ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=28668 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 15 ม.ค. 2010, 12:57 ] |
หัวข้อกระทู้: | บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() บ ร ม ศ า ส ด า : บรมครูของเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย : สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) นับตั้งแต่มีธาตุมีธรรมบังเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นในกาลอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต อันมิอาจจะกำหนดขอบเขตที่สิ้นสุดได้ก็ตามที ยอดแห่งเอกอัครบรมมหาบุรุษเพียงหนึ่งเดียว ผู้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรมและคุณสมบัติอันเลอเลิศประเสริฐ อย่างถึงที่สุดด้วยลักษณาการทั้งปวง ชนิดที่บรรลุถึงขีดขั้นหาที่ติมิได้ หาที่เปรียบมิได้ และหาที่เสมอสองมิได้เท่าที่ประวัติศาสตร์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ จะพึงได้พบได้เห็นหรือได้รู้จัก แม้เพียงยลยินเพียงด้วยชื่ออย่างแท้จริงนั้น ย่อมไม่อาจที่จะเป็นใดอื่นไปได้อีกแล้ว นอกจากพระบรมศาสดาแห่งบวรพระพุทธศาสนา ผู้มีพระนามอันบังเกิดแต่พระคุณแห่งพระองค์เองทั้งสิ้นว่า “สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า” เป็นแน่นอน.... (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 15 ม.ค. 2010, 13:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() ครั้งหนึ่ง ท่านพระธรรมเสนาบดี สารีบุตร นั้นได้ตามไประลึกถึง พระพุทธคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในครั้งนั้นพระสารีบุตรได้เกิดความอัศจรรย์ใจว่า พระสัพพัญญูคุณนั้นเป็นอจินไตย ไม่มีข้อกำหนด มีอานุภาพมาก พระสัพพัญญูคุณเหล่านี้ เป็นโคจรแห่งพุทธญาณอย่างเดียวเท่านั้น โดยประการทั้งปวง มิได้เป็นโคจรแก่ผู้อื่นเลย พระพุทธคุณอันมีอานุภาพเป็นอจินไตยมีอาทิอย่างนี้คือ ๑. ศีลคุณ ๒. สมาธิคุณ ๓. ปัญญาคุณ ๔. วิมุตติคุณ ๕. วิมุตติญาณทัสสนคุณ ๖. หิริโอตตัปปะ ๗. ศรัทธา ๘. วิริยะ ๙. สติสัมปชัญญะ ๑๐. ศีลวิสุทธิ ๑๑. ทิฏฐิวิสุทธิ ๑๒. สมถะ ๑๓. วิปัสสนา ๑๔. กุศลมูล ๓ ๑๕. สุจริต ๓ ๑๖. สัมมาวิตก ๓ ๑๗. อนวัชชสัญญา ๓ (สัญญาที่ไม่มีโทษ) ๑๘. ธาตุ ๓ ๑๙. สติปัฏฐาน ๔ ๒๐. สัมมัปปธาน ๔ ๒๑. อิทธิบาท ๔ ๒๒. อริยมรรค ๔ ๒๓. อริยสัจ ๔ ๒๔. ปฏิสัมภิทา ๔ ๒๕. โยนิปริจเฉทกญาณ ๔ (ญาณกำหนดกำเนิด) ๒๖. อริยวงศ์ ๔ ๒๗. เวสารัชชญาณ ๔ ๒๘. ปธานิยังคะ ๕ (องค์เป็นที่ตั้งแห่งความเพียร) ๒๙. สัมมาสมาธิมีองค์ ๕ ๓๐. อินทรีย์ ๕ ๓๑. พละ ๕ ๓๒. นิสสรณิยธาตุ ๕ (ธาตุนำออกไป ) ๓๓. วิมุตตายตนญาณ ๕ (ญาณมีอายตนะพ้นไปแล้ว) ๓๔. วิมุตติปริปาจนียธรรม ๕ (ธรรมอันเป็นความงอกงามแห่งวิมุติ) ๓๕. สาราณิยธรรม ๖ ๓๖. อนุสสติ ๖ ๓๗. คารวะ ๖ ๓๘. นิสสรณิยธาตุ ๖ ๓๙. สัตตวิหารธรรม ๖ (ธรรมเป็นเครื่องอยู่เนื่องๆ) ๔๐. อนุตตริย ๖ ๔๑. นิพเพธภาคิสัญญา ๖ (สัญญาอันเป็นส่วนแทงตลอด) ๔๒. อภิญญา ๖ ๔๓. อสาธารณญาณ ๖ ๔๔. อปริหานิยธรรม ๗ ๔๕. อริยทรัพย์ ๗ ๔๖. โพชฌงค์ ๗ ๔๗. สัปปุริสธรรม ๗ ๔๘. นิททสวัตถุ ๗ (เรื่องชี้แจง) ๔๙. สัญญา ๗ ๕๐. ทักขิไณยบุคคลเทศนา ๗ ๕๑. ขีณาสวพลเทศนา ๗ (การแสดงถึงกำลังของพระขีณาสพ) ๕๒. ปัญญาปฏิลาภเหตุเทศนา ๘ (การชี้แจงถึงเหตุได้ปัญญา) ๕๓. สัมมัตตะ ๘ ๕๔. การก้าวล่วงโลกธรรม ๘ ๕๕. อารัมภวัตถุ ๘ (เรื่องปรารภ) ๕๖. อักขณเทศนา ๘ (การแสดงแบบสายฟ้าแลบ) ๕๗. มหาปุริสวิตก ๘ ๕๘. อภิภายตนเทศนา ๘ (การแสดงอายตนะของท่านผู้เป็นอภิภู) ๕๙. วิโมกข์ ๘ ๖๐. โยนิโสมนสิการมูลกะ ๙ (ธรรมเป็นมูลแห่งโยนิโสมนสิการ) ๖๑. ปาริสุทธิปธานิยังคะ ๙ (องค์แห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความเพียรอันบริสุทธิ์) ๖๒. สัตตาวาส ๙ ๖๓. อาฆาตปฏิวินัย ๙ (การกำจัดความอาฆาต) ๖๔. ปัญญา ๙ ๖๕. นานัตตเทศนา ๙ (การแสดงความต่างกัน) ๖๖. อนุปุพพวิหารธรรม ๙ ๖๗. นาถกรณธรรม ๑๐ ๖๘. กสิณายตนะ ๑๐ ๖๙. กุศลกรรมบถ ๑๐ ๗๐. สัมมันตะ ๑๐ ๗๑. อริยวาสะ ๑๐ ๗๒. อเสกขธรรม ๑๐ ๗๓. รตนะ ๑๐ ๗๔. ตถาตคพล ๑๐ ๗๕. เมตตานิสสังสะ ๑๑ (อานิสงส์เมตตา) ๗๖. อาการของธรรมจักร ๑๒ ๗๗. คุณธุตังคะ ๑๓ ๗๘. พุทธญาณ ๑๔ ๗๙. วิมุตติปริปาจนียธรรม ๑๕ ๘๐. อานาปานัสสติ ๑๖ ๘๑. อปรัมปริยธรรม ๑๖ (ธรรมที่ไม่เป็นปรัมปรา) ๘๒. พุทธธรรม ๑๘ ๘๓. ปัจจเวกขณญาณ ๑๙ ๘๔. ญาณวัตถุ ๔๔ ๘๕. อุทยัพพยญาณ ๕๐ ๘๖. กุศลธรรมเกิน ๕๐ ๘๗. ญาณวัตถุ ๗๗ ๘๘. มหาวชิรญาณอันเป็นจารีต ร่วมกับสมาบัติสองล้านสี่แสนโกฏิและเทศนญาณเป็นเครื่องค้นคว้าและพิจารณา ๘๙. สมันตปัฏฐาน อันมีนัยไม่มีที่สุด ๙๐. อาสยาทิญาณ - ญาณประกาศ (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 15 ม.ค. 2010, 13:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
อัธยาศัยเป็นต้นของส้ตว์ไม่มีที่สุด ในโลกธาตุ อันหาที่สุดมิได้ของ พระปัญญาธิกสัมสัมพุทธเจ้า อันไม่ทั่วไปแก่ผู้อื่น พระสารีบุตร นั้น เมื่อท่านตามระลึกถึงพระพุทธคุณก็มิสามารถที่จะทำให้ถึงที่สุดได้ ความอัศจรรย์ในพุทธคุณอันเป็นอจินไตย ได้เกิดขึ้นในครั้งนั้นอันพระสัพพัญญูคุณเหล่านี้ เป็นโคจรแห่งพุทธญาณอย่างเดียวเท่านั้นโดยประการทั้งปวง สมจริงดังที่ท่านกล่าวไว้ว่า "แม้พระพุทธเจ้าก็กล่าวคุณของพระพุทธเจ้า และหากแม้ว่ากล่าวถึงพระพุทธคุณแม้ตลอดกัปป์ กัปป์พึงเสื่อมสิ้นไปในระหว่างเวลายาวนานนั้นก่อน แต่พระคุณของพระตถาคต หาได้สิ้นไปไม่" ![]() ![]() ![]() (ที่มา : ปรมัตถทีปนีอรรถกถาจริยาปิฎก ในขุททกนิกาย) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:24 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() ![]() ~ พระคุณสุดพรรณนา ~ ข้าแต่ภควันต์ : พระองค์เป็นผู้ทรงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระกรุณาคุณ เป็นปฐมา จารย์ก่อนใครในการบำเพ็ญเพียรเผากิเลส ข้าแต่ภควันต์ : พระองค์ได้ทำลายความชั่วบาป และขจัดความโกรธแล้ว พระองค์ทรงเป็นพระสัพพัญญู ข้าแต่ภควันต์ : พระองค์ทรงชนะมารหมู่มาร พระองค์เสวยวิมุตติสุข และทรงตำหนิปฏิปทาแบบ ชาวบ้าน และหนทางที่ผิดพลาดทั้งหลาย ข้าแต่ภควันต์ : พระองค์ผู้มีพระบาทประดับด้วยจักร มีซี่ตั้งพัน ข้าพระองค์หาได้มีลิ้นเป็นพันไม่ ไฉนเลยจะกล่าวสรรเสริญพระคุณขององค์ได้หมดสิ้น ![]() ![]() ![]() (สีตไล สัตตนา มหากวีพุทธชาวทมิฬ (ศตวรรษที่ ๒) ในวรรณกรรมพุทธภาษาทมิฬชื่อ "มณีเมขไล") (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() ![]() พระบรมศาสดา ผู้รื้อขนสรรพสัตว์ออกจากทุกข์ เจ้าฟ้าชายสิทธารถ เยื้องย่างสง่างามบนพื้นดิน ทั้งในโลกนี้ เทวโลก และนรกทั้งหลาย พระบรมศาสดาของพวกเรา หาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ พระองค์เป็นผู้ได้รับเกียรติจากมหาชน ทรงเป็นผู้มีความปราถนาดีที่สุด องอาจที่สุด และเมตตาที่สุด ทรงเป็นบรมครูผู้สอนธรรม และพระนิพพาน ![]() ![]() ![]() (เซอร์ แอ็ดวิน อาร์โนลด์ ใน "ประทีปแห่งเอเชีย") (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:29 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ ~ เพราะค่าที่พวกเราได้นำเอาหลักคำสอนของพระองค์มาใช้ในชีวิตจริง พวกเราจึงควรถวายการอภิวาทสดุดีแต่พระองค์ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระบรมครูของมวลมนุษย์ ตลอดเวลาที่โลกนี้ยังดำรงอยู่ ข้าพเจ้ามั่นใจอย่างไม่หลงเหลือความเคลือบแคลงเลยแม้แต่น้อยว่า พระองค์จะทรงดำรงฐานะปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ![]() ![]() ![]() (มหาตม คานธี ใน "สุนทรพจน์ในพิธีพุทธชยันตี" ปี พ.ศ.๒๔๙๖ เมืองกัลกัตตา อินเดีย) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ พระมหาบุรุษผู้สูงสุด ~ ในวันเพ็ญพระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์นี้ ข้าพเจ้าได้มาร่วมเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ถวายภิวาทด้วยเศียรเกล้า แต่พระองค์ผู้ที่ข้าพเจ้ายอมรับนับถือด้วยใจจริงในฐานะมหาบุรุษ ซึ่งยากหนักหนาจะอุบัติขึ้นในโลกนี้... ในนานาประเทศที่ไกลโพ้น ชนทั้งหลายต่างยินดีปรีดาว่าร่วมฉลองการเสด็จมาของพระองค์ พวกเขาประกาศยืนยันว่า เพิ่งได้เคยพบเคยเห็นอุดมบุรุษผู้รุ่งเรืองสว่างไสว ดั่งดวงอาทิตย์ ซึ่งอุทัยขึ้นมาขับม่านเมฆแห่งความมือมนให้วินาศการไป ฉะนั้น ![]() ![]() ![]() (รพินทรนาธ ฐากุร ใน "วารสารมหาโพธิ" ฉบับ พ.ย.-ส.ค. ๒๕๐๔) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:34 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ อภิชาตบุตรผู้รุ่งโรจน์ ~ พระพุทธเจ้า โอรสแห่งภารตประเทศ เป็นผู้รุ่งโรจน์ที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุดและชาญฉลาดที่สุด ในโลกแห่งความขัดแย้ง เกลียด และเบียดเบียนกันนี้ พระธรรมคำสอนของพระองค์จึงเปล่งรัศมีเป็นประกาย ดั่งพระอาทิตย์ทรงกลด ฉะนั้น ![]() ![]() ![]() (ฯพณฯ ยวาหรลาล เนห์รู อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ พระผู้ทรงมหากรุณา ~ ไม่มีสิ้นสุด คือ พระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า ไม่มีพรมแดน คือ พระเมตตาของพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีต่อสรรพสัตว์ ดังนั้น พระองค์จึงมีพระนิมิตนามว่า "มหากรุณิยะ" หมายถึง "พระผู้ทรงมหากรุณาต่อสรรพสัตว์" พระปัญญาญาณ และพระเมตตาของพระพุทธเจ้านั้น ยากนักที่สติปัญญาสามัญของมนุษย์จะเข้าใจได้ ![]() ![]() ![]() (อนาคาริกะ ธัมมปาละ, ผู้บุกเบิกการรื้อพระพุทธศาสนา และก่อตั้งสมาคมมหาโพธิในอินเดีย ใน "โลกเป็นหนี้พระพุทธเจ้า") (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ กลุ่มก้อนแห่งคุณงามความดี ~ พระพุทธเจ้าคือ กลุ่มก้อนแห่งคุณงามความดีทั้งหมด ซึ่งพระองค์เองได้เทศนาสั่งสอนตลอดช่วงเวลา ๔๕ พรรษา แห่งการประการพรหมจรรย์อย่างสัมฤทธิ์ผล และน่าสังเกตนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงนำเอาพระดำรัสทั้งหมด ปรับปรุงไปสู่การกระทำจริง ไม่มีที่ใดเลย ที่พระพุทธองค์จะเปิดช่องให้กับความอ่อนแอ หรือกิเลสของมนุษย์ ดังนั้น หลักการทางศีลธรรมของพระพุทธเจ้าจึงสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่ชาวโลกเคยประสบมา ![]() ![]() ![]() (ศาสตราจารย์ แมกซ์ มีลเลอร์, นักภารตวิทยาคนสำคัญชาวเยอรมัน) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ มหาสักการะแต่พระพุทธเจ้า ~ พระพุทธเจ้าอาจได้รับการชี้วัดได้ง่าย ๆ ว่า ได้แก่ผู้ที่ได้รับการสักการบูชาจากมวลมนุษย์จำนวนมากที่สุด ![]() ![]() ![]() (ศาสตราจารย์ เสานเดอรส์ เลขานุการสมาคม วาย.เอ็ม.ซี.เอ. อินเดีย พม่า ศรีลังกา) (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:45 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ พระพุทธเจ้าอุปมาด้วยนายแพทย์ ~ พระพุทธเจ้าเป็นเสมือนนายแพทย์ เช่นคุณหมอที่ต้องทราบอาการของโรคต่าง ๆ รวมทั้งสมุฏฐานของใคร แม้ยาแก้และวิธีการเยี่ยวยา และสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยฉันใด พระพุทธเจ้าก็ฉันนั้น เหมือนกัน ทรงแสดง อริยสัจ ๔ ซึ่งชี้ถึงขอบเขตแห่งความทุกข์ เหตุเกิดแห่งความทุกข์ ความดับทุกข์และมรรค หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์ ![]() ![]() ![]() (ดร. เอ็ดเวิร์ด คอนซ์ ใน "พระพุทธศาสนา") (มีต่อ) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 16 ม.ค. 2010, 13:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
~ พระพุทธเจ้าคือวิถีชีวิต ~ ข้าพเจ้ารู้สึกมากขึ้น ๆ ตามลำดับว่า พระพุทธเจ้าศากยมุนีนั้น โดยบุคคลิกภาพแล้ว ทรงประทับอยู่ใกล้ชิดกับข้าพเจ้าที่สุด โดยความรักที่มีต่อพระองค์แล้ว พระพุทธเจ้าทรงเป็นทั้งมรรควิถี สัจธรรมความจริง และชีวิต ![]() ![]() ![]() (บิชอพ มิลแมน) (มีต่อ : กลวิธีการสอนของพระพุทธเจ้า) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 12 ม.ค. 2011, 21:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() ![]() ![]() ๑. ทรงสอนสิ่งที่เป็นจริง และเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง ๒. ทรงรู้เข้าใจสิ่งที่สอนอย่างถ่องแท้สมบูรณ์ ๓. ทรงสอนด้วยเมตตา มุ่งประโยชน์แก่ผู้รับคำสอนเป็นที่ตั้งไม่หวังผลตอบแทน ๔. ทรงทำได้จริงอย่างที่สอน เป็นตัวอย่างที่ดี ๕. ทรงมีบุคลิกภาพโน้มน้าวจิตใจให้เข้าใกล้ชิดสนิทสนม และพึงพอใจได้ความสุข ๖. ทรงมีหลักการสอน และวิธีสอนยอดเยี่ยม (มีต่อ : หลักทั่วไปในการสอน) |
เจ้าของ: | กุหลาบสีชา [ 12 ม.ค. 2011, 21:48 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: บรมศาสดา : บรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย |
![]() ![]() ![]() ๑. สอนจากสิ่งที่รู้เห็นเข้าใจง่าย หรือรู้เห็นเข้าใจอยู่แล้ว ไปหาสิ่งที่เห็นเข้าใจได้ยาก หรือยังไม่รู้ไม่เห็นไม่เข้าใจ ๒. สอนเนื้อเรื่องที่ค่อยลุ่มลึก ยากลงไปตามลำดับขั้น และความต่อเนื่องกันเป็นสายลงไป อย่างที่เรียกว่า สอนเป็น อนุบุพพิกถา.. ๓. ถ้าสิ่งที่สอนเป็นสิ่งที่แสดงได้ ก็สอนด้วยของจริง ให้ผู้เรียน ได้ดู ได้เห็น ได้ฟังเอง อย่างที่เรียกว่าประสบการณ์ตรง ๔. สอนตรงเนื้อหา ตรงเรื่อง คุมอยู่ในเรื่อง มีจุด ไม่วกวน ไม่ไขว้เขว ไม่ออกนอกเรื่องโดยไม่มีอะไรเกี่ยวข้องในเนื้อหา ๕. สอนมีเหตุผล ตรองตามเห็นจริงได้ อย่างที่เรียกว่า สนิทานํ ๖. สอนเท่าที่จำเป็นพอดี สำหรับให้เกิดความเข้าใจ ให้เการเรียนรู้ได้ผล ไม่ใช่สอนเท่าที่ตนรู้ หรือสอนแสดงภูมิว่าผู้สอนมีความรู้มาก ๗. สอนสิ่งที่มีความหมาย ควรที่เขาจะเรียนรู้ และเข้าใจ เป็นประโยชน์แก่ตัวเขาเอง อย่างพุทธพจน์ที่ว่า พระองค์ทรงมีพระเมตตา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลาย จึงตรัสพระวาจาตามหลัก ๖ ประการคือ ๑.) คำพูดที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - ไม่ตรัส ๒.) คำพูดที่จริง ถูกต้อง แต่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - ไม่ตรัส ๓.) คำพูดที่จริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ ไม่เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - เลือกกาลตรัส ๔.) คำพูดที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - ไม่ตรัส ๕.) คำพูดที่จริง ถูกต้อง ไม่เป็นประโยชน์ ถึงเป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - ไม่ตรัส คำพูดที่จริง ถูกต้อง เป็นประโยชน์ เป็นที่รักที่ชอบใจของผู้อื่น - เลือกกาลตรัส ลักษณะของพระพุทธเจ้าในเรื่องนี้ คือ ทรงเป็นกาลวาที สัจจวาที ภูตวาที อัตถวาที ธรรมวาที วินัยวาที (มีต่อ : เกี่ยวกับตัวผู้เรียน) |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |