ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=38606 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | นฎกร [ 17 มิ.ย. 2011, 11:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
ละครดอกส้มสีทองจบไปแล้ว ตัวละครที่ชื่อเรยา มีบางอย่างที่ช่างเหมือนกับตัวดิฉันเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว ดิฉันไม่ได้ติดตามทุกช่วงทุกตอนหรอกค่ะ เพราะเหมือนกับตอกย้ำความรู้สึกในอดีต บางอย่างที่ไม่เหมือนก็คือผู้ชายคนนั้นเขายังไม่มีลูกเมียมาก่อน แต่มาอยู่ด้วยกันแล้วไปทำเขาท้อง แล้วไปแอบจดทะเบียนกัน ด้วยความที่เขารับราชการเป็นตำรวจ ฝ่ายผู้หญิงจะดำเนินการทางวินัย หากไม่รับผิดชอบดิฉันเลยตกเป็นเมียน้อยโดยปริยาย กว่าจะรู้ก็ตอนที่จะกู้เงินคู่สมรสต้องยินยอม ความเลยแตก ตอนนั้นความแค้น เขาทั้งคู่ มันทำให้ดิฉันทำได้สารพัดอย่างเหมือนเรยาไม่มีผิด ทะเลาะกัน ตบตีกัน ชนิดที่ดิฉันยอมตาย ร้องไห้ทุกคืน เป็นเวลา6 ปี ตลอดเวลาเขาก็จะบอกกับฉันตลอดถ้าลูกโต เขาจะขออย่า เนื่องจากว่าไม่ได้รักกับผู้หญิงคนนั้น ฉันก็บอกว่าไม่เป็นไร เด็กไม่รู้เรื่องฉันไม่โทษเด็ก ยินดีให้รับผิดชอบในฐานะพ่อ แต่เขาก็พลาดเป็นครั้งที่ 2 มีลูกคนที่ 2 กับผู้หญิงคนนั้น ฉันก็เริ่มคิดแล้ว ว่าถ้าไม่ต้องการผู้หญิงคนนั้น แล้วไปยุ่งกับเขาจนมีลูกอีกคนทำไม กับฉันเขาไม่ต้องการลูกพาฉันไปทำแท้งค์ มันทำให้ความแค้นทวีคูณเป็น 10 เท่า 100 เท่า คิดว่าผู้หญิง ผู้ชายคู่นี้ คงไม่วันให้อภัยได้อีกแล้ว ไม่มีวันไหนที่มีความสุข อยู่กับความทุกข์ รู้สึกผิดต่อลูก คิดทีไรร้องไห้ทุกครั้งจนถึงทุกวันนี้ จากนั้นฉันก็เริ่มที่จะแก้แค้น ทำทุกวิถีทางในเมื่อดิฉันไม่มีความสุข คนอื่น ๆก็ไม่ต้องมีความสุข แต่สุดท้ายก็คือฉันเองที่ทุกข์ที่สุด จนทำให้ไม่อยากเจอหน้า เกลียดทั้งชาย และหญิง ทั้งพ่อแม่ของผู้หญิงคนนั้น ที่โทรมาต่อว่า ฉันขอเลิกเพราะหมดหนทางที่จะเอาคืนแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมเลิก ยังตามหาฉัน หากว่าฉันหายหน้าหายตาไป เป็นอย่างนี้สิบสิบครั้ง ดิฉันตัดสินใจหักดิบ แต่งงานกับผู้ชายที่ผึ่งรู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ คิดว่าพ่อกับแม่เราไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่งงานกับแล้วยังรักกันได้ ถึงดิฉันจะไม่รักกับผู้ชายคนนี้ แต่ไม่นานถ้าเขาเป็นคนดี ก็คงจะรักเขาเอง ตอนที่บอกเขาว่าฉันจะแต่งงาน เขาก็ตกใจ ร้องไห้กันทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คงมีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดีใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง แม่ ร้องไห้กับการตัดสินใจของดิฉัน เขาก็มากราบขอโทษแม่ ดิฉันไม่มองเขาเลยซักนิด แม่บอกว่าเขาร้องไห้ คลานมากราบเท้าแม่ การแต่งงานครั้งนี้ของดิฉันเพื่อหนีปัญหา ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเหมือนอย่างที่คิดอีก ผู้ชายคนที่ 2 นี้ หน้าตาดีมาก รูปร่างสูงใหญ่ มีแต่คนอิจฉาที่ดิฉันแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่อนิจจา! ดิฉันหนีเสือปะจระเข้ ระยะเวลาแค่ 3 เดือน พฤติกรรมไม่ดีเริ่มโพล่แล้ว ทั้งกินเหล้า เล่นการพนันเมาแล้วซ้อมดิฉัน ที่โดนซ้อมเพราะแฟนเก่าโทรมา แต่ดิฉันไม่รับสาย ไม่มีเหตุผล อยู่ด้วยกันไม่ถึง 6 เดือน มีแต่คนตามมาทวงหนี้ สุดท้ายฉันจึงขอใช้กฏหมายช่วย ขออย่า แต่ก็ไม่ยอมหย่าอีก ต้องซื้ออย่า โดยการชดใช้หนี้สินทั้งหมดที่ไปยืมมาเกือบ 2 แสนบาท แลกกับการไม่มารังควาน ตอแยกับครอบครัวของดิฉันอีก ตลอดเวลาฉันกับแม่กระเตงกันไปกระเตงกันมา กอดคอกันร้องไห้ ตอนที่ผู้ชายคนนี้มันซ้อมดิฉัน แม่ก็พลอยโดยลูกหลงไปด้วย รู้สึกสงสารแม่จับใจ รู้สึกทุกข์มาก จึงไปพึ่งวัด ถือศีล 8 5 วัน กรรมยังไม่หมด มารู้สึกประจำเดือนทำไมไม่มาซักที จึงไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ผลปรากฏว่าท้อง แม่ชีที่วัดเขาก็เตือนสติให้ธรรมะมา ตัวดิฉันเองเคยผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง ก็ไม่คิดที่จะทำร้ายลูกเป็นครั้งที่สองอีก จึงตั้งใจจะเลี้ยงลูกคนนี้ให้ดีที่สุด ตลอดเวลาผู้ชายคนแรกเขาก็โทรถามสารทุกข์สุกดิบ เป็นห่วง เป็นใยดิฉันตลอด เขาบอกว่าเขาเป็นคนผิดเองที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ ส่วนพ่อของลูกพอรู้ว่าดิฉันท้อง เขาก็กลับมาขอโอกาสแก้ตัว จะกลับตัว กลับใจ ดิฉันก็ปรึกษากับครอบครัว ก็ลองให้โอกาสเขาอีกครั้ง แต่สันดานคนเลวยังไงก็ไม่มีทางปรับปรุงตัว ซ้ำร้ายไกล้จะคลอดอีกแค่ อาทิตย์เดียวพาหญิงคนใหม่ออกหน้าออกตา ดิฉันไปเจอโดยบังเอิญ ความเลยแตก ดิฉัตามไปที่แฟลตผู้หญิงคนนั้น เขาทั้งคู่เห็นดิฉัน แต่เขากอดกันพากันเข้าห้องโดยไม่สนใจดิฉัน แค่นั้นแหละ ดิฉันตัดสินใจในเมื่อเขาอยากอยู่ด้วยกันดิฉันก็ให้ไป ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเขาขอเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนนั้น อย่ามารังควานมาตามเขาอีก ทั้ง ๆ ที่ลูกของเขาอยู่ท้องดิฉัน ดิฉันร้องไห้ในโชคชะตาของดิฉัน สงสารลูกมาก จนถึงทุกวันนี้ดิฉันอยู่กับลูกชายวัย 7 เดือน เลี้ยงเอง ดูแลเองทั้งหมด ไม่มีใครมาช่วย แม้แต่พ่อของลูกเงินบาทเดียววเขาก็ไม่มาให้ลูก ดิฉันตั้งใจจะเลี้ยงเขาให้เป็นคนดี ตั้งชื่อว่านะโม แต่ทุกวันนี้ทกข์กาย ใจก็ยังไม่หายแค้น หายโกรธผู้ชายเหล่านั้น พยายามหลายครั้งแล้ว ตอนนกลางคืนนอนกล่อมลูกก็ร้องไห้ทุกคืน พยายามหาหนังสือธรรมะมาอ่านก็ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง ไม่รู้เมื่อไหร่ ใจของดิฉันจะให้อภัยคนเหล่านั้ได้สักที ตอนท้องก็ไปลูกไปปฏิบัติธรรมด้วย อยากให้เขาเป็นคนดี ลูกชายเหมือนจะรู้ว่าแม่ลำบาก แกก็ไม่งอแง เลี้ยงง่าย แต่ยิ้มยากอยากบอกทุกคนที่มาอ่านกระทู้นี้ว่า คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงใจ จริง ๆ ค่ะ |
เจ้าของ: | นฎกร [ 17 มิ.ย. 2011, 11:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
ดิฉันรู้สึกผิดมาก ที่ทำร้ายลูกโดยการไปทำแท้ง คิดทีไรร้องไห้ทุกที ดิฉันจึงทำทุกวิธีทางที่จะให้เขาไปอยู่ที่สุขติ ทำบุญ ปฏิบัติธรรม หรือสวดมนต์ไหว้พระ จะอุทิศบุญให้เขาทั้งหมด มันคงไม่เพียงพอที่จะชดใช้ให้กับเขา บาปในใจมันติดตา ติดใจดิฉันตลอดเวลาค่ะ มีทางไหนที่ฉันพอจะทำได้อีกมั้ยค่ะ เพื่อขออโหสิกรรมกับลูก ขออนุโมทนาบุญสำหรับผู้ที่จะให้คำแนะนำดีดีสำหรับดิฉันล่วงหน้าค่ะ |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 17 มิ.ย. 2011, 13:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
![]() ครูบาอาจารย์ท่านให้ทำบุญใหญ่ ด้วยการพาตนเองเข้าประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยการ เจริญวิปัสสนา แล้วหมั่นอุทิศบุญให้กับบุตรที่เสียชีวิตไปแล้ว...ก็จะทำให้บาปนั้น เจือจางลงเปรียบเหมือนเอาน้ำจืดเติมลงไปในน้ำเค็ม...ความเค็มก็จะค่อย ๆ ลดลง สิ่งใดที่ผ่านพ้นมาแล้ว...ก็ให้ผ่านเลยไปสิ่งใดเคยผิดพลาดก็ละเว้นไม่ประพฤติอีก พิจารณาให้เห็นคุณและโทษ...จากการกระทำของเราเอง ...คุณจะเห็นได้ว่า "กรรม" นั้นเกิดจากเราเป็นผู้ประพฤติและเป็นผู้รับผลนั้นเอง.. หาใช่ผู้ใดไม่.. ![]() ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ![]() |
เจ้าของ: | I_am_free [ 18 มิ.ย. 2011, 18:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมเคยอ่านบทความของใครสักคนผมจำไม่ได้แล้ว น่าจะเป็นอาจารย์จิตวิทยาสักที่ อาจเป็นแนวฝรั่งๆ แต่ผมว่าแนวคิดเค้าก็ดี วันนี้เรามองย้อนอดีตไปสัก 10 ปีที่แล้ว เราเห็นใช่มั้ยครับ ว่าเราตัดสินใจอะไรผิดพลาดมาบ้าง อยากกลับไปแก้ไขอดีตมั้ยครับ.... ถ้าวันนั้นเราไม่สนใจเค้า ไม่ให้เบอร์โทร วันนี้เราอาจอยู่กินกับใครสักคน ถ้าวันนั้นเราตัดสินใจออกจากงานที่ทำ วันนี้เราอาจได้งานใหม่ที่ดีกว่า นั่นคือเรามองปัจจุบันไปอดีต ซึ่งมันแก้ไขไม่ได้แล้ว ทีนี้..หลังจากคุณอ่านจบ คุณลองปิดทีวี ปิดไฟในห้อง ปิดหน้าจอคอม อยู่มืดๆ เงียบๆคนเดียว ลองคิดนะครับ....คิดว่าตอนนี้คุณอายุ 70 คุณแก่มาก เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยมี แต่เมื่อถึงวันนั้น วันที่คุณอายุ 70 คุณก็จะมองย้อนอดีตอาจจะ 20 ปี หรือ 30 ปี หรือ 40 ปีที่ผ่านมา คุณก็ลองคิดว่าคุณอยากจะกลับไปเปลี่ยนอะไร สมมุติคุณอายุ 70 คุณอาจมองย้อนอดีตไปในวัยสาว ถ้าเมื่อ 40 ก่อนคุณได้เจอสามีดีๆสักคน วันนี้คุณอาจมีลูกหลานห้อมร้อม มีเพื่อนคุย ไม่เดียวดาย ถ้าคุณไม่อยากมีแฟนอยากให้ลูกอยู่ดูแลคุณ คุณก็คงคิด ถ้าเมื่อ 30 ปี ก่อนเราเลี้ยงลูกให้ดี เราดูแลแม่เราให้ลูกเห็น สอนให้เค้ารู้จักความกตัญญู วันนี้ลูกเค้าก็คงอยู่กับเรา ถ้าคุณอยากมีเงินเก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่า คุณก็อาจมองย้อนไปถึง 50 ปี ถ้าเราเริ่มทำงานใหม่ๆ เราเก็บเงินเข้าธนาคารสักเดือนละ 1000 บาท 40 ปีก่อนเกษียญ เราก็มีเงินเก็บเกือบครึ่งล้าน ่ตรรก ก็คือเราไม่สามารถเปลี่ยนอดีตได้ แต่เราสามารถคาดหวังอนาคตที่เราจะเป็นได้ ผมไม่อยากให้ จ.ข.ก.ท. สูญเสียความหวัง ล้มแล้วลุกเริ่มต้นใหม่จะทำให้จิตใจคุณเข็มแข็งกว่าเดิม ตั้งเป้าหมายเอาไว้ การดำเนินชีวิตนับแต่วันนี้คือสิ่งที่คุณคาดหวังในอนาคต อยากให้อนาคตเป็นแบบไหนก็ตั้งเป้าไปให้ถึงครับ ผมเองก็เคยผิดพลาดในชีวิต แต่การผิดพลาดครั้งนั้นผมบอกตัวเองเสมอว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย บางทีคุณอาจจะโชคดีกว่าผมเสียอีก อย่างน้อยก็ยังมีแม่ที่คอยห่วงใยคุณ ยังมีลูกที่ต้องการคุณมากกว่าใครๆ เสียใจก็เสียไปครับ เสียจนพอใจ ร้องไห้จนสะใจแล้วก็พอซะ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอให้โชคดีมีความสุขครับ |
เจ้าของ: | MarutKO [ 20 มิ.ย. 2011, 08:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | siyapat [ 20 มิ.ย. 2011, 15:35 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
ขอให้คุณอโหสิกรรมแก่บุคคลต่างๆในอดีตให้ได้นะคะ ในอนาคตลูกชายของคุณจะเป็นกำลังใจที่ดีให้คุณแน่นอน อนุโมทนาในการคิดดีค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | starfish [ 27 มิ.ย. 2011, 17:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ดูละคร แล้วย้อนดูตัวเอง |
ตะเกียงแก้ว เขียน: ในอริยมรรคมีองค์ ๘ ข้อที่ ๒ กล่าวถึงเรื่อง "สัมมาสังกัปโป" หมายถึง ความดำริชอบ ดำริที่จะออกจากของร้อน สิ่งที่ทำให้เกิดความลุ่มร้อนในจิตใจ ๑. ดำริออกจากกาม ๒. ดำริออกจากความเบียดเบียน (ไม่เบียดเบียน) ๓. ดำริออกจากความไม่พยาบาท (ไม่ผูกใจเจ็บ อาฆาตพยาบาท) ขออนุโมทนาสาธุสำหรับคำชี้แนะ ขอน้อมรับไปปฏิบัติกับตัวเองด้วยค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |