ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ความเข้าใจพระวินัย : มมร. http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=48388 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 19:59 ] |
หัวข้อกระทู้: | ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
ค ว า ม เ ข้ า ใ จ พ ร ะ วิ นั ย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) ๑. จุ ด เ ริ่ ม ต้ น พ ร ะ วิ นั ย เกิดจากการปรารถความดำรงอยู่ยาวนาน แห่งพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ในพรรษาที่ ๑๒ ณ เมืองเวรัญชรา พระสารีบุตรทูลอาราธนาให้บัญญัติในสิกขาบท โดยกราบทูลว่า ถึงเวลาแล้วพระพุทธเจ้าข้า ที่พระผู้มีพระภาคจะทรงบัญญัติสิกขาบท ทรงยกปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่พระสาวก อันจะเป็นเหตุให้พรหมจรรย์ดำรงอยู่ได้ยืนนาน พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบแก่พระสารีบุตรว่า จงรอไปก่อนเถิดสารีบุตร ตถาคตรู้เวลาในเรื่องที่จะบัญญัติสิกขาบทนั้น ศาสดาจะยังไม่บัญญัตสิกขาบทแก่สาวก ไม่ยกปาติโมกข์ขึ้นแสดง ตลอดเวลาที่ยังไม่เกิดอาสวัฏฐานิยธรรมในหมู่สงฆ์ เมื่ออาสวัฏฐานิยธรรมบางอย่างขึ้นในหมู่สงฆ์ ตถาคตจึงจะบัญญัติสิกขาบท และจักปาติโมกข์ขึ้นแสดงแก่สาวก เพื่อขจัดธรรมเหล่านั้น อาสวัฏฐานิยธรรม ในที่นี้คือ การกระทำผิดอันเป็นต้นกำเนิดของพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง แต่หลังจากออกพรรษานั้นแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงบัญญัติสิกขาบทบทแรก คือ ปาราชิก ข้อห้ามที่ภิกษุเสพเมถุน ผู้ที่ประพฤติคนแรกนั้นเรียกว่า อาทิกัมมิกะ เป็นต้นบัญญัติ ไม่ต้องรับตามบัญญัติแห่งสิกขาบทนั้น หมายเอาที่สิกขาบทปาราชิกถึงอนิยต ในการจำบัญญัติสิกขาบทแต่ละข้อนั้น จะมีลำดับดังนี้ ๑. เกิดเรื่องมัวหมองขึ้นภายในคณะสงฆ์ ๒. พระพุทธเจ้าตรัสประชุมสงฆ์ แล้วตรัสถามพระภิกษุผู้ก่อเหตุ ๓. พระภิกษุรูปหรือคณะนั้นๆ รับในการกระทำความผิด ๔. พระพุทธเจ้าทรงตรัสโทษของการประพฤติผิดเช่นนั้น แลอานิสงส์ของการสำรวมระวัง ๕. ทรงบัญญัติสิกขาบทเพื่อห้ามกระทำต่อไป ๖. ผู้ฝ่าฝืนหรือละเมิดสิกขาบทนั้นเรียกว่า “ปรับอาบัติ” (มีต่อ : วัตถุประสงค์การบัญญัติพระวินัย) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 20:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
๒. วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ก า ร บั ญ ญั ติ พ ร ะ วิ นั ย • เพื่อความดีแก่สงฆ์ • เพื่อความผาสุกแห่งสงฆ์ • เพื่อมาข่มบุคคลผู้เก้ออยาก • เพื่อความอยู่ผาสุกของภิกษุผู้มีศีล • เพื่อปิดกั้นอาสวะอันบังเกิดในปัจจุบัน • เพื่อป้องกันอาสวะอันบังเกิดในอนาคต • เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส • เพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว • เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม • เพื่อเอื้อต่อ (ถือตาม) วินัย (มีต่อ : ประโยชน์ของพระวินัย) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 20:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
๓. ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง พ ร ะ วิ นั ย พระวินัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญของการฝึกอบรม ผู้ที่เข้ามาบวชไม่ว่าจะมาจากตระกูลไหน อย่างไร ต่างจิตต่างใจ ก็ล้วนแต่มีข้อบัญญัติเดียวกัน ในการควบคุมความประพฤติให้เป็นระเบียบเรียบร้อย การประพฤติอยู่ในระเบียบวินัยนั้นเป็นความงดงาม ทำให้เกิดความน่าเลื่อมใส เปรียบดังดอกไม้ที่ร้อยด้วยด้ายไม่กระจัดกระจาย เป็นพวงมาลัยที่งดงาม ประโยชน์หรืออานิสงส์แห่งพระวินัยนั้น มีดังนี้ ๑. เพื่อประโยชน์แก่ความสำรวม ๒. ไม่เดือดร้อนปราโมทย์ ๓. อิ่มใจ ๔. ปัสสัทธิ ๕. สุข ๖. สมาธิ ๗. เห็นตามความจริง ๘. เบื่อหน่าย ๙. คลายกำหนัด ๑๐. วิมุตติ แต่ละองค์ประโยชน์นั้นจะเกิดเชื่อมกันเป็นประโยชน์ตามลำดับ จนกระทั่งถึงพระนิพพาน ด้วยเหตุนี้ เป็นสำคัญในส่วนของพระพุทธศาสนาเถรวาทนั้น จะเน้นการประพฤติปฏิบัติตามวินัยอย่าเคร่งครัด โดยไม่ตัดทอน เนื่องจากการปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด ก็นำไปสู่วิมุตติได้ ถึงกระนั้นก็ตาม วินัยนั้นเป็นแนวทางให้ตนดำรงอยู่ ด้วยความภาคภูมิใจในความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งจะนำไปสู่ลำดับต่อๆ มา โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เป็นองค์แห่งการเอื้อให้สมาธิงอกงามนั่นเอง (มีต่อ : คัมภีร์พระวินัย) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 21:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
๔. คั ม ภี ร์ พ ร ะ วิ นั ย วินัยปิฎก คือประมวลพระพุทธพจน์ว่าด้วยบัญญัติ เกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติ ขนบธรรมเนียบประเพณี วิถีชีวิต และวิธีดำเนินกิจการต่างๆ ของพระภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์ แบ่งออกเป็น ๓ หมวด คือ ๑. หมวดวิภังค์ ว่าด้วยสิกขาบทของพระภิกษุ มี ๒ คัมภีร์ คือ ๑) ภิกขุวิภังค์ หรือมหาวิภังค์ สิกขาบทของพระภิกษุ ๒) ภิกขุณีวิภังค์ สิกขาบทของภิกษุณี รวมเรียกว่า อาทิพรหมจริยากาสิกขา ในหมวดนี้สามารถแบ่งออกอีกลักษณะหนึ่ง มี ๒ คัมภีร์ได้แก่ ปาราชิก และปาจิตตีย์ รวมทั้งสิกขาบทที่เหลือทั้งหมด ๒. หมวดขันธกะ ว่าด้วยสังฆกรรม พิธีกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ข้อวัตรปฏิบัติ ตลอดจนมารยาทที่ดีงาม เรียกว่า อภิสมาจาริกาสิกขา มี ๒ คัมภีร์ คือ ๑) มหาวรรค ประกอบด้วย ๑๐ ขันธกะ ๒) จุลวรรค ประกอบด้วย ๑๒ ขันธกะ ๓. หมวดปริวาร ว่าด้วยข้อสรุปพระวินัยปิฏก มีลักษณะของการถามตอบ ได้แก่ คัมภีร์ปริวาร เรียกว่า คู่มือศึกษาพระวินัยตั้งแต่เล่ม ๑-๗ ดังนั้น ในคัมภีร์ชื่อว่า วชิรสารัตถะสังคหะ ที่รจนาโดยพระรัตนาปัญญาเถระ ชาวเชียงใหม่ แบ่งพระวินัยออกเป็น ๕ คัมภีร์ ดังมีคำย่อว่า อา ปา ม จุ ป • อา = อาทิกัมมิกะ หรือปาราชิกจนถึงอนิยต • ปา = ปาจิตตีย์ นิสสัคคียปาจิตตีย์ จนถึงเสขิยะ • ม = มหาวรรค • จ = จุลวรรค • ป = ปริวาร อีกสำนวนหนึ่งนั้นย่อตามสิกขาบทเลยก็ได้ คือ ปา ปา ม จุ ปะ พระวินัยปิฎกว่าโดยขันธ์มี ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ (มีต่อ : ชื่ อ อ า บั ติ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 21:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
ชื่ อ อ า บั ติ อาบัติเป็นชื่อของการกระทำความผิด ในแต่ละระดับของสิกขาบทที่มีชื่อไม่เหมือนกับสิกขาบทในบางระดับ ดังมีชื่ออาบัติดังนี้ • สิกขาบท - อาบัติ • ปาราชิก - ปาราชิก • สังฆาทิเสส - สังฆาทิเสส • อนิยตและนิสสัคคิยปาจิตตีย์ - ถุลลัจจัย, ปาจิตตีย์ • ปาจิตตียะ - ปาจิตตีย์ • ปาฏิเทสนียะ - ปาฏิเทสนียะ • เสขียะ - ทุกกฏ • อธิกรณะสมถ - ทุพภาษิต สิกขาบทเหล่านี้ที่มาในพระปาติโมกข์ไม่รวมเสขิยะ เรียกว่า อทิพรหมจริยกาสิกขา ส่วน เสขิยะและสิกขาบทนอกที่มานอกพระปาติโมกข์อีกจำนวนมากนั้น เรียกว่า อภิสมาจาริกาสิกขา (มีต่อ : อาการที่ต้องอาบัติ ๖ ประการ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 07 ม.ค. 2011, 21:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
อาการที่ต้องอาบัติ ๖ ประการ • ต้องด้วยไม่ละอาย • ต้องด้วยไม่รู้ว่าเป็นอาบัติ • ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำลง • ต้องด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร • ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร • ต้องด้วยหลงลืมสติ (มีต่อ : เปรียบเทียบสิกขาบทของเถรวาทและมหายาน) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 08 ม.ค. 2011, 17:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
๕. เปรียบเทียบสิกขาบทของเถรวาทและมหายาน วินัยของทั้งสองนิกายใหญ่ คือวินัยของฝ่ายมหายาน และวินัยของฝ่ายเถรวาทย่อมมีจำนวนที่ไม่เท่ากัน เพราะความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และภูมิประเทศของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน ทำให้มีบางข้อแตกต่างและเหมือนกัน ในที่นี้เป็นการเปรียบเทียบภิกษุปาติโมกข์ มหายาน - ๒๕๐ (โพธิสัตว์ปาติโมกข์) • ปาราชิก ๔ • สังฆาทิเสส ๑๓ • อนิยต ๒ • นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ • ปาจิตตีย์ ๙๐ • ปาฎิเทสนีย ๔ • เสขียะ ๑๐๐ • อธิกรณสมถะ ๗ โพธิสัตว์ปาติโมกข์ • โพธิสัตว์ปาติโมกข์ในพรหมชาลสูตร ๕๘ ข้อ o ครุกาบัติ ๑๐ ข้อ o ลหุกาบัติ ๔๘ ข้อ • โพธิสัตว์ปาติโมกข์ ในโยคาจารภูมิศาสตร์ ๔๗ ข้อ o ครุกาบัติ ๔ ข้อ o ลหุกาบัติ ๔๓ ข้อ เถรวาท - ๒๒๗ (มหาวิภังค์ & ภิกขุณีวิภังค์) • ปาราชิก ๔ • สังฆาทิเสส ๑๓ • อนิยต ๒ • นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ • ปาจิตตีย์ ๙๒ • ปาฎิเทสนีย ๔ • เสขียะ ๗๕ • อธิกรณสมถะ ๗ (ที่มา : เอกสารประกอบการเข้าศึกษาต่อหลักสูตรศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธศาสน์ศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย บัณฑิตวิทยาลัย มหามกุฏราชวิทยาลัย : วิชาเปรียบเทียบคำสอนพระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน, หน้า ๖๒-๖๖) วินัยสงฆ์-อาบัติ-ปาราชิก http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=22785 สิกขา สิกขาบท ลาสิกขา http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=48387 |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 02 ต.ค. 2014, 22:02 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
ช่างดีแท้ ขออนุโมทนาสาธุนะคะ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 19 ม.ค. 2015, 22:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ความเข้าใจพระวินัย : มมร. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |