วันเวลาปัจจุบัน 15 มิ.ย. 2025, 12:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 13:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
:b48: โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลง... แต่โลกก็กลับสอนให้มนุษย์ผูกพัน :b48:


วิธีการรักอย่างถูกต้อง


1. จงใช้เวลาแก่ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ
อย่าใจเร็วด่วนได้ ความชอบพออย่างแท้ จริงจะค่อยๆ
เป็นไปอย่างช้าๆ

2. จงซื่อสัตย์และเปิดเผยกับคนรัก การโกหก
ไม่ซื่อสัตย์จะทำลายมิตรภาพ

3. จงกระทำต่อผู้อื่นเหมือนอย่างที่คุณอย่างให้ผู้อื่น
เขากระทำต่อตัวคุณ

4. นึกไว้เสมอว่าคนรักของคุณไม่ใช่คนดีพร้อม
ไม่มีใครดีหมดทุกอย่าง บางทีข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ
ของคนรัก ก็กลายเป็นความน่ารักได้ ถ้าคุณใจกว้างพอ

5. จงภูมิใจในความสำเร็จของคนที่คุณรัก
อย่านำไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของคุณหรือคนอื่นๆ
เป็นอันขาด จงมองเฉพาะที่คนรักของคุณทำได้
จะมากกว่าคุณหรือน้อยกว่าคุณก็ “ดีมาก” ทั้งนั้น

6. อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นเสมอ แม้คนที่กำลังรักกันแทบจะกลืนกิน
ก็ยังมีข้อขัดแย้งหรือไม่ลงรอยได้บ้าง

7. ถ้าคุณพบคู่รักบางคู่คุยว่า เขาไม่เคยทะเลาะกันเลย
ก็อย่าไปใส่ใจมากนัก เพราะเขาอาจไม่ได้ พูดกันเลย หรือไม่รักกันเลยก็ได้

8. ในกรณีที่ยังไม่มีคู่รักที่แท้จริง จงเปิดใจให้โอกาสพบปะผู้คนอื่นๆ ให้มากขึ้น
คุณจะได้มีโอกาสพบคนที่คุณอยากรักจริงๆ ได้

9. จงมีส่วนร่วมต่อการสร้างความสัมพันธ์ อย่าคิดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบ
ถ้าคุณให้ของขวัญราคาแพงแก่คนรัก แต่เขาตอบแทนด้วยของขวัญราคาด้วยกว่า
ก็ไม่เป็นไรเพราะเขาอาจไม่ สามารถให้อะไรกับตัวคุณได้เท่าที่คุณคาดหวังเอาไว
้ ฝ่ายที่รับของจากคนรัก จงหาทางตอบแทนเสมอ แม้จะไม่เท่าและไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร
อย่าเป็นฝ่ายรับฝ่ายเดียว

10. จงเป็นนักฟังที่ดี แสดงว่าคุณเอาใจใส่และสนใจเขา เท่ากับแสดงว่าเขาเป็นคนสำคัญ

11. จงยิ้มกับคนรักเสมอ การยิ้มทำให้รู้สึกว่าคุณเป็นคนมีมิตรไมตรี

12. อย่าเปิดเผยความลับ หรือนินทาคนรักลับหลัง เพราะจะเป็นพิษต่อความรักอย่างยิ่ง

13. อย่าใช้ความรักไปหลอกลวงคนอื่น

14. จงถามเพื่อนที่สนิทว่า คุณมีจุดเด่นที่น่าประทับใจ หรือจุดอ่อนตรงไหนบ้าง
ทุกคนมีจุดอ่อนในตัว คุณจะได้พัฒนา ปรับปรุงตัวเองให้น่ารักมากขึ้น

15. จงให้เวลาสำหรับความรักและคนรัก อย่าโหมทำงานมาก หรือออกสังคมมากไป
จนทำให้สูญเสียคนที่เรารักและห่วงใยไป

16. จงบอกคนรักว่า เขาทำให้คุณสุขหรือสบายใจอย่างไร เขาพอใจที่จะได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น
เช่น “อยู่กับคุณแล้วรู้สึกสบายใจและมั่นใจดีมาก”

17. อย่าพูดตัดพ้อ หรือต่อว่าโดยไม่คิด เช่น “คุณผิดเวลาอีกแล้ว” หรือ หรือ “คุณไม่รักฉันจริง”
แต่จงบอกคนรักว่า “ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ใจคิดถึงคุณจัง” ทำนองนั้น

18. อย่าท้อแท้เมื่อเกิดความเข้าใจผิดหรือขัดใจกัน จงทำสิ่งที่เลวร้ายให้กลายเป็นสิ่งที่ดีงามต่อไป
โดยมุ่งมั่นถึงการรักษาสัมพันธภาพที่ดีเอาไว้ และพยายามควบคุมช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นเอาไว้ ให้ได้

19. เรียนรู้อารมณ์ของคนที่คุณรัก อย่าหวังว่าเขาจะสดชื่น หรือเอาใจเก่งตลอดเวลา
ในยามเขาเคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อยจงอย่าสั่ง แต่จงให้ความสบายกายและความสบายใจแก่เขาตลอด

20. อย่าลืมคำชมเชย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแก่ทุกคน จงชมคนที่คุณรัก คำชมจะทำให้ความรักยั่งยืน

21. จงมีกิจกรรมร่วมกันที่สนุกสนาน เช่น
การเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่ลำบากนัก เล่นกีฬาบางอย่างด้วยกัน
หรือเดินเล่นด้วยกัน เป็นต้น

22.กิจกรรมบางอย่างที่เราไม่ชอบ
แต่คนรักชอบก็น่าจะลองกิจกรรมเหล่านั้นดูบ้าง

23. สนใจและช่วยจัดการในสิ่งจำเป็นของอีกฝ่ายหนึ่ง
เช่น ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายจะเดินทางไปไกล
จงคิดว่าเขาน่าจะต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง
จงช่วยจัดหาหรือเพิ่มเติมให้เขานั้นแสดงถึงความเอาใจใส่
เขาอย่างแท้จริง

24. อย่าคาดหวังว่าคนรักจะให้สิ่งที่คุณต้องการได้ครบถ้วน
เพราะจะทำให้คุณผิดหวัง และเป็นอันตรายต่อความรัก

25. อย่าดูหมิ่นหรือดูถูกคนรักว่าด้อยกว่า หรือเป็นหนี้บุญคุณ
จงมองคนรักเหมือนคนที่เพิ่งพบและรู้ จักกัน และรักกันใหม่ๆ ทำให้เกิดความสนใจใยดีอยู่เสมอๆ ทุกๆ วัน
ไม่เกิดความเบื่อหน่าย จำเจ
26. อย่าบีบบังคับความรัก เพราะความรักไม่อาจสร้างขึ้นตามความต้องการได้
แต่จงปล่อยให้มันพัฒนาไปตามเงื่อนไขของมันเอง อาจจะเริ่มจากมิตรภาพก่อน
แล้วกลายเป็นความรักก็ได้



รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แก้ไขล่าสุดโดย ณ มรณา เมื่อ 17 ต.ค. 2009, 02:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 13:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
http://www.imeem.com/click2fern22/music ... blah-blah/

:b47: ปาฏิหาริย์ที่รอคอย :b47:
(Calories Blah Blah)

เคยแอบมองเธออย่างนั้น
เคยเก็บไปฝันเดียวดาย
เคยโกรธดวงดาวแสนไกล
ที่ไม่ดลใจเธอเลยสักครั้ง

รู้ว่าเป็นเพื่นงแค่ฝัน
รู้ว่าตัวฉันเป็นใคร
ก็รู้แต่ไม่อาจห้ามใจ
ก็ยังฝันไกล หวังไปเลื่อนลอบ

เผื่อจะมีซักคืน เผื่อจะมีซักวัน
ที่มีปาฏิหาริย์ช่วยทำให้ฝันจริงขึ้นมา
ได้เป็นคนรักเธอ ได้เป็นคนพิเศษ ในสายตา
แม้ตื่นมาทุกอย่างจะหาย และกลับไปเหมือนวันเก่า

ยอมหากจะต้องผิดหวัง
ยอมกลับไปเหงาดังเดิม
และยอมถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่งให้ใจนอนฝันดี

เผื่อจะมีซักคืน เผื่อจะมีซักวัน
ที่มีปาฏิหาริย์ช่วยทำให้ฝันจริงขึ้นมา
ได้เป็นคนรักเธอ ได้เป็นคนพิเศษ ในสายตา
แม้ตื่นมาทุกอย่างจะหาย และกลับไปเหมือนวันนั้น

ยอมหากจะต้องผิดหวัง
ยอมกลับไปเหงาดังเดิม
และยอมถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่งให้ใจนอนฝันดี

และยอมถูกความจริงซ้ำเติม
แลกกับคืนหนึ่งที่เป็นคนรักเธอ
โค้ดเพลง ปาฏิหาริย์ที่รอคอย

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 14:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: โลกกลมๆ ของความรัก :b44:
ยังคงมีเรื่องราวของความรัก
หมุนอยู่เสมอนะคะ
แวะเข้ามาทักทายค่ะ คุณ ณ มรณา
ติดตามอ่านตลอดนะคะ
ถึงแม้จะไม่ได้เข้ามาทักทุกครั้ง
แต่ความรักก็มักจะตามมาทักทายเรา
ตลอดเวลาเช่นกัน
:b41: ...ใช่หรือเปล่าคะ... :b41:
:b41: :b44: :b41: :b44: :b41: :b44:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


อ้างคำพูด:
ขอเพียงอย่านำดวงใจ ไปให้ใครเหยียบเล่น (ใยไหม)

เมื่อต้องการความสุขที่ยั่งยืน
มาเป็นรางวัลตอบแทนการเกิดมาของชีวิต
เราไม่ควรที่จะให้จิตใจไหลลู่
ตามแรงโน้มถ่วงของอารมณ์
ไม่ควรให้ความรู้สึกที่ติดลบมาเหยียบย่ำชีวิตจิตใจ
แล้วต้องทำให้เราเป็นได้แค่ผู้ยอมจำนน

การเรียกร้องเพื่อได้ครอบครองความสุขแต่ปฏิเสธที่จะอยู่กับความทุกข์ชื่อว่าเป็นธรรมดาที่เราทุกคนล้วนมีความรู้สึกเช่นนั้นเพราะเรามักจะคิดว่าความสุขเป็นสิ่งที่ชวนให้เข้าไปสัมผัสแต่ความทุกข์เป็นสิ่งที่ควรผลักไสออกไปให้ไกลตัว

แต่ผู้อ่านสังเกตไหมว่า แม้เราจะเกลียดความทุกข์หรือต้องการหันหน้ามารักกับความสุขมากเพียงใดแต่หากไม่เข้าใจวิธีสร้างสุขให้เกิดมีแก่ตัวเราและไร้วิธีปลดปล่อยความทุกข์ให้ออกไปไกลตัวเราก็ยังชื่อว่ามีความทุกข์ที่พร้อมจะทอดเงาไปกับเราอยู่ทุกเมื่อเช่นเคย

ผู้อ่านลองสังเกตต่อไปอีกว่าหลายครั้งที่เราชอบชี้บอกเพื่อให้คนอื่นมีความสุขแต่หลังฉากของความสุขนั้น เรากลับต้องจมอยู่กับความทุกข์เสียเอง เป็นประเภทหน้าชื่นแต่อกตรมอย่างน่าสงสารทั้งที่บางครั้งปัญหาที่คนอื่นมองว่าใหญ่หลวงยิ่งเรากลับมองว่ามันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นไม่น่าจะก่อให้เกิดความวุ่นวายได้แต่อย่างใดเพราะเรามองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจและรู้จักวางใจที่จะทำความรู้จักกับปัญหาอย่างรู้เท่าทัน

ตรงกันข้าม เมื่อวันหนึ่งเราประสบกับปัญหาที่ทำให้ความทุกข์มากลุ้มรุ้มจิตใจเราเองกลับรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างเป็นเรื่องลำบากที่จะผ่านมันไป ทั้งที่เรื่องที่เกิดขึ้นคนอื่นกลับมองว่า มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้การจะแสวงหาความสุขให้เกิดขึ้นกับชีวิตจิตใจของเราจึงไม่ใช่อยู่ที่การสัมผัสแค่ความสุขที่ได้รับเท่านั้นแต่รวมถึงการทำความรู้จักความทุกข์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจอีกด้วย

พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่าธรรมชาติของชีวิตนั้น มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ และก็ดับไป เมื่อใดที่เราเข้าใจกระบวนการเกิดขึ้นของสิ่งต่างๆอย่างรู้เท่าทัน ไม่หลงประเด็นในเรื่องราวที่ปรากฏเราย่อมเกิดปัญญาจากสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นปัญหาเสมอ แต่สำหรับคนทั่วไปเวลาประสบกับความทุกข์หรือปัญหา เรามักปฏิเสธที่จะทำความเข้าใจในมันโดยอาศัยการเบี่ยงเบนไปที่อื่น เพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ที่มีอยู่เพราะเราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่าความทุกข์นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้โดยไม่ต้องลงมือแก้ไขที่จิตใจแต่อย่างใดเราก็สามารถที่จะผ่านมันไปได้เช่นกัน

หลายคนจึงชอบใช้วิธีเลี่ยงความทุกข์ ด้วยการไปทำอย่างอื่นแทนอาจแสวงหาวัตถุเงินทองเพื่อมาบำบัดให้ทุกข์ทุเลาเมื่อใช้วิธีหลบเลี่ยงอยู่นานวัน และรู้สึกว่ามันแก้ไขได้เราจึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้แหละคือเครื่องมือในการกำจัดทุกข์หรือปัญหาอย่างถาวรทำให้เราพลัดหลงจากความจริงที่ควรรับรู้อย่างน่าเสียดายเราจึงบ่ายหน้าไปสู่กับดักของความทุกข์โดยที่เราเองก็ยินดีที่จะเป็นทาสรับใช้ซึ่งเหมือนกับการนำชีวิตที่มีค่าไปฝากไว้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าสุดท้ายเราจึงถูกทำร้ายให้เจ็บช้ำในเวลาต่อมา

ความสุขที่ควรจะเกิดขึ้นแก่เราจึงเป็นพียงภาพลวงตาที่เราเข้าใจว่ามันใช่เท่านั้นแม้วันหนึ่งเราอาจต้องการหนีออกไปให้ไกลจากความทุกข์ที่มาคุมขังเราภาพลวงของความร้ายก็มักทำลายคุณค่าหลายๆอย่างให้หายไปจากเราเกินกว่าจะกู้กลับคืนมาได้ดังเดิมแต่เมื่อเรารู้จักสร้างความเข้าใจให้กับตัวเองรู้จักดูแลจิตใจอันเป็นหัวใจหลักของการมีชีวิตอยู่ด้วยการอาศัยสติมาคอยดูแล เพื่อให้ทุกอย่างได้ดำเนินไปอย่างเข้าใจนั่นชื่อว่าเรากำลังสร้างวิธีให้ใจของเราได้ทำหน้าที่อย่างที่มันควรจะเป็นเป็นการให้ชีวิตจิตใจของเราได้เรียนรู้ที่จะอยู่อย่างมีคุณค่าเพื่อให้ชีวิตได้เป็นแหล่งพักของสิ่งต่างๆอย่างที่มันควรจะเป็นโดยให้ใจได้ทำหน้าที่รับรู้สิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาแล้วทำการแยกแยะสิ่งดีและร้ายให้ออกจากกัน

พร้อมกันนั้น ก็ให้ใจได้เรียนรู้ทั้งด้านบวกและด้านลบของปัญหาแล้วรู้จักที่จะสร้างปัญญาจากความยุ่งยากที่เคยทำให้ผู้ที่ไร้สติครองน้ำตานองหน้ามาก่อนได้แปรเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ เพราะรู้เท่าทันปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆเมื่อทำได้เช่นนี้ ทุกการเคลื่อนไหวของชีวิตจิตใจที่เราได้ครอบครองก็พร้อมที่จะแปรขบวนชีวิต ให้เป็นไปในกรอบของความดีงามตามวิถีซึ่งช่วยฟ้องให้เรารู้ว่าชีวิตมีค่าเสมอหากเราเข้าใจมัน

พระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชายสิทธัตถะแม้จะถูกล้อมกรอบให้ลุ่มหลงในความเป็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์เพียงใดแต่พระองค์ก็ไม่ยอมที่จะให้สิ่งร้ายๆ มาครอบครองพื้นที่ชีวิตทั้งหมดพระองค์ได้เรียนรู้ที่จะฝึกใจให้เข้มแข็งด้วยการหมั่นไตร่ตรองข้อบกพร่องที่มีอยู่เพื่อให้เห็นความจริงที่ชีวิตควรจะรู้จักจนเมื่อการฝึกฝนที่จะออกจากปัญหาสุกงอมพระองค์จึงเลือกที่จะสละความเป็นเจ้าชายแล้วมาอยู่กับเหตุผลของคนธรรมดาที่สามารถบรรลุสัจธรรมในชีวิตได้

เหตุผลหลักที่ทำให้เจ้าชายผู้เคยอยู่สุขสบายในทางโลกได้เลือกเปลี่ยนมาอยู่กับความสุขสงบทางธรรม เพราะพระองค์ได้เรียนรู้ว่าตราบใดที่ชีวิตยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่แม้วันนี้อาจรู้สึกว่ายังสุขสบายดี แต่หากความสุขนั้นเป็นของปลอมเราย่อมบ่ายหน้าไปสู่ความทุกข์ในครั้งใหม่เช่นเดิมแต่หากยอมเหน็ดเหนื่อยในวันนี้ด้วยการฝืนทวนกระแสความคิดที่มาบังคับเพื่อหลอกให้เราทำตามแม้เบื้องต้นอาจเหนื่อยล้าเพราะถูกปัญหารุมเร้าแต่เมื่อฝึกฝนจนก้าวผ่านได้ ทุกหยาดเหงื่อของความรู้สึกที่เคยร้อนลนย่อมกลายเป็นน้ำฝนที่พร่างพรมลงมาให้เรารู้สึกเย็นใจได้ในทุกครั้งที่สัมผัส

ดังนั้น เมื่อต้องการความสุขที่ยั่งยืนมาเป็นรางวัลตอบแทนการเกิดมาของชีวิตเราไม่ควรที่จะให้จิตใจไหลลู่ตามแรงโน้มถ่วงของอารมณ์ไม่ควรให้ความรู้สึกที่ติดลบมาเหยียบย่ำชีวิตจิตใจแล้วต้องทำให้เราเป็นได้แค่ผู้ยอมจำนนแต่เราควรรู้จักเรียนรู้และทนฝืนความรู้สึกที่เป็นการตามใจให้เปลี่ยนมาเป็นความต้องการที่จะฝึกฝืนเพื่อให้ผ่านความรู้สึกที่เคยชื่นชอบ ให้มาเป็นความเข้าใจตามความเป็นจริงโดยมีสติปัญญาเป็นผู้คอยกลั่นกรองให้เห็นความสงบนิ่งของใจแทน

แล้ววันหนึ่งที่ฝึกฝนจนสอบผ่าน เราย่อมมีจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นของตัวเองซึ่งจะเป็นเครื่องนำพาให้เราได้เดินไปสู่ชีวิตที่สงบสุขและมีความงามของการสร้างสรรค์ ดั่งคนที่ไร้ทุกข์ทางจิตอย่างถาวร

เมื่อถึงวันนั้น ความทุกข์ที่เคยเหยียบย่ำให้เจ็บช้ำก็จะกลายเป็นครูสอนให้เราฉลาดขึ้น และทำให้เรากล้าที่จะก้าวข้ามปัญหาเพื่อไปสู่การเกิดปัญญาชนิดใหม่ที่จะทำให้เราเป็นผู้ขึ้นไปยืนอยู่เหนือความทุกข์ทั้งปวงได้อย่างสง่างาม

รูปภาพ

วงกลมๆ แห่งทุกข์....เกิดขึ้น...ตั้งอยู่ แล้วดับไป..ไยเล่าจึงยึดติด

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 20:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


"นิยามรัก "
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์




... บางครั้ง "ความรัก"ก็เดินเข้ามาหาเรา เพื่อให้เราเรียนรู้ มิใช่เพื่อให้เราครอบครอง

... ไม่ผิด หากจะรักคนมีเจ้าของ แต่จะผิด หากเข้าไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกับคนอีกคน

... หน้าที่ของ "ความรัก" คือการเดินไปรับ และยืนเฉยๆ เพื่อรับมัน ไม่ใช่ดิ้นรนเพื่อให้ได้มา

... ในห้วงรัก การถูกรัก มันสุขใจ การมอบความรัก มันอิ่มเอม และเมื่อได้รับการปฏิเสธ มันทรมาณ

... "ความรัก" จะเกิดขึ้น เมื่อเกิดการถ่ายเทพลังงานอันอ่อนโยนของคนสองคน

... คนบางคน เหมาะที่จะเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่เหมาะที่จะร่วมชีวิตด้วย

... "ความรัก"ระยะแรกทำให้ร่างกายหลั่งสารกระตือรือร้น ทำให้มนุษย์ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่ง"ความรัก"

... แฟน ก็คือ เพื่อนคู่คิด ที่จะก้าวไปด้วยกันในวันข้างหน้า

... ในวันที่ "ความรัก"คงที่ สารกระชุ่มกระชวยงดทำงาน สิ่งเดียวที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้ตลอดไป คือ "ความเข้าใจ" ล้วนๆ

... ความห่างไกล มันทรมาน เวลาเจอกันจึงหอมหวาน และเป็นความทรงจำที่เก็บไปนั่งเพ้อฝันได้ในวันจาก

... บุคคลไม่พึงประสงค์สำหรับทุกคู่รัก มันจะเดินทางเข้ามาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

... ผู้ชาย แสดง "ความรัก" ด้วยการกระทำ ขณะที่ผู้หญิง อยากรู้ว่า "รัก" จากคำพูด


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 20:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

"ความรัก" ไม่ต้องการ แค่วันเดียว

"ความรัก" ไม่ต้องเกี่ยว กับวันไหน

"ความรัก" ไม่ต้องมี เวลาใด

"ความรัก" ไม่ต้องใช้ ให้ใครชี้

"ความรัก"ไม่ต้องมี ข้อวิจารณ์

"ความรัก" ไม่ต้องการ การกดขี่

"ความรัก" ไม่ต้องให้ ใครตราตี

"ความรัก" ไม่ต้องมี เส้นพรมแดน

"ความรัก" ไม่ต้องรอ ข้อพิสูจน์

"ความรัก" ไม่ต้องพูด ตามแบบแผน

"ความรัก" ไม่ต้องการ การตอบแทน

"ความรัก"ไม่ต้องแค่ หัวใจคน

"ความรัก"ไม่ต้องการ การเป็นต่อ

"ความรัก" ไม่ต้องรอ ขอเหตุผล

"ความรัก" ไม่ต้องย้ำ ความมีจน

"ความรัก"ไม่ต้องทน ที่จะรัก


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

...มันไม่มีประโยชน์อะไร .. ที่เราจะมานั่งครุ่นคิดว่า ...
... ทำไมเขาถึงหมดรักเราและเดินไปจากเรา ...
... มันมีเหตุผลมากมายที่เราไม่อาจรู้ ...
... และอาจมีความจริงมากมายที่เราไม่เคยรู้ ...
... ปล่อยให้มันเป็นความลับต่อไปนั่นแหละ ...
... บางอย่างเราไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ ...
... และบางอย่าง .. ไม่รู้ก็ยิ่งดี ...

... ลองบอกตัวเองว่า ... ที่ผ่านมาอาจเป็นความผิดของเราเองก็ได้ ....
... จะด้วยเพราะเราไม่ใช่ .. เราไม่ดีพอ ...
... หรืออะไรก็ตามแต่ .. แต่ที่แน่ๆ เขาไม่รักเราแล้ว ...
... มันเป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ .. และรับไว้ในฐนที่เข้าใจ ...

... ไม่ผิดอะไรที่คนอย่างเขาจะไม่รักคนอย่างเรา ...
... ไม่ผิดที่เขาจะมองว่าเราไม่ดีพอ .. ไม่ใช่พอ ...
... มันเป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะต้องการคนอื่น ...

... บางทีเราอาจไม่ดีจริงๆ อย่างที่เขารู้สึกก็ได้ ...
... แต่ก็ใช่ว่า .. สำหรับทุกคนในโลกเราจะไม่ดีพอ .. ไม่มีค่าพอ ...
... เหมือนอย่างที่เราไม่ดีพอ .. ไม่มีค่าพอสำหรับเขา ...

... ถ้าเจอหน้าเขา ก็บอกเขาว่า .. เราเสียใจด้วย ...
... ที่ทำตัวเองให้ดีพร้อมอย่างที่เขาต้องการไม่ได้ ...
... ทำให้เรารักกันตลอดไปไม่ได้ ...
... แต่อย่าลืมบอกว่า ...

... เราไม่ได้เสียใจเลยที่ทุกอย่างจบลงแบบนี้ ...
... เพราะแม้เราจะยอมรับว่าตัวเองอาจผิด ...
... แต่เราก็ไม่เคยมองว่าตัวเองไม่มีค่า ...
... เรายังเชื่อว่า ...
... เราจะมีความรักครั้งใหม่ที่ดีได้เสมอ ...

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

... การรักกันที่ตัวตนแท้จริง ...
... การหวังดีด้วยหัวใจ .. ไม่ใช่เพื่อครอบครอง ...
... การยอมรับความแตกต่างระหว่างกันและกัน ...
... การมองเห็นข้อดี .. และยอมรับในข้อเสียของคนที่เรารัก ...
... คือกุญแจสำคัญของคนรักกัน ...... จำไว้ว่าเราไม่มีทางดีพอสำหรับใคร ...
... หากเราไม่กล้าเชื่อตัวเองว่าเราดีจริง ...

... อย่าปล่อยให้สัญญาณอันตรายกินเวลายาวนานเกินไป ...
... เพราะถ้ามีคำว่า .. "สายไป" .. เกิดขึ้นแล้ว ...
... ไม่ว่าเราจะดีแค่ไหน ...
... ก็คงไม่มีใครหันกลับมาเหลียวมองเราอีก ...


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 21:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

... คนเราบางคน...เลือกยอมทน เจ็บปวด และเสียน้ำตา “มากมาย” ...
... เพียงเพื่อแลกกับความสุขจากการได้มีความรัก “นิดเดียว” ...
... บางทีก็ไม่เคยรู้เลยว่า...นับตั้งแต่วันเริ่มต้น...ที่ “รัก” นั้นทำให้เราร้องไห้ ...
... เวลามันก็เริ่มเดินถอยหลัง...นับวันที่ “รัก” จะจบ...รออยู่แล้ว ...
... และมันก็มักจะเป็นอย่างนั้นเสมอ ...


... เมื่อถึงวันที่เราต่างต้องก้มหน้ายอมรับกับตัวเองว่า ...
... ช่วงเวลาแห่งความผูกพันที่เลยผ่าน...มันคงไม่ได้หอมหวานเหมือนดังเก่า ...
... และ “ความรักในโลกแห่งความเป็นจริง” ก็คงไม่สามารถสวยงามได้ตลอดเวลา ...
... หากแต่ไม่ทันรู้ตัว...เราก็แอบเผลอ “เสียน้ำตา” อยู่บ่อยๆ ...
... บางทีก็บ่อยเสียจนรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง ...
... ความรักมันก็ “พัง” ไปแล้ว ...
... พังไปพร้อมๆ กับความไม่เข้าใจ ... และรอยหม่นไหม้ในความรู้สึกตัวเอง ...

... หากแต่ในขณะที่ “รัก” มันทำให้ท้อจนแทบหมดแรง ...
... ฉันก็ไม่เคยนึกออกเลยว่า ...
... ถ้าต้อง “เลิกกัน” ขึ้นมาจริงๆ... แล้วฉันจะแกล้งทำเหมือนไม่เจ็บได้อย่างไร ...

... เมื่อต้องทนอยู่กับความรู้สึกหน้าชื่นอกตรม ...
... ฝืนรักก็ทุกข์ระทม ... แต่ก็ข่มตัดใจไม่ไหว ...
... ฉันเลือกทนอยู่ ด้วยหวังว่าสักวันมันน่าจะดีขึ้น ...
... ฉันเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่าง ...
... ที่ฉันเชื่อว่ามันน่าจะทำให้ทุกปัญหาจางหาย ...
... ฉันเลือกให้ตัวเองได้เก็บกอด “ความรัก” นั้นไว้ ...
... ทั้งๆ ที่เมื่อเทียบกับการเสียมันไป ... บางทีมันก็ทำให้ใจฉัน “เจ็บ” ไม่แตกต่าง ...
... แต่เพราะฉันกลัวการสูญเสีย ... ฉันกลัวไม่ได้เป็นเจ้าของ ...

... จนเมื่อในตอนสุดท้าย ... ที่ความเป็นจริงไม่เป็นเหมือนอย่างที่หวัง...
... บทเรียนจากความผูกพันที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตา ...
... มันไม่ช่วยพิสูจน์ความคงมั่นยาวนานของความรักได้เลยสักนิด ...
... เพราะนับตั้งแต่วันเริ่มต้น ... ที่ “รัก” นั้นทำให้เราร้องไห้ ...
... เวลามันก็เริ่มนับถอยหลัง ... จนถึงวันที่ “รัก” นั้นจบลงเสมอ ...

... สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้คือ ...
... ไม่สำคัญหรอกว่า “ความรัก” ที่ทำให้เราเสียน้ำตา ...
... และบางทีก็ทำให้เรา “ทุกข์” ได้มากกว่า “สุข” ...
... มันจะใช่ “รัก” จริงๆ ไหม ...

... ในเมื่อสิ่งที่สำคัญกว่าคือ ...
... หากเลิกกัน มันคือการเสียใจแค่ครั้งเดียว ...
... และความรักนิดเดียว กับ เสียน้ำตามากมาย ...
... มันแลกกันไม่ได้เลย ...


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 21:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

...สำหรับคนที่ใช่ ในเวลาที่ผิด...
...เราคงทำได้แค่สัมผัสสายลมเย็นแบบห่างๆ ...
...ก่อนปิดหน้าต่างเบาๆ อย่างเข้าใจ...
...แล้วอย่าหันหลังกลับไปมอง...


ไม่ช้า ... มันจะพัดผ่านไปพร้อมวันเวลา
... กลายเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สวยงาม ...
อยู่ในความทรงจำของชีวิต


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


แก้ไขล่าสุดโดย ณ มรณา เมื่อ 16 ก.ย. 2009, 15:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 21:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


“แ ค่ เ ปิ ด ปิ ด ป ร ะ ตู หั ว ใ จ ใ ห้ เ ป็ น

เ ร า ก็ เ ลื อ ก ไ ด้ แ ล้ ว ว่ า

จ ะ อ ยู่ ใ น โ ล ก นี้ อ ย่ า ง ไ ร”


เราทุกคนต่างมีประตูหนึ่งบาน อยู่ตรงกลางหัวใจ
ที่ตรงนั้นมีความรัก ความทุกข์ และความสุข หมุนเวียนเข้าออก
ก้อนเนื้อเล็กๆ ก้อนนี้ คือ กุญแจดอกสำคัญของชีวิต


“ค น ส่ ว น ใ ห ญ่ เ ลื อ ก ม อ ง ห า ค ว า ม รั ก
ม า ก ก ว่ า ม อ ง ห า ค ว า ม สุ ข
ค ว า ม ทุ ก ข์ จึ ง แ อ บ แ ฝ ง ม า พ ร้ อ ม กั บ ค ว า ม รั ก
ไ ด้ อ ย่ า ง ง่ า ย ด า ย”

เพราะดวงตาของเราจะมองหาแต่ความรัก จนมองข้ามความทุกข์
เมื่อมีใครบางคนกำความรักมาเคาะประตู หลายคนจึงเปิดรับทันที โดยไม่ทันมองให้ดีก่อน

“คนบางคน...เมื่อมาเคาะประตูหัวใจใคร
มือหนึ่งจะกำ ค ว า ม รั ก ไว้
อีกมือจะกำ ค ว า ม สุ ข มาด้วย
และคนบางคน ... เมื่อมาเคาะประตูหัวใจใคร
มือหนึ่งจะกำ ค ว า ม รั ก ไว้ไม่ต่างกัน
แต่มืออีกข้างจะกำ ค ว า ม ทุ ก ข์ มาด้วย
เมื่อเราเผลอใจเปิดประตูรับ
เขาจะเดินเข้ามาทิ้งความทุกข์ไว้

... แ ล้ ว เ ดิ น จ า ก ไ ป ...”
รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 22:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ย. 2009, 22:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

"ความรัก" & "ความใส่ใจ"....


♥♥♥ คำที่ใช้แทนคำว่า "ความรัก" ได้ดีที่สุด น่าจะเป็นคำว่า "ใส่ใจ"♥ ♥♥


♥♥ หากคุณคิดที่จะบอกรัก หรือรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะรักใครซักคน ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน?
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ


♥♥ ♥ หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้

ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อซื้อซื้อของเยอะแยะมากมาย เพื่อเอาใจ...นั่นแหละถึงเรียกว่า ความใส่ใจ


♥♥♥ ♥ ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง หากคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืนถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น...นั่นแหละเรียกว่า ความใส่ใจ

♥♥♥ ♥ ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณซักอย่างด้วยความตั้งใจ
แต่คุณกลับไม่ชอบมัน คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป ใส่ใจในความรู้สึกของเค้าด้วย


♥♥ ♥ หากคุณทะเลาะกับคนรัก แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คนรักของคุณยังโทรมาแสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆวัน
ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ...นั่นแหละเรียกว่า ความใส่ใจ


♥♥♥ หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง
เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ...นั่นแหละเรียกว่า ความใส่ใจ
คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครซักคนคอยใส่ใจเราบ้าง หากคุณต้องเดินทางไกล มันจะรู้สึกดีเอามากๆ
ถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า "ถึงหรือยัง" "ปลอดภัยดีไหม" "เหนื่อยไหม"


♥♥♥ หากคุณต้องปฏิบัติภาระกิจสำคัญไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องเรียน
มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้ และโทรมาบอกว่า
"โชคดีนะ ชั้นจะคอยเป็นกำลังใจให้"



♥♥ หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า "ขับรถดีๆนะ"
หากคุณป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย มันจะรู้สึกดีเอามากๆถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนให้คุณกินยา และพักผ่อนมากๆ

♥♥ความใส่ใจ กับ ความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆ ด้าน
คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน


♥♥ แต่กลับไม่คิดอย่างนั้น ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน
ความเกรงใจเป็นสิ่งดีและเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน
คุณเห็นไหมล่ะว่า ไม่ยากเลยที่จะแสดงความใส่ใจต่อใครซักคน


เพียงแต่วันนี้ คุณใส่ใจคนรักของคุณแล้วหรือยัง? ? ? ♥

รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ส.ค. 2009, 15:54
โพสต์: 640

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ
http://www.imeem.com/aom/music/mw4gerr1 ... nter-rain/

:: ฝนหน้าหนาว ::

นักร้อง :: พาสเทล ซีเครต (Winter Rain
ทุกเดือนธันวาคมที่ฝนโปรยลงหน้าหนาว
มันทำให้ฉันรู้สึกยิ่งสั่น ยิ่งทวีคูณความหนาว
ฝนหนาวเทลงมากระทบนัยต์ตาฉัน
และเสียงข้างในก็ร้องออกมา ว่าฉันคิดถึงเธอ

อยากจะยิ้มข้างเธออีกซักครั้งแล้วนั่งฟังเพลงนี้ด้วยกัน
ให้เธอได้รับได้รู้ว่าไม่มีใครๆจะสำคัญไปกว่านี้
และในทุกๆเช้าที่ฉันลืมตา ตื่นขึ้นมาเพื่อพบวันใหม่
เธอคือเสียงหัวใจในชีวิตฉัน ในความนึกคิดอยู่ทุกๆวัน
แต่วันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันต้องรออีกนานแค่ไหน
และวันเวลาที่เราจะได้พบกันจะมาถึงเมื่อไหร่

ต้องทำยังไง อยากให้เธอได้เข้าใจ
การรอคอยมันนานเกินทนไหว
ถึงแม้ฉันจะท้อกับการรอคอยเธอตรงนี้
แต่ยังคงมีความหวังเท่าที่ฉันยังหายใจ
และไม่ว่านานเพียงใด บอกได้เลยเต็มใจ
เพราะฉันรู้ว่าเธอมีค่ามากเพียงใด

อยากหัวเราะข้างเธอเหมือนวันนั้น
ที่ฉันร้องเพลงให้เธอฟัง
ให้เธอได้รับได้รู้ว่าไม่มีใครๆจะสำคัญไปกว่านี้
และในทุกๆเช้าที่ฉันลืมตา ตื่นขึ้นมาเพื่อพบวันใหม่
อยากจะเห็นหน้าเธอในวันฟ้าสางคือความทรงจำที่ฉันต้องการ
แต่วันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันต้องรออีกนานแค่ไหน
และวันเวลาที่เราจะได้พบกันจะมาถึงเมื่อไหร่
ต้องทำยังไง อยากให้เธอได้เข้าใจ
การรอคอยมันนานเกินทนไหว
ถึงแม้ฉันจะท้อกับการรอคอยเธอตรงนี้
แต่ยังคงมีความหวังเท่าที่ฉันยังหายใจ
และไม่ว่านานเพียงใด บอกได้เลยเต็มใจ
เพราะฉันรู้ว่าเธอมีค่ามากเพียงใด

แต่วันนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันต้องรออีกนานแค่ไหน
และวันเวลาที่เราจะได้พบกันจะมาถึงเมื่อไหร่
ต้องทำยังไง อยากให้เธอได้เข้าใจ
ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน
ถึงแม้ฉันจะท้อกับการรอคอยเธอตรงนี้
แต่ยังคงมีความหวังเท่าที่ฉันยังหายใจ
และไม่ว่านานเพียงใด บอกได้เลยเต็มใจ
เพราะฉันรู้ว่าเธอมีค่ามากแค่ไหน

ทุกเดือนธันวาคมที่ฝนโปรยลงหน้าหนาว
มันทำให้ฉันรู้สึกยิ่งสั่น ก็เพราะฉันคิดถึงเธอ


รูปภาพ

.....................................................
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าธรรมชาติของจิตนั้นไหลลงต่ำ
จะขึ้นสูงต้องออกแรงทวนกระแส
เพราะฉะนั้นให้ถามตัวเองว่าเราคิดดีได้เป็นปกติหรือยัง
ถ้ายัง ก็ยอมรับตรงๆ ว่ายัง..
อย่าหลอกตัวเองว่าดีแล้ว
เพราะผลเสียหายไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตัวเราเองที่ยังหลงวน
ไม่รู้ตัวว่าขาดเสบียงเพื่อความพร้อมตาย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ย. 2009, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ก.ค. 2009, 08:36
โพสต์: 532

แนวปฏิบัติ: ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: กรรมทีปนี , วิมุตติรัตนมาลี , ภูมิวิลาสินี
ชื่อเล่น: เจ้านาง
อายุ: 0
ที่อยู่: อยู่ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


:b41: ค่ำคืนแห่งจันทร์ :b41:

:b41: ดังเหมือนคืนแรมไร้จันทร์ฉายส่องฟากฟ้า เหลือเพียงดาววับวาวราวใจไหวหวั่น ห่างกันแสนไกลคงไว้เพียงความผูกพัน ดั่งดาวรอคอยแสงจันทร์ ทุกวันฉันยังคอยเธอ

:b41: เฝ้ารอวันนั้น ค่ำคืนแห่งจันทร์ เมื่อเราสองคนใกล้กันอีกครา ค่ำคืนที่ฟ้าพร้อมหน้าทั้งเดือนและดาว เมื่อแผ่นดินเรานั้นร่มเย็นเป็นเหมือนเดิม

:b41: ดินผืนเดียวกัน กั้นเราให้ห่างกันไกล สองดวงใจแม้วันวางวายไม่ห่าง อาจคิดถึงกันแต่พร้อมยอมพลีชีพวาง เลือดรินชโลมไหลหลั่ง ทดแทนผืนดินที่เกิด

:b41: เฝ้ารอวันนั้น ค่ำคืนแห่งจันทร์ เมื่อเราสองคนใกล้กันอีกครา ค่ำคืนที่ฟ้าพร้อมหน้าทั้งเดือนและดาว เมื่อแผ่นดินเรานั้นร่มเย็นเป็นเหมือนเดิม

:b41: ฝากกับฟ้าและดวงดาว แทนทุกความห่วงใย ฝากถ้อยคำไปถึงเธอ ที่อยู่แสนไกล ฉันจะอยู่และรักเพียงเธอเรื่อยไป

:b41: เฝ้ารอวันนั้น ค่ำคืนแห่งจันทร์ เมื่อเราสองคนใกล้กันอีกครา ค่ำคืนที่ฟ้าพร้อมหน้าทั้งเดือนและดาว เมื่อแผ่นดินเรานั้นร่มเย็นเป็นเหมือนเดิม

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

.....................................................
...รู้จักทำ รู้จักคิด รู้ด้วยจิต รู้ด้วยศรัทธา...
..................ศรัทธาธรรม..................


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 57 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร