ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ทำอย่างไรจึงจะได้แฟนคืนกลับมา โดยไม่ก่อบาป http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=31042 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | roojakrak [ 23 เม.ย. 2010, 08:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | ทำอย่างไรจึงจะได้แฟนคืนกลับมา โดยไม่ก่อบาป |
จากวาทะดังตฤณ ฉบับรู้จักรัก ถาม – แฟนดิฉันเคยชวนให้มั่นใจว่าเราเป็นคู่แท้แต่ปางก่อนพูดอย่างโน้นพูดอย่างนี้จนกระทั่งดิฉันปักใจเชื่อตามกัน และยอมให้เขาทุกอย่างแต่ในที่สุดหลังจากคบกันมาระยะหนึ่งเขาก็จะขอแยกจากไป ดิฉันรักเขามากอยากได้เป็นคู่ชีวิตจริงๆ จะมีวิธีทำบุญแบบใดไปดลใจให้เขากลับมาหาเราได้ไหมคะ? __________________ ผมว่าทำบุญอธิษฐานขอให้ตาสว่างเถอะครับ เวลาโดนความพิศวาสครอบงำเราจะนึกว่านี่แหละใช่ที่สุด รักเขาไม่มีทางถอน ฉะนั้นความลุ่มหลงพิศวาสจึงเปรียบเหมือนเมฆหมอกมืดมัว ทำให้เราไม่สามารถเห็นถนัดว่าเขาดีเลวอย่างไร ต่อเมื่อมีแสงสว่างฉายสาดมาชำแรกเมฆหมอกจึงสลายตัวไป เปิดให้เห็นทัศนวิสัยปกติ ซึ่งคุณอาจรู้สึกไปอีกแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง ที่สุดแล้วเขาคือคนแปลกหน้าคนหนึ่งดีตรงไหน เลวประมาณใด คุ้มหรือไม่คุ้มกับการเสียเวลาลงทุนลงแรงให้ หากทำบุญแล้วคิดอยากให้เขากลับมา ก็เหมือนใช้บุญแทนเสน่ห์ยาแฝดอันนั้นแหละจะยิ่งผูกจิตของคุณให้แนบกับความหลงอย่างแน่นหนา ในที่สุดจะแก้ยากเข้าไปอีกครับ เพราะบุญเปรียบเหมือนยา หรืออาหารบำรุงกำลังคุณกินเข้าไปก็เพิ่มเรี่ยวแรงทุกครั้ง แต่หากตั้งเข็มไว้ผิด แทนที่จะใช้กำลังวังชาหาทางออกจากป่า กลับวิ่งหลงเข้าป่ารก คุณก็จะพบความทึบตันหนักขึ้นเรื่อย ๆ คราวนี้พอหมดกำลังงานจากยาอาหารก็จอดสนิทเลยครับ กระดุกกระดิกออกจากป่าไม่ไหวแน่แล้ว เรื่องภพ ๆ ชาติ ๆ นี้นะครับ พอเราโดนใครกล่อม แล้วยอมร่วมสะกดจิตตัวเองไปกับเขาเฝ้าบอกตัวเองย้ำ ๆ อยู่ทุกวัน ว่าเราเป็นคู่แท้ เป็นเนื้อคู่ เป็นคู่บุญที่ร่วมกันมาหอบหิ้วกันมานับชาติไม่ถ้วน ในที่สุดจะเกิดพลังโมหะบีบให้ปักใจเชื่อตามนั้น เป็นจริงเป็นจัง แล้วคนเราพอหลงยึดหลงเชื่อด้วยอำนาจความพิศวาสก็ยากมากที่จะปล่อยวางลงด้วยอำนาจปัญญา การจะเชื่อว่าใครเป็นคู่ของเราจริง ๆ หรือเปล่า ก็น่าจะถามตัวเองได้ครับว่า โดยรวมทั้งหมดการคบหากันระหว่างเรากับเขาเป็นสุข หรือเป็นทุกข์ และที่สำคัญคือคบแล้วชวนกันมีจิตเป็นบุญหรือเป็นบาปโดยมากเพราะถ้าเคยร่วมบุญกันมาจริงบุญเก่าย่อมนำคู่บุญมาต่อยอดความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปไม่ใช่เพื่อให้ฝ่ายหนึ่งแหนงหน่าย และอีกฝ่ายหนึ่งทนทุกข์อยู่อย่างเดียวดาย หากอยู่กับเขา เพื่อเป็นสุขในเชิงกามแป๊บ ๆ แล้ว โดนเบื่อไม่เกิดความเจริญก้าวหน้าอันเป็นบุญกุศล ไม่มีความสว่างทางจิตเอาเลยก็ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาไม่ใช่ ‘คู่บุญ’หรอกครับ แค่เป็นคู่เวรที่ตามมาเอาคืนมากกว่าการถามว่าใช่เนื้อคู่หรือไม่นั้น รังแต่จะทำให้สับสน และไม่ยอมรับความจริงประสบการณ์เทือกนี้ น่าจะชวนให้คุณเห็นเสียทีครับว่า ปุถุชนคนหนึ่งพูดอะไรอย่างที่ใจอยาก ไม่ได้พูดอย่างที่ใจรู้ ตอนเขาอยากได้เราเขาก็บอกว่าคงเคยร่วมพนมมือต่อหน้าเจดีย์ทอง อธิษฐานขอเป็นคู่ชีวิตร่วมกันไปทุกภพทุกชาติ แต่ตอนโกรธกัน หรือเวลาเขาอยากจากไป ก็อาจหาว่าเราเคยจงเกลียดจงชัง สาปแช่ง และขอผูกเวรกันต่อหน้าจอมปลวก ขอจองล้างจองผลาญเป็นคู่อาฆาตไปชั่วกัปชั่วกัลป์ นี่แหละ อำนาจความไม่รู้ของมนุษย์ ผลักดันให้พูดอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ความเชื่อเรื่องผูกใจข้ามภพข้ามชาติ กลายเป็นเพียงเครื่องมือสนองราคะ หรือโทสะเป็นคราว ๆ เท่านั้นภพชาติ และกรรมสัมพันธ์ถึงได้เป็นเรื่องฟั่นเฝือเห็นจริงเห็นเท็จคละกันมั่วไปหมด สำหรับการทำบุญเพื่อให้ตาสว่าง ผมขอแนะแนวทางง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง คุณแค่ไปนั่งหน้าพระปฏิมาที่ไหนสักแห่ง ในบ้านหรือที่วัดก็ได้พนมมือแล้วคิดในใจ หรือเอ่ยปากเปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำ อ้างความจริงอันประเสริฐ เช่น พระพุทธเจ้าทรงทำลายความหลงผิดได้เด็ดขาดแล้ว ทรงเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นพระอรหันต์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมด้วยความเลื่อมใสและขออำนาจความเลื่อมใสนี้ จงเป็นแสงสว่างทำให้ข้าพระพุทธเจ้าตาสว่างในทุกเรื่องที่ยังหลงผิดมัวเมาอยู่ด้วยเถิด เอาประมาณนี้ หรือจำคำสำคัญ ๆ ด้วยความเข้าใจไว้ก็พอครับนั่นคือ พระพุทธเจ้าไม่ทรงหลงผิดแล้ว เมื่อเราเลื่อมใสในท่านก็ย่อมเกิดโสมนัสขึ้นมาปรุงแต่งจิตเป็นมหากุศลชั่วขณะหนึ่ง มหากุศลจิตมีความสามารถซึมซับพลังของผู้ที่คุณศรัทธา หมายความว่าเมื่อคุณศรัทธาพระปัญญาของพระพุทธเจ้า ก็เท่ากับได้ส่วนแห่งแสงปัญญาของท่านมาฟรี ๆ ยิ่งถ้าอธิษฐานแบบจำเพาะเจาะจงสำทับลงไปว่าขอให้เลิกหลงเลิกงมงายอะไรผิด ๆ ในที่สุดก็ต้องได้ผลตามแรงอธิษฐาน พระพุทธคุณเป็นของไม่มีโทษ ตื่นเช้า และก่อนนอนลอง ‘ทำบุญ’ ตามวิธีที่ผมว่านี้ขอรับรองผลภายในสามวัน เจ็ดวันครับ อย่างช้าวันที่เจ็ดความงมงายในรักจะคลายฤทธิ์ หรือถึงขั้นหมดพิษสงลงสนิท คุณจะตื่นเช้าขึ้นมาด้วยจิตใจที่โปร่งโล่ง หูตาสว่าง และถามตัวเองว่าที่ผ่านมาทำไมต้องไปมัวหลงเขาไม่เลิกคำตอบก็คือ เพราะอำนาจมนต์ดำแห่งความพิศวาสเสื่อมลงแล้ว แจกฟรี! CD ที่จะช่วยให้คุณพ้นจากทุกข์ที่เกิดจากความรัก ดูรายละเอียดได้ในห้องธรรมทาน viewtopic.php?f=20&t=31040 |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 24 เม.ย. 2010, 07:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ทำอย่างไรจึงจะได้แฟนคืนกลับมา โดยไม่ก่อบาป |
อนุโมทนา สาธุค่ะ ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |