แต่ก็ยอมรับว่าสงสารแม่มากเพราะ แม่เครียดหนัก กะเรื่องดิฉันจริงๆ เพราะดิฉันเป็นลุกสาวคนเดียวด้วย เลยอาจคาดหวังไว้เยอะ ส่วนพ่อแม่ผู้ชาย เขาจะมาเอาลูกหลังจากคลอดคะ แต่ดิฉันก็ยังไม่ยินยอมที่จะให้ไป เขาบอกจะเลี้ยงให้เพราะรู้ว่าลูกชายเขาผิด ดิฉันจะได้ไม่มีภาระ แต่ดิฉันก้คงไม่ยินยอมที่จะให้ลูกไปอยู่กะปู่ย่าหรอกคะ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 11 มี.ค. 2013, 18:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

สามีเป็นทหารมียศระดับไหนครับ นายร้อย/นายพัน...พอบอกได้ไหมครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 11 มี.ค. 2013, 18:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ความคิดเห็นส่วนตัว ทั้งได้ยินคนอื่นพูดด้วย ถ้าเกิดกรณีจำเป็น เช่น พ่อแม่แยกทางกัน ให้เลือกเอาระหว่างอยู่กับพ่อ กับ อยู่กับแม่ ลูกๆจะเลือกอยู่กับใคร ....เปอร์เซ็นอยู่กับแม่มากกว่าอยู่กับพ่อครับ

คุณคิดถูกแล้วครับ ที่เลือกเลี้ยงลูกด้วยตนเอง วันเวลาไปทำงานให้ยายเลี้ยงหลานก็ได้

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 11 มี.ค. 2013, 20:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เวรกรรมหรืออย่างไรที่ต้องมาตั้งครรภ์อยู่คนเดียว

ดาวบนพื้นทราย เขียน:
วันพระก็จะไปวัด เกือบทุกวันพระ



หาพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงาม ซึ่งเรามองดูแล้วสบายตาสบายใจ เป็นสุขทางใจไว้ในห้องนอนสักองค์ก็ดี

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/