ลานธรรมจักร
http://www.dhammajak.net/forums/

พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=23762
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 08:50 ]
หัวข้อกระทู้:  พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์

พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์




อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารโทรม เครียด ขอบ ชัง เฉย รัก โลภ โกรธ หลง วางไม่ลง ปลงไม่ได้
คือเหตุต้นที่มาของความทุกข์ทั้งนั้น ทำยังไงดีหนอ?
จึงจะหาวิธีการเรียนรู้อยู่กับความทุกข์ได้อย่างอิ่มเอม เปรมปรีย์
เหย้าหยอกกับสุขทุกข์ได้ แบบยิ้มใสๆ เห็นแสงระยิบประกายแววจากเหงือกและไรฟัน เห็นท่าน่าจะดี
มีประโยชน์เหมาะกับวิถีโลกๆ บ้าง พระพุทธเจ้าสอนวิธีเรียนรู้อยู่กับความทุกข์และความสุขไว้ว่า

ไฟล์แนป:
Y8056795-1.jpg
Y8056795-1.jpg [ 58.67 KiB | เปิดดู 2497 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 08:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์

. ไม่เอาทุกข์ทับถมตนที่มิได้ถูกทุกข์ท่วมทับ
คนเรานี่ก็แปลกอยู่เฉยๆ สบายๆ ง่ายๆ ไร้สารกันทุกข์อยู่แล้ว แต่เพราะเผลอสติแบบรู้ไม่ทันนิหละ
ทุกข์จึงได้ช่องย่องเข้ามาครองจิตสถิตใจของเราให้หมองหม่น สับสน จนหาทางออกไม่ได้ไปไหนก็ไม่ถูก
งั้นลองคิดตรองดูถึงวิธีเรียนรู้อยู่กับทุกข์อันดับแรก ก็คือ “ทุกข์มีไว้ให้เห็น มิใช่มีไว้สำหรับเป็น”
เพียงแค่เห็น อย่าเป็น...ก็จบหลักสูตรทุกขศาสตร์

ไฟล์แนป:
G7382101-7.jpg
G7382101-7.jpg [ 182.79 KiB | เปิดดู 2494 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 08:52 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์

๒. ไม่สละความสุขที่ชอบธรรม
กิจกรรมธรรมอันใดที่ทำแล้ว ปฏิบัติแล้ว มันถูกต้องตามหลักสุขศาสตร์ ปราชญ์สรรเสริญ
ก็อย่าเพลินหลงประมาทในสุขอีก สุขเป็นของเรา ทุกข์เป็นของเขา (ของทุกข์) เมื่อมีสุข ทุกข์ก็จางหายไป
ต้องหมั่นประคองสุขที่ชอบธรรม รดน้ำพรวนใจให้จิตสดชื่นบ่อยๆ
จิตก็จะสดใส ไร้ภาวะ นุ่มนวล ควรแก่งานตลอดไป เรียนรู้วิธีอยู่กับสุขขั้นที่สอง ก็คือ
“สุขมีไว้สำหรับเป็น ต้องเป็นให้เป็น”

ไฟล์แนป:
F7233576-44.jpg
F7233576-44.jpg [ 39.36 KiB | เปิดดู 2491 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 08:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์

๓. ไม่สยบหมกมุ่น (แม้) ในสุขที่ชอบธรรมนั้น
ความสุขกายที่ได้รับกับความสุขใจที่ได้เป็นนั้น บางทีสุขก็แปลงสภาพกลายเป็นยางเหนียวหนืด
เกิดสุขภาวะหลงถนัดชนิดกัดไม่ปล่อย แกะไม่ได้คลายไม่ออกก็มีเหมือนกัน
สุขพึงสังวรระวัง อย่าหมกมุ่นติดสุขเกินเพลินจนแพร่ระบาดทั่วสรรพางค์จิตสถิตสรรพางค์กาย
อันตรายยิ่งกว่าตัวทุกข์อีก เรียนรู้วิธีอยู่กับสุขขั้นที่สาม ก็คือ
“สุขต้องรักษาเพื่อก้าวย่างสู่ทางแห่งปัญญา”

ไฟล์แนป:
G7448786-37.jpg
G7448786-37.jpg [ 122.02 KiB | เปิดดู 2488 ครั้ง ]

เจ้าของ:  ไหว้พระปล่อยปลา [ 12 ก.ค. 2009, 08:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: พุทธวิธีอยู่กับความทุกข์

๔. เพียรพยายามทำเหตุแห่งทุกข์ให้หมดสิ้นไป
ความเพียรเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ถ้าหากหมั่นทำบ่อยๆ ค่อยๆ เป็นไป
ก็จะทำให้ทุกข์คลาย กลายเป็นคนปราศจากปัญหาโดยสิ้นเชิง
งั้นต้องรู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของต้นสายปลายเหตุที่เข้ามากระทบ “ปัญหามีไว้ให้แก้ มิใช่มีให้กลุ้ม” หมั่นทำเรื่อยไป
ฉะนั้น การมีจิตใจรับรู้เต็มตื่นกับสภาพที่กำลังเป็นอยู่ กับสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ต้องทำให้เป็นปัจจุบันสมัย
รู้ทันตามความเป็นจริงของมัน เพื่อเข้าถึงความสุขที่ประณีตสูงสุด จึงจะตัดต้นตอทุกข์สิ้นเชิง
เรียนรู้วิธีอยู่กับสุขขั้นที่สี่ ก็คือ เป็นอยู่ด้วยสติสัมปชัญญะหรือด้วยสติปัญญาเพียรพยายามเสมอๆ ว่า
“ทุกข์ต้องรู้ทัน สมุทัยต้องละทิ้ง นิโรธต้องลุถึง มรรคต้องลงมือทำ”


หลวงพ่อพุทธทาส บอกไว้ว่า
“ถ้าความทุกข์มันเกิดขึ้น จงขอบใจมัน เพราะมันจะมาสอนให้เรารู้เรื่องความทุกข์ และความดับทุกข์
ถ้าเราไม่มีความทุกข์ ไม่รู้สึกว่าอะไรเป็นทุกข์ ก็ไม่มีทางเรียนอะไรได้ รีบฉวยโอกาสเอามาเป็นบทเรียน
เรียนให้รู้ กำจัดความรู้สึกนึกคิดที่เป็นทุกข์ออกไป หรือกำจัดกิเลสที่เป็นเหตุให้ทุกข์นั้นออกไปเสีย”

ไฟล์แนป:
G7188307-4.jpg
G7188307-4.jpg [ 147.86 KiB | เปิดดู 2486 ครั้ง ]

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/