ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=38125
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  สัจจะธรรมของชีวิต [ 18 พ.ค. 2011, 20:21 ]
หัวข้อกระทู้:  ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

เจ้าของ:  จันทร์ ณ ฟ้า [ 19 พ.ค. 2011, 13:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

ถึงไม่อยู่คนเดียวก็ทุกข์แบบไม่อยู่คนเดียว
บางทีอาจจะเจ็บปวดกว่าด้วยเวลาพบกับความเปลี่ยนแปลงและพลัดพรากจากคนที่ยึด
ถ้าเราจะไปฝากใจหรือหวังพึ่งพากับคนอื่น ก็อาจจะต้องผิดหวัง
เพราะทุกคนก็ล้วนตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์เหมือนกัน

มีคนบอกว่าพวกเราทุกคนต่างก็เป็นนักเดินทาง(ในสังสารวัฏ)ที่โดดเดี่ยว
ตอนนี้ที่พึ่งที่ประเสริฐสุดคือพระรัตนตรัย
เมื่อเราฝึกฝนพัฒนาจิตใจจนเราพึ่งตัวเองได้ จนมีความอิ่มเต็มในตัวเอง
ก็ไม่ต้องให้คนอื่นหรือสิ่งอื่นมาเติมเต็มอีกต่อไป
สู้ๆนะคะ

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 19 พ.ค. 2011, 21:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

สัจจะธรรมของชีวิต เขียน:
เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

อริยมรรค ๘ มรรค แปลว่าทาง เป็นทางที่พาคนเราพ้นไปจากความทุกข์ทั้งปวงที่ผูกมัดความไม่รู้ ความทุกข์ของใจเราเอาไว้ ย่อมรรคทั้ง ๘ ลงก็เหลือเพียงศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นแสงสว่าง เป็นหนทาง พาคนส่วนใหญ่ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ให้พ้นจากความทุกข์ได้

ธรรมดาโลกนี้ ใจมันชอบเปรียบชอบเทียบ หาความพอดี ที่สุดไม่เจอหรือไม่มี นั่นเพราะว่า สิ่งใดที่เคยให้ความสุขทางกายทางใจ เมื่อได้อยู่็ก็มีแต่ความเพลิดเพลินยินดี ติดใจพอใจ อยากได้อยากมีอยากเป็น นึกถึงแต่ความสุขความพอใจทางกายทางใจนั้นยิ่งๆ ขึ้นเป็นธรรมดา

เช่นกันเมื่อสิ่งที่เคยได้เคยมีเคยเป็น กับหายไปมีแล้วหายไป หมดไปเสียไปทำลายไปจากไป นั่นย่อมทำให้ใจของคนเราหวั่นไหว ทุกข์ร้อนกินนอนไม่ได้เพราะต้องสูญเสียสิ่งที่รักที่ชอบใจพอใจไป พระท่านจึงว่า ความอาลัยอาวร ความยึดถือผูกพันของคนเรานั่นแหละนำทุกข์มาให้

เพราะว่า พระพุทธเจ้าทรงรู้ทรงเห็นแล้วอย่างแจ่มแจ้ง ว่าสิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้ มีแต่ความเสื่อมสลายความแตกทำลาย มีแต่ความแปรปรวนไม่เที่ยงแท้แน่นอนเป็นที่สุด เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พระองค์จึงนำความจริงนี้มาพร่ำสอนให้ ปุถุชนผู้ยึดถือหลงเข้าใจว่า สิ่งต่าง ๆ นั่นเที่ยงแท้แก่ตน ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นสุขสำหรับตน ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นเป็นของตนมีตนเองเป็นเจ้าของ เมื่อเกิดความสำคัญผิด ในสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ว่าเที่ยงแท้ เมื่อสำคัญผิดในสิ่งที่ล้วนเป็นทุกข์ว่าเป็นสุข เมื่อสำคัญผิดในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ว่าเป็นของ ๆ ตนเข้า

พอสิ่งต่าง ๆ ที่เคยให้ความสุขความพอใจ ถูกความจริงมีความแปรปรวน ถูกความทุกข์ ถูกความไม่ใ่ช่ตัวตนไม่ใช่เจ้าของ มาแสดงความจริงให้ปรารกฏ บุคคลที่เข้าใจยอมรับในความจริงนี้ได้ แม้หวั่นไหวอยู่ก็พอ มีแนวทางจัดการกับอารมณ์ที่ทำลาย หัวใจเจ้าของจิตเจ้าของใจนั้น บิดเบีอนหนทางของความสุขใจความพอใจ ไม่ให้ติดตันเหมือนประหนึ่งว่า หมดสิ้นหนทาง

เพราะความทุกข์ความเสียใจนั้นนั่นเองต่างหาก จะเป็นครูเป็นเพื่อนในเวลาที่ เพื่อนหรือสิ่งที่คนเราต้องการไม่ใช่ความสุข ไม่ใช่ความสนุกสนาน ไม่ใช่ความชอบความพอใจ เพราะหากว่าโลกนี้ คนเราสมหวังสมปรารถนาในทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นไม่ใช่ฐานะไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้เลยในการที่คนเราจะเห็น สัจธรรมของชีวิต นอกจากเริ่มเรียนรู้จักความจริงแท้แน่นอน ในความไม่เที่ยง ในความเป็นทุกข์ ในความไม่ใช่เจ้าของไม่ใช่ตัวตนบังคับไม่ได้ ก็หมั่นพิจารณาถึง ความแก่ในของเราของคนอื่น ความเจ็บในเราในคนอื่น ความตายในเราในคนอื่น ความพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจในเราในคนอื่น สุดท้ายพิจารณาในกรรมคือการกระทำคือเจตนาของแต่ละบุคคล เราเป็นเจ้าของผลกรรมของเราเอง คนอื่นเป็นเจ้าของผลกรรมของเขาเอง ดีก็ตามชั่วก็ตามเมื่อบุคคลทำกรรมอย่างไรไว้ กรรมนั้นๆ ของเราก็ตามของคนอื่นก็ตามจะติดตามเราด้วยติดตามผู้อื่นด้วย เป็นผลแน่นอนตายตัว

การหมั่นพิจารณาถึงความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพราก และกรรมเหล่านี้ย่อมทำให้คนเราเริ่มคืนสติ ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ เพราะทุกชีวิตเิกิดมาก็จบลงเหมือน ๆ กัน แ่ต่สุขทุกข์นั้นเป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย ตามกรรมที่ตนกระทำ อย่าปล่อยให้ความทุกข์เป็นแต่เพื่อนกิน มาเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นเพื่อนตาย คว้าสติทิ้งความเศร้าหมอง ระลึกถึงคำพระคำสอน กราบไหว้พระสวดมนต์ คว้าสติอยู่ในกายในใจ ไม่ไหลไม่เผลอ ทิ้งความเศร้าหมองทั้งความสุขที่อยากได้ ทิ้งความทุกข์ที่ดิ้นรนเอง แล้วอยู่กับธรรม ที่ปราศจากสัตว์ตัวตนบุคคล กลืนหายไปในแสงสว่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเจริญพร

รูปภาพ



Credit image by:
http://www.numsai.com/%E0%B9%80%E0%B8%A ... B8%B2.html

เจ้าของ:  ปลีกวิเวก [ 20 พ.ค. 2011, 08:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

โมทนาสาธุเจ้าค่ะท่านพุทธฏีกา :b8:

แจ่มแจ้งเข้าถึงใจเลยเจ้าค่ะ

เจ้าของ:  จันทร์ ณ ฟ้า [ 20 พ.ค. 2011, 12:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

อ้างคำพูด:
สิ่งที่คนเราต้องการไม่ใช่ความสุข ไม่ใช่ความสนุกสนาน ไม่ใช่ความชอบความพอใจ เพราะหากว่าโลกนี้ คนเราสมหวังสมปรารถนาในทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นไม่ใช่ฐานะไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้เลยในการที่คนเราจะเห็น สัจธรรมของชีวิต นอกจากเริ่มเรียนรู้จักความจริงแท้แน่นอน ในความไม่เที่ยง ในความเป็นทุกข์ ในความไม่ใช่เจ้าของไม่ใช่ตัวตนบังคับไม่ได้

:b8: อนุโมทนาค่ะท่านพุทธฏีกา

เจ้าของ:  Rosarin [ 30 มิ.ย. 2011, 17:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

สัจจะธรรมของชีวิต เขียน:
เป็นความรู้สึกที่อยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด คนที่เข้าใจความรู้สึกนั้นมากที่สุดคือตัวเราเอง
ชีวิตมันแย่ มองไม่เห็นอนาคต ไม่รู้จะเดินไปทางใหน ไม่รู้จะทำอย่างไงกับชีวิต :b7: :b7: :b7:

:b16:
...มีอะไรทุกข์เก็บไว้คนเดียวในใจล่ะคะ...เล่ามาให้เพื่อนช่วยกันแก้ไขสิคะ...
...การได้ระบายความทุกข์ออกมา...จะทำให้ความเครียดในตัวเราลดลงค่ะ...
...แบกทุกอย่างที่เห็นแล้วก็เก็บเอามาคิดๆๆ แล้วก็ทุกข์เดี๋ยวประสาทกิน จะแย่นะ...
...ลองเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ อะไรที่ผ่านไปแล้วเปลี่ยนไม่ได้ค่ะ ให้แก้ที่ปัจจุบันค่ะ...
:b13: :b13:
:b44:

เจ้าของ:  Hanako [ 03 ก.ค. 2011, 04:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

อย่าเพิ่งคิดถึงวันข้างหน้าสิคะ เราก็คิดถึงเฉพาะวันนี้เท่านั้นก่อน
เราอาจไม่มีชีวิตอยู่นานถึงเวลาที่เรากังวลก็ได้นะ

แต่ไม่ใช่ไม่ให้วางแผนชีวิต วางแผนได้แต่ความทุกข์มันเกิดเพราะเรากังวลมากไป
ถ้าใจทุกข์ถือว่าใช้ไม่ไ่ด้นะ :b1:

ทุกวันนี้ใจเราเป็นอย่างไร กิน อยู่อย่างไร คิดแค่นี้วันหนึ่งๆก็มากพอแล้วล่ะค่ะ

วันพรุ่งนี้ของคนทุกคนไม่มีใครรับรองอะไรได้อยู่แล้ว

เจ้าของ:  ณัฐพัช แสงแพ [ 08 ส.ค. 2011, 13:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ความทุกข์ที่ต้องอยู่คนเดียว

ปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องรักษา ปล่อยให้ความเคยชินเป็นกำแพงมาป้องกันตัวเรา และให้ความรู้สึกตอกย้ำความเจ็บปวด แล้วทุกอย่างจะหาย หายแบบไม่ต้องให้ใครช่วย หายเพราะตัวเราเอง เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกับครั้งนี้เราจะไม่เจ็บเหมือนครั้งนี้แล้ว

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/