ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
ม้าอาชาไนย และบุคคลอาชาไนย http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=18832 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | ทัพหลวง [ 30 ต.ค. 2008, 11:19 ] |
หัวข้อกระทู้: | ม้าอาชาไนย และบุคคลอาชาไนย |
ม้าอาชาไนย และบุคคลอาชาไนย ธรรมะ แปลว่า สภาวธรรมที่รักษาบุคคลไม่ให้ตกไปทางที่ชั่ว อุปมาเหมือนการที่เราจะข้ามฟากเราต้องอาศัยเรือ เรือจะรองรับคนที่ข้ามฟาก ธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเดียว บุคคลที่มีใจเป็นธรรมะนั้นย่อมไม่ตกไปในที่ชั่ว ฉันใดก็ฉันนั้น เราควรน้อมนำมาเมื่อได้ยินก็ดี เมื่อได้เห็นก็ดี เมื่อเห็นคนอื่นก็ดี ให้คิดว่าชีวิติของเราไม่แน่นอนเราต้องปลง ปลงว่าชีวิตไม่แน่นอน พยาธิจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้ จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และเวลาตายนี้เมื่อไร ตอนเช้า หรือตอนค่ำป่าช้าของกูนี่จะอยู่ที่ไหนหนอ อีกอย่างที่แน่นอนมีทางเดินอยู่ 3 ทางที่จะไปคือ จะไปนรก หรือสวรรค์ หรือมรรคผล นิพพาน ธรรมะที่มีอยู่ทั่วไปทั้งภายในและภายนอก พระพุทธองค์ก็ได้เอาสิ่งภายนอกมาเปรียบเทียบ เช่น ม้าอาชาไนย ครั้งหนึ่งพระพุทธองค์ได้แสดง แก่พระภิกษุทั้งหลายว่า “จัตตาโรเม ภิกขะเว ภัทรา อัสสาชานียา สันโต สังวิชชะมานา โลกัสะมิง” ม้าอาชาไนยซึ่งเป็นม้าที่ดีในโลกนี้มี 4 จำพวก ม้าอาชาไนยนี้เป็นม้าที่ฉลาดมากแต่ว่าเมื่อเกิดมาแล้วแม่ตาย แต่ม้าอาชาไนยนี้มีความฉลาด ฉลาดยังไง ตัวที่ 1 เวลาเจ้าของยกไม้แส้ขึ้นก็รู้แล้วว่าให้ทำอะไร ตัวที่ 2 คือเงื้อมือแล้วก็ลงแส้ต้องที่ปลายขนแล้วจึงไป ตัวที่ 3 ต้องแส้ลงที่ขุมขนมันจึงจะไป ตัวที่ 4 จะต้องลงถึงกระดูกมันถึงจะไป พระพุทธองค์ทรงเปรียบเทียบม้า 4 จำพวกนี้กับพระภิกษุทั้งหลายว่า “จัตตาดรเม ภกขะเว ภัทราปุริสาอาชานียา สันโต สังวิชชะมานา โลกัสะมิ่ง” บางคนได้ยินเท่านั้นเองก็รู้สึกแล้วว่าต้องทำอะไร แค่ได้ยินข่าว เช่น ได้ยินสิ่งที่ไม่ดีว่าฆ่ากันที่ในเมืองบ้าง รถยนต์ชนกันที่กรุงเทพฯตายได้ยินเท่านั้นเองก็รีบทำความดี รีบปฏิบัติ รีบศึกษาธรรมะ รีบทำประโยชน์ไว้ นี้พระพุทธองค์เรียกว่าอาชาไนยชั้น 1 เลย ได้ยินแล้วรีบทำ คนที่ 2 เห็นกับตารถชนกันเห็นเขาคอหักแขนหักเกิดสติสังเวชขึ้นมา ก็ลงมือทำความดีปฏิบัติธรรม ฟังธรรม คนที่ 3 เห็นญาติตัวเองเป็นโรค ประสพเรื่องร้ายแรง ก็คิดว่ามันจะต้องมาหาสักวัน ก็รีบทำความเพียร รีบศึกษา รีบปฏิบัติเลย คนที่ 4 เป็นตัวเองภัยมาถึงตัวแล้ว นี้แหละไม่นึกไม่ฝันว่าเป็นอย่างนี้ เกิดความกังวลขึ้นมาว่าเวลาตายไปแล้วจะเอาอะไรไปเป็นที่พึ่งรีบทำความดีให้ศาสนา และสังคม เราควรน้อมนำมาเมื่อได้ยินก็ดี เมื่อได้เห็นก็ดี เมื่อเห็นคนอื่นก็ดี ให้คิดว่าชีวิตของเราไม่แน่นอนต้องปลง ปลงว่าชีวิตไม่แน่นอนพยาธิจะมาเมื่อไรก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ และเวลาตายนี้เมื่อไร ตอนเช้า หรือตอนค่ำป่าช้าของกูนี่จะอยู่ที่ไหนหนอ อีกอย่างที่แน่นอนมีทางเดินอยู่ 3 ทางที่จะไปคือ จะไปนรก หรือสวรรค์ หรือมรรคผล นิพพาน http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/D ... ma1/18.htm |
เจ้าของ: | น้องพลอย [ 25 พ.ย. 2014, 10:22 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ม้าอาชาไนย และบุคคลอาชาไนย |
![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |