วันเวลาปัจจุบัน 28 เม.ย. 2024, 07:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 08:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 08:18
โพสต์: 1

แนวปฏิบัติ: พุทโธ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดิฉันแต่งงานมาเกือบ 20 ปี ไม่มีลูก สามีไปมีเมียน้อยตอนแต่งงานได้ 6 เดือน และมีลูกกับเมียน้อย ดิฉันทำใจมาตลอด ก็เพราะคำว่ารักคำเดียว จึงทนอยู่ ช่วงที่ผ่านมา ดิฉันทุกข์มาก มากที่สุด ก็จริงน่ะคะ ที่คนเราพอมีทุกข์ ก็หันมาหาธรรมะ จนทุกวันนี้ดิฉันพยายามอยู่ด้วยตัวของตัวเองให้ได้ และเคยบอกเลิก เขาก็ไม่เลิก บางครั้งดิฉันสับสนเมื่อฟังธรรมะว่า เราต้องมีใจเมตตา ให้อภัย ปล่อยวาง จนมีพี่ ๆ ที่ทำงานบอกว่าถ้าเลิกแล้วเป็นทุกข์ ก็ไม่ต้องเลิก ก็อยู่กันแบบ 3 คนผัวเมีย ซึ่งบางครั้งดิฉันรู้สึกไม่อยากยุ่งกับสามี เมียน้อย และลูกเขา เพราะมีแต่ความวุ่นวาย ดิฉันไม่ยุ่งกับพวกเขา เขาอยากทำอะไร อย่างไง ก็ไม่สนใจ มีแต่เมียน้อย ลูก ๆ เมียน้อย มาวุ่นวายกับดิฉัน จนสามีตัดพร้อว่าไม่เคยใส่ใจเขาเลย สนใจแต่พี่น้องดิฉัน ดิฉันบอกว่าก็มีอีกคนแล้วก็ให้เขาดูแลซิ (เมียน้อยไม่ได้ทำงาน อยู่บ้าน) ดิฉันบอกไปว่าดิฉันต้องทำงาน เลิกงานมาก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว จริง ๆ เรื่องยาวมาก ขอถามน่ะคะ
1. ถ้าเลิกกับสามี ถือว่าหมดกรรมไหมคะ
2. ถ้าเลิกไม่ได้ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรคะ
3. ถ้ายังต้องอยู่กับแบบนี้ ควรทำอย่างไรไม่ให้เขามายุ่งกับเรามาก
(คือดิฉันเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร ไม่หนักแน่น บางครั้งเกลียดตัวเองมากค่ะ)
smiley Onion_L


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 09:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ม.ค. 2009, 20:45
โพสต์: 1094

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1. อยู่ที่ใจของเรา เลิกทางโลก ทางภาวะ แล้วใจเราเลิกหรือยัง?

2. ปฏิบัติตัวอาจทำเหมือนพี่น้อง เมตตาต่อกัน
เหมือนกับที่เราทำกับญาติพี่น้องของเรา

3.ห้ามใจคนอื่นเป็นเรื่องที่ยากยิ่งครับ ห้ามใจเราเองดีกว่า
หมั่นแผ่เมตตา สวดมนตร์ให้ใจสงบเรื่อย ๆ

อยากฝากไว้ว่า ทุกข์ก็ไม่ดี สุขก็ไม่ดี
ไม่มีอะไรอยู่ได้คงทนครับ เกิดแล้วก็ต้องดับ

เมื่อเราสุขอย่าไปหลง เพราะถ้าสุขหมดลงเราจะเป็นยังไง?
เมื่อทุกข์ก็ให้ดูอยู่อย่างนั้น อย่าเอามาใส่ใจ อย่าเอามาปรุงแต่ง

ขอฝากให้เก็บไปพิจารณาด้วยนะครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 10:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ห้อยพระปิดตาซิค่ะ
คุณอยากพ้นทุกข์ คาถาบูชาคือ
ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เป็น และไม่มี :b1:

เจริญในธรรม

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
...ทนมาได้ตั้งนาน...ถ้ารักมากก็จะทุกข์มากเป็นธรรมดา...ถ้าอยู่คนเดียวไม่ได้ก็ต้องทนต่อไปค่ะ...
...อันที่จริงมนุษย์มีความอยากไม่สิ้นสุด...เราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกทำให้ตนเองมีทุกข์น้อยที่สุดได้...
...ที่คุณทนมาขนาดนี้...เพราะเลือกแล้วว่าเหมาะกับตัวเองแล้ว...ต้องถามตนเองว่าทนเพื่ออะไร...
...ต้องการมีชีวิตที่เหลือแบบไหน...วันคืนเดือนปีมีแต่มืดกับแจ้ง...สุข-ทุกข์อยู่ที่ใจตนเอง...



...ที่ผ่านมาถือว่าเป็นประสบการณ์...ลองค่อยๆเปลี่ยนตัวเอง...หาที่พึ่งที่เลิศกว่าที่ประเสริฐกว่านี้...
...ดูแลตัวเองสนใจตนเองให้มากขึ้น...เคยประพฤติพรหมจรรย์ไหมคะ...ที่เป็นหนทางพ้นทุกข์ไงคะ...
...การปฏิบัติธรรมเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้มนุษย์...หลุกพ้นจากเคราะห์กรรมที่หมุนเวียนไม่สิ้นสุด...


...ขอแนะนำว่าวันหยุดลองไปฝึกทำจิตใจตนเองให้ผ่องใส...สถานปฏิบัติธรรมที่ไหนสักแห่ง...
...ทางโลกเกิดมาแล้วมีทุกข์เป็นเบื้องหน้า...มีสุขเป็นของแถม...สุขทางธรรมเป็นสุขล้วนๆ...
...มนุษย์เกิดมาก็คิดว่าถ้ารวยกว่านี้คงสุขมากกว่านี้...ถ้าสวยกว่านี้สามีก็คงจะไม่มีเมียน้อย...



...อย่าลืมว่าความโลภไม่เคยมีเมืองพอ...คนที่มีคุณธรรมในจิตใจ...ก็ต้องซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง...
...ถ้าคุณเป็นฝ่ายยินยอมให้เขามีคนใหม่เองแล้วจะโทษใครกัน...สุขๆทุกข์ๆ...คุกขังคนเคยได้ยิน?
...เงินทองข้าวของ...บ้านเรือน...รถยนต์...เข้าไม่ได้ทุกข์กับเรา...เราต่างหากที่ดิ้นรนอยากได้...


...ก็ได้มาแล้วมันก็ทุกข์...เพราะต้องคอยดูแลรักษา...กลัวหาย...กลัวถูกขโมย...ใช่หรือไม่...
...ถ้าอยากพ้นทุกข์...ลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่...เคยได้ยินไหมคะสุขที่ปราณีตกว่ายังมี...ไม่ไกลด้วย...
...อยู่ในตัวเราเอง...พระธรรม84000พระธรรมขันธ์ที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมตรัสไว้2500กว่าปี...


...เป็นแบบเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ตรัสรู้มาไม่รู้กี่กัปป์กี่กัลป์...มนุษย์ที่ไม่แสวงหา...
...จะไม่มีทางเห็น...ชีวิตมีเพียงลมหายใจเข้าและออก...เข้าแล้วไม่ออกก็ตาย/ออกแล้วไม่เข้าก็ตาย...
...อย่าคิดว่าลมหายใจจะยืดยาวเหมือนสายไฟฟ้า...หมดลมหายใจก็เรียกว่าตาย...มันตายหลอก...


...ออกจากร่างนี้ไปเข้าร่างใหม่ก็เรียกว่าเกิด...เกิดใหม่มันไม่ได้ไปตามที่หวังแหละ...มันไปตามกรรม...
...ผู้ที่หมั่นฝึกฝนจิตตนเองในทางธรรมสม่ำเสมอจะเข้าใจไม่ต่างกัน...ถ้าคุณฝึกทำ..สุคติที่ไปก็รออยู่...
...ลองทบทวนชีวิตที่ผ่านมาว่า...เราได้ทำความดีหรือได้ทำกุศลกรรมที่เตรียมจิตใจพร้อมหรือยัง...


...จิตเป็นสิ่งที่ฝึกยาก...ไม่ลองไม่รู้...เกิดมาชาตินี้มีบุญได้พบพระพุทธศาสนแล้ว...ควรแสวงหา...
...สุขที่ปราณีตกว่าทางธรรมสิคะ...แล้วจะกราบพระพุทธเจ้าอย่างหมอบราบคาบแก้ว...ไม่มีใครรู้ได้...
...ถ้าไม่ปฏิบัติ...พระองค์บอกว่าไฟกำลังไหม้หัวคุณอยู่ให้รีบดับ...มัวแต่จะไปคิดดับให้แต่คนอื่น...


...จะรอให้มันร้อนจนไฟลวกหัวหรือคะ...อันนี้ก็ลองเอาไปพิจารณาดู...ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก...
...การฝึกจิตเรียกกันว่าการปฏิบัติธรรมนั่นแหละ...ปฏิบัตสำหรับภพภูมิต่อไป...เพียรละกิเลสในตน...
...อย่างน้อยที่สุด...ก็ขึ้นชื่อว่าไม่เสียชาติเกิดเลยนะจะบอกให้...คุณลองถามกิเลสในตัวเองดูสิคะ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 12:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2009, 17:12
โพสต์: 246

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: สู้ ๆ คะเป็นกำลังใจให้ค่ะ และขอให้พ้นทุกข์ไว ๆ ค่ะ
อย่าลืมสวดมนต์ทุกวันนะค่ะ จิตใจจะได้สงบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ควรจะสละเวลา ลาพักร้อนสามวันหรือเจ็ดวันไปปฏิบัติกรรมฐาน เพราะ จขกท. ไม่มีลูกเป็นห่วงผูกคอมีแต่แฟนคนเดียว กับแฟนเขาอีกคน ไปปฏิบัติที่วัดอัมพวันก็ได้ วัดนี้ถึงคนจะเยอะ พ.ท.ปฏิบัติน้อย แต่ว่าไปแล้วคุ้ม วิธิปฏิบัติก็ไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป เป็นวิธีที่สอนให้เข้าใจตัวเอง และเรียนรู้ที่แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ อีกทั้งมีกัลยาณมิตร(ก็คนที่ไปปฏิบัติด้วยกันนี่แหละ) รวมถึงจนท.ที่อยู่ที่วัด และไม่ได้ไปปฏิบัติ ก้จะเกิดคำตอบเองว่าควรจะเลิกกับแฟนดี หรืออยู่ต่อแบบนี้3 คนต่อไป ไม่มีใครมาตอบแทนให้ได้ นอกจากตัวเองเข้าใจและแก้ไขไปได้เอง

ควรจะแบ่งเวลาไว้ทำบุญให้เป็นประจำด้วย บางครั้งการทำบุญก้ช่วยให้จิตใจเข็มแข็ง และปล่อยวางได้ดี
ไม่แพ้ฟังเทศน์ฟังธรรมตามที่ต่างๆ (บุญ เกิดจาก ทุกอย่างที่เราคิด หวังดี ทำดี จากนามธรรมให้กลายเป็นรุปธรรม เรียกบุญ ทุกอย่างๆ จะเล็กน้อย จะน้อย จะใหญ่ จะมาก มีอานิสงส์แทบทั้งสิ้น)

ก่อนนอนก็ควรสวดมนต์ไหว้พระด้วยครับ ไหว้ที่เตียงนอนนั่นแหละ สวดบูชาพระรัตนตรัย นะโม3จบ
ไตรสรณคมน์ ตามด้วยอิติปิโส ไปถึง โลกัสสาติ สักรอบหนึ่ง (หรือถ้าไหวก็สวดพาหุงอีกบท)แล้วแผ่เมตตา แล้วก็นอน ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แล้วทำให้จิตมีพลังในตัวด้วย พลังนั้นได้จากความสงบและสมาธิของจิต

ส่วนที่เป็นอยู่นี้ เกิดจากอะไร ก้อย่าไปได้สงสัยหาคำตอบอะไรเลยครับ เพราะไม่มีใครรู้ได้ ก็เข้าใจและยอมรับมันไปก่อน แก้ได้ก้แก้ แก้ไม่ได้ตอนนี้ก้ปล่อยไว้ก่อน เมื่อคิดได้ก้จะหาข้อสรุปได้เอง ขอแต่ปล่อยวางให้เป็น และอดทนให้ได้ก่อน อาจจะยาก แต่เมื่อยากแล้วค่อยเป็นค่อยไป ความยากก็ค่อยๆลดลงมา
ความง่ายก็จะมาแทนที่เอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 พ.ย. 2009, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากพ้นทุกข์ เขียน:
ดิฉันแต่งงานมาเกือบ 20 ปี ไม่มีลูก สามีไปมีเมียน้อยตอนแต่งงานได้ 6 เดือน และมีลูกกับเมียน้อย ดิฉันทำใจมาตลอด ก็เพราะคำว่ารักคำเดียว จึงทนอยู่ ช่วงที่ผ่านมา ดิฉันทุกข์มาก มากที่สุด ก็จริงน่ะคะ ที่คนเราพอมีทุกข์ ก็หันมาหาธรรมะ จนทุกวันนี้ดิฉันพยายามอยู่ด้วยตัวของตัวเองให้ได้ และเคยบอกเลิก เขาก็ไม่เลิก บางครั้งดิฉันสับสนเมื่อฟังธรรมะว่า เราต้องมีใจเมตตา ให้อภัย ปล่อยวาง จนมีพี่ ๆ ที่ทำงานบอกว่าถ้าเลิกแล้วเป็นทุกข์ ก็ไม่ต้องเลิก ก็อยู่กันแบบ 3 คนผัวเมีย ซึ่งบางครั้งดิฉันรู้สึกไม่อยากยุ่งกับสามี เมียน้อย และลูกเขา เพราะมีแต่ความวุ่นวาย ดิฉันไม่ยุ่งกับพวกเขา เขาอยากทำอะไร อย่างไง ก็ไม่สนใจ มีแต่เมียน้อย ลูก ๆ เมียน้อย มาวุ่นวายกับดิฉัน จนสามีตัดพร้อว่าไม่เคยใส่ใจเขาเลย สนใจแต่พี่น้องดิฉัน ดิฉันบอกว่าก็มีอีกคนแล้วก็ให้เขาดูแลซิ (เมียน้อยไม่ได้ทำงาน อยู่บ้าน) ดิฉันบอกไปว่าดิฉันต้องทำงาน เลิกงานมาก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว จริง ๆ เรื่องยาวมาก ขอถามน่ะคะ
1. ถ้าเลิกกับสามี ถือว่าหมดกรรมไหมคะ
2. ถ้าเลิกไม่ได้ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรคะ
3. ถ้ายังต้องอยู่กับแบบนี้ ควรทำอย่างไรไม่ให้เขามายุ่งกับเรามาก
(คือดิฉันเป็นคนใจอ่อน ขี้สงสาร ไม่หนักแน่น บางครั้งเกลียดตัวเองมากค่ะ)
smiley Onion_L


คำถามที่ 1 คุณให้ความหมายของคำว่า หมดกรรม อย่างไร ถ้าแปลว่าไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยว ไม่สนใจ ไม่พบ ไม่เจอ ก็อาจจะแปลว่าหมดกรรม แต่หากใจเราคิดถึง กังวล ห่วงใย เป็นทุกข์ จะถือว่าหมดกรรมไหมนะ?

คำถามที่ 2 ถ้าไม่เลิก ก็น่าจะเป็นกันอยู่อย่างทุกวันนี้แหละค่ะ เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ ขอให้เปลี่ยนตัวเอง ทำให้ตัวเองมีความสุขในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สุขทางใจ (ใช้ธรรมะช่วยเพื่อให้เกิดความสุขทางใจอย่างแท้จริง) เข้าใจว่าทำอยากเพราะมันคาลาคาซัง ไม่จบสักที ขอให้อดทน

คำถามที่3 ให้ถือว่าทำบุญ ได้กุศล (เท่าที่สามารถ) หรือหากต้องการถอยห่าง ไปทำบุญวิปัสสนาที่วัดนะค่ะ หรือพูดคุยเป็นข้อตกลงกับสามีดี ดี ว่าขอบเขตของเราให้ได้แค่ไหน

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ คุณฝ่าฟันมานานอาจมีอ่อนล้า ที่ลานแห่งนี้จะช่วยเติมพลังให้คุณนะค่ะ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร