วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 16:21  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 19:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 19:26
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
รู้สึกทุกข์ใจมาก
เรื่องเพราะว่าหากมีจิตใจรักชอบกับใครคนหนึ่งแต่เพิ่งไม่นาน
แต่ต่อมาทราบว่าเขาแต่งงานแล้ว
เราเองพอรู้ก็ตัดสินใจได้แน่ว่าไม่ขอรู้จักแบบแฟนอีก
อยากเป็นแค่พี่หรือเพื่อนก็พอ
แต่ใจส่วนลึกนี่สิ ไม่สามารถทำตามได้เลย ยังคงรูสึกอาลัย คิดวนเวียนกับเขาตลอด
ไม่เข้าใจตัวเองเลย สับสนมาก หนักเข้าก็ทำให้เบื่อไปหมด
ตอนนี้พยายามหลายทางให้ดึงตัวเองออกมา
แต่ยังทำไม่ได้
ท่านทั้งหลาย ได้โปรดช่วยด้วยค่ะ :b2:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.พ. 2009, 20:49
โพสต์: 3979

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
ชื่อเล่น: นนท์
อายุ: 42
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




.gif
.gif [ 15.15 KiB | เปิดดู 6505 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8:

ก่อนอื่นขอสวัสดีก่อนครับ

ขอให้มีความสุข ณ ลานธรรมจักรแห่งนี้ด้วยครับ

ส่วนปัญหาที่ถามคงต้องรอผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาให้คำชี้แนะครับ


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
แม้มิได้เป็นสุระแสงอันแรงกล้า ส่องนภาให้สกาวพราวสดใส
ขอเป็นเพียงแสงแห่งดวงไฟ ส่องทางให้มวลชนบนแผ่นดิน
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอต้อนรับ..สู่ลานธรรมจักร..ครับ

เรื่องความรักนี้..มันว่ากันยาก..นะครับ

พระพุทธเจ้าพระองค์กล่าวทำนองว่า..ในโลกนี้จะหาคนที่ไม่เคยเป็นลูกเป็นหลาน..เป็นผัวเป็นเมีย..เป็นพ่อเป็นแม่..กันมาก่อน..นี้ยากนัก

ก็เพราะคงเคยเป็น....กันมาเก่าก่อน..กระมั้ง..จิตใจจึงเกิด. :b45: ..กันได้..

แต่..ชาตินี้..เขามีทางเดิน..ของเขาแล้ว..

เรา..ก็ควร..เดินตามทางของเรา

แต่..สายใย..ซึ่งก็ไม่รู้..เกิดมาตั้งแต่..ปางไหน

ทำให้เรา..แสนอาลัย..ทรมาน..นี้เรากำลังทุกข์

หักใจ..ห้ามใจ..มีกำลังพอที่จะสะบั้นสายใยนี้..หรือ?..เหมือนหินทับหญ้า..หญ้ามันตายไม่จริง

วันใด..ใจไม่หนัก..ไม่แน่น..ก็ทับมันไม่ลง

เราไม่อยากทุกข์..ก็ต้องตัดที่ต้นตอ..สายใย

สายใยนี้เกิดที่ไหน..ติดที่ไหน..ก็ตัดที่นั้น..สะบั้นที่นั้น

สายใยนี้เกิดที่ใจ..ติดอยู่ที่ใจ..ก็ต้องตัดที่..ใจ..ตัดด้วย..ใจที่มีกำลัง

ใจที่ตั้งมั่น..จึงมีกำลัง

เพราะมี ทาน..ศีล..ปัญญา..จึงมี..ใจที่ตั้งมั่น

แนะนำ..ละนะว่า..

ให้ตั้งใจทำบุญ..จะตักบาตร..หรือถวายสังฆ์ทาน..ตามแต่สะดวก..แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล..

ตั้งสัจจะวาจาว่า..บัดนี้..หรือชั่วโมงนี้..หรือ..วันนี้..จะรักษาศีล 5 ให้ครบ

บัดนี้..ท่านมี..การให้เป็นทาน..มีศีลครบ..มีความรู้จักทุกข์เป็นปัญญา

เมื่อครบแล้ว..ก็ตั้งจิตให้แน่วแน่..

อธิฐาน..ไปเลยว่า..

บัดนี้..เราเป็นคนใหม่แล้ว..กรรมอันใด..ความเกี่ยวข้องอันใด..สายใยใด..ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน..ขอให้จบลงไปแค่นั้น..อย่าได้ติดตามเกี่ยวพันกันอีกเลย..กรรมใดท่านทำกับเรา..เราขออโหสิกรรม..กรรมใดเราทำต่อท่าน..ขอให้ท่านจงอโหสิกรรมแก่เรา..เราขอเดินทางใหม่ตามทางของเรา

ขอเน้นว่า..ตอนอธิฐาน..ต้องตั้งใจให้หนักแน่น ให้ได้..ถ้าไม่ได้..ก็ตั้งใหม่..ตอนนั้นเลย

เคยทำมาแล้ว..ได้ผลดีครับ

สำคัญว่า..ต้องมีใจจะเลิก..จริง ๆ นะครับ..

หากไม่จริงใจ..อะไรก็ไม่ได้ผลหรอกครับ ( ศีลมันไม่ครบซะแล้วนะซี ) :b12:

สุดท้าย..ขอให้ประสบชัยชนะและโชคดี..นะครับ :b12: :b12:


แก้ไขล่าสุดโดย กบนอกกะลา เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 21:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 21:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เราเองพอรู้ก็ตัดสินใจได้แน่ว่าไม่ขอรู้จักแบบแฟนอีก


ก่อนอื่นขออนุโมทนาท่านผู้ถามยิ่งนักในปนิธานที่ตั้งไว้ดีแล้วข้างบน..แสดงถึงความเป็นผู้ที่มีหิริโอตตัปปะ คือเป็นผู้มีความเกรงกลัวและละอายต่อบาป ซึ่งไม่ได้ปรากฏแก่ชนทั่วไปได้ง่ายนัก นอกเสียจากเป็นผู้มีการฟังธรรมไว้ด้วยดี หรือเป็นผู้มีธาตุของผู้มีศีลมาแต่อดีต เป็นผู้กลัวบาปเพราะเชื่อว่า บาปนั้นให้ผลเป็นความทุกข์ ...

อาการเศร้าโศกที่เกิดก็ด้วยฤทธิ์แห่งเสน่หาที่สร้างไว้นั่นเทียวจึงเกิดเป็นเยื่ิอใยเหนียวที่ยากจะตัดขาดไปได้ในทันที ..

สิ่งที่ท่านผู้ถามต้องพึงสำรวมต่อไปนั้น ก็หาได้ควรประมาทไม่ เพราะกิเลสมีกำลังในปุถุชนยิ่งแล้ว.... ดังนั้น แม้เป็นการที่ท่านจะยังรักชายคนนั้น...ที่บัดนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามไปแล้ว... แม้ไม่ผิดบาปรุนแรงเพราะเป็นแค่บาปทางใจเท่านั้น.... แต่กระนั้น ก็ย่อมกล่าวได้อย่างนี้ว่า..
วันหนึ่งหากท่านผู้ถามไม่สำรวม ปล่อยให้จิตใจกำเริบด้วยแรงรักแล้ว แม้การแสดงออกทางวาจา หรือทางกาย ก็ย่อมรั่วไหลออกมาได้ นี้ไม่ควรประมาทเลย.....
ทางที่ดี ไม่ได้บอกว่า จงหยุดรักเสียเถิด...เพราะนั้นไม่ใช่ฐานะที่ใครๆจะสั่งหรือห้ามได้..
เพราะท่านผู้ถามหากเลือกได้ ท่านเองคงเลือกที่จะจบความอ้อยอิ่ง เป็นทุกข์ลึกๆครั้งนี้เสียโดยเร็ว แต่เพราะใจนั้นไม่ได้เป็นของใคร ไม่มีใครมีอำนาจดังนั้น เมื่อใจรักแล้ว ก็คือ รักแล้วนั่นแหละ...
แต่สำหรับบุคคลผู้มีตาดี มีปัญญาแล้ว.... เขาย่อมพิจารณาเห็นว่า..โอหนอ...แม้เราเองนั้นต้องมีความกลัดหนองแห่งใจมา ช้านาน เพราะเหตุแห่งเยื่อใยของเราเอง...รักแล้วไม่สมรักก็เป็นทุกข์ ทั้งเสียใจทั้งเสียดายในยามที่ระลึกนึกถึง....กาลเวลาผ่านไปเรานี้ทำอะไร อยู่หนอ?...ได้แต่ปล่อยใจให้ไหลไปกับความเศร้าหมองอย่างนี้ ชื่อว่าไม่ควรเลย ....เราไม่มีความสุขสงบใจเลย..เอาละ...เราจะหาอุบายจัดการกับจิตใจของเรา เสียใหม่...
ก็เพราะหลงไป..ใจจึงยังเฝ้ารัก..หากพิจารณาเห็นโทษของความรัก เนืองๆ ปัญญาที่เกิดขึ้นมาพิจารณานั่นแหละ เขาจะเป็นผู้คลายความยึดถือนั้นเสีย


เปลี่ยนความรักและความผูกพันด้วยเสน่หา ให้กลับกลายมาเป็นความรักความเมตตาที่ปราศจากความเร่าร้อน...นี้จะเป็น ประโยชน์โดยตรงแก่จิตใจตนเอง...
พยายามหลีกเลี่ยงการพบปะเจอะเจอ ท่านผู้ถามอาจไม่รู้ตัวว่า ความรักที่ล้นออกมาทางสีหน้า และดวงตาของท่านนั้น ท่านห้ามไม่ได้หรอก


คราวนี้ คนที่เป็นทุกข์นอกจากท่านผู้ถามแล้ว คนรักเก่าก็พลอยอาลัยอาวรณ์ไปด้วย...คราวนี้ อาจจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำลายชีวิตรักคนอื่นได้ในที่สุด ...เรื่องอย่างนี้ปรากฏบ่อยๆในโลกนี้ ไม่ควรประมาทเลย
หากใจคิดจะหยุดบาปก็ต้องขวนขวายใหม่ หาทางเดินของใจเสียใหม่ ค่อยๆถอนด้วยการพิจารณาโทษของความรัก อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง..... พิจารณาบาปว่า ตนเองเศร้าหมองกับเหตุใหม่เนืองๆ.. นั้นเป็นโทษ..พิจารณาเห็นวิบากที่ตนเองไม่สมรักแล้วในบัดนี้ ก็ล้วนเกิดจากกรรมเก่าที่ทำไว้ไม่เหมาะควร ....สมควรที่จะหันกลับปรับทิศทางแห่งใจให้ถูกตรงทำทำนองคลองธรรมเสียบัดนี้ ชื่อว่า จะได้เป็นผู้พบความสวัสดีได้ในที่สุด..

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 22 ธ.ค. 2009, 21:49, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 04:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


การที่เรามีความรู้สึก รัก ชอบ ใครสักคน มันดีนะ
เพียงแต่ต้องรู้จักหักห้ามความต้องการ อย่าให้มันมากไปกว่า
แค่ "ความรู้สึก" :b6:

ที่คุณบอกว่ายังอาลัย และสับสนตัวเองอยู่ เพราะคุณแยก
ความรัก กับความ ต้องการ ไม่ออก ถ้ารักแค่อย่างเดียว
คุณจะไม่อาลัย จะไม่ว้าวุ่นแบบนี้หรอกค่ะ ถึงเขาจะมีครอบครัวแล้ว
ถึงเขาจะเป็นอย่างไร? คุณก็จะยัง "รัก" เฉยๆได้ :b3:

ที่มีความรู้สึกอาลัย นั้นเพราะเรา"อยาก" ได้
อยากครอบครองเขา พอไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็ทำให้ทุกข์
ลองทำใจให้รักเฉยๆซิค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่จำเป็นต้องตัดใจเลย
ถึงไม่ได้เป็นแฟน ไม่ได้ครองคู่อยู่กินกัน เราก็มีความ
รู้สึกที่ดีให้กันได้ ปัญหามันอยู่แค่แยก "รัก "กับ "ใคร่"
หรือความต้องการ ให้ออกจากกันให้ได้
เอาใจช่วยนะค่ะ ขอให้ดีวันดีคืน :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 07:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ปัญหามันอยู่แค่แยก "รัก "กับ "ใคร่"
หรือความต้องการ ให้ออกจากกันให้ได้


สาธุ ได้ข้อธรรม ตรงทางแยกนี้แหละ หลักธรรมเรียกว่า ฉันทะ กับ ตัณหา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 12:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ต.ค. 2009, 17:14
โพสต์: 84

แนวปฏิบัติ: ตามดูจิต
งานอดิเรก: เลี้ยงแมว/ดูหนัง/เล่นเนต
สิ่งที่ชื่นชอบ: ธรรมะ
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


รักษาศีล 5 ไว้ให้แน่นค่ะ
เพราะอย่างน้อย ข้อ 3 กาเม จะช่วยเตือนสติคุณ
การรู้สึกรัก ชอบเขาไม่ใช่สิ่งผิด แต่ขอให้อยู่บนความเหมาะสม
แต่อย่าทำอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
อย่าเอาอารมณ์ มาอยู่เหนือเหตุผลและความถูกต้อง
เขาแต่งงานกันแล้ว เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง
ถ้าคุณก้าวล้ำเส้นตรงนั้น นับว่าเป็บาปนะคะ

ส่วนตัวคุณ ดิฉันแนะนำได้เพียงแค่ใช้หลัก
เมตตา กรุณา ขอให้ปรับมุมมองความรัก ให้เป็นความเมตตา ยินดีที่เขามีความสุข
ดิฉันรู้ว่ามันยากค่ะ และทรมาน นั้นเพราะความรักของคุณ คือ ความคาดหวัง
หวังว่าเขาจะต้องอยู่กับคุณ เป็นของคุณ พวกนี้มันไม่ใช่ความรักหรอกค่ะ
มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว ที่แฝงตัวอยู่ในรูปของความรัก แล้วเราก็
เข้าใจว่ามันคือความรัก

แต่ความรักจริงๆนั้น มันจะไม่ทำให้คนกำลังรัก และถูกรัก ต้องเจ็บปวดนะคะ
ถ้าคุณยังร้องไห้ จะบอกนั้นไม่ใช่ความรัก มันคือความคาดหวัง เป็นภาวะตัณหา
ที่มีต่อของรัก ของหวงแหน

เวลา และ การรู้จักสอนตัวเอง เท่านั้นที่จะช่วยคุณได้ เพื่อนๆได้แค่แนะนำ แต่คนจะคิดได้หรือไม่คือตัวคุณนะคะ ยามใดที่กำลังเสียใจ หรือ จมปลักกับความคิดเดิมๆ ขอให้รีบเปลี่ยนความคิด ไปทำอย่างอื่นซะ หรือไม่ก็ให้นึกถึงคนที่เรารักอย่างคุณพ่อคุณแม่ของคุณ

วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสไปอ่าน บทความดีๆบทหนึ่งมา เลยอยากนำมาฝาก และอยากบอกคุณว่า ในโลกใบนี้ยังมีคนที่รักและห่วงใยคุณอีกมากมาย เพียงแค่ตอนนี้คุณอาจจะยังมองไม่เห็น เพราะคุณมัวเอาแต่สายตาไปเฝ้ามองเพียงผู้ชายคนหนึ่งหมดแล้ว แต่เมื่อใดที่คุณเจ็บจนทรมาน และเริ่มทนไม่ไหวแล้ว วันนั้นแหละคุณก็เริ่มคิดได้ และรู้จักที่จะรักและทะนุถนอมตัวเอง และเมื่อวันนี้มาถึง คุณจะรู้ว่า ชีวิตไม่ได้มีแค่เพียงคนๆเดียวที่คุณต้องแคร์ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ยังมีคนอื่นๆ รอบๆตัวคุณที่รอให้คุณกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิมนะคะ


ความสำคัญของ"เธอ" ผู้เป็นแม่

ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน ดึกๆ ผมก็โทรคุยกับแฟนของผม

ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม

และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน

' จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง '

' กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย '

' รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง '

' ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ '

ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร

ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์

ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น

พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว

แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ

ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน

' เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ

แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน ' ' ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง '

' เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย ' ' วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง ' ' อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ '

โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ

แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ

โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย

ผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว

ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง

จนกระทั่งวันนั้น ' ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย '

' เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ '

' แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ '

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน

ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'

' โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย '

ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป

เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ

' และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่ '

หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า

เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า และแม่ของผมขัดขืน

และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง

แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น

ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ

หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา ' ผม '

สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม

วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น

วันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม

ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต

ผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา

โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่

ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ

คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ

คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม

' และ คนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต '

ในบางครั้งประโยคที่ว่า ' ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว '

มันก็ไม่เป็นความจริง ' เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว '

อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม

หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไป

วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น

หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป

เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง

' เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป '

ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์

รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง

แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว

' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว

แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '


รักตัวเองให้มากๆนะคะ

.....................................................
จงขอบคุณเมื่อความทุกข์เกิด เพราะมันคือบทเรียนให้เราก้าวหน้า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue ...รักเหมือนเดิมค่ะ
ที่เพิ่มเติมคือ...ความเมตตา

เมตตา เขา ให้มากๆๆๆๆๆๆๆๆ

จะได้ไม่คาดหวังอะไรจากตรงนี้

มอง เขาอยู่ห่างๆ ด้วยความปรารถนาดีต่อกัน

ดิฉันเชื่อว่าคุณจะมีความสุข เมื่อเห็นเขามีความสุข

แม้ว่าข้างๆ เขา จะไม่ใช่เราก็ตาม

:b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47: :b47:

ศึกษาพระธรรมเพิ่มเติมเยอะๆ นะคะ

วันนี้เท่ากับว่า คุณกับเขา ได้ จากเป็น แล้ว

ต่อไปวันข้างหน้า...

จะได้ไม่ผิดหวังเมื่อต้อง จากตาย ค่ะ

ขออภัย...ที่ฟังดูน่ากลัว แต่ทุกชีวิตต้องเจอ


:b41: :b41: :b51: :b41: :b41: :b51: :b41: :b41: :b51: :b41: :b41: :b51: :b41: :b41:

เจอมาหมดแล้วทั้งจากเป็นจากตาย....

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2009, 02:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 09:31
โพสต์: 639

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามตัวเองนะคะว่ารักคืออะไร ชอบเขาแบบไหน จัดใจไม่ได้ เพราะอะไร คิดละเอียดๆ ไตร่ตรองดีๆค่ะ

คุณเหงาหรือเปล่า หรือว่าไม่คุ้นชินที่อยู่ๆก็จะไม่มีใคร อยากได้เพื่อนนิยสัยแบบนี้ แต่ประเพณีดันกั้นขวาง ฯลฯ

จุฬาภินันท์ว่ามันยังไม่น่าจะใช่รัก รักแท้ไม่ทำให้ใครเจ็บปวดค่ะ จุฬาภินันท์ก็เคยเป็น รักเขามานาน แล้วพอแปดปีผ่านไป คุยกับเขาอีกครั้ง เขาบอกว่าเขาจะเป็นพ่อคนแล้ว จุฬาภินันท์ก็ไปเยี่ยม เห็นภรรยาเขา จุฬาภินันท์ใจหาย แล้วก็เท่าันั้น เออ เขามีครอบครัวที่มีความสุขดีนะ จบ เราก็เดินออกมา

คิดแบบนี้สิคะ วันนี้ไม่มีเขา เราไม่เป็นไร ถ้าวันไหนมีเขา เราก็อยู่อย่างเหมาะสม คิดได้นะคะ เพราะห้ามความคิดลำบาก แต่อย่าสานต่อให้กลายเป็นผิดศีล หรือทำให้ครอบครัวเขาทะเลาะกัน

ทางออกที่เหมาะสมมีเสมอค่ะ ใจเราจะจัดการกับใจเราแบบไหนมากกว่าค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาแบบสั้นนะขอรับ ไม่อิน เตือนใจบ่อยๆ ใช้ได้กับทุกๆเรื่อง ประมวลสู่ความไม่ยึดติด ที่ธรรมชาติก็ไม่ยึดติดกันอยู่เองแล้ว ไม่อะไรกับอะไร ปลงใจ หากไม่เตือนใจ มันก็จะงม อินไปหมดกับทุกเรื่อง เรื่องความรัก ก็เรียกอินเลิฟ ตามด้วยเฮิร์ด ตลอด เตือนใจปลงใจไม่อิน แล้วๆไป ไม่อะไรกับอะไร
ขอเชิญศึกษาธรรมบรรลุฉลับพลัน จบโลก จบธรรม จบกรรม การปฏิบัติ โดยหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต วัดร่มโพธิธรรม จ.เลย ที่บอร์ดสนทนาทั่วไปขอรับ หรือ http://www.rombodhidharma.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ธ.ค. 2009, 20:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


Lilly เขียน:
เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ
รู้สึกทุกข์ใจมาก
เรื่องเพราะว่าหากมีจิตใจรักชอบกับใครคนหนึ่งแต่เพิ่งไม่นาน
แต่ต่อมาทราบว่าเขาแต่งงานแล้ว
เราเองพอรู้ก็ตัดสินใจได้แน่ว่าไม่ขอรู้จักแบบแฟนอีก
อยากเป็นแค่พี่หรือเพื่อนก็พอ
แต่ใจส่วนลึกนี่สิ ไม่สามารถทำตามได้เลย ยังคงรูสึกอาลัย คิดวนเวียนกับเขาตลอด
ไม่เข้าใจตัวเองเลย สับสนมาก หนักเข้าก็ทำให้เบื่อไปหมด
ตอนนี้พยายามหลายทางให้ดึงตัวเองออกมา
แต่ยังทำไม่ได้
ท่านทั้งหลาย ได้โปรดช่วยด้วยค่ะ :b2:


คุณต้องช่วยตัวเองขอรับ เพราะไม่ม่ใครช่วยคุณได้ แต่ก็มีคำแนะนำให้ เพื่อให้คุณนำไปปฏิบัติ ด้วยตัวเอง
ขอถามคุณสักหน่อยว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ คุณเกิดความทุกข์
ความคิดจากส่วนลึกของคุณใช่ไหม
เมื่อคุณรู้ที่มาของมัน ก็ง่ายขึ้น
๑. คุณต้อง มีสติ สัมปชัญญะ เตือนตนอยู่เสมอ หากเกิดการคิดวนเวียนถึงเขา ไม่ยากขอรับ ถ้ามีสติสัมปชัญญะที่ดี
ความคิดเหล่านั้น จะเกิดแว๊บเดียว ก็จะหายไปทันที
๒. เมื่อเกิดความคิดวนเวียนถึงเขา ให้คุณคิดว่า "เรื่องธรรมดา" "เรื่องธรรมดา" ซ้ำๆกัน จนกว่าความคิดวนเวียนจะหายไป
๓. หากคลื่นของความคิดวนเวียนถึงเขาแรงกว่า กระแสจิตปกติของคุณ คุณต้องมีสติสัมปชัญญะ รับ หาอะไรทำ หาอะไรที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจ มิให้ความคิดวนเวียนถึงเขา มาทำลายสมาธิของคุณ
ตอนแรก อาจจะรู้สึกเหมือนยาก แต่ความจริงแล้วง่ายขอรับ รับรอง ไม่เกิน ๓ วัน คุณจะไม่เกิดความคิดวนเวียนถึงเขาอีก
และ ประการสุดท้าย อย่าคิดถึงความประทับใจที่มีกับเขาเป็นอันขาด เพราะมันก็คือ การคิดวนเวียนถึงเขานั่นแหละ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 04:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


ก่อนอื่นก็ขอให้ยอมรับความจริงก่อนว่า
กำลังทุกข์เพราะความรัก
ถูกความรักแผดเผาใจอยู่
ยิ่งเป็นความรักที่ผิดศีลธรรมอยู่ด้วย
ก็ยิ่งทรมานทุรนทุราย เป็นธรรมดา

ทีนี้ วิธีแก้ก็มีหลายวิธี เช่น
อย่าไปเจอ หรือใกล้ชิดเขา ให้หลีกเลี่ยงเพราะจะทำให้ใจกลับไปคิดซ้ำๆอีก
อย่าทำตัวให้ว่าง เพื่อไม่ให้มีเวลาคิดถึงเรื่องนี้อีก ให้หากิจกรรมทำ เช่น เล่นกีฬา ไปเที่ยว
เพื่อให้ลดการคิดถึงเรื่องนี้อีก

หรือใช้อุบายอย่างเช่น
ให้คิดว่า เขาได้บอกเลิกคุณแล้ว ตอนนี้คุณอกหักแล้ว
ยังไงก็ไม่มีทางกลับไปคืนดีได้
ถ้าคุณคิดได้ว่าคุณอกหักแล้ว มันจบแล้ว
ต้องทำใจแล้ว ใจคุณก็จะยอมรับความจริง
แล้วก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เองครับ

ลองไปทำดูนะครับ ได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไง
ก็บอกกันได้นะครับ จะได้แนะนำกันต่อไป

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2009, 05:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คุณLilly เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
มีอะไรก็เข้ามาคุยกันนะค่ะ มาแวะเติมกำลังใจให้ค่ะ :b16:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ธ.ค. 2009, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ธ.ค. 2009, 19:26
โพสต์: 2

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณหลายๆคน ที่ให้กำลังใจและคำชี้แนะค่ะ มีกำลังใจปลอบตัวเองดีขึ้นมาก

จะลองทำดูค่ะ
ที่บอกว่าอย่าไปคิดถึงเรื่องความประทับใจ เรื่องดีๆเกี่ยวกับเขาเนี่ย ถูกต้องเลยคะ

:b45: :b45: :b45:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ม.ค. 2010, 14:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


สวัสดีปีใหม่
ขอให้คุณLilly โชคดี ปราศจากทุกข์
โศรก โรคภัย มีแต่ความสุขความเจริญนะค่ะ :b16:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 16 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 48 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร