วันเวลาปัจจุบัน 26 เม.ย. 2024, 21:02  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ก.ค. 2010, 16:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2005, 08:15
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันได้ไปฏิบัติธรรมที่วัดยานนาวา เมื่อวันที่ 24-26 กรกฎาคม มาค่ะ ดีมากเลยค่ะ
คิดว่าจะไปอีกครั้งค่ะ กำลังดูช่วงเวลาว่าติดงานอะไรหรือเปล่่า เพราะช่วงนี้งานที่บริษัทจะเยอะมาก
อยากไปอยู่คะ ขอเล่าเรื่องการไปปฏิบัติมาน่ะค่ะ
ตอนแรกที่ไป ยอมรับน่ะคะว่าจะไม่ไหว เพราะสิ่งที่ดิฉันกลัวคือความง่วงนอน (เป็นคนนอนกรนด้วย ถ้านอนหลับสนิท) ที่วัดยานนาวาดีมากเลยค่ะ จะให้ปฏิบัติอย่างเดียวจริง ๆ คือ ลงทะเบียน 7-9 โมงเช้า จะได้รับบัตรชื่อ ซึ่งนามสกุลจะงดพูดทุกคน แล้วจะแจกถ้วยน้ำดื่มพร้อมน้ำดื่มมาให้ คือให้เราใช้ถ้วยน้ำจนจบหลักสูตรปฏิบัติ ก็จะมีชื่อติดอยู่หน้าห้องนอนว่าใครนอนห้องไหน (ใครมากันเพื่อน หรือแม่ลูก จะแยกห้องนอน) พอเวลา 9 โมงเช้า จะนำเข้าปฏิบัติที่ห้องเลย (ห้องแอร์) โดยเดินจงกรมและนั่งสมาธิ แบบยุบหนอพองหนอ ส่วนช่วงเย็นจะนิมนต์พระท่านมาเทศน์ หรือไม่ก็ให้ดูวีดีโอ สอนเรื่องธรรมะ
ซึ่งวันที่ 2 ดิฉันเริ่มเบื่อเพราะเดินจงกรมมาก และดิฉันนอนไม่หลับ (เรียกว่าไม่ได้นอนเลย) มา 2 คืน พอเดินจะเซมาก ต้องออกไปล้างหน้า แล้วกลับมาเดินต่อ ก็ดีขึ้น ที่นี่เขาจะให้ใช้สติ เมื่อนั่งสมาธิ แล้วเกิดความคิด หรือฟุ้งซ่าน ให้ใช้สติไปจับความคิดตรงนั้น ก็ทำได้น่ะคะ ดีค่ะ แต่นั่งไม่ค่อยได้นาน เพราะจะเจอมารมาคือ ความง่วง และความคิด จะเข้ามาตลอด
แต่สุดท้าย ดิฉันก็ผ่านมาได้จนจบครบโครงการเลย มีความสุขมาก และได้นำกลับไปปฏิบัติต่อที่บ้าน
ก็เจอมารเหมือนกัน คือ ความง่วง แต่ก็กำหนดเวลาน่ะคะ คือ 15 นาที และเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อย ๆ
แต่มีข้อสงสัยค่ะ คือ
เวลารีดผ้า อาบน้ำ หรือเวลาเดินกลับบ้าน และสายตาก็สอดส่องไปดูนั้นดูนี่ และเดินด้วย ควรกำหนดอย่างไรค่ะ เพื่อให้สติกลับมาค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ
:b19: :b20: :b8:

.....................................................
ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2010, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กำหนดอันที่ชัดที่สุดค่ะ

อนุโมทนานะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2010, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2010, 14:19
โพสต์: 55

แนวปฏิบัติ: พุทโธ,ดูจิต
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: แอน
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ จขกท. ค่ะ คุณเยี่ยมมาก ยกนิ้วให้เลยนะ อ่านทีแรกสงสารคุณมาก เข้าใจเลย แต่พออ่านไป ๆ คุณเป็นคนฉลาด ฉลาดคิด และปฏิบัติในแนวทางที่ถูก ขอให้คุณตั้งมั่นอยู่ในความดีนี้ไปตลอด และหมั่นฝึกปฏิบัติสมาธิทุกวัน วิธีที่ได้ผลในเวลาเรามีเรื่องทุกข์ใจคือ การวิปัสนากรรมฐานค่ะ เราเจอกับตัว ปฏิบัติมาแล้วได้ผล วิธีการวิปัสนากรรมฐาน เป็นการตามดู ตามรู้ความคิดตัวเอง ตามดูไปเรื่อย ๆ ใจเราคิดอะไร เราก็แค่ดูไป ไม่ต้องไปปรุงแต่งอะไร ใช้สติดู อะไรเกิดดูมัน มันดับเอง เวลาเราทุกข์วิธีนี้ช่วยได้มากค่ะ
ขอให้คุณเจริญในธรรมนะคะ
อีกนิด ที่บ้านเราก็หาว่าเรางมงายค่ะ ป๊าม้าชอบว่าเราอย่าไปงมงายมาก เวลาเราปฏิบัติ เราก็แอบไปนั่งในห้องคนเดียวค่ะ

เรื่องดวงเวลาทุกข์อย่าเข้าหาหมอดู แต่ให้เข้าหาธรรมเป็นทางเดินที่นำไปสู่ความเจริญ

การนั่งสมาธิหลักใหญ่ ๆ ที่เรารู้มา มี 2 แบบนะคะ คือ การจดจ่่ออยู่สิ่งเดียวแล้วท่องพุธโะ อันนี้ทำใ้้้ห้ใจสงบชั่วขณะที่นั่ง อีกแบบคือ การวิปัสนากรรมฐานค่ะ วิธีนี้ช่วยให้เราคลายทุกข์ได้ดีทีเดียวค่ะ เป็นการตามดู ตามรู้ มองความทุกข์ไปเรื่อย ๆ เกิดขึ้น ดับไป ใจไม่เข้าไปปรุงแต่งตัวทุกข์ต่อค่ะ ลองดูนะคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
tongue tongue tongue :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: tongue tongue tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2010, 10:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ก.ค. 2010, 14:19
โพสต์: 55

แนวปฏิบัติ: พุทโธ,ดูจิต
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: แอน
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อก่อนเรานั่งสมาธิก็ง่วงนอนนะ แต่พอมาพักหลัง ๆ ไม่ค่อยง่วงแล้ว สาเหตุน่าจะมากจากเรากินน้อยลงกว่าแต่ก่อนมากค่ะ
พระท่านว่าให้เรากินเพื่ออยู่ อิอิ
tongue tongue tongue :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: tongue tongue tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2010, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2005, 08:15
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณ Sindyann

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำและกำลังใจที่มอบให้ ดิฉันก็พยายามกินน้อย พูดน้อย ค่ะ แต่ก็ยังมีมารคือความง่วงมารบกวนตลอด ก็นั่งสมาธิทุกวัน (แต่เดินจงกรม ค่อนข้างลำบาก เพราะบริเวณที่จำกัด ส่วนใหญ่นั่งสมาธิเลย) บางครั้งก็ฟัง cd ธรรมะ หรือฟังธรรมะการนั่งสมาธิ ก็พอได้อยู่คะ แต่ยังไม่เป็นที่พอใจเท่าไร

ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ว่าทุกวันก่อนนอนจะนั่งสมาธิ แล้วสงบบ้างไม่สงบบ้าง จะทำให้เกิดอุปนิสัยติดตัวหรือเปล่า เช่น พอนั่้งปรับ ใจสงบแล้ว เรื่องฟุ้งซ่านมาทันที ก็กำหนดคิดหนอ แต่กว่าจะได้ก็ใช้เวลาพอควร ทุกครั้งหลังนั่งสมาธิ จะแผ่เมตตา ให้ตัวเอง และผู้อื่น พร้อมกับบทกรวดน้ำ แต่ในใจยังรู้สึกว่าที่บางครั้งเราไม่สงบเลย มัวแต่กำหนด แล้วแผ่เมตตา เขาจะได้รับหรือนี่

แต่ดิฉันจะพยายามต่อไปค่ะ นี่ก็กะว่าจะไปวัดยานนาวาอีกรอบค่ะ เช็คแล้วบอกว่าเต็มค่ะ แต่ก็ภาวนาไว้ขอให้ได้เข้าไปปฏิบัติอีกครั้งค่ะ

ยินดีที่รู้จักค่ะ
นะโม :b18: :b28:

.....................................................
ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์


แก้ไขล่าสุดโดย นะโมพุทธายะ เมื่อ 02 ส.ค. 2010, 14:45, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2010, 00:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


การปฏิบัติธรรม มิได้ทำให้เราคิดน้อยลงไป
แต่ทำให้รู้ว่ากำลังคิด กำลังเศร้า กำลังเมื่อย กำลังร้อน ฯลฯ
พูดง่ายๆว่ารู้ปัจจุบันมากขึ้น สติเกิด ปัญญาก็จะตามมาค่ะ

อนุโมทนานะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2010, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เชื่อเรื่องกรรม....แต่อย่าเชื่อเรื่องดวง
คุณแก้ทางชีวิตของคุณได้ถูกต้องแล้ว...และเดินทางเข้าหาธรรมที่เป็นของสงบ เย็น ว่าง อันจะสามารถปล่อย วาง ของหนัก ออกจากอก
....แต่อย่างว่า..เมื่อจะถึงความสงบ..จะถึงธรรม มากเท่าไหร่...อันจะต้องมีมารมาผจญ นิวรณ์ความง่วงเหงาหาวนอน เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น อย่าเพิ่งท้อก่อนหล่ะ แม้พระพุทธเจ้าเองก่อนจะตรัสรู้ ก็ยังต้องมีมารแปลงตัวเป็นหญิงมายั่วต่างๆนาๆ
....อันนี้จะต้องหาวิธีปราบมารพวกนี้ให้ได้..โดยการฟังธรรมในเวลาว่างมากขึ้น..สลับกับการปฏิบัติ..จะนั่ง..จะเดินจงกรม..ยืน-นอน แล้วแต่ความถนัดและถูกจริตกับเราเอง...และอินทรีย์เราแก่กล้าขึ้น..ความวิริยะ..ศรัทธา..มาพร้อมกัน สมดุลย์กัน อันนั้นแหละจะเกิดกำลังใจ ในการปฏิบัติได้ดีขึ้น สะสมหน่วยกิจของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ..แล้วปัญญาก็มาเอง..บางครั้งไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดไปที่วัด...แต่หากที่บ้านมีสถานที่..ห้องพระ อื่นๆที่สงบสงัดแล้ว สามารถปฏิบัติด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องได้ทุกวันครับ
ขอเจริญในธรรม :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย ศรีสมบัติ เมื่อ 05 ส.ค. 2010, 11:06, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2010, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2005, 08:15
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณศรีสมบัติ ยินดีที่ได้รู้จัก

ดิฉันคิดว่าดิฉันคิดถูกแล้วค่ะที่มีปัญหาแล้วมาถามในกระทู้นี้ ทุกคนให้ัคำแนะนำและความเห็นที่ดี ๆ เยอะมากค่ะ
เมื่อวันก่อน ดิฉันสนใจที่จะนั่งสมาธิให้ดียิ่งขึ้น ก็พยายามหาข้อมูลในเว๊ปธรรมะต่าง ๆ ก็ไปเจอวิธีการเดินจงกรมและนั่งสมาธิที่ดิฉันไปปฏิบัติมา และได้ขอหนังสือวิธีปฏิบัติมา และมีคนแนะนำให้หายใจเข้าที่ตรงลิ้นปี่ ดิฉันก็งง ลองหายใจเข้า และกลั้นหายใจสักพัก แล้วหายออกมา ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันทำผิดหรือไม่เข้าใจ พอทำแล้ว เกิดความรู้สึกว่าไม่มีสมาธิเลย และนอนไม่หลับด้วย เป็นเพราะดิฉันรับข้อมูลมากแล้วสับสนใช่ไหมค่ะ เท่าที่ได้รับคำแนะนำบอกว่าถ้ามีอาการโกรธ คิดมาก หรือฟุ้งซ่าน ให้กำหนดลมหายใจเข้าที่ลิ้นปี่ แล้วบอกว่า โกรธหนอ แล้วหายใจออก ไม่รู้ว่าดิฉันหลงทางอยู่หรือเปล่า

ขอคำแนะนำผู้รู้ด้วยค่ะ ถ้าเราคิดมาก กำลังโกรธ หรือสับสน หงุดหงิด ควรบริกรรมว่าอย่างไร และกำหนดลมหายใจไว้ที่ตรงไหนค่ะ

tongue :b8:

.....................................................
ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 06:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


นะโมพุทธายะ เขียน:
เท่าที่ได้รับคำแนะนำบอกว่าถ้ามีอาการโกรธ คิดมาก หรือฟุ้งซ่าน ให้กำหนดลมหายใจเข้าที่ลิ้นปี่ แล้วบอกว่า โกรธหนอ แล้วหาย

ขอคำแนะนำผู้รู้ด้วยค่ะ ถ้าเราคิดมาก กำลังโกรธ หรือสับสน หงุดหงิด ควรบริกรรมว่าอย่างไร และกำหนดลมหายใจไว้ที่ตรงไหนค่ะ

tongue :b8:


ขออนุญาต (อาจารย์) และท่านผู้รู้
ตอบคำถามนี้ตามความเข้าใจของทักทาย หากไม่ถูกต้อง
เรียนเชิญทุกท่าน พิจารณาทักท้วง และแก้ไขได้ค่ะ :b8:

คิดว่าคุณนะโมฯ คงอ่านข้อความแล้วสับสน
ที่บอกว่าให้หายใจเข้าตรงลิ้นปี คงหมายถึงว่าให้กำหนดจิตปักลงที่ลิ้นปี่
หากฟุ้งมากๆ หรือเปล่าค่ะ? ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้บรรเทาความฟุ้ง

การดูลมหายใจ คือดูสภาพตามความเป็นจริงว่าหายใจเข้าไปถึงลิ้นปี่
หายใจออกผ่านปลายจมูก ไม่ต้องตามเข้าไป หรือตามออกมา ให้ระลึกรู้
กับลมหายใจเข้าออก มิใช่ตาม ระลึกรู้ว่าเข้าแค่ไหน ออกแค่ไหน
ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเบ่ง ไม่ต้องกลั้น รู้ตามจริง

หากอะไรชัดกว่าให้กำหนดสิ่งนั้น เช่นคิดชัดกว่ากลมหายใจก็กำหนด
คิดหนอๆ หรือโกรธหนอ ร้อนหนอ เสียงหนอ อย่างเดียว
น้อมจิตไปรู้ที่ตรงนั้นที่เดียว ให้ละลมหายใจหรืออารมณ์อย่างอื่นลง
ชั่วขณะก่อน(หมายถึงว่าวางลง ไม่ต้องรับรู้) พออาการที่กำหนดคลายไป
ค่อยกลับมาที่ลมหายใจต่อ


อ้างคำพูด:
ขอคำแนะนำผู้รู้ด้วยค่ะ ถ้าเราคิดมาก กำลังโกรธ หรือสับสน หงุดหงิด
ควรบริกรรมว่าอย่างไร และกำหนดลมหายใจไว้ที่ตรงไหนค่ะ


คิดกำหนดว่าคิด โกรธกำหนดว่าโกรธ หงุดหงิด
กำหนดหงุดหงิดหนอ กำหนดทุกอย่างตามความจริงที่กำลังเป็นอยู่
ไม่ว่าจะเสียง กลิ่น สัมผัส(ร้อน หนาว เจ็บ ปวด) กำหนดไปตามนั้น
จนกว่าอาการต่างๆจะหายไป หรือเบาลงไปแล้วอย่างอื่นเด่นชัดขึ้นมา
ก็กำหนดอันที่เด่นชัดกว่าต่อไป

หากคุณนะโมฯ มีอาจารย์ที่สอนกรรมฐานอยู่แล้ว ให้ถือคำแนะนำ
ของอาจารย์เป็นหลักมีอะไรสงสัยให้ถามท่าน ส่วนตำรา หรือคำแนะนำ
ต่างๆ ทั้งหลายให้ใช้ประกอบ ไม่ควรถือเป็นหลัก
หลักการปฏิบัติ แต่ละครู แต่ละอาจารย์ หรือผู้รู้แต่ละท่าน จะมีหลัการคล้ายกัน
แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด หากคุณอ่านจากหนังสือหลายๆเล่ม ถามคนหลายๆคน
อาจทำให้สับสน เหมือนคนไข้หลายหมอ ให้ยาหลายขนาน พอดีพอร้ายจะเมายา
เสียก่อนที่จะหายไข้

รู้ในตำรา ไม่สู้ปฏิบัติด้วยตัวเอง ปฏิบัติไปเรื่อยๆ อย่าคาดหวัง อย่า "อยาก"
เมื่อเกิดความสงบ สติจะมา ปัญญาจะตาม คำถามต่างๆเราก็จะรู้ได้ด้วยตัวเอง

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แก้ไขล่าสุดโดย ทักทาย เมื่อ 07 ส.ค. 2010, 10:32, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 13:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณ นะโมพุทธายะ
....แหมชื่อที่ตั้งนี่เป็นอะไรที่เป็นมงคล และเป็นมนต์ คาถา จริงๆ อย่าลืมชื่อนี้หล่ะ สามารถนำมาบริกรรม...นะโมพุทโธ...นะโมพุทธายะ....พร้อมกับช่วงจังหวะหายใจเข้า-ออก เป็นจังหวะๆ ขอรับ บริกรรมเรื่อยๆ สัก ๒๐-๓๐ นาที อันนี้จะเป็นจะได้สมาธิไม่มากก็น้อยครับ.. :b8: :b16:
....ขอให้กำลังใจในการค้นคว้า...ใฝ่หาความรู้ ธรรม อันจะได้นำมาปฏิบัติ...ต่อสู้กับนิวรณ์ทั้งหลายที่มารบกวน...ฝ่าฟันไปให้ได้ธรรมละเอียดยิ่งๆขึ้นไปครับ
....ขอให้อย่าต้องการ...อยากจะได้อย่างนั้นอย่างนี้...อยากจะสงบเร็วๆ...อย่างนี้มันเป็นกิเลส..ความอยาก...ต้องค่อยๆ เป็นค่อยไปครับ...ปล่อยใจให้ว่างจริงๆ ถ้าจะอยากให้ได้สมาธิหรือสงบเร็วๆ ดูเหมือนมันก็ยิ่งเร่งยิ่งบีบตัวเรา ทำให้การปฏิบัติไม่เป็นสมาธิหรือแทบไม่ได้อะไรเลย
.....เอาใหม่ครับ ถนัดอันไหน..อาจารย์ใด ตำราใด ก็เอาอย่างนั้นครับ..อย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจะสับสนเปล่าๆ เอาให้มันถูกกับจริตเรานี่แหละ...เอาไว้วันหลังจะเข้ามาเยี่ยมใหม่ครับ
...ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2010, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2005, 08:15
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณทักทาย และสวัสดีค่ะคุณศรีสมบัติ
ขอบพระคุณค่ะสำหรับความเห็นค่ะ

การดูลมหายใจ คือดูสภาพตามความเป็นจริงว่าหายใจเข้าไปถึงลิ้นปี่
หายใจออกผ่านปลายจมูก ไม่ต้องตามเข้าไป หรือตามออกมา ให้ระลึกรู้
กับลมหายใจเข้าออก มิใช่ตาม ระลึกรู้ว่าเข้าแค่ไหน ออกแค่ไหน
ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเบ่ง ไม่ต้องกลั้น รู้ตามจริง


เป็นไปตามที่คุณทักทายให้คำแนะนำเลยค่ะ ดิฉันจะรู้สึกเกร็งและบังคับความรู้สึก เช่น พอหายใจเข้าแล้วไปสะกดให้อยู่ตรงลิ้นปี่ พอทำอย่างนั้น มันก็เลยเกร็ง และเหมือนบังคับลมหายใจ เลยทำให้อึดอัด และรู้สึกว่าเราต้องทำผิดแน่ ๆ เพราะไม่สบายและเบื่อว่าทำไมทำไม่ได้

พอได้รับคำแนะนำว่าจะต้องนำความรู้สึกว่าตอนนี้เราหายใจเข้าไปอยู่ตรงลิ้นปี่แล้วน่ะ แล้วค่อย ๆ หายใจออก ช่วงนี้ 2 วันนี้ ดิฉันไม่ได้นั่งสมาธิเลย เพราะยุ่งมาก และพอมีเวลานั่้งทำไมง่วงมาก และพยายามกำหนดว่าง่วงหนอ หรือไปเดิน กลับมานั่ง ก็ไม่สงบและง่วง เลยตัดสินใจนอนเลย พอหัวถึงหมอนปั๊ป หลับเลย นี่แปลว่าดิฉัีนแพ้มารแล้ว แต่ไม่เป็นไร ดิฉันจะนั่งสมาธิทุกวัน ไม่ได้บ้างได้บ้างก็จะนั่้ง คิดว่าสักวันหนึ่ง ดิฉันจะต้องทำได้ค่ะ

คำแนะนำของคุณศรีสมบัติ ก็พูดถูกค่ะ ดิฉันไม่ควรนำข้อมูลที่ได้จากหนังสือหลายเล่ม ๆ มารวมกัน เพราะทำให้ดิฉันสับสน และทุกวันนี้ ดิฉันลดความอยากได้มากแล้วค่ะ และรู้สึกว่าตัวเองจะควบคุมอารมณ์หงุดหงิดและโกรธได้เยอะแล้วค่ะ แต่ยังไม่ทั้งหมดค่ะ จะพยายามต่อไปค่ะ

หากดิฉันมีปัญหาเรื่องการปฏิบัติธรรมอีก จะขอรบกวนท่านทั้งหลายน่ะคะ

ขอบพระคุณค่ะ

ปล. ถ้าดิฉันจะโหลดเสียงธรรมะที่เป็น MP3 ลงในกระทู้ ต้องทำอย่างไรค่ะ
:b20: :b29: :b32: :b17: :b16: :b19:

.....................................................
ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ส.ค. 2010, 08:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


เป็นอย่างไรบ้างค่ะคุณนะโมฯ
การปฏิบัติไปถึงไหนแล้ว เล่าสู่กันฟังบ้างได้ไหม?
แวะมาเยี่ยมค่ะ :b12:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ส.ค. 2010, 16:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 ส.ค. 2005, 08:15
โพสต์: 47

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะ คุณทักทาย
ที่ไม่ได้ตอบกระทู้ เพราะเป็นเรื่องเดิม ๆ คือจิตตกค่ะ เผอิญไปฟังพี่สะใภ้พูดถึงเรื่องของดิฉัน (นาน ๆ จะเจอกันที เพราะอยู่คนละบ้าน) พี่สะใภ้ถามพี่ชายดิฉันว่า นึกว่าดิฉันเลิกกับสามีไปแล้ว เขาก็แนะนำว่าทำไมถึงทนอยู่ ทำอย่างกับตัวเราเองเป็นเมียเก็บ ศักดิ์ศรีเราไปไหน เมียน้อยมีบ้านมีลูก ยังไง ๆ สามีก็ต้องเห็นเขาสำคัญอยู่แล้ว และอย่าคิดว่าเด็๋ก ๆ จะเลี้ยงดูเรา ดิฉันบอกพี่สะใภ้ไปว่า บั้นปลายชึวิตดิฉันจะไปบวชชี เขาก็ตำหนิว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ดิฉันก็นิ่ง ๆ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิเขาน่ะคะ เพราะรู้ว่าเขาหวังดีกับเรา แต่ที่ดิฉันจิตตกเป็นเพราะไปยึดคำว่า ศักดิ์ศรี ทำให้คิดมาก และทำให้ดิฉันเป็นคนกระด้างกับสามี เพราะใจคิดอยากจะเลิกอย่างเดียว ก็คุยกับสามีอีกว่าทำไมไม่ไปอยู่้บ้านเมียน้อยเลยล่ะ ขออยู่คนเดียวได้ไหม เขาก็หาเหตุผลว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ทุกวันนี้ก็อยู่กันแบบเพื่อน และเขาก็พยายามเป็นกลางให้มากที่สุด เขาหาว่าดิฉันคิดแต่ตัวเอง เพราะเวลาเลยมานานมาก ทำไมไม่คิดว่าเราจะทำทุกวันให้มีความสุขได้มากที่สุด

ดิฉันรู้สึกแย่มาก ๆ เลยไปคิดถึงคำพูดของคนอื่นแล้วเรากลับเป็นทุกข์ ดิฉันใช้วิธีหาหนังสือธรรมะมาอ่าน ดีขึ้นค่ะ เป็นจริงอย่างที่ทุก ๆ ท่านให้คำแนะนำ ไม่มีอะไรยั่งยืน และแน่นอน พออีกวันดิฉันก็ทำใจปกติได้ เหมือนเดิมคือทำใจปกติ คิดว่าเราจะเป็นทุกข์ไปเพื่ออะไร และถ้าเราคิดกับคนอื่นดี แต่เขาปฏิบัติกับเราไม่ดี ก็เป็นกรรมของเขา เราทำดีก็พอแล้ว ใครจะว่าเราโง่หรือใจดีเกินไป ก็ช่าง เพราะคิดว่าเป็นกรรม รีบชดใช้กรรม จะได้ไม่ต้องมาเจอะเจออีก ดิฉันบอกสามีไปว่าขอโทษและขออโหสิกรรมน่ะ ที่ทำไปด้วย กาย วาจา และใจ เขาก็รับทราบ (จริง ๆ สามีก็เป็นคนธรรมะธรรมโมน่ะ ฟัง cd ธรรมะบ่อย ๆ เขาก็คงไม่อยากเป็นแบบนี้ เป็นเพราะกรรม เขาเคยบอกดิฉันว่าเขาเห็นใจดิฉัน ถ้าเลือกได้ก็จะอยู่กับดิฉัน แต่ไปมีลูกกับเขา จะทิ้งก็ไม่ได้ เขาบอกว่าทุกวันนี้ที่ต้องเอาใจใส่เด็ก ๆ ก็เพราะเมื่อมีเขาแล้วก็ต้องดูแล ส่วนเมียน้อยเขาบอกว่าเฉย ๆ จะอยู่ด้วยก็ได้ ไม่อยู่ด้วยก็ได้ ไม่รู้พูดมาจากใจจริงหรือเปล่า)

ทุกวันนี้ ดิฉันจะนั่งสมาธิทุกวัน น้อยบ้างมากบ้าง สงบบ้างไม่สงบบ้าง ก็นั่งไป และแผ่เมตตาให้ ดิฉันจะพยายามปฏิบัติสมาธิให้ได้ เพื่อความสงบและหมดกรรมเร็ว ๆ ดิฉันจะไปปฏิบัติธรรมต่อที่วัดยานนาวาค่ะ ประมาณเดือนตุลาคม ถ้าปฏิบัติแล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกน่ะคะ

tongue

.....................................................
ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2010, 01:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คำโบราณเขาว่าไว้ว่า "ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า"
เพราะทำให้ทุกข์อย่างนี้แหละค่ะ ศักดิ์ศรีของคนเราอยู่ที่ความดี
มิใช่อยู่ที่ การยอมหรือไม่ยอม มีมากมายที่ตายไปพร้อมกับศักดิ์ศรี
ที่คิดว่าจะรักษาไว้....แต่หาความดีติดตัวไปได้สักนิดไม่มีเลย :b8:

ปฏิบัติไปเรื่อยๆ อย่าทิ้งนะค่ะ แล้วสักวันหนึ่ง แม้ไม่อยากที่จะจากกัน
ก็ต้องได้จากกันอยู่ดี เราไม่มีวันจะอยู่กันอย่างนี้ไปได้ตลอดหรอกค่ะ
อนุโมทนาค่ะ

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร