ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=34949 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 10 ต.ค. 2010, 00:26 ] |
หัวข้อกระทู้: | ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร |
![]() [ภาพจิตรกรรมพุทธศิลป์ “สู่แดนนิพพาน” : สร้างสรรค์โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์] ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร พระสูตรอุปมาท่อนไม้ลอยน้ำว่าด้วยเรื่องโทษของนักปฏิบัติ ในสมัยหนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ใต้ต้นไม้ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ใกล้กรุงโกสัมพี พร้อมด้วยพระภิกษุจำนวน ๕๐๐ รูป พระองค์ทอดพระเนตรเห็นท่อนไม้ใหญ่ท่อนหนึ่ง ถูกกระแสน้ำพัดไปอยู่ จึงชี้ท่อนไม้นั้นแล้วตรัสถามว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นท่อนไม่ใหญ่โน้นที่ถูกกระแสน้ำพัดไปอยู่หรือไม่” ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “เห็นพระพุทธเจ้าข้า” พระองค์รับสั่งต่อไปว่า “ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถ้าท่อนไม้ไม่ถูกกระแสน้ำซัดขึ้นฝั่งนี้ จะลอยไปสู่มหาสมุทร ถ้าไม่ถูกซัดขึ้นฝั่งโน้น ไม่จมเสียก่อน ไม่เกยบก ไม่ถูกคนเก็บไปเสีย ถูกอมุษย์ยึดไว้ ถูกกระแสน้ำวนดูด หรือไม่ผุพังไปก่อน จะลอยไปสู่มหาสมุทร” ในที่นี้พระพุทธองค์ทรงแสดงว่า ถ้าไม่มีโทษ ๘ อย่างเหล่านี้ ทำไมจะลอยไปสู่มหาสมุทรได้ จากนั้นได้รับสั่งว่า “ทำไมท่อนไม้นี้ จึงลอยไปสู่มหาสมุทรได้เล่า” “ข้อนั้น เพราะกระแสน้ำแห่งแม่น้ำคงคาลุ่มลาดไหลไปสู่มหาสมุทร ในเมื่อไม่มีโทษแปดอย่างเหล่านี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในทำนองเดียวกัน ถ้าพวกเธอไม่มีโทษแปดอย่างเหล่านี้ ก็จะบรรลุถึงพระนิพพานได้ เพราะสัมมาทิฐิย่อมโน้มน้อม (ผู้ปฏิบัติ) ไปสู่ความดับทุกข์ในสังสารวัฏ คือพระนิพพาน” ในขณะนั้น ภิกษุรูปหนึ่งได้อาราธนาให้พระพุทธองค์ ทรงตร้สอธิบายอุปมาเหล่านั้นในเรื่องนี้ • คำว่า “ฝั่งนี้” ได้แก่ อายตนะภายในหก คือ ตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย และใจ • คำว่า “ฝั่งโน้น” ได้แก่ อายตนะภายนอกหก คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์ • คำว่า “จมน้ำ” ได้แก่ ความผูกพันกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิต • คำว่า “เกยบก” ได้แก่ ความทรนงตน • คำว่า “ถูกคนเก็บไป” ได้แก่ คลุกคลีกับคฤหัสถ์อย่างไม่เหมาะสม • คำว่า “ถูกอมนุษย์ยึดไว้” ได้แก่ การบำเพ็ญกุศล โดยปรารถนาให้บังเกิดในเทวโลก หรือพรหมโลก • คำว่า “ถูกกระแสน้ำวนดูด” ได้แก่ ความเพลิดเพลินในกามคุณ ๕ • คำว่า “ผุพัง” ได้แก่ การเสแสร้งทำเป็นผู้ทรงศีล ทั้งที่ไม่ใช่ผู้ทรงศีลโดยแท้ แม้พระพุทธองค์จะทรงแสดงพระธรรมเทศนานี้แก่เหล่าภิกษุเท่านั้น แต่ก็จัดว่าเกี่ยวเนื่องกับทุกชนชาติและทุกศาสนา เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่มีโทษ ๘ อย่างดังกล่าว ย่อมจะบรรลุถึงมหาสมุทรคือพระนิพพานได้ เมื่อเขาบรรลุถึงมหาสมุทรคือพระนิพพานแล้ว ก็จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดและบรรลุถึงที่สุดแห่งทุกข์ ในพระธรรมเทศนาบางแห่งของพระพุทธองค์ พระพุทธดำรัสว่า “มหาสมุทร” ระบุถึงการเวียนว่านตายเกิดสังสารวัฏ ส่วนพระธรรมเทศนา บางแห่งระบุถึงพระนิพพาน ในพระสูตรนี้ พระพุทธองค์ทรงระบุมหาสมุทรว่าคือพระนิพพาน ![]() ![]() ![]() (คัดลอกบางตอนมาจากคอลัมน์ “พุทธพจน์”; ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร ในข่าวสารกัลยาณธรรมปีที่ ๕ ฉบับที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓, หน้า ๙-๑๐) |
เจ้าของ: | หัสพล พวงแก้ว [ 10 ต.ค. 2010, 01:28 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร |
![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลูกโป่ง [ 31 ม.ค. 2011, 13:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร |
![]() ธรรมรักษาค่ะ |
เจ้าของ: | Supatorn [ 01 มี.ค. 2012, 11:14 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ท า รุ ก ขั น โ ธ ป ม สู ต ร |
Quote Tipitaka: อนุโมทนาสาธุๆๆค่ะ ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |