ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=38038
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ดั่งกัน [ 09 พ.ค. 2011, 12:50 ]
หัวข้อกระทู้:  ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

เป็นคำพูดญาติผู้ใหญ่ของแฟนค่ะ

ครั้งแรกที่พบกัน บอกว่ากับเราว่า ให้กำลังใจกัน จริงใจต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ต่อมาพูดว่า ไม่ต้องผูกมัดกัน คนเราต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร
แล้วเราจะแกร่งดั่งเพชร ที่จริงก็ใช่ และบอกว่าไม่ต้องทำนิติกรรมใดๆต่อกัน
ไม่ต้องผูกติดกัน อีกคนล้มก็ปล่อยล้มไป เราอย่าเอาตัวไปผูก ในโลกนี้ไม่มีอะไร
เป็นของเรา ก็เข้าใจนะค่ะ และบอกอีกว่า ไม่ต้องบอกให้ชาวบ้านรู้ รู้ไปก็ใช่เห็นว่าเราดี
อยู่กันไปแบบนี้ อยากมาก็มาไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา

ขอคำแนะนำ ขอบคุณมากค่ะ

เจ้าของ:  Hanako [ 09 พ.ค. 2011, 13:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

เฮ้อ เขาคงหมายถึงไม่อยากให้เราจดทะเบียนและไม่ต้องจัดงานแต่งใช่ไหมคะแบบนี้

เจ้าของ:  tonnk [ 09 พ.ค. 2011, 19:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

ต้องตีความถึงเจตนาที่แท้จริงของเขาว่าเขาต้องการอะไร แล้วแก้ไขด้วยปัญญา


อีกทางหนึ่งก็ได้แต่ปลงสังเวชว่าแม้ว่าจะเป็นผู้ใหญ๋แล้วก็ยังมีอารมณ์จิตใจที่ไม่แน่นอนแล้วจะเอาอะไรกับเด็กๆที่ยังไม่ได้ปฏิบัติธรรม ทุกคนอยู่ภายใต้อวิชาเว้นแต่พระอริยเจ้า ถ้าเป็นปุถุชนจะมีอวิชามากหรือน้อยก็เท่านั้น เพราะฉะนั้นเราต้องขวนขวายออกจากความโง่ที่มาครองใจเราให้ได้

เจ้าของ:  ดั่งกัน [ 10 พ.ค. 2011, 10:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

ขอบคุณมากนะค่ะ สำหรับทุกท่านที่ให้คำแนะนำค่ะ
ณ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะปฏิบัติเช่นไรต่อไปค่ะ
ก็คงแล้วแต่บุญ-กรรม ที่ทำมาค่ะ ว่าจะกำหนด
ให้เป็นเช่นไรต่อไปค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

เจ้าของ:  นายฏีกาน้อย [ 15 พ.ค. 2011, 09:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

อ้างคำพูด:
ครั้งแรกที่พบกัน บอกว่ากับเราว่า ให้กำลังใจกัน จริงใจต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

เปิดฝาน้ำผึ้งก่อนครับ

อ้างคำพูด:
ต่อมาพูดว่า ไม่ต้องผูกมัดกัน คนเราต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใคร
แล้วเราจะแกร่งดั่งเพชร

ค่อย ๆ ถอดฝักของมีดออกมา

อ้างคำพูด:
และบอกว่าไม่ต้องทำนิติกรรมใดๆต่อกัน
ไม่ต้องผูกติดกัน อีกคนล้มก็ปล่อยล้มไป เราอย่าเอาตัวไปผูก ในโลกนี้ไม่มีอะไร
เป็นของเรา

ค่อย ๆ เอาน้ำผึ้งมาทาที่คมของมีดที่ดึงออกจากปลอกจากฝัก
อ้างคำพูด:
บอกอีกว่า ไม่ต้องบอกให้ชาวบ้านรู้ รู้ไปก็ใช่เห็นว่าเราดี
อยู่กันไปแบบนี้ อยากมาก็มาไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา

ชิมน้ำผึ้งหมดแล้วก็จะเอาลิ้นสัมผัสกับคมมีดครับโยม

อ้างคำพูด:
ณ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จะปฏิบัติเช่นไรต่อไปค่ะ
ก็คงแล้วแต่บุญ-กรรม ที่ทำมาค่ะ ว่าจะกำหนด
ให้เป็นเช่นไรต่อไปค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

จะปล่อยให้แล้วแต่จริงเหรอครับถ้าน้ำกำลังจะท่วม ไฟกำลังจะไหม้ มันกำลังจะ แปลว่ายัง เรายังหลีกเลี่ยงป้องกันน้ำท่วมไฟไหม้ได้ บุญกุศล บุญคือความสุขใจอิ่มใจ กุศลคือความฉลาดมีปัญญา กรรมคือเจตนา คือความรู้สึกนึกคิดปฏิกริยาท่าทีต่อสิ่งที่มากระทบเรียกว่า ๑ มโนกรรม มีทั้งบวกและลบ เรียกว่า มโนสุจริต มโนทุจริต หรือมโนกรรมนั่นเอง ๒ วจีกรรม เมื่อมโนกรรมที่เกิดขึ้น ต่อสถานการณ์ต่าง ๆ หากแฝงไปด้วยความละโมบโลภโกรธหลงเสียแล้ว สถานการณ์ทีพลักดันให้คนเราพูดจาก็จะออกมาในลักษณะปากไม่ตรงกับใจ หรือขัดแย้งกันเอง แต่หากทั้งสองฝ่ายเสมอเสมือนกัน ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน เห็นอกเห็นใจกันเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เหมือนมีดโกนอาบน้ำผึ้ง การพูดการจาต่าง ๆ ก็จะอาศัย มโนกรรมหรือใจที่ดีบ้าง ใจที่ร้ายบ้างปรุงแต่งพูดออกมา

๓ กายกรรม เมื่อมโนกรรม เกิดขึ้นต่อสถานการณ์ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ก็จะพลักดันให้คนเราเลือกกระทำ ทางกายวาจาใจ ให้เป็นไปตามอำนาจตัณหาบ้าง แรกทำทีเป็นดีหลังกับร้าย นี้ก็เพราะตัณหา หรือว่าจะเป็นไปตามอำนาจของเหตุและผล ของสติปัญญา กายวาจาใจ หรือกรรม นั้น ๆ ก็จะเป็นสิ่งที่รักษาป้องกันตนเองให้อยู่ในหนทางที่ถูกต้องทำนองคลองธรรม ไม่เบียดเบียนใคร ไม่คิดร้ายต่อใคร

ดังนั้น จะแล้วแต่บุญแต่กรรม หรือขึ้นอยู่กับความเมตตาจริงใจของอีกฝ่าย แล้วเราเป็นแต่ฝ่ายสักว่ารอรับผลของกรรมเขาว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น ที่สุด ถ้าเขาไม่ให้บุญ ให้ความทุกข์ใจ ให้ความไม่สบายใจ ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมของเขาหรือของบุคคลอื่น นั่นเราก็จะยินยอมโดยง่าย โดยไม่รอบครอบ โดยขาดสติปัญญากระนั้นหรือครับโยม ลองพิจารณาดูดี ๆ ถ้าให้เกียรติ และเสมอต้นเสมอปลาย มีอิสระทั้งกายทั้งใจ ในการแชร์สุขและทุกข์ แบ่งปันร่วมกัน คนเราต้องพี่งลมหายใจตนเอง ทำกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมด้วยตนเอง ทำสิ่งต่าง ๆด้วยตนเองอยู่แล้ว การจะมีคนรักที่เป็นกัลยาณมิตรให้ความจริงใจต่อกันจริง ๆ คงไม่ขาดความเสมอต้นเสมอปลาย และขาดความเท่าเที่ยมกันไปแต่ต้นแบบนี้ ลองพิจารณาดูนะครับ เจริญพร

ป.ล. ตามความเห็นคุณโยม Hanako ก็ใช่อยู่ทีเดียวครับ

เจ้าของ:  ดั่งกัน [ 16 พ.ค. 2011, 14:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

ขอขอบพระคุณท่านพุทธฎีกาค่ะ
ที่ให้ข้อคิดและความกระจ่างค่ะ
จะนำมาเป็นแนวทางปฎิบัติค่ะ

เจ้าของ:  ปลีกวิเวก [ 17 พ.ค. 2011, 12:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

อนุโมทนาสาธุกับคำตอบท่านพุทธฏีกาเจ้าค่ะ tongue

ตอบได้ชัดเจนมากเจ้าค่ะ ในเรื่องของกรรม
พุทธศาสนิกชนจำนวนมากไม่เข้าใจเรื่องกรรม
ทำให้วางใจและวางท่าทีต่อเรื่องของกฏแห่งกรรมได้ไม่ถูกตรง
จึงมักมีคำพูดติดปากกันว่า "สุดแล้วแต่เวรแต่กรรม"
แต่จะมีสักกี่คนที่คิดจะแก้ไขกรรมของตนเองด้วยความเห็นที่ถูกตรง :b41:

ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม :b8:

เจ้าของ:  Rosarin [ 30 มิ.ย. 2011, 16:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ

rolleyes
:b12:
...ถ้าเป็นแฟนแบบกำลังคบหาดูใจกันก็ดูแลเอาใจใส่กันและอาจจะทำตามที่ญาติแฟนบอกก็ได้อ่ะนะ...
...แต่ถ้าจะตกลงปลงใจอยู่หอร่วมห้องคงต้องมีพิธีการถูกทั้งจารีตประเพณีและจดทะเบียนสมรสด้วย...
...คนเรามีพ่อมีแม่ท่านเลี้ยงเรามาเลี้ยงคนยากยิ่ง...เราก็ต้องให้เกียรติกับพ่อแม่ที่อบรมเลี้ยงดูมาด้วย...
...ถ้าผู้ชายคนที่เป็นแฟนเรารักเราจริงและมั่นคงไม่เอาเปรียบเราก็ต้องรู้ว่ากระดาษแผ่นเดียวนั้นสำคัญ...
:b4: :b4:
:b16:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/