อ้างคำพูด: ?ไม่เข้าใจเค่ะว่าทำไมตั้งเกิดมาคบเพื่อถึงเจอแต่คนนิสัยไม่ดีตลอดค่ะ โดยเฉพาะคนปัจจุปัน เขาทำเหมือนหนูไม่มีตัวนไม่มีความสำคัญ ชอบตวาด ชอบด่าแรง๐ ไม่เคยสนใจใจความรู้สึก ทั้งที่ก็พยายามทำดีแล้วทุกอย่างไม่เคยเถียง ว่า หรือโต้ตอบ แต่กับเพื่อนคนอื่นเขากลับพูดดี
ก่ิอนอื่น ขอให้หนูทราบว่า ไม่มีเรื่องอะไรเกิดเองลอยๆโดยปราศจากเหตุ ไม่มีความบังเอิญในโลก..จากที่เล่ามาข้างบน หนูจะเห็นว่าเพื่อนคนนี้พูดไม่ดีกับเรา แต่กับคนอื่นเขากลับพูดดีด้วย อะไรทำให้แตกต่างเช่นนี้เล่า?...
ตอบว่า อย่างหนึ่งคือเรื่อง"กรรม"ของหนูเองที่เคยทำไว้ในอดีต เพื่อผลเช่นนี้ กล่าวคือ เป็นผู้เคยล่วงมิจฉาวาจามาก่อนมีการด่าว่าตวาดคนอื่นมาเมื่อทำเหตุเช่นนี้ไว้ ผลที่ได้ก็ย่อมตรงกับเหตุ จึงต้องมาพบเจอคนที่ใช้คำหยาบด่าตวาดเราเช่นนี้ กรรมย่อมมีความเที่ยงตรงยุติธรรมเสมอ..เป็นความลงตัวที่ใครๆไม่อาจปฏิเสธได้ ..
เมื่อทราบเช่นนี้ ก็พึงอภัยให้เพื่อนคนนี้ผู้กำลังทำบาปกรรม เพื่อให้ไปได้สภาพการณ์อย่างที่หนูกำลังประสบอยู่นี้ในภายภาคหน้าต่อไป เขาจะได้รับทุกข์แสนสาหัสไม่ต่างจากหนูเลยในตอนนั้น..
เมื่อทราบว่าเขามีนิสัยเป็นพาลเช่นนี้ ก็พึงหลีกเลี่ยงเสีย ไม่พึงคบหรือเสพส้องด้วย เพราะจะพาเราให้เสียหายไปด้วย กล่าวคือ ย่อมยังใจเราให้เข้าถึงความทุกข์โทมนัสเพราะวาจาของเขา ใจย่อมเสียหายเพราะมีโทสะกลุ้มรุม กลายเป็นบาปใหม่ หากเกิดต่อเนื่องย่อมมีโทษมากอาจทำให้กลายเป็นโรคเครียด ซึมเศร้าได้...นอกจากนั้น หากคบไปนานๆ เราเองอาจเห็นดีไปกับนิสัยพาลเช่นนั้น ย่อมเข้าถึงการใช้วาจาชั่วอย่างเขา..นี้ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่สวัสดีเลย..
พระพุทธองค์จึงทรงตรัสสอนว่า"การไม่คบคนพาล ย่อมเป็นมงคล" ดังนี้..
ขอให้ยุติความทุกข์เดือดร้อนใจเสีย อย่าได้ใส่ใจในคำพูดของคนพาลเลย เราไม่ได้ทุกข์เพราะบาปของคนอื่น..เราจะทุกข์ได้ก็เพราะบาปกรรมของเราเท่านั้น เราจะทุกข์ได้ก็เพราะบาปกรรมของเราเท่านั้น..เพราะสัตว์ทั้งหลาย "ย่อมมีกรรมเป็นของเฉพาะตน" ไม่มีใครทำกรรมแทนใครได้..
เราพึงรู้ประโยชน์และโทษของการเสพส้องกับเพื่อน อันใดที่เห็นว่าเป็นไปเพื่อทุกข์โทษก็เลิกละผละออกอันใดเป็นเรื่องควรลึกซึ้งหรือไม่ก็ดูที่ประโยชน์ของเรื่องนั้นๆ พิจารณาไม่ออกก็พึงปรึกษาพ่อแม่หรือเข้ามาถามลุงป้าน้าอาในนี้ เขาย่อมผ่านประสบการณ์มาพอที่จะแนะนำกันได้ครับ..   
|
