วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 15:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1376 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37 ... 92  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 12:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อยากคุยกับคุณต้นหญ้าจังคะ หลังไมค์ได้ไม๊คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 12:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ม.ค. 2010, 13:20
โพสต์: 131

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณแสง ส่ง E-mail ไปหาคุณแสงแล้วนะคะ :b31: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 13:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณคุณต้นหญ้าค่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 13:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณแสงเป็นนักเรียนที่ดีนะค่ะ นักเรียนที่ดี
มักสอบได้ดีนะ
คุณ 01- อ้อบอกแทนพี่ทักทายได้เลยว่า
พี่ทักทายยินดีมากที่จะให้คำแนะนำ ได้
ช่วยเหลือคนที่เจอโรคละบาท (บาทเดียว)
นี้ให้หายจากโรคเร็ว ๆ เขียนระบายได้นะค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 13:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


ได้เห็นการก้าวย่างที่ค่อยเป็นค่อยไปของหนูแสงฯแล้วก็ยินดีด้วยครับ อย่าเร่งรีบเรียกร้องให้ผลเกิดแบบเร่งด่วนเพราะจะทำให้ท้อถอย อะไรที่ทำได้ก็ทำเถิด ถ้ารู้ว่าที่ทำอยู่มันเป็นเหตุดี.. เราเลือกรับอารมณ์ไม่ได้ตามใจปรารถนาตลอดเวลา แต่สามารถคิดนำไปก่อนว่าหากได้อารมณ์ไม่น่าชอบใจจะไม่ปล่อยให้โทสะครอบงำอยู่นาน..เพราะสิ่งทั้งปวงที่ปรากฏนั้นเป็นเพียงปรากฏการณ์ของเหตุปัจจัยที่ไม่คงที่ แปรผันไปตลอดเวลา..นี้เรียกว่าการทำไว้ในใจโดยแยบคายหรือโยนิโสมนัสสิการ

ก็ใครเล่าในสังสารวัฏฏ์ที่ไม่เคยทำบาปนั้น ..หามีไม่...
เราเองก็อยู่ในเงื่อนไขนั้นหาได้ยกเว้นแต่อย่างใดไม่.... แต่หากนับผู้ที่มีโอกาสได้พบพระธรรมที่ถูกตรงนั้น กลับปรากฏเป็นของยากยิ่งในโลกนี้ตลอดสังสารวัฏฏ์อันยาวนานทีเดียว .... เรานั่นเอง เป็นผู้มีบุญที่ได้พบได้เจอ เราควรจะยกจิตของเราเข้าหาอารมณ์บุญ ณ บัดนี้เถิด


....จะชื่อว่าเป็นความประเสริฐเหลือหลาย...
ก็เราลองเหลียวแลหาดูผู้คนในสังคมนี้ มีสักกี่ท่านกันหนอที่ได้มีโอกาสอันยอดเยี่ยมเยี่ยงเราเช่นนี้?...ช่างน้อย เหลือเกิน ใยเราจึงจะทำความเศร้าหมองให้บังเกิดขึ้นแก่จิตใจเล่า ทั้งๆที่ เรากำลังได้โอกาสกระทำกุศลอันยิ่งใหญ่ได้ในขณะนี้..
เปรียบเหมือนบุคคลผู้กำลังได้รับการอัญเชิญให้ได้รับสมบัติ อันล้ำค่าอยู่ แต่บุคคลนั้นเกิดมีใจที่หดหู่กลับปรากฏขึ้น เพราะขาดโยนิโสมนสิการ ....เขาหาได้ใส่ใจในโอกาสทองนั้นไม่ ทอดทิ้งโอกาสอันควรหันไปสนใจสิ่งที่ไม่มีวันหวนกลับเพราะเป็น"อดีต"ที่จบไป แล้วนั้น....อย่างน่าเสียดาย....
เมื่อเกิดรู้ตัวขึ้นแล้ว เขาจึงปรารภแก่ตนขึ้นมาว่า.... เอาละ เรารู้ตัวแล้วในบัดนี้ เราก็จะกระทำกุศลในบัดนี้นั่นเทียว....และแล้วจึงตระหนักถึงปัจจุบันที่ตน กำลังมีโอกาสสร้างปัจจุบันเหตุ ดุจบุคคลที่รู้ถึงความมีลาภอันประเสริฐ รู้ถึงว่าตนนั้นกำลังได้รับสมบัติอยู่ ฉะนั้น
จากนั้นก็นึกถึงกุศลที่ทำไปแล้วด้วยดี มี ทาน ศีล ภาวนา เป็นต้นนั้น
แม้การระลึกถึงคำกล่าวที่แสดงเหตุผลในเว็บไซต์นี้ ก็เป็นการงานของใจที่เป็นกุศลที่ขึ้นมาปรารภทั้งสิ้น บุญย่อมเกิดขึ้นแล้วด้วยประการฉะนี้


เมื่อฝึกใจให้กลับมารู้ตัวบ่อยๆ ต่อมาไม่นาน เราจะพบว่า ใจที่ขาดโยนิโสมนสิการนั้นค่อยปราศจากไป เพราะเขาหมดปัจจัย เพราะเราเป็นเป็นผู้มีปัญญาคมกล้าขึ้น
ขอให้"อกุศลในอดีต" เป็นปัจจัยให้หนูแสงฯเจริญ"กุศลใหม่"ให้ยิ่งๆเถิด... เพราะหนูแสงฯคือผู้มีบุญมาก ...ขอให้กำลังใจ ให้ข้ามผ่านความทุกข์ให้ได้โดยเร็ว โดยหมั่นเตือนใจในเรื่องเหตุใหม่ให้ดี แค่นี้หนูแสงฯย่อมเป็นคนที่เกิดมาแล้ว ไม่เสียชาติเกิดเลย เพราะ ได้ทำประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นได้อย่างมากมาย ..

:b54: :b54: :b54: :b50: :b50: :b50:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 มิ.ย. 2010, 17:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณอ้อ สำหรับกำลังใจนะคะ จะพยามปฏิบัติตัวและใจให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควรให้มากที่สุดคะ

สวัสดีคะคุณตา -dd-
สิ่งที่หนูเป็นอยู่ทุกวันนี้ คือเวลามีเหตุต้องให้นึกถึงเขา หรือมีสิ่งใดมากระทบกระเทือนจิตใจหนูก็จะรีบท่อง คิดหนอๆๆไปเรื่อยๆ จนเลิกคิด หนูยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นการคิดที่ถูกหรือเปล่า เพราะบางครั้งในขณะที่ท่องคิดหนอๆ ใจเราจดจ่อกับคำที่เราท่อง อาการทุรนทุรายในสิ่งที่คิดเมื่อครู่ก็จะหายไป แต่ความคิดก็ไม่ได้หายไปจากใจเราเลยซะทีเดียวเพราะบางครั้งมันก็จะมีแว๊บๆ เข้ามาในจิตเราอีก หนูก็ใช้วิธีเดิมคือท่องจนอาการที่เป็นหาย อย่างนี้ไม่ใช่ว่าเรื่องที่อยู่ในใจเรามันจะหายไปจากใจเราเลยใช่ไม๊คะ อย่างไรเราก็ยังตัดและปล่อยวางไม่ได้ใช่ไม๊คะ แล้วอย่างนี้เขาเรียกว่าเราปฏิบัติได้ดีหรือยังคะ รบกวนคุณตา -dd- ด้วยคะ อยากตัดความนึกคิดเดิมๆ ไปจากใจเราให้ได้สักทีคะ เหนื่อยเหลือเกินคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 01:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


นนนน เขียน:
คุณ 01- อ้อบอกแทนพี่ทักทายได้เลยว่า
พี่ทักทายยินดีมากที่จะให้คำแนะนำ ได้
ช่วยเหลือคนที่เจอโรคละบาท (บาทเดียว)
นี้ให้หายจากโรคเร็ว ๆ เขียนระบายได้นะค่ะ


คนที่จะให้คำแนะนำที่ดีๆ
มีกำลังใจอย่างเต็มเปี่ยม
รวมถึงอาจารย์อ้อด้วยนะค่ะคุณ 01ฯ :b4: :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 16:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


หนูแสงฯ:

อ้างคำพูด:
สิ่งที่หนูเป็นอยู่ทุกวันนี้ คือเวลามีเหตุต้องให้นึกถึงเขา หรือมีสิ่งใดมากระทบกระเทือนจิตใจหนูก็จะรีบท่อง คิดหนอๆๆไปเรื่อยๆ จนเลิกคิด หนูยังไม่ค่อยแน่ใจว่าเป็นการคิดที่ถูกหรือเปล่า เพราะบางครั้งในขณะที่ท่องคิดหนอๆ ใจเราจดจ่อกับคำที่เราท่อง อาการทุรนทุรายในสิ่งที่คิดเมื่อครู่ก็จะหายไป


ที่หนูแสงฯทำได้นี้นับว่าดีมาก แต่เพราะกำลังของสมาธิไม่ได้ตั้งอยู่ตลอดเวลา พอเขาหมดไป ความคิดเดิมๆจะไหลกลับมา การแก้ไขด้วยสมาธิอย่างเดียวย่อมไม่มีผลถาวร การแก้ทุกข์แบบถาวรคืิอแก้ด้วยปัญญาเท่านั้น ที่หนูแสงฯได้เรียนรู้จากคำแนะนำหลากหลายของกัลยาณมิตรนั้นล้วนมีประโยชน์เกื้อกูลแก่ปัญญาทั้งสิ้น..

ข้อที่หนูแสงฯกังวลมากคือเมื่อไรจะทำได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที ..อันนี้นี่เองที่เป็นเหมือนเครื่องกระตุ้นให้เกิดความขัดใจนักหนา ควรเลิกการคาดหวังหรือคาดคั้นตนเช่นนี้..หนูแสงฯคงนึกว่า ทุกคนในโลกทำได้ทันทีในการตัดใจกับปัญหาอะไรๆคงมีแต่เราคนเดียวกระมังที่ทำไม่ได้ ..หาเป็นเช่นนั้นไม่หรอก...จริงอยู่บางคนตัดได้เร็ว บางคนช้า บางคนแค่เห็นประโยคหรือคำเดียวก็ตัดใจได้ทันที หรือบางคนต้องได้คำอธิบายเป็นหลายเล่ม หลายวัดหลายสำนัก จนในที่สุดก็ปลงได้เองเพราะเหนื่อยจนหมดกำลังจะวิ่งหาเทคนิคเพื่อ"กำหราบใจตน" หรือไม่ก็หลุดออกไปจากกระแสธรรมเลยทีเดียวก็มาก ..เหล่านี้ก็เพราะแต่ละคนสั่งสมปัจจัยมาต่างกัน..มีอุปนิสสัยแห่งกิเลสต่างกัน..มีบุญเก่าต่างกัน มีกำลังของวิบากต่างกัน..จะเห็นว่าปัจจัยที่เกี่ยวข้องนั้นมากมายหลายอย่าง ที่ยกมานั้นเพี่ยงคร่าวๆ เท่านั้น จึงไม่อาจจะสามารถcopy รูปแบบการแก้ไขของใครๆได้ทุกอย่างเพื่อผลสำเร็จที่เหมือนกัน..

ดังนั้น ข้อที่หนูแสงฯพยายามลดทุกข์ด้วยการกำหนดคิดหนอๆ ก็เป็นเรื่องดีมากอย่างหนึ่ง แต่อย่าละเลยการสั่งสมปัญญา ที่ถูกต้องด้วยคู่กันไป เพราะกำลังของปัญญาที่กล้าแข็งเท่านั้นจึงจะสามารถตัดกิเลสและเยื่อใยแห่งตัณหาได้..นอกจากปัญญาแล้วไม่มีอาวุธอื่นใดมาทำลายได้..

ปัญญานั้นย่อมส่องสว่างให้เห็นว่า สิ่งทั้งปวงมาจากเหตุ ไม่เที่ยง บังคับให้เป็นตามใจไม่ได้
หากเราสามารถควบคุมอะไรๆได้จริงแล้วเราจะมีความทุกข์ได้ไฉน?
ความสามารถของปัญญาย่อมสอดส่องไปถึงความเป็นสาระหรือไม่เป็นสาระที่ควรถือเอาในการเกี่ยวข้องกับสัตว์สังขารรอบข้าง แม้เมื่อจะคิดถึงสิ่งใดปัญญาที่อบรมมาจนชินจะเข้าสอดส่องว่า นี้เป็นไปเพื่อประโยชน์หรือมิใช่ประโยชน์ แก่ใคร เป็นไปกับบุญหรือมิใช่บุญเบียดเบียนตนหรือใครอื่นหรือเปล่า..

คนที่ไม่มีปัญญานั้นย่อมปล่อยตนให้เป็นทาสของเวทนาและอารมณ์เท่านั้น ซึ่งเราส่วนมากคุ้นเคยกันจนเป็นนิสัยที่แก้ยาก จึงพากันออกสำรวจหาสูตรสำเร็จ แบบปิดปุ๊บดับปั๊บซึ่งไม่มีจริงในโลก..แต่ละคนจึงต้องสะสมแต้มบวกของตนไปจนกว่าจะเต็มรอบพร้อมที่จะฟังพระธรรมเพียงประโยคเดียวก็บรรลุได้นั่นแหละ อย่่างพระมหาสาวกของพระพุทธเจ้่า แต่ละองค์ต้องอาศัยเวลาเป็นแสนอสงไขยกัปป์จึงสามารถพ้นทุกข์ได้ ส่วนเราผู้ยังหาที่สุดของสังสารวัฏไม่ได้ การเพียรที่จะสั่งสมปัญญาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ย่อมนับว่าเป็นผู้ทำประโยชน์ตนอันยิ่งยวดแล้ว...อย่าได้ถือสาระของการครอบครองสัตว์สังขารหรือวัตถุใดๆว่าเป็นของตนจนถอนใจไม่ออกต้องเข้าถึงความเศร้าโศกน้ำตาไม่เคยแห้งมาแล้วตลอดสังสารวัฏที่หาเบื้องต้นไม่พบเลย..เพราะสัตว์สิ่งของใดๆ ทั้งนั้นเราได้มาด้วยเหตุปัจจัยทั้งสิ้น ทั้งเหตุดีและเสีย สิ่งเหล่านั้นย่อมเสื่อมสิ้นผันแปรไปด้วยอำนาจเหตุปัจจัยทั้งนั้น มิได้มาด้วยอำนาจบัญชาขอร้องเรียกร้องของเราเองแต่ส่วนเดียวหรอก..

ดังนั้นสมควรหรือไม่ที่เราจะยึดว่าสิ่งทั้งปวงต้องเที่ยงยั่งยืนไม่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ตนไม่ปรารถนา..

เอาเข้าจริงบุคคลที่ปล่อยทุกสิ่งได้ ไม่ติดยึดสิ่งใดเลย พร้อมทุกเมื่อที่จะไม่ถือเอาอะไรๆ แม้กระทั่งลมหายใจของตัวนั้นกลับเป็นผู้ที่พัฒนาปัญญาของตนจนถึงขีดสูงสุดของศักยภาพทางปัญญาที่สรรพสัตว์จะพึงทำได้..ได้แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย.. เราเองก็ควรทำตามท่านบ้าง ด้วยก้าวเตาะแตะในปัจจุบันนี่แหละ..

อย่ากลัวอะไรเลย.. ในโลกนี้สิ่งควรกลัวคือการสูญเสียปัญญาครับหนูแสงฯ..ดูเถิดขนาดคนง่อยเปลี้ยเสียอวัยวะพิการตาบอดหูหนวก ยังสามารถพาตนอยู่รอดได้ มีชื่อเสียงยิ่งกว่าคนปกติมากมายนับล้านในโลก แต่คนที่สมประกอบทางกายทุกอย่าง ดันปัญญาอ่อนนี่สิ ภาระอย่างเดียวจริงใหมครับ.. :b10: :b14: :b2: :b5: :b1: .. :b55: :b55: :b55:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 12 มิ.ย. 2010, 16:05, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 มิ.ย. 2010, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณตา -dd-
ตอนนี้หนูรู้สึกตัวเองเริ่มมีคุณค่าเล็กๆ แล้วคะ คือพอเรามีธรรมะในใจความรู้สึกกลัว หวั่นไหว และอื่นๆอีกมากมาย ก็รู้สึกเหมือนไม่สะเทือนเท่าไรแล้วคะ เหมือนเรามีที่พึ่งที่ไม่ต้องแสวงหาอีกต่อไป พอทุกข์หรือกังวลหนูก็จะท่อง และอ่านหนังสือธรรมะ เพื่อหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ก่อนไม่เคยคิดจะอ่าน ไม่มีทุกข์ไม่เห็นธรรมจริงๆ คนหนอคน (พึ่งจะคิดได้ก็เกือบสาย) ณ วันนี้หนูก็ยังไม่ได้ปล่อยวางได้ซะทีเดียวคงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มีเหตุใหม่เกิดขึ้น ยังรักษาระดับอยู่คะ วันๆหนูก็จะอยู่ลูกและที่ทำงาน เขาจะทำงานหรือทำโอที หนูก็ไม่รู้สึกโหยหาและไม่กระเสือกกระสนจะเรียกร้องเวลากับเขาอีก ว่างเมื่อไรมีเวลาให้เราเมื่อไรก็เมื่อนั้น เบื่อที่จะวิ่งตามและอ้อนวอนให้เขาอยู่กับเรานะวันหยุดหรืออะไร ขอแค่กลับเข้าบ้านพูดคุยกันดีๆ ส่วนมากจะคุยกันเรื่องลูก เท่านั้นจริงๆคะ วันหยุดหนูเสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์หนูก็จะพาลูกไปเรียนว่ายน้ำและศิลปะ เรียนเสร็จก็พากันไปเดินห้างหาของกินกัน ลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุขคะ โดยไม่ต้องมีพ่อ เมื่อก่อนหนูไม่เคยไปไหนโดยไม่มีเขา ต้องพึ่งเขาตลอด ณ วันนี้ตั้งแต่เริ่มทำอะไรเอง ไปไหนเองสองคนแม่ลูก รู้สึกเลยคะว่าทำไมเราไม่ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ลูกอยากไปไหนก็ไปกัน มีความสุขจะตาย (พึ่งค้นพบก็ต่อเมื่อมีเหตุ) เดี๋ยวนี้วันหยุดไม่ต้องแล้วคะ คุณจะไม่หยุดอยากทำโอทีก็เรื่องของคุณ เราก็นัดกันกับลูกเลยคะว่่าจะไปไหนกัน เคยถามลูกนะคะว่าไม่มีพ่อมาด้วยหนูเสียใจไม๊ ลูกบอกไม่เลย หนูรู้ว่าพ่อต้องทำงาน เราไปสองคนก็สนุกดี อยากกลับตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องฟิกซ์เวลา ลั่นล้ากันสองคน เดี๋ยวนี้เวลาใครมีทุกข์ หนูก็พยามบอกเขาว่าลองวิธีหนูไม๊ เวลามีเรื่องทุกข์เราก็ท่องคิดหนอๆๆๆๆ เวลาคิดว่าสามีไปหาใครหรือทำอะไรกับใครอื่น ก็ท่องปรุงแต่งหนอๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวใจเราก็จะกลับมาปกติ ไม่ทุรนทุราย เขาจะหายไปจะสักพักหรืออาจจะเป็นวันๆ จนเขาอาจจะไม่กลับมาให้เราคิดอีก เอาหลักธรรมะเข้าข่มคะ มีเวลาก็ชวนลูกสาวไปทำบุญ รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างคะ ถ้าไม่ต้องคิดหรือกระวนกระวายใจเรื่องของเขา แต่ก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าจะปฏิบัติได้อย่างนี้ตลอดไปหรือเปล่าคะ เพราะอะไรก็ไม่แน่นอนสักอย่าง ใจเราเองยังเปลี่ยนได้ทุกวัน หนูจะพยามกำหนดจิตของตัวเองให้ได้ ไม่อยากอยู่กับทุกข์นานคะ ขอบพระคุณคุณตา -dd- มากนะคะที่แวะเข้ามาส่งคำแนะนำดีๆ กับหนูอีก หนูจะน้อมนำมาปฏิบัติให้ได้คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 13:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ม.ค. 2010, 11:38
โพสต์: 300

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้เขามาอ่านเรื่องของคุณแสงแล้วอดที่จะยิ้มไม่ได้
คุณแสงเปลี๊ยนไป๊ เดิมทีคุณแสงจะทุกข์มาก ๆ
จิตใจไม่ค่อยนิ่ง แต่วันนี้คุณแสงเข้มแข็งขึ้นเยอะเลย
ธรรมะช่วยได้จริง ๆ ยินดีด้วยนะคะ
ขอให้คุณแสงเข้มแข็งแบบนี้ตลอดไปค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณนี
ตอนนี้ก็ยังไม่นิ่งหรอกคะ คงเพราะตอนนี้ไม่พยามเพิ่มทุกข์ให้ตัวเอง แล้วเขาก็(ยัง)ไม่หาทุกข์มาให้เรามั๊งคะ จิตเลยไม่ตก ยังเรื่อยๆอยู่คะ ไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทำได้ดีขนาดไหนแต่อยากบอกว่าพยามที่สุดคะ ตอนนี้พยามเก็บเกี่ยวความสุขให้ตัวเองและลูกให้มากที่สุด วันนี้เขาก็ทำงานคะ (ขยันไม๊คะ) แต่เราก็บอกกับตัวเองว่าอย่าได้แคร์ คิดซะว่าเขาไปทำงานก็ยังดีกว่าหายไปหากัน เราอยู่ก็พากันเที่ยวกับลูก นี่ก็พึ่งจะกลับเข้าบ้านคะ สนุกสนานกันสองคนแม่ลูก เมื่อคืนก่อนเขากลับมาช่วงเย็นก็โทรมานัดทานข้าวนอกบ้าน แต่พอกลับเข้ามากว่าจะถึงบ้านเกือบ4ทุ่ม ก็เปลี่ยนใจไม่พาเราออกไปแล้ว บอกเหนื่อยล่ะ เราก็เหรอก็โอเคไม่ไปก็ไม่ไป ไม่รู้นะพอโดนบ่อยๆ ก็จะย้ำกับตัวเองว่าไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ก็ดีเหมือนกันจะได้ทำใจไปเรื่อยๆ สักวันสิ่งที่เขาทำทั้งหมดก็คงจะไม่กระทบกระเทือนใจของเราอีกต่อไป ให้กลายเป็นความเคยชิน ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะโวยวายเสียสติ ต่อว่าเขา ทำไมๆๆๆๆ ไม่ได้ดั่งใจก็รู้สึกเสียใจ ผิดหวังซะมากมาย แค่เพลงโดนๆ ก็จะร้องไห้ต่างๆนาๆ ณ วันนี้พยามบอกกับตัวเองว่าจะไม่ ไม่ แล้วนะ ทำไมเราต้องทำอย่างกับเขาเป็นพระเจ้า เขาทำไม่ต้องมามีอิทธิพลกับเราขนาดนั้นด้วย เราอยู่คนเดียวเราก็สามารถทำอะไรได้นี่นา พาลูกไปร.ร.ก็เรา พาลูกไปทำกิจกรรมก็ทำได้ นู้นนี่นั่น เราก็สามารถนี่นา ทำไม่ต้องรอแต่เขาด้วย ไม่จำเป็นอีกแล้วคะ แต่ก็ยังทำใจไม่มีเขาเลยยังไม่ได้คะ ยังตัดใจเลิกกับเขาไม่ได้ คงต้องทำใจไปทีละนิดๆ เผื่อว่าสักวันเราอาจจะอยู่ได้โดยไม่มีเขาจริงๆสักที (แอบหวัง) ขอบคุณคุณนีนะคะที่แวะเข้ามาส่งกำลังใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 09:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ย. 2009, 14:32
โพสต์: 874

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สามีอ้อก็ขยันค่ะพี่แสง ตั้งแต่กลับมาจากญี่ปุ่นก็
ทำงานทุกวัน เสาร์ อาทิตย์ ทำทุกวัน อ้อก็บอก
ตัวเองให้เชื่อเขานะ ว่าเขาไม่โกหกเรา และการ
เจริญสติให้อยู่กับกาย ใจ ดูกาย ดูจิต ช่วยได้มาก
นะคุณแสง ทำอย่างนี้อ้อก็อยู่ได้ทั้งวัน พอมันแอบ
แว๊บไปคิดถึงเขากับเธอคนนั้น ก็ดูจิตตัวเองไป
มันก็อ่อนลงเรื่อย ๆ
มีสามีขยันก็ดีกว่าได้สามีขี้เกียจนะคุณแสง (5555)
ยิ้มไว้นะค่ะ ยิ้มให้กับตัวเอง ให้ตัวเองรู้ว่า
เรามีความสุข จิตจะได้สุขด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 12:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 21:44
โพสต์: 942

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีคะคุณอ้อ
ช่วงนี้ต้องทำจิตและใจให้ดีคะ อยู่กับตัวเองอย่างมีสติ ไม่พยามคิดเรื่องของเขากับใคร ไม่พยามเพิ่มทุกข์ให้ตัวเอง พอมีเรื่องอะไรแว๊บๆเข้ามาก็พยามข่มจิตใจให้ดี รักษาใจเรา แต่รู้สึกได้อย่างหนึ่งว่า พอเราเริ่มรู้สึกชินกับเรื่องราวที่ผ่านมา ใจของเราเองก็เริ่มจะ (นิ่ง) จากเมื่อก่อนพอเราเจอกับเรื่องและปัญหาปุ๊บเราก็จะเป็นจะตายซะให้ได้ แต่ ณ วันนี้พอมีเรื่องมากระทบกระเทือนใจเรา ก็ยังเป็นอยู่ แต่ระยะเวลาที่เราเสียใจหรือจิตตก มันจะใช่เวลาน้อยลงๆๆๆ ไปเรื่อยๆ คะ รู้สึกได้ด้วยตัวเอง ว่าเราเปลี่ยนไป รู้สึกเสียใจแต่มันเป็นไม่นาน แป๊บเดียวมันก็จากไป มันมาแล้วก็จากไปใช้เวลาไม่นานเหมือนก่อน คงเป็นเพราะเราทำใจและโดนมาจนเริ่มชินแล้วมั๊งคะ สักวันเราก็คงจะไม่รู้สึกเจ็บกับเรื่องที่เขากระทำกับเรา อีกต่อไป ทำใจไปพร้อมๆกันนะคะ จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2010, 13:50
โพสต์: 20

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะคุณแสงคุณทักทายคุณอ้อ ไม่ได้เข้ามาเสียหลายวันค่ะ เหตุการณ์ก้อเหมือนเดิมค่ะแต่ที่เปลี่ยนคือใจเราค่ะใจเรานิ่งขึ้นจะทำอะไรก้อไม่สนนิ่งอย่างเดียว คุณทักทายขาหนูเลิกทานแล้วค่ะยาคลายเครียดตั้งแต่หนูไปบวชชีมาค่ะ แม่ชีสอนให้นั่งสมาธิและแผ่เมตตาค่ะ หนูกับสามีไม่ได้อยู่ดว้ยกันทุกวันค่ะเสาร์-อาทิตย์ถึงเจอกันค่ะสามีทำงานต่างจังหวัดค่ะ หนูกับสามีอยู่ดว้ยกันมา20ปีแล้วค่ะมีลูกชาย1คนตอนนี้กำลังเรียนอยู่ม.6ค่ะ สามีเป้นคนรักครอบครัวและลูกมากแต่ก้อไม่น่าเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นค่ะ สามีไม่ได้รับราชการทำงานบริษัทก้อตำแหน่งใหญ่อยู่ค่ะ ผู้หญิงของสามีทำงานในจังหวัดเดียวกันค่ะผู้หญิงทำงานมีหน้ามีตาค่ะ เป้นแม่ม่ายค่ะเธอมาขอสามีหนูด้วยตัวเองเลยน่ะค่ะเธอไม่เรียกร้องค่าเลี้ยงดูเธอต้องการอยู่กับสามีหนูในวันธรรมดา ตอนแรกที่รู้หนูสับสนกับชีวิตมากให้สามีเลือกเขาก้อบอกไม่ทิ้งเราแต่ก้อไม่เลิกผู้หญิง ตอนแรกที่รู้แทบบ้าทำใจไม่ได้ไม่มีสติ นอนไม่หลับคิดไปสารพัดตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะหลังจากได้ธรรมะมาเยียวยาใจค่ะ ไม่คิดปรุงแต่งนิ่งขึ้น ขอบคุณที่ได้มาเจอลานธรรมแห่งนี้ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 13:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนนี้หนูรู้สึกตัวเองเริ่มมีคุณค่าเล็กๆ แล้วคะ คือพอเรามีธรรมะในใจความรู้สึกกลัว หวั่นไหว และอื่นๆอีกมากมาย ก็รู้สึกเหมือนไม่สะเทือนเท่าไรแล้วคะ เหมือนเรามีที่พึ่งที่ไม่ต้องแสวงหาอีกต่อไป พอทุกข์หรือกังวลหนูก็จะท่อง และอ่านหนังสือธรรมะ เพื่อหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ก่อนไม่เคยคิดจะอ่าน ไม่มีทุกข์ไม่เห็นธรรมจริงๆ คนหนอคน (พึ่งจะคิดได้ก็เกือบสาย) ณ วันนี้หนูก็ยังไม่ได้ปล่อยวางได้ซะทีเดียวคงเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มีเหตุใหม่ เกิดขึ้น ยังรักษาระดับอยู่คะ วันๆหนูก็จะอยู่ลูกและที่ทำงาน เขาจะทำงานหรือทำโอที หนูก็ไม่รู้สึกโหยหาและไม่กระเสือกกระสนจะเรียกร้องเวลากับเขาอีก ว่างเมื่อไรมีเวลาให้เราเมื่อไรก็เมื่อนั้น เบื่อที่จะวิ่งตามและอ้อนวอนให้เขาอยู่กับเรานะวันหยุดหรืออะไร ขอแค่กลับเข้าบ้านพูดคุยกันดีๆ ส่วนมากจะคุยกันเรื่องลูก เท่านั้นจริงๆคะ วันหยุดหนูเสาร์-อาทิตย์ วันเสาร์หนูก็จะพาลูกไปเรียนว่ายน้ำและศิลปะ เรียนเสร็จก็พากันไปเดินห้างหาของกินกัน ลูกมีความสุขแม่ก็มีความสุขคะ โดยไม่ต้องมีพ่อ เมื่อก่อนหนูไม่เคยไปไหนโดยไม่มีเขา ต้องพึ่งเขาตลอด ณ วันนี้ตั้งแต่เริ่มทำอะไรเอง ไปไหนเองสองคนแม่ลูก รู้สึกเลยคะว่าทำไมเราไม่ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ลูกอยากไปไหนก็ไปกัน มีความสุขจะตาย (พึ่งค้นพบก็ต่อเมื่อมีเหตุ) เดี๋ยวนี้วันหยุดไม่ต้องแล้วคะ คุณจะไม่หยุดอยากทำโอทีก็เรื่องของคุณ เราก็นัดกันกับลูกเลยคะว่่าจะไปไหนกัน เคยถามลูกนะคะว่าไม่มีพ่อมาด้วยหนูเสียใจไม๊ ลูกบอกไม่เลย หนูรู้ว่าพ่อต้องทำงาน เราไปสองคนก็สนุกดี อยากกลับตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องฟิกซ์เวลา ลั่นล้ากัน


ผมเริ่มร้อง.."หลั่ลล้าๆๆๆ ล้าาา...ล้า..ลา!!" ไปหน่อยนึงเกิดเอะใจจิ๊ดนึงอะหนูแสงฯ :b10: :b14: ...เอะใจตรงที่high light สีแดงข้างบนอะคับ :b5: ..ตรงนี้เหมือนเนื้องอกที่ติ่งออกมาอะคับ คือว่ามันเป็นการตั้งความคาดหวังที่ดูเหมือนเล็กน้อยนะครับ แต่เื่ชื่อเหอะพอหวังอะไรแล้วมันไม่เป็นตามหวังเท่านั้นแหละ เจ้าสิ่งที่หวังนี่มันจะเป็นปัญหาใหญ่โตกลบจักรวาลทีเดียวเจียว...

ขอให้เข้าใจว่า เพราะสิ่งทั้งปวงไม่ได้มาตามคำเรียกร้องของใครๆ จึงไม่พึงตั้งความหวังเพื่อให้ผิดหวัง แต่พึงวางใจไว้โดยความฉลาดว่า แม้เขาจะมีอาการไม่เป็นดังที่เราคาดหมาย เราก็ย่อมทราบชัดว่า นั่นก็มาด้วยเหตุปัจจัย หาได้อยู่ในอำนาจบังคับอะไรๆของใครๆไม่..แล้วรับรู้อาการนั้นด้วยความสงบ ไม่เดือดร้อน เมื่อเหตุปัจจัยของอาการนั้นหมดไป เขาย่อมมีอาการใหม่ที่อาจทำเราทึ่งจนนึกว่าฝัน(ดี)ไป จนต้องหยิกตัวเองหลายหนับนั่นเชียว...คนเราไม่มีอะไรมากหรอก ไม่หมุนซ้ายก็ป่ายขวาไปตามอำนาจกิเลสบงการทั้งนั้นแหละ..

เวลานี้ หนูแสงฯและลูกสาวมีความสุขดีก็ดีแล้ว ยินดีด้วยอย่างยิ่งครับ และที่หนูแสงฯบ่นพึมพำว่า
อ้างคำพูด:
ทำไมเราไม่ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว

นั้นน่ะ ก็เป็นเรื่องจริงที่คนมีปัญหาทั้งหลายที่ผ่านพ้นประสบการณ์จนได้พระธรรมเป็นที่พึ่งจริงแท้พากันกล่าวประสานเป็นเสียงเดียวกันทั้งนั้น เวลานี้หนูแสงฯคงนึกขำตัวเองที่เคยมีอาการ"บ้า"ไปไม่มากก็น้อยกระมัง..อุ๊ย! ขออภัยที่หาว่าบ้า ที่จริงแค่ B๊ong เท่านั้นจ้า อย่าโกรธคนแก่นะ.. :b13:

ส่วนมาก ที่จะพ้นกันได้ก็อาศัยเวลาและความตั้งใจของตนนั่นแหละ การเข้าหากัลยาณมิตรที่หนูแสงฯทำอย่างต่อเนื่องนั้นนำมาสู่ผลที่น่าชื่นใจเช่นนี้ แล้วอย่ากังวลอีกล่ะว่าวันนี้ดีพรุ่งนี้จิตตกอีกแล้ว นี่เป็นเรื่องปกติเท่านั้น..เพราะเขาเกิดด้วยอำนาจของปัจจัยต่างๆที่ไม่มีใครบังคับได้เท่านั้น..เมื่อจิตตกก็รู้ตัว ให้ปัญญาทางธรรมที่ศึกษามาเข้าจัดการเพื่อการละวางอย่างถูกต้อง ไม่ปล่อยให้โทสะเข้าทำการ"เขวี้ยงวาง" นะครับ.. : cheesy cheesy s003

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


แก้ไขล่าสุดโดย -dd- เมื่อ 14 มิ.ย. 2010, 13:10, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1376 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37 ... 92  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร