วันเวลาปัจจุบัน 21 พ.ค. 2025, 04:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 400 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 27  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2013, 09:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 พ.ค. 2013, 16:30
โพสต์: 97

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
grin s002

ก็รับรู้...รู้สึกมาตลอดว่า เขาต้องกลับมาสักวันแน่ ๆ ๆ ๆ และที่กลับมาเพราะว่าหมดปัญญาแล้วไง เพราะที่ผ่านมา เราช่วยดูแล บริหารจัดการ แบบเบ็จเสร็จ เขาลอยลำ สบาย ๆ ๆๆ
....มีแต่พูดว่าที่รัก ขอนั่น....ขอนี่.....เท่านั้นเอง........


ก็รอดูกันไปว่าจะฝึกอภัยทานได้นานแค่ไหนอย่างไร.....??

ไม่ได้สำนึกเลยว่า จริง ๆ ไม่ได้มีอะไรมาด้วย ปากพูดว่า จะบวชตลอดชีวิต...แต่ดูการกระทำ และ จิตใจคงไม่ใช่ ยังคงมีความเห็นแก่ตัว คิดแต่จจะได้ฝ่ายเดียวเหมือนเดิม

แต่ก็ดีที่เกิดเหตุการณ์ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ ที่สร้างภาพว่าเป็นคนดี มีศีลธรรม ไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญ ทำทาน มาด้วยกันตลอดเวลา เป็นอย่างไรกันแน่??? ....ที่แน่ ๆ ๆ ก็คือว่า พ่อแม่เขา ช่างร้ายเหลือเกิน ตอนหนุ่มไม่รู้จักหาเงินทองเก็บไว้ใช้....มีแต่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย.....ต้องอาศัยเขาทุกอย่างเลย พี่สาวก็ช่างไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความละอายใจเลย....คิดแต่จะให้มาเกาะกิน เรียกร้องจะเอา ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน.....เบียดเบียน ไม่มีความละอายใจต่อบาปจริง ๆ .....

หรือว่าเรามองโลกในแง่ร้าย........แต่ที่ผ่านมา เขากินอยู่กับเรามาตลอด แต่ไม่สำนึกเลย เหมือน
ชาวนากับงูเห่า............
แรงส์มั๊ยค่ะ.......... จากใจจริงนะเนี่ย....ช่วยหน่อยว่าจะต้องทำอย่างไรต่อดี.......

ประเมินอย่างไรดีว่า อยู่ในข่ายข้อใด.....จะจัดการอย่างไรดี.......


ทุกอย่างมันชัดเจนมากค่ะ :b41: :b41:

คุณกล้วยไม้ม่วงอย่างที่ทำอยู่ก็โอเคแล้ว ไม่ต้องต่อความยาว :b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2013, 09:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
grin s002

ก็รับรู้...รู้สึกมาตลอดว่า เขาต้องกลับมาสักวันแน่ ๆ ๆ ๆ และที่กลับมาเพราะว่าหมดปัญญาแล้วไง เพราะที่ผ่านมา เราช่วยดูแล บริหารจัดการ แบบเบ็จเสร็จ เขาลอยลำ สบาย ๆ ๆๆ
....มีแต่พูดว่าที่รัก ขอนั่น....ขอนี่.....เท่านั้นเอง........


ก็รอดูกันไปว่าจะฝึกอภัยทานได้นานแค่ไหนอย่างไร.....??

ไม่ได้สำนึกเลยว่า จริง ๆ ไม่ได้มีอะไรมาด้วย ปากพูดว่า จะบวชตลอดชีวิต...แต่ดูการกระทำ และ จิตใจคงไม่ใช่ ยังคงมีความเห็นแก่ตัว คิดแต่จจะได้ฝ่ายเดียวเหมือนเดิม

แต่ก็ดีที่เกิดเหตุการณ์ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ ที่สร้างภาพว่าเป็นคนดี มีศีลธรรม ไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญ ทำทาน มาด้วยกันตลอดเวลา เป็นอย่างไรกันแน่??? ....ที่แน่ ๆ ๆ ก็คือว่า พ่อแม่เขา ช่างร้ายเหลือเกิน ตอนหนุ่มไม่รู้จักหาเงินทองเก็บไว้ใช้....มีแต่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย.....ต้องอาศัยเขาทุกอย่างเลย พี่สาวก็ช่างไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีความละอายใจเลย....คิดแต่จะให้มาเกาะกิน เรียกร้องจะเอา ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน.....เบียดเบียน ไม่มีความละอายใจต่อบาปจริง ๆ .....

หรือว่าเรามองโลกในแง่ร้าย........แต่ที่ผ่านมา เขากินอยู่กับเรามาตลอด แต่ไม่สำนึกเลย เหมือน
ชาวนากับงูเห่า............
แรงส์มั๊ยค่ะ.......... จากใจจริงนะเนี่ย....ช่วยหน่อยว่าจะต้องทำอย่างไรต่อดี.......

ประเมินอย่างไรดีว่า อยู่ในข่ายข้อใด.....จะจัดการอย่างไรดี.......


ก็อยู่แบบหลายๆ ข้อรวมกันนะคะ
:b23: แหะๆ เจ้าของข้อมูลต้องหาเอาเองค่ะ เดี๋ยวดิฉันใส่ให้เกินค่ะ

ชาวนากับงูเห่า.....ส่วนใหญ่หลายๆ คน ก็เจอปัญหานี้นะคะ เป็นคำเปรียบที่ตรงตัวค่ะ

จะทำอย่างไรดี......ก็ต้องถามกระเป๋าสตางค์ เงินในบัญชี กับทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ค่ะ
ดูดิว่าแบ่งให้คนอื่นแล้วจะทำให้ตนเองลำบากในภายหน้าหรือไม่ ?
ถ้าิจะเป็นการเบียดเบียนตนเอง ก็ทำแค่เท่าที่ทำได้ค่ะ

การให้เค้าไปบ้างเป็นครั้งคราวเป็นคราวเล็กๆ น้อยๆ และไม่เบียดเบียนตัวคุณเองนั้น
เพื่อเป็นการไม่สร้างศัตรู จะทำให้คุณปลอดภัยนะคะ


ถ้าเิงินที่ช่วยเค้าไปเป็นเพียงแค่เศษเงินเล็กๆ น้อย สำหรับฐานะของคุณ
ก็ช่วยๆ ไปได้ค่ะ ไม่ต้องคิดมากค่ะ เป็นการทำบุญทำกุศลเป็นอริยทรัพย์ติดตัวไปภพหน้าได้ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2013, 13:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s006

ขณะนี้ กำลังวัดใจกันว่า..จะเลือกอย่างไร?..ทั้งเขาและเรา......
เพียงแต่เตรียมตัว-ใจไว้ทุกทางเท่านั้นเอง........

เขาเชื่อ-เคารพ-พ่อแม่มาก แม่สั่งอย่างไรต้องได้อย่างนั้น ไม่สนใจว่า ใครจะคิด จะรู้สึกอย่างไร??
แม่เรียกร้องเงินเท่านั้น......ไม่สนใจว่าจะนำมาจากที่ไหน วิธีใด ...ขอให้มีใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย...

เมีย ให้จำกัด เฉพาะรายเดือน ๆละ 1 ครั้ง ไม่พอใจ โกรธ ว่าขอเงินยาก ..เลิกซะ เมียไม่ดี ไม่รักพ่อแม่ผัว......จะให้อดตาย???

เขาคนกลางลำบากใจ...ว่าจะทำอย่างไร???

เราตัดสินใจว่าจะอยู่อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ๆ ไม่หย่า ไม่ให้เงิน บังคับให้เขาหาเงิน และส่งให้แม่เขาเอง ให้เขารับรู้ความลำบาก........

แต่หากมาหาก็จะเลี้ยงดูอย่างดี เฉพาะกิน-อยู่ ไม่ให้เงินติดกระเป๋า นั้นเป็นเรื่องของคุณต้องรับผิดชอบเอง ไม่เกี่ยวกับเรา.......

ไม่รู้ว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน ....เพราะขณะนี้ อยู่คนละ จังหวัด เขาเดินทางไป-มาหลาย จว. แม่ -* เมีย แยกกันคนละจว....
ก็เป็นข้ออ้างที่ดีที่ไม่ต้องพบกัน......... :b28: :b19: :b19:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 09:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b38: :b38:
ทุกวันก็ทำตัวตามปกติวิถีชีวิตของเรา......
...ปฏิบัติธรรม เหมือนเดิม....แต่ ในใจมีขุ่นมัวบ้าง ....ทำให้นั่งสมาธิ เดินจงกรม ไม่นิ่ง .........
กำลังต้องปรับกลยุทธิ์ ในใจตนว่าจะวางเขา พ่อ-แม่ เขา ไว้ ณ สถานะใด......อย่างไร.....ขอบเขตไหน........ที่จะไม่ล้ำเส้นกัน.........

ลำพังตัวเขาคนเดียวเราไม่พะวง เพราะรู้แรงกันอยู่ว่าจริง ๆ เขาไม่มีอะไร ทำปากแข็งท่าทางแข็ง ในใจอ่อนโยน รู้สึกผิด รู้สึกละอายใจ แต่ติดศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ไม่เคยขอโทษ.....ก็เท่านั้นเอง

.......แต่นี่ พ่อ-แม่เขา ที่เป็นพระอรหันต์ของเขา เข้ามาก้าวล่วงในชีวิตครอบครัวของลูกและ เรียกร้องเรื่องเงินอย่างเดียว....ไม่แคร์ ไม่สน ว่า ลูกจะมี ไม่มี ไปหามาจากไหนอย่างไร ขอแค่ ฉันต้องได้ตามที่ต้องการ เท่านั้นพอ........

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงขึ้นเสียงกับแม่ว่าจะหนีไปบวชตลอดชีวิต.....ไม่ให้ใครตามเจอ......
แม่บอกว่า เออ...อยากไปไหน...ก็ไป.....มึงจะให้พ่อ-แม่อดตายเหรอ เพราะฉะนั้นต้องเอาเงินมาใส่บัญชีไว้ให้แม่ 5 แสน ...แล้วไปไหนก็ไป......

แปลกมั๊ยค่ะ......พี่สาว-น้องสาวเขาอยู่ร่วมกันแท้ๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
:b38: :b38:
ทุกวันก็ทำตัวตามปกติวิถีชีวิตของเรา......
...ปฏิบัติธรรม เหมือนเดิม....แต่ ในใจมีขุ่นมัวบ้าง ....ทำให้นั่งสมาธิ เดินจงกรม ไม่นิ่ง .........
กำลังต้องปรับกลยุทธิ์ ในใจตนว่าจะวางเขา พ่อ-แม่ เขา ไว้ ณ สถานะใด......อย่างไร.....ขอบเขตไหน........ที่จะไม่ล้ำเส้นกัน.........

ลำพังตัวเขาคนเดียวเราไม่พะวง เพราะรู้แรงกันอยู่ว่าจริง ๆ เขาไม่มีอะไร ทำปากแข็งท่าทางแข็ง ในใจอ่อนโยน รู้สึกผิด รู้สึกละอายใจ แต่ติดศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ไม่เคยขอโทษ.....ก็เท่านั้นเอง

.......แต่นี่ พ่อ-แม่เขา ที่เป็นพระอรหันต์ของเขา เข้ามาก้าวล่วงในชีวิตครอบครัวของลูกและ เรียกร้องเรื่องเงินอย่างเดียว....ไม่แคร์ ไม่สน ว่า ลูกจะมี ไม่มี ไปหามาจากไหนอย่างไร ขอแค่ ฉันต้องได้ตามที่ต้องการ เท่านั้นพอ........

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงขึ้นเสียงกับแม่ว่าจะหนีไปบวชตลอดชีวิต.....ไม่ให้ใครตามเจอ......
แม่บอกว่า เออ...อยากไปไหน...ก็ไป.....มึงจะให้พ่อ-แม่อดตายเหรอ เพราะฉะนั้นต้องเอาเงินมาใส่บัญชีไว้ให้แม่ 5 แสน ...แล้วไปไหนก็ไป......

แปลกมั๊ยค่ะ......พี่สาว-น้องสาวเขาอยู่ร่วมกันแท้ๆๆๆ


ถ้าพ่อแม่สามีติดการพนัน หรือใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย เรื่องนี้คือเรื่องเลวร้ายของชีวิตคู่เลยค่ะ

ถ้าจิตใจขุ่นมัว จะทำสมาธิไม่ได้ค่ะ เพราะการทำสมาธินั้นจะต้องเริ่มด้วยจิตใจที่รู้สึกสบายๆ ก่อนค่ะ
จึงต้องเริ่มด้วยการสวดพุทธคุณหลายๆ รอบพร้อมคำแปล และแผ่เมตตาก่อนค่ะ แล้วก็เดินจงกรมก่อน
เสร็จแล้วมาจบลงด้วยการนั่งสมาธิค่ะ

การสวดพุทธคุณ และแ่ผ่เมตตาเป็น อารักขธรรม มีส่วนช่วยในการปฏิบัติกรรมฐาน
เช่น การนั่งสมาธิ การเดินจงกรมค่ะ

ส่วนการเดินจงกรมนั้น เป็นงานทางด้านอิริยาบถใหญ่ อยู่ในฝ่ายวิปัสสนาค่ะ
เดินให้ถูกวิธีจริงๆ ควรฟังพระอาจารย์มานพ อุปสโม ค่ะ

:b4: สู้ๆ ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 15:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8:

ขอบคุณค่ะ...ที่แวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเสมอ........

ก่อนนั่งสมาธิจะสวดมนต์ก่อนค่ะ...ใช้บทสวดทำวัตรเช้า-เย็น พาหุงมหากาและบทอื่น ๆ ตามที่อยากจะสวดค่ะ........

เรื่อง...ของเขา....เราไม่พูดเรื่องเงิน......แต่แสดงให้เห็น....เช่น เขาถามว่าส่งค่ารถมั๊ย เราก็ยิ้มเฉย ๆ ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ แต่เขาก็เริ่มรับรู้ว่า เขาต้องจัดการและรับผิดชอบเอง........

เรื่องการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ของพ่อแม่ เราไม่แน่ใจ ว่า เกิดจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงต้องการมากขึ้น??
การพนัน ในอดีต เคยเล่น ไพ่ หวยใต้ดิน ฯลฯ ปัจจุบันก็แก่ตัวแล้ว แม่ 68 ปี พ่อ 73 ปี แต่เราคิดว่า พี่สาวเขาซึ่งเป็นลูกสาวแท้ ๆ ๆทำไมไม่ดูแล รับผิดชอบครอบครัว ในเมื่อคุณเป็นคนอยู่บ้าน เราฐานะลูกและสะไภ้ก็ส่งให้ทุกเดือนไม่เคยขาดเลย ซึ่งก็มี พ่อแม่ ลูกสาว 2 คน หลาน 1คน อยู่ประจำ 4 คน เท่านั้นเอง คือ เราส่งให้สมทบ ไม่ใช่หลัก คนที่อยู่บ้าน ต้องดูแล จัดการ...........

เราจึงแปลกใจ........บ้านเรา ครอบครัว เราเป็นผู้หญิง ก็ดูแล รับผิดชอบเอง ไม่ได้ให้ใครมาดูแลช่วยเหลือ........งงๆๆๆๆๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ต.ค. 2013, 16:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool

เราเปิดเผย พูดคุยอย่างตรงไป ตรงมากับความรู้สึกของเรามาก...ทั้งในลานธรรม และกับเขา....

หากคิดประเด็นเงิน ต้องหย่ากันแน่ๆๆๆๆ เพราะรู้สึกถูกเบียดเบียน......

แต่หากคิดถึงความดีงามในจิตใจ...ของซึ่งกันและกัน ก็ พอจะอยู่กันไปได้ อยู่ที่ว่า เขาก็ต้อง ร่วมรับผิดชอบมากขึ้น ปรับไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่ฝ่ายเดียว ไม่งั้น เราก็จะหนักและเหนื่อย

ตอนนี้เรารู้แล้ว เดิม แบกภาระไว้เองทุกอย่าง ตอนนี้วางลง และ จะควบคุมใจเราว่า ไม่แบกของหนักขึ้นมาอีก......

เขาจะทนได้มั๊ย????? ที่เราไม่พลีสเขาอีกต่อไป......ทำตามหน้าที่ ไม่ใช่โอบอุ้ม........

ไม่ทราบว่า ทุกท่านเห็นควรว่าต้องทำอย่างไรค่ะ......


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 12:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool

ช่วงนี้ เป็นช่วงที่เราสามารถหยิ่งได้เต็มที่ .....คงต้องลองซักตั้งว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง......

จะใช้ทิฐิสอน เขา เรื่องการเป็นหัวหน้าครอบครัว ... ผู้นำครอบครัว....
ความอดทน...ความรับผิดชอบ.......ดูเขาหน้าจ๋อย ๆ ๆงอนง้อเรายังเฉย ๆ ๆอยู่

เขาเดินทางไปทำงานต่างจว.โทรฯมาหาทุกวัน ๆละ 3-4 ครั้ง เรารับบ้าง ไม่รับบ้าง แล้วแต่สถานการณ์ เพื่อลองดูว่าเขาคุมอารมณ์ได้มั๊ย เดิม หากไม่รับจะหงุดหงิด ตำหนิ แต่ตอนนี้ น้ำเสียงอ่อน ถามว่า ยุ่งเหรอ ไม่พกโทรศัพท์ เหรอ จึงไม่รับสาย เราก็รับคำ น้ำเสียงปกติ แต่ในใจหัวเราะเยาะ......55555555

ก็ลองดูว่า จะเป็นอย่างไรต่อไป........ :b39: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ต.ค. 2013, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
cool

เราเปิดเผย พูดคุยอย่างตรงไป ตรงมากับความรู้สึกของเรามาก...ทั้งในลานธรรม และกับเขา....

หากคิดประเด็นเงิน ต้องหย่ากันแน่ๆๆๆๆ เพราะรู้สึกถูกเบียดเบียน......

แต่หากคิดถึงความดีงามในจิตใจ...ของซึ่งกันและกัน ก็ พอจะอยู่กันไปได้ อยู่ที่ว่า เขาก็ต้อง ร่วมรับผิดชอบมากขึ้น ปรับไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่ฝ่ายเดียว ไม่งั้น เราก็จะหนักและเหนื่อย

ตอนนี้เรารู้แล้ว เดิม แบกภาระไว้เองทุกอย่าง ตอนนี้วางลง และ จะควบคุมใจเราว่า ไม่แบกของหนักขึ้นมาอีก......

เขาจะทนได้มั๊ย????? ที่เราไม่พลีสเขาอีกต่อไป......ทำตามหน้าที่ ไม่ใช่โอบอุ้ม........

ไม่ทราบว่า ทุกท่านเห็นควรว่าต้องทำอย่างไรค่ะ......


ถ้าคุณรู้สึกโดนเบียดเบียน ก็ต้องพิจารณาแล้วว่าเป็นการทำให้ตนเองเดือดร้อน
สิ่งใดก็แล้วแต่ มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี
บางครั้งบางคราวก็ต้องหยิบยื่นให้แก่กันบ้างเป็นน้ำใจ แม้ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องให้เป็นประจำเหมือนแต่ก่อนค่ะ

หากคิดว่าจะไม่หย่า และจะอยู่ด้วยกันต่อไป ก็ต้องดูว่ายามใดควรใช้พระเดช ยามใดควรใช้พระคุณ ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2013, 16:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:

ขอบคุณค่ะ....ในข้อเสนอแนะ....
ก็คิดอยู่ค่ะว่าจะทำอย่างไรให้พอเหมาะ พอดี ไม่เบียดเบียนตัวเราจนเกินไป
สถานการณ์ขณะนี้... โทรฯคุยกันทุกวันเหมือนเดิม น้ำเสียงปกติ คุยเรื่องความรู้สึกมากขึ้น.. และรู้เพิ่มว่า แม่เขาพูดถึงเราไม่ดี เขาทนไม่ได้ แม่พูดถึงแต่เงิน เขาพยายามบอกว่า เรามีค่าใช้จ่ายอะไร มีหนี้อยู่ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งรายได้-รายจ่าย แม่เขาไม่ฟัง คิดอย่างเดียวว่ามึงรักเมียลืมแม่ ขายที่ดินได้ 1 ล้าน ต้องให้แม่ 5 แสน เมีย 5 แสน ให้ไปเอาเงิน 5 แสนให้แม่ ...แล้วมึงไปไหนก็ไป

เขารู้สึกว่าแม่ไล่ออกบ้าน....จึงไปอาศัยอยู่บ้านเพื่อน...??? เกือบเดือนแล้วค่ะ เงินก็ใกล้จะหมด ลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์???

ฟังแล้วก็รู้สึกสงสารเขา จริง ๆ เรื่องของเราไม่มีอะไร...เขามีแม่บงการ เรามีพ่อ พี่น้อง มาจัดการ แต่เราแข็งไม่ได้สนใจพ่อ พี่น้อง แยกครอบครัวออกมาอยู่กัน สองคน แต่ของเขาต้องส่งเงินให้แม่ ทุกเดือน เราไม่ว่า แต่อย่าเรียกร้องมากไป

ตอนนี้ก็ตกลงว่า ต่างคนต่างหาและเก็บเงินของใคร ของมัน....
แล้วเขาคิดว่า เราต้องจ่ายหนี้เนื่องจากเราเป็นคนครอบครองสมบัติที่ดิน รถ เป็นชื่อเราหมด ไม่มีของเขา??
จนกว่า...เขาจะมีเงินเพียงพอ....จึงจะช่วยเป็นครั้งคราวไป ตอนนี้กำลังหมุนเงินอยู่....ก็รอดูไปค่ะ... :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ต.ค. 2013, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4: คุณกล้วยไม้ม่วงสบายดีนะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ต.ค. 2013, 19:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ส.ค. 2013, 14:39
โพสต์: 38

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้กำลังใจต่อสู้นะค่ะ ตัวเราเองยังไม่ดีขึ้น ขอไม่ออกความคิดเห็นดีกว่า

:b4: :b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2013, 08:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


cool
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจค่ะ......

ด้านร่างกายเป็นไข้หวัดค่ะ นิดหน่อย.....เขาก็โทรฯทุกวัน เมื่อวานก็ 5 ครั้ง เวลารวมประมาณ 4 ชั่วโมงได้ น้ำเสียงร่าเริง ผ่อนคลาย บอกคิดถึงเมียมาก อยากมาหา แต่ต้องทำงานก่อน จะมาหา สิ้นเดือน.....

ด้านจิตใจ สบายมากๆๆๆ เพราะรู้แล้วว่ายึดมั่น ถือมั่น มันหนัก ทุกข์ ปลดปล่อย วางเขาไว้ ก็เบา โล่ง สบาย ไม่ตึงเครียดอะไรจะเกิดก็ปล่อยไป ไม่สนใจไม่คาดหวัง ก็ดีมากๆๆค่ะ

เขาก็โทรฯงอนง้อ น้ำเสียงดีปกติค่ะ ก็ไม่รู้ว่า หากมาอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นอย่างไร.....ตอนนี้เขาก็บอกว่า ให้อดทนก่อน เขาจะเที่ยวไปๆมาๆ ต้องหาเงินก่อน ขอเวลา 1 ปี ที่จะมีเงินเก็บ มากพอที่จะไม่เครียด ไม่ตึงมือ ก็รอดูกันไป

ก็ยืนยันว่า ลำพังตัวตนของเขาจริง ๆ เป็นคนดี แต่ แม่เขา พ่อเขา ที่เบียดเบียน พูดยุยง ที่เขา ไม่พอใจ ว่า เมียมึงไม่ดี ไม่รักพ่อแม่ผัว ...ฯลฯ ก็ลองดูซักตั้ง ตอนนี้ พ่อแม่เขาไม่รู้ว่า ผัวเมีย เขานอนคุยกัน แล้ววางแผนชีวิตกันอย่างไร เขาจะรับผิดชอบพ่อแม่เขาเอง จะรับมือเอง ไม่ให้เราต้องวุ่นวายเหมือนเดิม เรารู้ความเคลื่อนไหวของสามีตลอด แต่พ่อแม่เขา ไม่รู้ว่าเขามาหาเมีย555555555

ก็ลองดูค่ะ....เรามีปัญญาแล้วจะกลัวอะไร......ฝึกอภัยทาน ...เขายืนยันว่าไม่เคยนอกใจ .....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2013, 19:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


กล้วยไม้ม่วง เขียน:
cool
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจค่ะ......

ด้านร่างกายเป็นไข้หวัดค่ะ นิดหน่อย.....เขาก็โทรฯทุกวัน เมื่อวานก็ 5 ครั้ง เวลารวมประมาณ 4 ชั่วโมงได้ น้ำเสียงร่าเริง ผ่อนคลาย บอกคิดถึงเมียมาก อยากมาหา แต่ต้องทำงานก่อน จะมาหา สิ้นเดือน.....

ด้านจิตใจ สบายมากๆๆๆ เพราะรู้แล้วว่ายึดมั่น ถือมั่น มันหนัก ทุกข์ ปลดปล่อย วางเขาไว้ ก็เบา โล่ง สบาย ไม่ตึงเครียดอะไรจะเกิดก็ปล่อยไป ไม่สนใจไม่คาดหวัง ก็ดีมากๆๆค่ะ

เขาก็โทรฯงอนง้อ น้ำเสียงดีปกติค่ะ ก็ไม่รู้ว่า หากมาอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นอย่างไร.....ตอนนี้เขาก็บอกว่า ให้อดทนก่อน เขาจะเที่ยวไปๆมาๆ ต้องหาเงินก่อน ขอเวลา 1 ปี ที่จะมีเงินเก็บ มากพอที่จะไม่เครียด ไม่ตึงมือ ก็รอดูกันไป

ก็ยืนยันว่า ลำพังตัวตนของเขาจริง ๆ เป็นคนดี แต่ แม่เขา พ่อเขา ที่เบียดเบียน พูดยุยง ที่เขา ไม่พอใจ ว่า เมียมึงไม่ดี ไม่รักพ่อแม่ผัว ...ฯลฯ ก็ลองดูซักตั้ง ตอนนี้ พ่อแม่เขาไม่รู้ว่า ผัวเมีย เขานอนคุยกัน แล้ววางแผนชีวิตกันอย่างไร เขาจะรับผิดชอบพ่อแม่เขาเอง จะรับมือเอง ไม่ให้เราต้องวุ่นวายเหมือนเดิม เรารู้ความเคลื่อนไหวของสามีตลอด แต่พ่อแม่เขา ไม่รู้ว่าเขามาหาเมีย555555555

ก็ลองดูค่ะ....เรามีปัญญาแล้วจะกลัวอะไร......ฝึกอภัยทาน ...เขายืนยันว่าไม่เคยนอกใจ .....


:b35: ดีใจด้วยมากๆ ค่ะ ที่เห็นคุณสบายใจ
โดนมรสุมชุดใหญ่มาแล้ว เหมือนถูกฉีดวัคซีนมีภูมิคุ้มกันดี สู้เกมส์ชีวิตได้สบายมาก
อยู่กับทุกข์แบบสบายๆ ไปนะคะ เรื่องอะไรที่ว่าย่ำแย่เข้ามาในชีวิต ก็กลับมองเป็นเรื่องสิวๆ ได้ค่ะ

ดีค่ะ เข้าใจกันด้วยดี ก็ประคองรักษาน้ำใจกันไว้ค่ะ
เพราะอย่างน้อยชีวิตนี้มีสามีเป็นเพื่อนตายได้ สุขทุกข์คอยให้กำลังใจช่วยเหลือกัน

:b27: ดีใจด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขนะคะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 08:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 เม.ย. 2013, 11:12
โพสต์: 421

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


smiley
ขอบคุณมากค่ะ.....

เราเกิดการเรียนรู้แล้วว่า ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในทุกเรื่อง ....

เดิมทีก็ศึกษา รู้จากตำรา แต่ไม่ลึกซึ้งเท่าผ่านประสบการณ์จริง ของชีวิต ....

ก็คาดว่าจะรับมือไหว.....หากไม่ไหว เหนื่อยเกิน ก็หยุด จะมีอะไรมากไปกว่านี้อีก....เรารู้แล้วว่า เขาเป็นอย่างไร??

ฝึกไป....จนกว่าจะปิดตา เตรียมตัว เตรียมใจ ที่จะเดินทางต่อไป ควบคุมกาย วาจา ใจ อย่างดีเยี่ยมเพื่อชีวิตเรา ปิดประตูนรก เปิดประตูสวรรค์รออย่างเดียว

นี่คือสิ่งที่มุ่งมั่นค่ะ :b8: :b8: :b8: .....

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะที่ได้ช่วยเหลือด้านจิตใจซึ่งกันและกัน.........สาธุ สาธุ สาธุ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 400 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 27  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร