| ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
| อยากรู้ความหมายค่ะ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=30112 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | ที่รัก [ 18 มี.ค. 2010, 09:29 ] |
| หัวข้อกระทู้: | อยากรู้ความหมายค่ะ |
อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี ภิกษุเล่าไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม อยากจะรู้ความหมายของแต่ละประโยคค่ะ ช่วยอธิบายให้ด้วยนะค่ะ |
|
| เจ้าของ: | yodchaw [ 18 มี.ค. 2010, 10:46 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ความหมายค่ะ |
ที่รัก เขียน: อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี ภิกษุเล่าไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม อยากจะรู้ความหมายของแต่ละประโยคค่ะ ช่วยอธิบายให้ด้วยนะค่ะ ศีลคือความเป็นปรกติ กาย วาจา ใจ ที่ไม่เบียดเบียน ก่อทุกข์ก่อโทษต่อตนเองและคนอื่น และที่ไม่ปรกติไปเบียดเบียนก่อทุกข์โทษ ตัวเองคนและอื่นเรียกว่าผิดศีล ในที่นี้ไม่ขอขยายความมากไว้ให้ท่านอื่น นำเรื่องนี้ไปขยายต่อ แต่มีข้อที่สำคัญในเรื่องนี้คือเมื่อรู้เรื่องศีล เข้าใจแล้ว อย่าไปยึดสำคัญตนเป็นผู้มีศีลมาก หรือบริสุทธิ์ แล้วมองคนอื่นเป็นผู้ไม่มีศีล ด้อยกว่าตัวเอง เพราะมันจะไม่เป็นศีลที่ใจเราเองมันกลายเป็นทิฐิมานะ และสีลัพพตปรามาส |
|
| เจ้าของ: | หลวงจีนงมงาย [ 18 มี.ค. 2010, 11:04 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ความหมายค่ะ |
ความหมายภาษาบาลีนะ ภาษาไทยคงเข้าใจแล้ว สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ สีลํ ยาว ชรา สาธุ สีลํ โลเก อนุตฺตรํ งมงาย |
|
| เจ้าของ: | ningnong [ 18 มี.ค. 2010, 19:52 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ความหมายค่ะ |
สวัสดีครับ คุณที่รัก ขอเข้ามาร่วมตอบกระทู้ด้วยครับ อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี ภิกษุเล่าไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม อันที่จริงแล้ว ความหมายก็ตรงในตัวอยู่แล้ว ขอขยายให้นิดหน่อยครับ สตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย.........คนโบราณให้ความงามของสตรีดังนี้ครับ รูปสวย รวยทรัพย์ นับวิชา มารยาท ชาติผู้ดี และมีศีลธรรม ข้อที่สำคัญสุดขาดไม่ได้เลยคือ มีศีลธรรม กล่าวกันว่าหากมีคุณสมบัติครบทุกข้อแต่ไม่มีศีลธรรมก็จะเป็นคนสวยคนงามไปไม่ได้ เพราะศีล ทำให้งาม ศีลเป็นเครื่องรักษากาย วาจา ใจ ให้ไปสู่ทิศทางที่ดีงาม สตรีที่มีศีลจึง ทำให้สวยงาม ทั้งกาย วาจา ใจ ครับ บุรุษไม่มีศีลก็สิ้นศรี......... คำว่าศรี ในที่นี้คือ สิริมงคล ความรุ่งเรือง ความงาม ความเจริญ บุรุษไม่มีศีล จึงไม่มีความเจริญ ขาดความรุ่งเรืองในชีวิต เพราะศีลจัดว่าเป็นวินัยของชีวิต เป็นธรรมชาติที่รวบรวม กาย วาจา ใจ ให้เป็นปรกติ ศีลจึงจัดเป็นแก้วสารพัดนึก ทำให้ได้สมบัติทั้งปวง บุรุษที่ไม่มีศีลจึงเอาดีไม่ได้ครับ ภิกษุไม่มีศีลก็สิ้นดี.........อันนี้ยิ่งตรง เพราะภิกษุสงฆ์ต้องรักษาศีลถึง ๒๒๗ ข้อ ตามพระปาฏิโมกข์ เป็นบุคคลที่เป็นเยี่ยงอย่าง ถ้าภิกษุไม่มีศีล ก็จะมีดีไม่ได้อย่างแน่นอน ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม.........ก็ทำนองเดียวกัน ข้าราชการโดยหน้าที่แล้ว ให้คุณให้โทษกับบุคคลทั่วไปได้ จึงต้องมีศีล เป็นสติกั้นกระแสกิเลส ไม่ให้ทำชั่ว ทั้งทางกาย วาจา และใจ หากไม่มีศีลก็เป็นคนดีไปไม่ได้ครับ ศีลจัดว่าเป็นสมบัติภายใน ถ้าหากว่าบุคคลที่มีศีลดีแล้ว สมบัติภายนอกก็จะหลั่งใหลมาเอง ศีลทำให้กาย วาจา ใจ มีมารยาทที่งดงาม มีจิตใจสงบเยือกเย็น จัดเป็นบุญกิริยาวัตถุอีกประการหนึ่ง อันเป็นบารมีให้ได้บำเพ็ญความดีอื่น ๆ ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนถึงพระนิพพานในที่สุด เอาแค่นี้นะครับ แต่พอสังเขป คงเข้าใจความหมายได้ดีขึ้น เจริญในธรรมครับ
|
|
| เจ้าของ: | ที่รัก [ 19 มี.ค. 2010, 08:28 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ความหมายค่ะ |
ขอบคุณนะค่ะ
|
|
| เจ้าของ: | chulapinan [ 19 มี.ค. 2010, 23:54 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อยากรู้ความหมายค่ะ |
อ้างคำพูด: อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย - ศีลบริสุทธิ์นั้นจะมีได้ก็เมื่อใจสวยค่ะ ใจสวยจะมีได้ก็คือพรหมวิหาร เมื่อใจมีพรหมวิหารแล้วย่อมไม่ผิดศีลแล้วไม่ก่อความเดือดร้อน ความสวยมาจากใจที่เบิกบาน โอวาทปาฏิโมกข์ ใจเบิกบานย่อมสวยค่ะอ้างคำพูด: บุรุษด้วย ไม่มีศีลก็สิ้นศรี - แบบเดียวกับสตรีนั่นแหละค่ะ แค่บุรุษยึดเอาศักดิ์ศรีสตรีเอาความงาม อ้างคำพูด: ภิกษุเล่าไม่มีศีลก็สิ้นดี - เลวมากเลยล่ะค่ะไม่ใช่แค่สิ้นดี ภิกษุมีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่คือสืบทอดศาสนา เมื่อหมดศีลซะแล้วก็กิเลสทั้งนั้นที่จะครอบงำทำศาสนาเสื่อม อ้างคำพูด: ข้าราชการศีลไม่มีก็เลวทราม - เห็นแก่ตัวนั่นแหละค่ะ คนมีศีลย่อมไม่ก่อความเดือดร้อน ข้าราชการไม่ควรทำให้ประชาชนเดือดร้อน ถ้าไม่มีศีลในใจซะแล้วความเดือดร้อนมาเยือนแน่ค่ะ
|
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|