ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=27&t=20659 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | บุญชัย [ 17 ก.พ. 2009, 11:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ 'เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากชั้นไป.... เธอควรเป็นคนที่จูงมือชั้นออกไป' ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา เพื! ่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน ดังนั้นผมจึงทำตาม เธอเขินอายในอ้อมแขนผม ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก.... นี่เป็นเรื่องที! ่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว... เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น... ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน... ทุกๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก... แต่แล้ว ความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย... เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน... เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง.. หัวใจผมเต้นแรงด้วยควา! มรัก... ที่นี่...เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ... เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคน ถวิลหา.... คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม... ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า วันที่คุณประสบความสำเร็จ ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา... ผมเริ่มรู้สึกลังเล... ! ผมรู้ว่าผมกำลังทรยศภรรยาผม... แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว... ผมปลีกตัวออกจากเจน ' วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ ผมต้องเข้าออฟฟิศ ' ... แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะไปด้วยกัน... ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม.... ทั้งที่จริงๆแล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม.... ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด... เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน... จริง ๆ แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก.. ทุก ๆ เย็นเธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร..ใน??ณะที่ ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน... หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์.... มองเรือน! ร่างอันงดงามของเจน... ช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน.... เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร.. เธอมั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก.. ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่า เรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง... เธอจะเป็นอย่างไร วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ...สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี... พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก... เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไร! บางอย่างจากเธอ.... เธอเหมือนจะรับรู้มันได้... แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆ กับพนักงานทุกคน.... แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น ในที่สุด...เจนก็บอกกบผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน..ผมพยักหน้า.... ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว.... ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ.. ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ... ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ... มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก.. แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป... ผมต้องการหย่า... เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย... ผมย้ำกับเธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง... แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า...คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น... เธอร้องไห้อย่างหนัก.. ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา... แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้... เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ... ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้..มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก... ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน... ทุกๆ อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให! ้เธอหมด.... เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้นแล้วฉีกมันทิ้ง.. มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น... ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปี กลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน... ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้... เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด... สำหรับผมแล้ว...การร้องไห้ของเธอเหมือน เป็นการปลดปล่ยยความสับสนของตัวผมเอง... หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม .ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ เสียที คืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก... เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ. .ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย... ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า... เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม... แต่เธอต้องการให้ผมให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า... และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ... ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน.. เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อน เวลานั้นจะมาถึง... รัชต์..คุณจำได้มั๊ย....วันที่เราแต่งงานกัน...คุณประคอง ชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ.. ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของชั้น... ชั้นมีเรื่องขอร้อง... ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้อง นอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน ผมยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น... และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง... เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข.... ภรรยาผมบอกกับผมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ..เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้... คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง... เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า ..คว! ามจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป... พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก... ลูกชายเราตบมือแล้วพูดด้วยความดีใจว่า ว้าว...วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น......! เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา... ผมพยักหน้า...ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม... ผมขับรถไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์..แล้วเลยไปออฟฟิศ วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม... เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กล ิ่นน้ำหอมของเธอ... ผมถึงได้ตระหนักว่า.....เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย... ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก...ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป... วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน. ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร...และอื่นๆ อีกมากมาย... ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที...ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...! ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเลย... หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด... เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้ นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้... ลูกของเราร้องขึ้นว่า พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ.. สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็นภาพที่เขามีความสุขที่สุด.... เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น...ผมทนมองภาพนั้! นไม่ได้จริง ๆ ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด.. .เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า... ความจริงแล้ว...ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เฒ่า ..ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า.. ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ..ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่.. ผมลังเลเล็กน้อย.. แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้. ..เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า เจน..ผมขอโทษ...ผมจะไม่หย่า.... เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ...ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม... ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็น เพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย... ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน.... ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว.....ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน ..เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่... เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม.... ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้.... พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร ...ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่ |
เจ้าของ: | ไผ่ [ 03 มี.ค. 2009, 19:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
Although loneliness has always been A friend of mine I'm leaving my life in your hands People say I'm crazy and that I am blind Risking it all in a glance How you got me blind is still a mystery I can't get you out of my head Don't care what is written in your history As long as you're here with me I don't care who you are Where you're from What you did As long as you love me Who you are Where you're from Don't care what you did As long as you love me Every little thing that you have said and done Feels like it's deep within me Doesn't really matter if you're on the run It seems like we're meant to be I don't care who you are Where you're from What you did As long as you love me Who you are Where you're from Don't care what you did As long as you love me As long as you love me I've tried to hide it so that no one knows But I guess it shows When you look into my eyes What you did and where you're coming from I don't care, as long as you love me, baby I don't care who you are Where you're from What you did As long as you love me Who you are Where you're from Don't care what you did As long as you love me Who you are Where you're from What you did As long as you love me Who you are Where you're from As long as you love me Who you are As long as you love me What you did As long as you love me I don't care As long as you love me ผมก็ชอบนะเพลงนี้และบท ความที่ท่านได้นำเสนอ ชีวิตผมก็เหมือนเรื่องหัวข้อที่ท่านนำเสนอมาก เพียงแต่ ชีวิตผมดันไปเหมือน คุณผู้หญิง ตอนนี้ครอบครัวและวันเก่าๆ ก็ได้ผ่านจุดนั้นมาได้แล้ว ผมมีรรมะนี่แหละที่คอยให้สติ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ดูแลและเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกให้ดีที่สุด พอถึงเวลา พาพวกเขาข้ามฝั่งไปได้ ก็เป็นเวลาที่ผมต้องใช้ชีวิตเพื่อชีวิตผม โดยมีธรรมะนำทาง ตอนนี้เพื่อดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท แสวงหากัลยาณมิตรและสัตตบุรุษ เพื่อศึกษาแลกเปลี่ยน แนะนำแนวทางที่ถูกที่ควร เพื่อเป็นทุนทางธรรมในเบื้องหน้าต่อไป...สุขทางโลกียะคือ สุขที่เจือด้วยทุกข์ เป็นสุขที่ไม่เที่ยงแท้...สุขทางธรรมคือสุขที่แท้...และตลอดไป |
เจ้าของ: | แสงอาทิตย์ [ 05 เม.ย. 2010, 15:03 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
อยากให้สามีเราคิดได้แบบคุณจัง ไม่รู้ว่าจะมีวันที่เขารู้ผิดชอบชั่วดีอย่างคุณหรือว่าจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้แต่แอบหวัง สักวันเขาจะลุกขึ้นมาทำเหมือนคุณ |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 10 เม.ย. 2010, 22:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
![]() |
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 22 พ.ค. 2010, 16:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
บุญชัย เขียน: ผมก็ตระหนักว่า.. ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็น เพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย... ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้.... พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร ...ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 22 พ.ค. 2010, 16:49 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก | ||
สมมติว่า แก่หง่อม อายุ 90ปีกันทั้งคู่ ฝ่ายชายจะอุ้มฝ่ายหญิงไหวหรือครับ ![]() ![]()
|
เจ้าของ: | สาวิกาน้อย [ 22 พ.ค. 2010, 17:00 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
หลับอยุ่ เขียน: สมมติว่า แก่หง่อม อายุ 90ปีกันทั้งคู่ ฝ่ายชายจะอุ้มฝ่ายหญิงไหวหรือครับ ![]() ![]() ไหวสิค่ะ คุณหลับอยุ่ ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 22 พ.ค. 2010, 17:27 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก | ||
งั่กๆๆๆๆๆๆ..... ![]()
|
เจ้าของ: | kittiwan [ 24 พ.ค. 2010, 08:23 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก |
ขอให้คุณทำมันให้ดีที่สุด อย่าให้โอกาสมันผ่านไป เพราะมันจะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้อีกเลย |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 25 พ.ค. 2010, 21:40 ] | ||
หัวข้อกระทู้: | Re: As Long As You Love Me. ให้เวลาคุณรักฉัมมากอีก | ||
kittiwan เขียน: ขอให้คุณทำมันให้ดีที่สุด อย่าให้โอกาสมันผ่านไป เพราะมันจะย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้อีกเลย ย้อนกลับไม่ได้ยังไม่เป็นไรครับ ดูท่าแล้ว จะสร้างภพสร้างชาติ ต่อไปอีกนี่สิครับน่ากลัวกว่ากันเยอะครับ คิดแล้วนึกถึงคำว่าคู่เวร ![]()
|
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |