วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 07:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 14:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2008, 16:32
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


รบกวนพี่ๆในบอร์ด ช่วยให้ดิฉันพ้นจากสภาพแบบนี้ทีค่ะ
เรื่องมันเกี่ยวกับ " แม่สามี กับ ลูกสะใภ้ " ซึ่งก็คือดิฉันเอง
คือดิฉันแต่งงานมาก็นานแล้ว แต่ยังไม่มีลูก เพราะไม่อยากมี ส่วนแม่สามีก็ดี แต่หวงลูกชายมากค่ะ แล้วระหว่างดิฉันกับแม่สามีก็ไม่ค่อย happy กันเท่าไหร่ (แบบลึกๆน่ะค่ะ ต่างคนต่างรู้)

ตอนนี้สามีดิฉันเค้าเริ่มมีฐานะดีแล้ว ส่วนพ่อสามีได้เสียไปแล้วไม่นานมาก ทำให้แม่เค้าเริ่มออกอาการมากขึ้น แต่ก็ดีอย่างทีดิฉันแต่งงานแล้วย้ายไปอยู่ที่ต่างจังหวัด อีกไม่นานแม่สามีคงเกษียณแล้ว คงต้องยุ่งกันน่าดู
เรื่องที่ดิฉันกลุ้มใจก็คือ ความคิดของดิฉันเองที่ทำให้ตัวเองไม่มีความสุข คือไม่อยากให้แม่สามีมายุ่งวุ่นวายน่ะค่ะ เค้าจะพยายามเข้ามาในครอบครัวมากขึ้น พาเพื่อนมาที่บ้านบ่อยๆ แล้วถ้าเกษียณแล้วคงได้มาค้างอ้างแรมแบบมาทีนานนนเลยหล่ะค่ะ ดิฉันอยากทำใจได้ แต่มันก็ยาก ยิ่งตอนนี้เค้าใกล้เกษียณสามีดิฉันเตรียมพาเที่ยวเต็มที่ ทำให้ดิฉันเป็นทุกข์ใจ คือไม่อยากจะเป็นอย่างนี้

พี่ๆน้องๆในบอร์ด ช่วยดิฉันหน่อย ดิฉันไม่อยากมีความทุกข์ในเรื่องนี้อีกแล้วน่ะค่ะ :b2:

ขอบคุณค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 21:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณ Poo
ก่อนอื่นอยากให้คุณเปิดใจให้กว้างๆ ปัญหายังไม่เกิดคุณก็คิดและกังวลไปต่างๆนาๆ คุณแม่สามีอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้คะ คนแ่ก่แล้วยิ่งไม่มีสามีอยู่เคียงข้างแล้วด้วยก็เหมือนคนเดียวดายความหวังก็เลยตกมาอยู่ที่ลูกชาย ก็คือสามีของคุณ อยากให้คุณเปิดใจและเข้าใจความรู้สึกของท่านนะคะ เราทำใจยอมรับความจริงว่าสักวัน (ถ้าแม่สามีมาอยู่ที่บ้านจริงๆ อาจมาเที่ยวพักค้างนานๆแบบที่คุณว่า) คุณก็ลองทำกับท่านเสมือนท่านเป็นแม่ของเราจริงๆซิคะ แล้วความรู้สึกไม่ชอบหรือไม่อยากจะให้ท่านมา ก็จะไม่เกิดขึ้นเลยคะ เราเชื่อว่าถ้าเราทำดี คุณแม่สามีก็ต้องเห็นความดีและความจริงใจที่เรามีให้ท่านคะ ปัญหาระหว่างแม่สามีกับลูกสะไภ้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นนะคะ อีกอย่างถ้าเราทำดีและปฏิบัติดีกับคุณแม่สามี สามีของเราก็จะยิ่งเห็น และยิ่งรักเรามากขึ้นอีก (ได้สองเด้งเลยนะคะ) ลองดูคะ อย่าทำเป็นฝืนความรู้สึกนะคะ ทำด้วยใจ และรักด้วยใจคะ เปลี่ยนความคิดที่ไม่ดีจากใจเราก่อนที่ทั้งแม่สามีและตัวสามีของคุณจะรู้ความรู้สึกของเรานะคะ จะทำใหเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ คะ เป็นกำลังใจให้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 23:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


โจทย์ยังไม่มีแล้วจะหาคำตอบได้อย่างไร?

ทำใจใหสบายก่อน แล้วค่อยกลุ้มที่หลังดีกว่านะค่ะ :b12:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2010, 23:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 มิ.ย. 2010, 12:05
โพสต์: 282

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ปุถุชนทุกคนล้วนมีอวิชชา(ความไม่รู้)เหมือนๆกัน
มีกิเลสเหมือนๆกัน
ย่อมมีสิทธิทำอะไรกระทบตัวตนของคนอื่นได้เหมือนๆกัน
คุณจขกท.คงรู้ข้อนี้แล้ว แต่คุณแม่สามีอาจยังไม่รู้
เรารู้มากกว่าท่านควรให้อภัยท่าน
ถือโอกาสนี้บำเพ็ญขันติบารมี และเมตตาบารมีนะคะ

มองในแง่ดี คุณจขกท.มีครูสอนธรรมะอยู่ใกล้ตัว
เพราะอารมณ์ที่เกิดแรงๆ ทำให้เราสามารถรู้สึกตัวได้ชัด
ซึ่งเอามาเป็นแบบฝึกหัดในการเรียนรู้สภาวะได้เป็นอย่างดี

การที่เอาความคิดไม่ดีมาทำร้ายตัวเองซ้ำๆ
เป็นการสั่งสมอกุศลกรรมให้จิต อันตรายมากนะคะ
เพราะกรรมที่ทำเป็นประจำทุกวันๆสำคัญมาก
จะถูกบันทึกข้อมูลลงไปในจิตอย่างเที่ยงตรง
และให้ผลรวบยอดในจิตดวงสุดท้าย
ถ้ามีโทสะบ่อยๆ ผู้รู้ท่านว่ารูปในภพใหม่จะเป็นภพของสัตว์นรกหรืออสุรกายนะคะ
มันไม่คุ้มกันเลยค่ะ

พี่ๆเพื่อนๆก็คงได้แต่ช่วยบอกทาง
อยู่ที่คุณจขกท.ว่าอยากจะเดินออกมาจากทุกข์นั้นเองหรือเปล่า
ปลดปล่อยใจตัวเองจากกรงขังที่ไม่เคยมีอยู่จริงเถอะนะคะ


ข้างล่างนี้ คัดมาจากหนังสือ รักแท้มีจริง ของคุณดังตฤณค่ะ

คุณคาดหวังได้ว่าจะอยู่กินกับคนรักเพียง2คน แต่อย่าคาดหวังว่าจะไม่ต้องข้องเกี่ยวใดๆเลย
กับญาติพี่น้องของคนรัก

ทุกคนมีฐานของความรู้สึกในชีวิต ซึ่งดั้งเดิมจะอยู่กับผู้ให้กำเนิด ญาติผู้ใหญ่ ญาติพี่น้อง
ความเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ทำให้มนุษย์รู้สึกว่าตนมีที่มาที่ไป

เมื่อจะมีคู่ชีวิต ฐานของความรู้สึกในชีวิตอาจแตกต่างไปบ้าง
คล้ายขาข้างหนึ่งก้าวออกมาเหยียบยืนอยู่บนฐานใหม่ที่สร้างเอง
แต่ขาอีกข้างของคนส่วนใหญ่ ยังคงต้องปักหลักอยู่บนฐานเดิมที่พ่อแม่ให้มาอยู่ดี
จะเต็มเท้าหรือแค่แตะไว้หน่อยเดียวก็ตาม

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าแค่แคร์ความรู้สึกของคนรักก็น่าจะพอแล้ว
คนอื่นๆแม้ไม่เอาใจใส่มาก ก็ไม่น่าจะถือว่าบกพร่อง
แต่ขอให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ถ้าพ่อแม่พี่น้องมาบอกว่าคนรักของคุณดูถูกพวกเขา ไม่ให้เกียรติ พูดจาไม่ดีกับพวกเขา
คุณจะรู้สึกอย่างไร

.....................................................
อย่ามัวเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา อย่าปล่อยให้ชราแล้วตายไปเปล่า อย่ามัวแต่ตำหนิตนเองหรือผู้อื่นอยู่ คิดอยู่เสมอว่าจะพัฒนาจิตใจตน และทำประโยชน์ให้ผู้อื่นอย่างไร แล้วเร่งกระทำทันที อย่ามัวรีรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 12:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2010, 14:41
โพสต์: 154

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณจขกท.คะ คุณมีสามีที่ดีมาก สามีคุณรักและดูแลคุณแม่เขาดีมาก(ดูจากที่เขา
เตรียมตัวพาคุณแม่ไปเที่ยว) อยากให้คุณปรับใจใหม่ มองในแง่ดี สามีที่ดีของคุณเนี่ย
ก็ไม่ใช่แม่เขาเหรอที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอน จนมาเป็นสามีที่ดีของคุณในวันนี้
เป็นธรรมดาที่แม่ย่อมหวงลูกเป็นธรรมดา ถ้าท่านมาค้างด้วยก็ขอให้คุณดูแลท่านให้ดี
เหมือนพ่อแม่เราเอง ยอมๆท่านหน่อยนะคะ คนแก่จะได้มีความสุข
ครอบครัวของคุณจะได้มีความสุข แล้วคุณจะมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ม.ค. 2010, 21:56
โพสต์: 92

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำตัวน่ารักไปวัน ๆ
สิ่งที่ชื่นชอบ: คู่มือสะกดใจคน - เดวิด เจ.ไลเบอร์แมน
ชื่อเล่น: นุช
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


cool สวัสดีคร๊า

เปิดใจให้กว้าง ๆ รักเขาต้องรักครอบครัวเขาด้วย ถ้ารักแต่ลูกไม่เอาแม่ ถือว่าเป็นคนใจแคบมาก ๆ
เป็นธรรมดา แม่สามี ลูกสะใภ้ ย่อมมีเรื่องราวไม่ลงรอยกันบ้าง คิดซะว่าแม่เขา... ก็เหมือนแม่เรา อีกอย่าง ท่านก็แก่แล้ว ท่านจะอยู่กับลูกชายได้อีกนานซักเท่าไหร่ ..

มองในมุมกลับกัน ถ้าคุณประพฤติปฏิบัติกับแม่ตัวเองแบบสามีคุณ .. แต่ดันรู้ว่า ลึก ๆ ในใจ สามีคุณไม่ชอบเอาซะเลย คุณคิดอย่างไรกับความคิดแบบนี้ ลองคิดดูค่ะ ...

บางครอบครัว ทำไมน๊า..แม่สามีถึงรักลูกสะใภ้เหลือเกิน บางครอบครัวรักมากกว่าลูกตัวเองซะอีก
สะใภ้เหล่านั้น ทำไมถึงได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม ลองหาคำตอบจากความคิดของตัวเองดูนะคะ... !!

เรื่องสำคัญ แม่สามี ยังไม่ทันมาอยู่กับคุณเลย จะทุกข์ล่วงหน้าไปทำไม ....ไม่เข้าใจ



.....................................................
กฏเหล็กข้อแรกสุด ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 13:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คือดิฉันแต่งงานมาก็นานแล้ว แต่ยังไม่มีลูก เพราะไม่อยากมี ส่วนแม่สามีก็ดี แต่หวงลูกชายมากค่ะ แล้วระหว่างดิฉันกับแม่สามีก็ไม่ค่อย happy กันเท่าไหร่ (แบบลึกๆน่ะค่ะ ต่างคนต่างรู้)


เรื่องยังไม่เกิดแต่ก็วิตกล่วงหน้าไปเสียแล้ว เป็นเพราะเราตั้งแง่รังเกียจไว้ก่อนแล้วเลยเดือดร้อนคาดหมายไปถึงผลที่จะเกิด.. คราวนี้ก็ปรุงเรื่องทีี่สร้างความไม่สบายใจให้อยู่เรื่อยๆและก็แปลกที่ยิ่งไม่ชอบก็ยิ่งคิดถึงบ่อยๆคล้ายกับไม่อยากให้ตนเองได้มีความสงบสุขเลย..

ที่จริงอะไรๆมันก็ไม่แน่นอนหรอกว่าจะเกิดสิ่งที่กังวล ใครจะรู้ว่่าเราหรือเขาและใครๆจะยังหายใจกันอยู่แม้ในนาทีข้างหน้า...

จากข้อความข้างบนนี้ แสดงว่าแม่สามีก็มีข้อ"ดี"อยู่แต่มีข้อเสียคือหวงลูกชาย......ก็ดูเถิดว่า แม้จะมีข้อดีอยู่แต่ทำไมเรามองข้ามไป กลับเห็นสิ่งที่คิดว่าไม่ดีเด่นกว่า?!..ถ้าแม่หวงลูกจริงคงขัดขวางลูกไม่ให้มีภรรยาตั้งแต่แรกแล้วกระมัง ..

เรื่องที่แม่หวงลูกชายนั้นเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่หวงแล้วแสดงออกอย่างไร นี้จึงต้องพิจารณาความเหมาะควร บางรายเพราะมากด้วยตัณหาก็วุ่นวายจัดการกับชีวิตลูกที่อายุเกิน๑๘ไปแล้วจนหาความสงบไม่ได้ทั้งแก่ตนและคนรอบข้าง เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นมากมาย ..ในทางกลับกัน ในบางกรณี ภรรยาก็หวงสามีจนไม่ดูดำดูดีว่าเขาก็มี"หน้าที่"โดยธรรมที่จะกระทำอุปการะดูแลพ่อแม่ของตน จึงไม่ปรารถนาแม้การที่สามีจะได้โอกาสกระทำิ่สิ่งมงคลคือการตอบแทนคุณท่านเป็นต้น..

เรื่องนี้ ว่ากันที่จริงก็จำเป็นต้องปรับเข้าหากันทั้งหมด ไม่ว่าใคร แต่เพราะเจ้าตัณหาและมานะถือดีนั้น ต่างคนก็มีกันจนเต็มล้น ข้อที่จะปรับให้ลดลงจนพอดีจึงยากมากถึงยากที่สุดทีเดียว..อย่างไรก็ดี เพราะเราเป็นผู้มีบุญได้เกิดมาเป็นคน ย่อมมีปัญญาสามารถคิดถึงบาปบุญคุณโทษได้ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าแม้การที่เขาตั้งข้อรังเกียจเรา หรือมีอาการไม่ชอบมาพากลแก่เรานั้น มิได้เกิดเพราะหวงลูกชายแต่อย่างเดียวเท่านั้นหรอก นี้เป็นเพียง"เหตุใกล้"ในปัจจุบันเท่านั้น แต่มี"เหตุไกล"อันตนเคยทำมาแล้ว ในอดีต อาจเป็นชาติที่แล้วหรือเมื่อร้อยชาติก่อน คือการมีจิตชิงชังรังเกียจผู้อื่นในลักษณะคล้ายๆกันกับที่ตนต้องประสบจากแม่สามีนั่นแหละกำลังนำผลมาส่งให้ได้เสวยอยู่ ความทุกข์และคับแค้นใจจึงได้ปรากฏในบัดนี้..ก็การทำเหตุเสียมาเช่นนั้น เราเท่านั้นต้องรับผล จึงต้องยอมรับในเรื่องของ"กรรม"นี้ก่อน เมื่อยอมรับได้ก็สามารถวางใจให้ถูกต้องต่อไปว่า หากเราทำเหตุเสีย มีการกีดกันตั้งข้อรังเกียจแม่สามีเช่นนี้ เราจะได้รับความสุขความเจริญอะไรได้ แม้ในปัจจุบันก็ต้องรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ แล้วภพต่อๆไป จะได้รับวิบากที่เป็นสุขหรือ?..แม่สามีก็มีทุกข์ของเขาที่ต้องแก้ หากเขาไม่เคยสดับพระธรรมมาเลยการที่จะเเก้ไขตนเองก็ย่อมยากเย็น เราหรือใครๆก็แก้ไขให้ไม่ได้ แต่เราเองที่ต้องแก้ไขตนเองด้วยการปรับใจเสียใหม่ ให้เป็นไปในกุศลแทนที่จะหมักหมมเอาโทสะมานะมาเก็บไว้เผาลนตนเอง.ก็พึงกระทำเมตตาและกรุณาแก่เขาแทน...นี้จึงจะเป็นการตั้งหลักที่ดีต่อไป

ดังนั้นพึงตั้งใจใหม่ว่าเราจะสนับสนุนให้สามีของเราได้ทำมงคลแก่ชีวิตด้วยการตอบแทนคุณแม่ แม้เราอาจไม่สามารถร่วมในกิจกรรมเหล่านั้นทั้งหมด ก็ขอกระทำความยินดีอนุโมทนาสาธุการไปกับเขา..ก็จะไม่เข้าขัดขวางกีดกัน ไม่พยายามชักจูงสามีให้เข้าใจแม่ในทางที่ผิด หากมีเรื่องขัดข้องใจเกินกว่าที่จะยอมรับก็พึงคุยกับสามีด้วยเหตุผลที่ถูกตรงตามเป็นจริง ไม่ต่อยไข่ใส่ความจนเกินเลย และมั่นคงที่จะสนับสนุนสามีในทุกทาง ที่จะให้เขาได้ตอบแทนคุณแม่..แม้เขาจะละเลย ก็พึงกระตุ้นเตือน อย่าได้เพิกเฉยหรือยินดี..

การกระทำบางอย่างแสนจะยากเย็นเพราะต้านกับกิเลสมานะของตนยิ่งนัก แต่ใครที่สามารถเอาชนะตนเองได้ย่อมสามารถชนะสิ่งทั้งปวงประดามีในโลกได้เช่นกัน..

ขอให้มีความสุข พ้นความคับข้องใจด้วยปัญญาครับ :b46: :b47: :b48:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 14:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 16:34
โพสต์: 1050

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทำยังไงได้ล่ะครับ..ก็ได้ลูกชายเขามาเป็นสามีแล้วนี่..คิดจะหลีกหนีเขาไปไหน พ้น. :b13: ..เขายีงมีชีวิต :b12: จะมาเยี่ยมลูกชาย-ลูกสะใภ้บ้าง มันเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา
ส่วนเรื่องที่จะเจอหน้า...เกิด อายตนะ..ผัสสะ..มากระทบจะเป็นอารมณ์ใดก็แล้วแต่..อ่อนน้อมเข้าไว้ครับ..สำรวม กาย วาจา ใจ..อ่อนน้อม ถ่อมตน เสมอ..นั่นล่ะครับสะใภ้(ธรรม) :b8:
ขอเจริญในธรรม :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 มิ.ย. 2010, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 13:22
โพสต์: 176

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ,ฟังธรรมะ
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่กับปัจจุบัน

 ข้อมูลส่วนตัว


พ่อแม่สามี/ พ่อตาแม่ยาย ก็ เปรียบเสมือนพ่อและแม่ ของเราเอง
เราจึงควรรักเคารพท่านเหมือนที่รักและเคารพพ่อแม่ของเราเอง
เพราะว่าไม่ว่าจะคิดและทำอะไร กับพ่อแม่สามี ถ้าคิดไม่ดี ก็จะบาปเท่ากับทำกับพ่อแม่ของเรา
จากบทความ ของ แม่ชี ทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม

ลองใช้ความดีซิคะ ทำความดี กับท่าน ดูแลเอาใจใส่เหมือนกับแม่เราเอง
รับรองอคติที่เคยมีอยู่ในใจท่าน ก็จะเบาบางลงได้เองแหละคะ
ทำอะไรก็แล้วแต่ ย่อมแพ้ในการทำความดีคะ

แม่ใคร ใครก็รัก แม่เราเอง เรายังรักเลยคะ
ลูกใคร ใครก็รักก็ห่วงเป็นธรรมดาคะ
คุณเองคุณก็รักแม่คุณเองเช่นกัน
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดู
อย่ามองอะไรเพียงด้านเดียวคะ
มองทุกสิ่งทุกอย่างหลายๆมุม
มองโลกกว้างๆ แล้วคุณจะเห็นสิ่งดีๆอีกเยอะคะ
แล้วอคติในใจคุณก็จะลดลงเช่นกัน
ชีวิตคนเราไม่ได้ยืนยาวสักเท่าไรหรอกคะ
ขอเพียงแค่ทำทุกวันให้มีความสุข ก็พอคะ

.....................................................
เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นไปได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 70 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร