ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=26754 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | panatson [ 06 พ.ย. 2009, 19:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนะคะ ที่เพื่อนๆเคยมาให้กำลังใจดิฉันในวันที่หัวใจเคยแห้งแล้ง และขอบคุณที่มีเว็บบอร์ดดีๆที่ช่วยทำให้เราได้รับรู้ แบ่งปันปัญหาหัวใจที่เกิดขึ้นตามแนวทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเชื่อค่ะ ว่าหากคุณกำลังทุกข์แล้วได้มาเจอเว็บบอร์ดแห่งนี้ นั้นย่อมแปลว่าคุณก็ยังทำบุญมาดีที่ได้เจอสถานที่ที่ดี มีกัลยาณมิตรที่ดี ณ ที่แห่งนี้นะคะ ดิฉันมาเป็นสมาชิกที่นี่เมื่อไม่กี่เดือนนี่เองค่ะ สาเหตุที่ได้มาเจอเว็บนี้เพราะกำลังเศร้าใจเรื่องของ "ความรัก" ดิฉันเคยมาโพสกระทู้ของตัวเอง 1 ครั้ง เล่าถึงปัญหาหัวใจที่เกิดขึ้น (ย้อนกลับไปอ่านได้ค่ะ) viewtopic.php?f=27&t=26057 วันนี้ฉันได้ลองถามตัวเองดูว่า พร้อมไหมถ้าจะลองมาเล่าเรื่องความเป็นไปของชีวิตหลังจากได้โพสไปครั้งแรกแล้ว ฉันก็รู้สึกว่าพร้อมค่ะ ย้อนกลับไปตอนที่ฉันมาโพสเรื่องราวการแยกทางกันระหว่างดิฉันกับสามี มีเพื่อนๆทั้งที่นี่ และ ข้างนอกต่างให้กำลังใจดิฉันมากมาย รวมถึงความช่วยเหลือต่างๆ เมื่อฉันได้ลองย้อนกลับไปมองตัวเองเมื่อหลายเดือนก่อน ฉันก็ได้เห็นว่า ฉันทำร้ายตัวเองมามากพอแล้ว ดูได้จากชื่อกระทู้แรกที่ตั้ง ยังตั้งมีคำว่า "รู้สึกผิด" อยู่เลยค่ะ ตอนนั้นฉันรู้สึกทั้งทรมาน เจ็บปวด และ กลัว ในตอนนี้ดิฉันรู้เลยว่า ด้านมืดของดิฉันกำลังสำแดงฤทธิ์เดชออกมาทั้งหมด ฉันเคยเป็นคนมีมุมมองในชีวิตที่แคบมากในเรื่องของความรัก และขี้ขลาดมากที่จะกล้ายอมรับความจริงฉันทรมานกับความรู้สึกที่สร้างขึ้นมาเองอยู่สองถึงสามเดือน เพื่อนๆจะเชื่อดิฉันหรือไม่ก็ตามนะคะ แต่เหตุการณ์ผิดหวังในความรักและชีวิตคู่ของดิฉัน ได้หาทางออกด้วยวิธีที่ง่ายมากนิดเดียว เมื่อวันหนึ่งดิฉันค้นหาเรื่องราวความรักในทางพุทธศาสนาอินเตอร์เนต ฉันได้ไปเจอบทความอยู่บทความหนึ่ง ได้กล่าวถึงเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ผิดหวังในความรักของดิฉัน และมีความคิดในการทำคุณไสย์เพื่อให้แฟนกลับมา แต่เธอคนนั้นยังไม่แน่ จึงได้ส่งมาถามบุคคลเจ้าของบทความนี้ และท่านผู้นี้ก็ได้ให้แนวคิดซึ่งดิฉันอ่านและจับใจความตามที่ตนเองเข้าใจได้ว่า ถ้าเรารักเขาอย่างจริงใจ เป็นความรักจริงๆ เราต้อง "ยินดี" กับเส้นทางที่เขาได้เลือก และมีความสุข.... พออ่านแล้วคิดได้ดังนั้นแล้ว เลยกลับมานั่งถามตัวเองอีกครั้งว่า เรารักเขาจริงๆหรือเปล่า....(พวกคุณก็ลองไปนั่งถามตัวเองอย่างมีสติด้วยนะคะ) เมื่อถามตัวเองได้แบบนี้แล้ว ก็รู้ได้ทันทีว่าที่กำลังทุกข์ อยู่นั้น เพราะไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมละวาง และไม่ยอมยินดี...เมื่อมันเป็นเช่นนี้ จึงทำให้เรื่องระหว่างฉันกับเขายิ่งย่ำแย่ และเกิดบาดแผลในใจมากขึ้น ถ้าฉันรักเขาจริงๆอย่างที่ปากคร่ำครวญ ก็ต้องทำสิ่งที่ตรงกันข้ามเท่านั้น ฉันเลยปรับวิถีชีวิตใหม่ ตั้งแต่ ทัศนคติ เช่น การมองโลกที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง อุปนิสัยบางอย่างที่ไม่ดีต่อตัวเอง เช่น การเอาแต่ใจ การไม่ชอบความผิดหวัง การชอบคาดหวัง และไม่รู้จักพึ่งพาตัวเองให้มากๆ ...ฉันเลิกหมดเลย ดิฉันเลยอยากจะบอกกับใครก็ตามที่กำลังผิดหวังในความรัก แล้วชอบมาถามว่าทำไม นั่งสมาธิ สดมนต์แล้วไม่ช่วยให้เบาเลย จะบอกว่า ก่อนจะมาทำสิ่งนี้ ไปปรับทัศนคติ และตั้งสติก่อนนะคะ เริ่มที่ตัวเองก่อน ดูว่าเรามีนิสัยอย่างไรที่จะทำร้ายตัวเองได้จากเหตุการณ์แบบนี้ ปรับตรงนี้ให้เบาลงบ้างแล้วก็ จะสวดมนต์ไหว้พระก็จะเยียวยาได้มากขึ้น จากนั้น ฉันก็ให้เวลากับตัวเองในการสร้างสมาธิมากยิ่งขึ้น ฉันจะสวดมนต์ไหว้พระ และ "อาราธนารักษาศีล 5 เกือบทุกวัน" ฉันเชื่อว่าในภาวะที่จิตใจเราอ่อนไหวและปรวนแปรอยู่นั้น อาจจะทำให้เรารับสิ่งที่ไม่ดี หรือ ทำสิ่งที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมกับตัวได้ เช่น หาคนใหม่มาดามใจทันที หรือ ด่าว่ากัน คิดแค้นถึงขั้นจะฆ่าแกง เป็นต้น ฉันคิดว่าการอาราธนาศีล 5 เป็นประจำจะเป็นเหมือนยันต์คอยเตือยใจเราได้นะคะ ฉันนั่งสมาธิบ่อยขึ้น รู้สึกว่าใจนิ่งขึ้นมาก อารมณ์เย็นลงผิดหูผิดตา พอมีสมาธิ สติก็มา ดิฉันเลยมานั่งทบทวนสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตคู่ ก็ได้รับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดโทษใครผิดหรือถูกแล้ว แต่กลับคิดเข้าใจในความรู้สึกของคนตรงข้ามเรามากขึ้น จากนั้น ดิฉันก็ค่อยๆยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพราะใช้หลัก "ใจเขา ใจเรา" และทุกๆครั้งที่ดิฉันนั่งสมาธิ ดิฉันจะแผ่ความสุขและความปารถนาดีไปให้เขาตลอด ดิฉันทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็เริ่มอยู่กับตัวเองได้ และรู้สึกได้ว่าทุกๆอย่างมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับเก่งมากนัก ก็ยังมีอยู่บ้างที่ใจมันเผลอไป แต่การนั่งสมาธิเจริญสติมันจะช่วยทำให้เราวกกลับเข้ามาที่ปัจจุบัน คอยเตือนตัวเราเองตลอดเวลานะคะ ดังนั้นแว๊บได้บ้างเพราะคนเราย่อมมีความทรงจำ แต่ก็ต้องฝึกที่ต้องดึงตัวเองกลับมา ซึ่งมันเป็นวิธีที่ดิฉันใช้บ่อยมากที่สุด ในที่สุดฉันก็ค่อยๆใช้ชีวิตตามลำพังได้ ไม่โหยหามาก มีบ้างที่แอบเหงา แต่ก็ไม่หนักหนา และเชื่อว่าจะดีขึ้นต่อไป ซึ่งในขณะเดียวกัน อดีตสามีของดิฉันก็กลับมาติดต่อกับดิฉัน ฉันออกจะแปลกใจนิดหน่อย เราตกลงกันว่าจะลองให้โอกาสระหว่างกันใหม่ แต่ดิฉันก็ไม่ได้กังวลใจอะไรแล้ว และก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องเหล่านี้ ขอแค่คิดว่าจะทำอะไรก็ตามทำให้ดี คิดถึงใจเขาใจเราให้มากๆ และเราจะค่อยๆเลิกนิสัยเห็นแก่ตัวไปเอง ทุกวันนี้ดิฉันจึงสบายใจและดำเนินชีวิตไปอย่างปกติ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ปิดกั้น และให้โอกาสตัวเองเสมอๆ วิถีชีวิตดีขึ้นมาก เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น เป้าหมายชีวิตก็ชัดเจนขึ้น จริงๆอยากจะบอกทุกๆคนที่กำลังเสียใจในเรื่องของการผิดหวังในความรักอยู่นะคะว่า ที่คนเขากล่าวกันว่า "ฟ้าหลังฝน มักสดใสเสมอนั้น" เชื่อเถอะค่ะว่ามันมีอยู่จริง ขอแค่คุณลองปล่อยวางกับสิ่งที่กำลังยึดติดอยู่ คุณอาจจะคิดว่าพูดมันง่าย ทำมันยาก แต่จริงๆแล้วทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณทั้งนั้นนะคะ ถึงมันทำยาก ก็ต้องทำนะคะ การยอมรับความจริงอาจจะเจ็บปวด แต่มันก็จะหายไปไม่นานเหมือนกัน และดิฉันกล้ารับประกันเลยค่ะ ว่าถ้าคุณผ่านตรงจุดนี้ไปได้ คุณจะเข้มแข็งขึ้น มองโลกอย่างที่ควรจะเป็นมากขึ้น และมีชีวิตอยู่เพื่อเปิดรับสิ่งที่ใหม่ๆ เพิ่มโอกาสในชีวิต และรักตัวเองมากขึ้นด้วย คุณจำไว้นะคะ ถ้าคุณไม่รักตัวเอง คุณไม่ต่างจากคนที่ไร้ค่า ที่ใครก็ไม่นึกเสียดาย ทำตัวเองให้ดี ทำจิตใจให้ดี รักษาความดี แล้วจะเจอสิ่งที่ดีๆนะคะ เชื่อเถอะค่ะเพราะดิฉันก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่ามันจริง โชคดีนะคะ (วันหลังมีอะไรดีๆที่เป็นประโยชน์จะเอามาบอกเล่ากันนะคะ) LIVE and LEARN |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 06 พ.ย. 2009, 19:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
![]() ![]() ![]() สาธุครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ทักทาย [ 06 พ.ย. 2009, 22:51 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
คุณคิดได้ดีจริงๆ อนุโมทนา สาธุค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | PENYA [ 07 พ.ย. 2009, 01:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
ยินดีด้วยค่ะที่คุณเห็นสัจจะธรรมของชีวิตได้เพียงไม่นาน ขออนุโมทนาค่ะ. |
เจ้าของ: | r-no [ 07 พ.ย. 2009, 07:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
อ่านแล้วก็เป็นกำลังใจให้ผมอีกทาง ช่วงนี้กำลังย่ำแย่กับความรัก แต่ก็ยังพอมีสติบ้าง ที่จะเปิดรับสิ่งดีๆเพื่อหาทางออก ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ |
เจ้าของ: | พาฝัน [ 07 พ.ย. 2009, 10:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
![]() |
เจ้าของ: | panatson [ 09 พ.ย. 2009, 12:10 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
พาฝัน เขียน: tongue สวัดีจะขอเป็นเพื่อนด้วยคนนะคะได้อ่สนข้อความแล้วรู้สึกดีจังเลยดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ตกอยู่ในความทุกแบบนี้และก็ได้เขามาอ่านในกระทู้นี้ก็หลายข้อความมากและก็ได้พยายามเอาข้อความดีๆๆทีได้อ่านไปลองทำตอนแลกก็คิดว่าเราคงทำได้แต่พอเจอะสามีมาคอยว่าคอยพูดอะไรให้เราไม่พอใจดิฉันก็จะระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เลยจะวีนกลับทันที่และที่นี้ก็จะทะเลาะกันผูชายคนนี้เห็นแก่ตัวมากจะให้ดิฉันต้องมานั้งเอาใจเขาอย่างเดียวเลยถ้าดิฉันไม่ทำเขาก็จะพูดจะหาเรื่องทะเลาะทุกวันที่กะผู้หญิงคนอื่นทำไม่เขางไปเอาใจได้ดีกับดิฉันไม่เอาใจแต่จะให้ดิฉันเอาใจดิฉันยอมรับค่ะว่าทำใจให้เอาใจเขาไม่ได้จริงๆๆเพราะในใจดิฉันจะคิดถึงเวลาเขาอยูกับผู้หญิงของเขาตลอดเลยมันทำให้ดิฉันไม่อยากจะใกล้เขาเลยเขาก็ยังทำหน้าที่ของสามีคือหาเลี้ยงครอบครัวไม่ให้ดิฉันออกไปทำงานข้างนอกดิฉันควรจะทำอย่างไรดีค่ะขอคำปรึกษาด้วยคะ คุณพาฝันคะ จากที่คุณเล่ามา ดิฉันก็ขอเพียงแค่แสดงความคิดเห็นในฐานะคนนอกเท่านั้นนะคะ แต่ทุกสิ่งคุณก็ต้องไตร่ตรองด้วยตัวเองสำคัญที่สุด อย่างกรณีของดิฉัน คือเราทั้งคู่ไม่ได้ทำร้ายกันในเรื่องของการนอกใจ แต่เป็นวิถีการดำเนินชีวิตคู่เสียมากกว่า แต่กรณีของคุณ ถ้าดูเพียงแค่ข้อมูลตรงที่ให้มานี้ ดิฉันอ่านแล้วนึกภาพ+วิเคราะห์ได้ว่า คุณกับแฟนกำลังมีปัญหา แฟนคุณเป็นผู้ชายเจ้าชู้ ออกแนวเผด็จการ และเป็นผู้นำคุณ ส่วนคุณก็มักจะทะเลาะกับสามี ถ้าให้ดิฉันเดา ก็อาจจะเป็นเรื่องผู้หญิงอื่นๆ ที่มารบกวนจิตใจคุณตลอดเวลา ประกอบกับสภาพของคุณตอนนี้เป็นรอง เพราะคุณเป็นแม่บ้าน ต้องคอยรอรับค่าเลี้ยงดูจากสามี ตอนนี้ดิฉันว่าคุณคงกำัลังอยู่ในภาวะเก็บกด เพราะมีองค์ประกอบ+สภาพแวดล้อมอะไรหลายๆอย่างที่ต้องเผชิญ ฉันวิเคราะห์สภาพคุณตอนนี้ได้แค่นี้นะคะ ถูกหรือผิด ก็ต้องถามเจ้าตัวว่าที่ดิฉันพูดมาจริงหรือเปล่า ถ้าดิฉันวิเคราะห์ถูก ถ้าจะแนะนำนะคะ จากประสบการณ์เล็กๆของตัวเอง คือ สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนอื่นเลยคือ 1. การนั่งมองดูตัวเองก่อนนะคะ ไปนั่งที่หน้ากระจกแล้ว มองลงไปลึกๆ ลึกถึงข้างในหัวใจ คุณจะพบว่าคนตรงหน้าคุณนั้น ได้เหนื่อยล้า และทรุดโทรมมามากแล้ว คุณทำร้ายตัวเองมาพอแล้วหรือยัง? ถามตัวเองดูนะคะ สงสารตัวเองบ้างไหม? ถามตัวเองดูนะคะ ตัวเองยังทำร้ายตัวเองได้ แล้วทำไมคนอื่นจะทำร้ายคุณไม่ได้ล่ะ....เมื่อวันที่ดิฉันเสียใจมากๆ ฉันก็ทำแบบนี้ล่ะค่ะ ถามตัวเองที่หน้ากระจก มองตัวเองก็พบว่า สภาพแบบนี้นะหรอ จะอยู่สู้ชีวิต สู้เพื่อคนที่รักเราได้ แล้วสภาพแบบนี้นะหรอที่จะทำให้ เขาคนนั้นกลับมามองเราได้...ลองคิดดูนะคะ การที่คุณจะแก้ไขปัญหาได้คุณต้องเริ่มที่ตัวเองก่อนเลย ใจเย็นๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป 2. ตั้งสติ ก่อนจะเริ่มทำอะไรก็ต้องตั้งสตินะคะ 3. ยึดหลัก พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คุณลองถอยออกมามองแฟนคุณ แล้วจะพบว่า เขาออกจะน่าสงสารจะตายไป...ไม่น่าสงสารได้ไง แค่เรื่องนอกใจ ก็ใกล้ปากนรก ข้อศีล กาเม...เข้าไปทุกทีแล้วนะคะ ขอให้คุณยึดหลักพรหมวิหาร 4 คุณก็จะเย็นลงเอง และท่องจำไว้เสมอว่า "กรรมใคร กรรมมัน" เขาทำอะไรเขาก็จะได้รับแบบนั้น คุณทำอะไร คุณก็จะได้รับแบบนั้น เหมือนกันนะคะ เขาไม่นิ่ง คุณก็ต้องนิ่งให้เป็น 4. ปรับทัศนคติ และวิถีในการดำเนินชีวิต คุณคิดว่าอะไรเปลี่ยนยากที่สุด สำหรับดิฉันคือ การเปลี่ยนคนอื่นนะคะ ที่ยากที่สุด ในเมื่อเปลี่ยนเขาไม่ได้ คุณต้องเปลี่ยนตัวเอง...เปลี่ยนไปในทางที่ดีนะคะ ไม่ได้เปลี่ยนตัวตนของเรา....เปลี่ยนอย่างไร...ง่ายๆ คือ"เปลี่ยนไปทำสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม" อะไรก็ตามที่คุณทำ คุณคิด และการตัดสินใจทำลงไปนั้น ตอบได้ในของความถูกต้อง+ดีงามได้ คุณทำไปเถอะค่ะ ... ถ้าสิ่งที่แฟนคุณให้ทำ มันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย คุณก็ทำไปเถอะค่ะ เพราะชีวิตคู่มันต้องมีการ เสียสละกันบ้าง เพื่อซื้อใจคน แต่ถ้าเขามาพูด มาว่าอะไรก็อย่าไปใช้อารมณ์ แต่โต้ตอบไปอย่าง นิ่มนวลและใช้เหตุผล คนบ้า ก็อย่าไปบ้าตามเขา ถ้าพูดไรมาไม่ถูกใจ ก็พยักหน้าหงึกๆ หรือยิ้มน้อย ให้มันฉงนเล่นไปงั้นแหละค่ะ 5. ดูแลตัวเอง หาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิต - การดูแลตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก ดิฉันขอบอกไว้เลยว่า ไม่มีผู้ชาย (100%) คนไหนไม่ชอบของสวยๆงามๆหรอกนะคะ แต่ละคนก็มีมุมมองความสวยงามในรูปแบบต่างๆกันไป ดั่งนั้น คุณแค่ยึดหลักแค่ "ทำตัวเองให้ดูดี" ก็พอ ไม่ต้องสวยเว่อร์ แต่สวยในแบบธรรมชาติของคุณ วันนี้มันมองไม่เห็นไม่เป็นไร ทำให้มันได้ทุกๆวันจนเกิดการเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวมันก็ตาสว่างเห็นเองนะคะ เชื่อไหมค่ะ เมื่อก่อนที่ดิฉัันยังอยู่กับ(อดีต)สามี ดิฉันจะยุ่งมาก และทำเหมือนกับว่าไม่มีเวลาดูแลตัวเอง จนดูโทรม แต่ก็เมินเฉย แต่พอมาเจอเรื่องราว ก็ปรับทัศนคติใหม่ ดูแลตัวเอง เขายังเคยชมเลยว่าดิฉันสวยขึ้นไม่เหมือนตอนอยู่กับเขาเลย (ดิฉันก็แอบปลื้มนะคะ ปลื้มเฉยๆนะคะ ไม่ได้คิดไรไปมากกว่านี้ อิๆ) - ส่วนเรื่องหาประสบการณ์ใหม่ๆ นี้ ต้องอาศัยใจกล้าค่ะ ยิ่งสถาณการณ์คุณเป็นแบบนี้ คุณจะมามัวอ้อยอิ่งไม่ไ้ด้หรอกค่ะ คุณต้องกล้าที่จะเริ่มยืนด้วยลำแข้งของตัวเองแล้วนะคะ ถ้าคุณมีความรู้ ก็ควรนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ส่วนตัวดิฉันไม่นิยม ตำแหน่งแม่บ้านค่ะ เพราะนอกจากจะปิดโลกของตัวเองให้แคบลงแล้ว ยังดูเป็นสไตล์ที่ออกจะน่าเบื่อ (อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ) คุณอาจจะลองหาอะไรทำใหม่ๆบ้าง กิจกรรมเล็กๆที่ทำแล้วไม่ต้องมานั่งฟังใครบ่น เอาที่คุณอยากจะทำ บอกแฟนให้รับทราบ ถ้าคุณมีกิจกรรมอะไรทำบ้าง สมองคุณก็จะไม่ฟุ้งซ่านนะคะ ไม่มัวมาคอยแต่นั่งสนใจชีวิตของคนๆเดียวตลอดเวลา 6. นั่งสมาธิ + สวดมนต์ + แผ่เมตตา แผ่ไปให้แฟนของคุณนั้นแหละค่ะ แผ่สิ่งดีๆเข้าไป เชื่อเถอะค่ะ ว่าถึงเขาจะไม่ดีขึ้น แต่คุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น คุณจะทำสิ่งนี้ได้ ต้องยึดหลักข้อ 3 ก่อนนะคะ สุดท้าย...เราต่างมองไม่เห็นอนาคตกันหรอกนะคะ ทำทุกวันให้ดี ถึงเวลาหมดกรรมกันไปเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็คลี่คลายไปเอง คุณทำบุญมากๆ สร้างกำลังใจให้ตัวเอง ผลดีมันก็จะส่งเร็วเท่านั้นนะคะ โชคดีค่ะ |
เจ้าของ: | bbb [ 09 พ.ย. 2009, 14:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
อนุโมทนาครับ ![]() ![]() |
เจ้าของ: | นนนน [ 10 พ.ย. 2009, 10:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
ยินดีกับความสำเร็จ ฟ้าที่สดใสของคุณ panatson จริง ๆ จากการอ่านการตอบกระทู้ของ มองได้ว่าคุณเป็นคนที่ถูกเลี้ยงมาดี จากพ่อแม่ที่ให้เหตุผล หรือให้คุณได้มีสติในทุก ๆ เรื่อง เมื่อคุณเจอปัญหาคุณเลยสามารถหาทางออกให้กับตัวเองได้เร็ว ดิฉันว่าคุณคงจะได้ใช้ความสามารถแนะนำท่าน อื่น ๆ ต่อ ๆ ไปได้ดีเลยค่ะ |
เจ้าของ: | kritsadakorn [ 11 พ.ย. 2009, 00:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
ยินดีด้วยครับ ฟ้าเปิดแล้ว เริ่มต้นใหม่ สร้างสิ่งดีๆให้ชีวิตครับ |
เจ้าของ: | คุณเพชร [ 11 พ.ย. 2009, 15:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แชร์เรื่องราวชีวิตในยามที่ฟ้าหลังฝน |
ยินดีค่ะ และขอบคุณแทนเพื่อนๆ ทุกคนที่เค้ามีปัญหาเรื่องครอบครัว เมื่ออ่านข้อความของคุณ บางท่านอาจจะได้ข้อคิดที่ดี แล้วนำไปประยุกต์และปฏิบัติ เพื่อการหลุดพ้นจากคำว่าทุกข์ เจริญในธรรมค่ะ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |