ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความทุกข์ของมือที่สาม http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=21723 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | น้ำตา [ 17 เม.ย. 2009, 00:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความทุกข์ของมือที่สาม |
ข้าพเจ้ารักคนที่เขามีแฟนแล้ว ทรมานใจมากๆๆ รู้ว่าผิดและบาป พยายามตัดใจแต่ทำไม่ได้
|
เจ้าของ: | Angie [ 17 เม.ย. 2009, 00:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
...อยากถามคุณน้ำตา ว่าทำไมค่ะ รู้ๆๆ อยู่ว่าคนที่ตัวแอบชอบ แอบหลง แอบรักเค้ามีเจ้าของ...แล้วทำไมเผลอใจไปได้ค่ะ คนเราต้องยอมรับความจริงซิค่ะ แองจี้เชื่อว่า คุณน้ำตาเป็นคนดี คนน่ารักค่ะ ฉะนั้น อย่าไปเผลอใจรักคนอื่นที่เค้ามีเจ้าของแล้วซิค่ะ .... แองจี้ขอเป็นกำลังให้คุณน้ำตาน่ะ ค่ะ ![]() ![]() อยากให้คุณน้ำตา หมั่นสวดมนต์ก่อนนอน ช่วยได้มากเลยค่ะ น่ะค่ะ ลองดูซิค่ะ |
เจ้าของ: | ทุกข์ใจ [ 17 เม.ย. 2009, 10:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
สวัสดีคุณน้ำตา ยังไม่สายเกินไปที่คุณน้ำตาจะถอนตัวออกมาจากวังวนของการทำบาป คุณเห็นแล้วใช่ไหม แค่คุณหลงรักเขาคุณยังทุกข์เพียงนี้ แล้วถ้าคุณได้เขามาครอบครองคุณจะต้องยิ่งทุกข์หนักขึ้นไปอีกเป็น100เท่า10000เท่า เพราะคุณทำบาปอย่างมหันต์ ใครทำบาปทำกรรมคนนั้นก็ต้องรับไป เพราะฉะนั้นคุณรีบหยุดการทำบาปไว้เพียงเท่านี้เถอะ การที่คุณรู้ตัวว่ามันผิด มันบาป แสดงว่าคุณยังมีจิตใจที่มีคุณธรรมอยู่ คุณลองพยายามตั้งสติให้ดีๆ ค่อยๆคิดว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ พยายามสวดมนต์บ่อยๆ อาราธนาศีล5ด้วยน่ะ แล้วถ้ามีโอกาสไปปฏิบัติธรรมด้วยจะดีมาก คุณจะได้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม เป็นกำลังใจให้น่ะน้องรักของพี่ ![]() |
เจ้าของ: | be_grace [ 20 เม.ย. 2009, 16:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
มันก็พูดยาก....นะคะ ...รู้ดี เคยเป็น ...ไม่ขอออกความเห็นนะคะ ![]() แต่ว่า...................... ไม่เคยมีความสุขเลย ทรมาน...ทั้งสามคน นั่นแหล่ะ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | -dd- [ 20 เม.ย. 2009, 17:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
ท่านจะสมควรรักตนเองอย่างคนเห็นแก่ตัวด้วยการกระทำ การเบียดเบียนตนเอง และเบียดเบียนผู้หญิงคนอื่น ลูกของคนอื่นครอบครัวของคนอื่น อยู่อย่างนี้ ...? หรือ..ท่านผู้ถามพึงสมควรรัก "ศีล"ของตนเอง จะเป็นการประเสริฐกว่า? การเดินทางของชีวิตนั้น ไม่ได้จบที่ความตายในชาตินี้หรอกหนา... ท่านผู้ถามกล่าวว่า ....ยากเหลือเกินที่จะตัดใจได้...? ก็ยามที่ไฟนรกตั้งขึ้น ปรากฏแก่ท่านในยามสุดท้ายของชีวิตก่อนจะจากโลกนี้ไป...การไปสู่นรกอันช่าง น่าเจ็บปวดทรมานเป็นที่สุด ...จะตายก็ตายไม่ได้ เพราะกรรมชั่วหล่อเลี้ยงไว้ ดิ้นรนทุรนทุรายหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้นั้น..... ถามว่า...ความรัก หรือความอาลัยอาวรณ์ที่มีต่อชายที่ไม่สมควรคนนี้ หรอกหรือ ...ที่จะช่วยท่านผู้ถามให้รอดพ้นจากนรกได้? ตอบว่า...ช่วยไม่ได้หรอก...แต่เพราะอารมณ์นั้นนั่น แหละ ความรู้สึกผิด ความเบียดเบียนผู้อื่นเพราะหิริโอตตัปปะไม่พอเลย.....ย่อมผลักส่งและเข้า อุปถัมภ์ให้กรรมชั่วกรรมหนักที่ท่านเคยทำไว้แต่หนหลัง ทำให้ท่านต้องไปสู่ ความเป็นสัตว์นรกนั่นเทียว และหาได้เป็นเช่นนั้นเพียงชาติเดียวก็หาไม่หรอก....ก็ท่าน นั้น ครั้นตกจมอยู่ในนรกนานแสนนานกว่าจะหมดกรรมชั่วแล้วก็ตาม เมื่อได้พ้นจากอบายแล้ว หากกรรมชั่วๆอื่นมาส่งผลอีก ท่านก็ย่อมได้อัตภาพแห่งการเป็นเปรตในเปรตภูมินั่นเทียว ด้วยอำนาจโลภะที่ผิดๆอันสั่งสมไว้นานและมีกำลัง...ครั้นพอได้พ้นจากความเป็น เปรต บาปที่จะผลักส่งให้ได้กำเนิดในสัตว์เดรัจฉานก็ยังติดตามส่งผลชาติแล้วชาติ เล่า..ท่านคงจะตกจมอยู่ในความมืดมนในอบายจนแทบหาทางออกไม่เจอเลย... แม้หากคราใดได้เกิดเป็นมนุษย์เพราะกรรมดีกรรมใดกรรม หนึ่ง.... ท่านย่อมกลับมาสู่ความเป็นหญิงที่ต้องถูกแย่งชิงคนรัก ถูกเบียดเบียน ถูกย่ำยีจิตใจตลอดนับชาติไม่ถ้วน..น้ำตาแห่งความทุกข์โศกอันไม่มีประมาณย่อม ไหลอาบแก้ม เปื้อนหน้าของท่านนับชาติไม่ได้เลย.....ควรหรือที่ท่านจะเห็นว่าคุ้มที่จะ แลก... คุ้มที่จะเดินไปสู่ ?... นี่เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของความรักอย่างเห็นแก่ตัว ... การข้องแวะกับธรรมที่โลกติเตียน ...การประพฤติผิดธรรมของท่าน ...การเบียดเบียนผู้อื่น... ความรู้สึก"มายา" ที่ท่านอาลัยอาวรณ์นักหนาว่า "ยากนักที่จะตัดใจได้" จะมอบรางวัลความซื่อสัตย์ความจงรักภักดีต่อกิเลสของท่านด้วยอาการอย่าง นี้... ท่านกำลังเลือกแล้ว จองแล้วแห่งคติที่จะดำเนินไปสู่.... หากแต่ว่า ท่านผู้ถาม ตัดสินใจเลิกซื่อสัตย์กับกิเลสตนเอง.... หันกลับมารัก "ศีล" ที่งดงามแล้วไซร้... ยุติการเบียดเบียนผู้อื่นเพราะตัณหาตนเอง... ยิ่งผู้หญิงที่อาภัพผู้นั้น เป็นหญิงแสนดีเท่าไหร่...อนิจจา..น้ำหนักกรรมชั่วของท่านยิ่งมีกำลังยิ่งนัก ไม่มีประมาณ และไม่อาจจะคาดถึงผลได้เลย.... ศีลอันดีของท่านนั่นแหละ ย่อมยับยั้ง ย่อมกั้น ย่อมเบียดเบียนกรรมชั่วให้อ่อนกำลังลง หรือยังไม่มีโอกาสส่งผลได้... ศีลที่ทำได้แสนยากในโลกนี้ของท่าน.... ย่อมเกิดได้ด้วยจิตใจที่เป็นมหากุศลที่มีกำลังใหญ่เท่านั้น.....เป็นสิ่งมี กำลัง ....มีอานุภาพยิ่งแล้วจากจิตใจของท่าน นี่เองที่จะเป็นกำลัง เป็นฉนวน เป็นกำแพงแก้วกั้นอบาย กั้นทุกข์โศกอันไม่มีประมาณที่จะต้องเกิดแก่ท่านต่อไปเบื้องหน้า ดังนั้น เพราะศีลนี้ที่เป็นของใหญ่ มีกำลัง มีอานุภาพยิ่งนัก ย่อมแล่นแซงหน้ากรรมชั่วทุกชนิดที่ท่านเคยได้กระทำ อุปการะให้ท่านได้คติที่งดงามตรงตามเหตุ คือ ศีล ของท่านนั่นเทียว....คติอันดีที่ท่านจะเดินไปสู่ย่อมปรากฏชัดเจนแก่ท่าน ก่อนที่ท่านหมดสิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้าย ท่านจะปิดตาลงอย่างเป็นสุข สงบเพราะรู้หนทางที่ตนจะเดินไปสู่นั้น...ปลอดภัย... ชาติหน้านั้น ท่านผู้ถามอย่าคิดว่ายังอีกไกลเลย.... อาจารย์แนบท่านกล่าวไว้ว่า หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออก ก็ชาติหน้าแล้ว... ใครเล่าจะรู้ความตายของตนว่าจะมาถึงเมื่อไหร่..?....ท่านผู้ถามช่างเป็นผู้ประมาทเป็นที่สุดแล้ว ก็ดูเอาเถิด แม้ตนเองก็ยังสำเหนียกได้ถึงกรรมชั่วของตน ยังเฝ้าก่นตำหนิตนเองได้ถึงเพียงนี้...ใครเล่าจะช่วยท่านได้ หากท่านไม่ยอมเดินจากขุมนรกออกมาด้วยตัวเอง... ท่านอาจจะไม่เชื่อนรกว่ามีจริงกระมังหนอ? เอาเถิด...เวลาที่ท่านจะเชื่อคือเมื่อท่านเห็นแล้ว นรกปรากฏแก่ท่านแล้ว สายเกินไปแล้ว กลับตัวไม่ได้แล้ว.... นั่นแหละ....แม้ไม่เชื่อในยามนี้ท่านก็ต้องเชื่อในยามนั้นนั่นเทียว ความจริงก็คือความจริงไม่เกี่ยวว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ? ท่านได้รูปร่างหน้าตาสวยงาม เพราะศีลอันดีที่ท่านเคยได้ทำไว้แล้วแต่ในอดีต..ผลเมื่อบังเกิดแล้วเป็นคนงาม แต่ท่านกลับเอาสมบัติอันเกิดจากกรรมดีในอดีต... มากระทำกรรมชั่วในปัจจุบันนี้... ถามว่า สมควรหรืออย่างไร? ได้ชื่อว่า รูปงาม แต่เป็นคนใจร้าย ใจทราม นั้น ดีหรือไรเล่า? dd ได้กล่าวคำหนักแก่ท่านแล้วในที่นี้ จะด้วยเพราะเหตุที่ขุ่นเคืองท่าน หรือรังเกียจท่าน.... ก็หาไม่หรอก.... แต่เพราะความรักท่าน ห่วงใยท่านผู้ถาม...เห็นใจท่านว่า กำลังไปสู่ความเสื่อมอันหาประมาณไม่ได้ .....คำหนักทั้งหลายเหล่านี้ หวังเพียงจะกระแทกกิเลสของท่านให้สะเทือนได้ หากเมื่อรู้ความจริงขึ้นมาบ้าง...หาไม่แล้วท่านจะไม่ยอมหยุดยั้ง จะยังคงแล่นต่อไปโดยไม่สำเหนียกถึงภัยในเบื้องหน้าเลย.... มาจนถึงบัดนี้ ท่านผู้ถามต้องพิจารณาเอง บอกแก่ตนเองว่า ท่านจะเลือกเดินทางชีวิตนำชีวิตไปสู่อะไร... ระหว่างความหายนะ หรือความสวัสดี? |
เจ้าของ: | Boonmanee [ 20 เม.ย. 2009, 20:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
เดินออกมาเถอะนะคะ ไม่เป็นผลดีเลย อย่างตอนนี้ก็ไม่สบายใจแล้ว และถ้าวันหนึ่งข้างหน้าถ้าได้เค้ามาจริงๆๆแล้ว ไม่คิดหรือคะว่าจะมีคนมาต้องการเค้าไปจากเราอีก ซึ่งมันเป็นวงล้อไม่จบสิ้น แต่ถ้าหาักตัดใจเสียแล้วเดินออกมา การที่เราสนับสนุนให้คนรักเค้าอยู่ด้วยกันไม่ผลัดพราก จะนำส่งให้เราเจอคนที่ดีในวันข้างหน้าและมีความสุขในชีวิตคู่ของเรา คุณต้องทำได้แน่คะ ดิฉันขออนุโมทนา ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ไผ่ [ 21 เม.ย. 2009, 22:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
สวัสดีครับคุณน้ำตา เห็นใจคุณครับ ถ้าเป็นภาษาทางเหนือ เขาจะพูดว่า "ต๊กตี๊เปิ้ลเป็นดีใค่หัว ต๊กตี๊ตั๋วเป็นดีใค่ไห้" ![]() ![]() "เหตุเกิดจากที่ใด ดับมันที่นั่น" ![]() |
เจ้าของ: | kritsadakorn [ 24 เม.ย. 2009, 22:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
ขออนุโมทนา ที่คุณยังมีหิริ โอตตัปปะ ความเกรงกลัวและความละอายต่อบาปครับ ปัญหานี้ยังเป็นแค่ความทุกข์ใจ ยังไม่เสียหายอะไร ถ้าคุณยังยับยั้งการกระทำที่จะไปแย่งเขาได้ อดทนไว้นะครับ เวลาจะช่วยคุณได้ ถ้าจะแก้ปัญหาใจนี้อย่างเด็ดขาด แก้ได้ด้วยการปฎิบัติธรรมครับ |
เจ้าของ: | เหม่งตุ๊ก [ 25 เม.ย. 2009, 11:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
เลิกคิดเถอะนะ ที่คิดไปแล้วให้ผ่านไป ตั้งสติปัจจุบันรักษาศีล 5 ไว้ให้ได้มากที่สุด ![]() |
เจ้าของ: | เฟิร์น [ 26 เม.ย. 2009, 21:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
![]() ตาจะบอด มืดมัว มองไม่เห็น จะเจ็บปวด ชอกช้ำ แสนรำเค็ญ จึงกลายเป็น ทาสแท้ ของหัวใจ |
เจ้าของ: | วรานนท์ [ 26 เม.ย. 2009, 22:46 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
![]() ![]() ![]() สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องถามคุณ "น้ำตา" ก่อนว่า แฟนที่เราพูดถึงกันอยู่นี่ มันหมายถึงสามีหรือเปล่า ถ้าเป็นสามี ก็เลิกเสียเถิดครับ แต่ถ้าเป็นแค่แฟนกัน อันนี้มันอยู่ที่ใจของคุณน้ำตาเองว่า จะเลิกหรือลุยต่อ (ได้ทั้งสองอย่างเลยครับ) ![]() ![]() ![]() "จงคิดก่อนทำ" |
เจ้าของ: | pinkbutterfly [ 28 เม.ย. 2009, 19:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
นี่เป็นความทุกข์ทรมานขั้นแรกที่คุณได้รับ และต่อไปจะมีคนที่เป็นทุกข์เพราะคุณเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะแฟนของเขา แต่หากคุณสามารถหยุดได้โดยไม่ไปแย่งของคนรักของใครถึงแม้ว่าฝ่ายชายจะมีใจให้ก็ตาม ก็เชื่อว่าบุญกุศลนี้จะส่งผลให้คุณได้เจอกับสิ่งดี ๆ มีคนที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิต ลองหันไปมองผู้ชายอื่นดูบ้างอาจมีคนที่น่าสนใจกว่าคนที่มีเจ้าของแล้ว ถ้าทรมานใจมากก็ลองไปเป็นอาสาสมัครดูบ้างก็ได้ เช่น เลี้ยงเด็กที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด ซึ่งต้องการอาสาสมัครมากค่ะ คงจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น และทำให้คุณยุ่ง ๆ จะได้ไม่ต้องคิดมาก ดิฉันเคยไปมาแล้ว รู้สึกดีจริง ๆ ![]() |
เจ้าของ: | Anatnong [ 13 มิ.ย. 2009, 16:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
ก็เคยมีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน พยายามสวดมนต์ นั่งสมาธิบ่อยๆ และเข้าใจค่ะว่ามันทรมานมาก ขอเป้นกำลังใจให้นะคะ อย่าลืมว่าผู้ชายที่มีภรรยาแล้วเค้าไม่จริงใจและไม่รักเราจริงหรอก |
เจ้าของ: | ปลายฝน [ 17 มิ.ย. 2009, 22:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
คุณได้พยายามแล้ว เพราะเห็นทุกข์แล้ว เห็นปัญหาทั้งที่เผชิญอยู่ และปัญหาที่ยังมาไม่ถึงแล้ว..ก็พยามต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งท้อ และอย่าเพิ่งฟันธงว่าทำไม่ได้ .. ไม่มีอะไรเกินความสามารถของมนุษย์ ถ้าตั้งใจจริงนะคะ เคยผ่านประสบการณ์รักสามเส้า(เศร้า)มาบ้างเหมือนกัน อยากจะบอกว่า ถึงแม้จะได้ใจคนที่มีรักซ้อนมา หรือต่อให้เค้ายอมเลิกกับคนที่เค้าคบอยู่ก่อน เราก็จะมีความสุขไม่เต็มร้อยหรอกค่ะ เพราะต้องคอยระแวง ว่าเค้าจะไปเจอคนใหม่ และไปจากเราเหมือนอย่างที่เค้าทำกับแฟนเก่าหรือเปล่า .. เพราะขนาดคนเก่าเค้ายังทำได้ แล้วกับเรา .. มีอะไรที่มั่นใจได้ ว่าเค้าจะหยุดอยู่ที่เราคนเดียว .. แล้วหากเราต้องอยู่ด้วยความระแวง หรือความรู้สึกผิด ในใจ ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร เป็นกำลังใจให้นะคะ พยามทำใจต่อไปเรื่อยๆ แล้วชีวิตจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ ![]() |
เจ้าของ: | kritsadakorn [ 18 มิ.ย. 2009, 17:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความทุกข์ของมือที่สาม |
น้ำตา เขียน: ข้าพเจ้ารักคนที่เขามีแฟนแล้ว ทรมานใจมากๆๆ รู้ว่าผิดและบาป พยายามตัดใจแต่ทำไม่ได้ การจะตัดใจ ต้องรู้ก่อนว่า ที่คุณไปรักแฟนคนอื่นนี้ ไปรักได้ยังไงครับ เป็นเพื่อนกันมาก่อน ? ทำงานด้วยกัน ? ชอบนิสัยเข้ากันได้ ? หน้าตาน่ารัก ? หน้าตาคล้ายคนรักเก่า? รักเขาก่อนที่เขาจะมีแฟน ? รักหลังจากที่เขามีแฟนแล้ว ? ควรจะบอกรายละเอียดมากกว่านี้นะครับ จะได้แนะนำวิธีตัดใจได้ถูกครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |