ลานธรรมจักร http://www.dhammajak.net/forums/ |
|
เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=46912 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | Hanako [ 05 ธ.ค. 2013, 16:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ |
![]() เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ หรือ เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ คือ เครื่องทรงของพระมหากษัตริย์สยาม ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี หรืออีกนัยหนึ่งเป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ ไทยรับประเพณีการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระมหากษัตริย์มาจากขอม ซึ่งรับทอดมาจากอินเดียอีกต่อหนึ่ง เป็นประเพณีสืบเนื่องมาจากลัทธิพราหมณ์ ที่มีพราหมณ์ (พระมหาราชครู) เป็นผู้กล่าวคำถวาย ตามคติความเชื่อว่าพระมหากษัตริย์เป็นสมมุติเทพ เครื่องราชกกุธภัณฑ์จึงล้วนเป็นสัญลักษณ์แห่งเทพทั้งสิ้น ประเพณีการถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของไทย มีปรากฏมาแต่ครั้งสมัยสุโขทัย และในสมัยอยุธยาก็ยึดถือพระราชประเพณีนี้ สืบต่อมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอุดลยเดชฯ ทรงเครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ กกุธภัณฑ์ หรือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ (อังกฤษ : Crown jewels) ตามรูปศัพท์ แปลว่า เครื่องใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ กกุธภัณฑ์ เป็นคำภาษาบาลี มาจาก กกุธ แปลว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฺฑ แปลว่า ของใช้ เครื่องราชกกุธภัณฑ์จึงหมายถึง อุปกรณ์, เครื่องทรง และ/หรือสิ่งอื่นๆ ที่เป็นของพระมหากษัตริย์ของประเทศต่างๆ ที่มอบให้แก่พระมหากษัตริย์องค์ต่อไป เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการมอบสิทธิในการครองราชบัลลังก์ เครื่องราชกกุธภัณฑ์อาจจะประกอบด้วย มงกุฎคทา, ลูกโลกประดับกางเขน, ดาบ, แหวน และสิ่งอื่นๆ ที่ถือว่า เป็นสิ่งประกอบเกียรติยศของประมุขของประเทศ กกุธภัณฑ์ ระบุไว้ในอภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๓๕๘ ว่า พระขรรค์ ฉัตร อุณหิส ฉลองพระบาท วาลวีชนี คือ มีฉัตรแทนธารพระกร กกุธภัณฑ์มีความสำคัญยิ่งเพราะเป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี จึงเป็นสิ่งที่จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เครื่องราชกกุธภัณฑ์ประกอบด้วย พระมหาเศวตฉัตร หรือพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร พระมหาพิชัยมงกุฎ พระแสงขรรค์ชัยศรี ธารพระกรชัยพฤกษ์ พัดวาลวิชนีและพระแส้จามรี ฉลองพระบาทเชิงงอน ในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๒ มีทั้งฉัตร ธารพระกร พระแสงขรรค์ พระแสงดาบ วาลวิชนี พระมหาพิชัยมงกุฎ และฉลองพระบาท รวมเป็น ๗ สิ่ง ![]() ![]() |
เจ้าของ: | Hanako [ 05 ธ.ค. 2013, 21:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์ |
![]() เครื่องเบญจสิริราชกกุธภัณฑ์นี้ และเครื่องราชกกุธภัณฑ์อื่นๆ เก็บรักษาไว้ ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในหมู่พระมหามนเทียร ภายในพระบรมมหาราชวัง เดิมเจ้าพนักงานที่รักษาเครื่องราชูปโภค ได้จัดพิธีสมโภชเครื่องราชูปโภคและเครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นประจำทุกปี โดยเลือกทำในเดือน ๖ เพราะมีพระราชพิธีน้อย จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่าวันพระบรมราชาภิเษก เป็นวันมงคล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บำเพ็ญพระราชกุศล สมโภชพระมหาเศวตฉัตรและเครื่องราชกกุธภัณฑ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ในปีพุทธศักราช ๒๓๙๔ พระราชทานชื่อว่า พระราชพิธีฉัตรมงคล ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เพิ่มการบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เปลี่ยนเรียกชื่อพระราชพิธีว่า พระราชกุศลทักษิณานุปทานและพระราชพิธีฉัตรมงคล สืบมาจนปัจจุบันนี้ ![]() ![]() ![]() พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร นพ=เก้า, ปฎล=ชั้น, เศวต=สีขาว เป็นฉัตร ๙ ชั้น สำหรับพระมหากษัตริย์ ที่ทรงรับพระราชพิธีบรมราชภิเษกตามโบราณราชประเพณีแล้ว ฉัตรแบบนี้เรียกโดยย่อว่า "พระมหาเศวตฉัตร" "พระมหาเศวตฉัตร" เป็นฉัตรผ้าขาว ๙ ชั้น มีระบาย ๓ ชั้น ขลิบทอง แผ่ลวด และมียอดเป็นราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญที่สุด มีที่ใช้คือ ปักที่พระแท่นราชอาสน์ราชบัลลังก์ กางกั้นเหนือพระแท่นที่บรรทมปักพระยานมาศ และแขวนกางกั้น พระโกศทรงพระบรมศพ เป็นต้น ![]() ![]() ![]() พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นหนึ่งในห้าของเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ อันเป็นเครื่องทรงของพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นเครื่องประดับพระเศียรองค์แรก สร้างขึ้นในรัชกาลที่ ๑ ในปีพุทธศักราช ๒๓๒๕ ทำด้วยทองคำลงยาบริสุทธิ์ ประดับเพชรเฉพาะองค์พระมหามงกุฎ ไม่รวมพระกรรเจียกจอน สูง ๕๑ เซนติเมตร ถ้ารวมพระกรรเจียกจอนสูง ๖๖ เซนติเมตร มีน้ำหนัก ๗.๓ กิโลกรัม ที่ยอดประดับเพชรเม็ดใหญ่ ซึ่งรัชกาลที่ ๔ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หามาจากเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย มาประดับที่ยอดพระมหามงกุฎ พระราชทานนามเพชรเม็ดนั้นว่า "พระมหาวิเชียรมณี" ![]() ![]() ![]() พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นพระแสงศาสตราวุธประจำองค์พระมหากษัตริย์ และเป็นหนึ่งในห้าของเบญจราชกกุธภัณฑ์ พระขรรค์ หมายถึง พระสติปัญญาความรอบรู้ในการปกครองบ้านเมือง พระแสงองค์นี้มีประวัติอันเก่าแก่ เดิมตกจมอยู่ในทะเลสาบเขมร (Tonle sap) ที่เมืองเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ประเทศกัมพูชา วันหนึ่งในปีพุทธศักราช ๒๓๒๗ ชาวประมงได้ทอดแหแล้วเห็นพระขรรค์องค์นี้ ชาวประมงผู้นั้นจึงนำมาถวาย เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (แบน) เจ้าเมืองเสียมราฐ และเจ้าเมืองเสียมราฐได้นำทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อวันที่พระแสงองค์นี้มาถึงกรุงเทพมหานคร ได้เกิดฟ้าผ่าในพระนครถึง ๗ แห่ง เช่นที่ประตูวิเศษไชยศรีในพระราชฐานชั้นนอก ประตูพิมานไชยศรี ในพระราชฐานชั้นกลาง ซึ่งเป็นทางที่อัญเชิญ พระแสงองค์นี้ผ่านไปเพื่อเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นพระแสงศาสตราวุธที่สำคัญที่สุด ในพระราชพิธีที่สำคัญ ได้แก่ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ทั้งด้ามและฝักมีความยาว ๑๑๕ เซนติเมตร ฝักกว้าง ๕.๕ เซนติเมตร ใบพระขรรค์ ทำด้วยเหล็กมีคมทั้งสองด้าน ส่วนด้ามทำด้วยแก้วผลึกรูป ๘ เหลี่ยม มีทองคาดตามแนว ปลายด้ามทำเป็นหัวเม็ดรูป ๖ เหลี่ยมประดับพลอย ตัวฝักทำด้วยทองคำประดับด้วยลายรักร้อย ขอบฝักทำเป็นลายกระหนก ประดับอัญมณีสีต่างๆ ![]() ![]() ![]() ธารพระกร อันเป็นหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ หรือเป็นไม้เท้าของพระมหากษัตริย์นั้น เดิมเรียกว่า ธารพระกรชัยพฤกษ์ เนื่องจากทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ หุ้มทอง หัวและส้นเป็นเหล็ก คร่ำลายทอง ใช้ในพระราชพิธีฉัตรมงคล ![]() ![]() ![]() พัดวาลวิชนี และพระแส้หางจามรี เป็นเครื่องใช้ประจำองค์พระมหากษัตริย์ และเป็นหนึ่งในห้าของเบญจราชกกุธภัณฑ์ พระแส้หางจามรี มีที่มาจากคำว่า "จามรี" ซึ่งเป็นแส้ ทำด้วยขนหางจามรี ส่วน วาลวิชนี เดิมนั้นคือ พัดใบตาล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริว่า ชื่อ วาลวิชนี นั้น คำว่า "วาล" เป็นขนโคชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า "จามรี" จึงทรงทำแส้ขนจามรีขึ้น มีด้ามเป็นแก้ว ต่อมา ได้เปลี่ยนขนจามรีเป็นขนหางช้างเผือกแทน และใช้คู่กันกับพัดวาลวิชนี ซึ่งประดิษฐ์จากใบตาล ด้ามและลวดลายประกอบทำด้วยทองลงยา ![]() ![]() ![]() ฉลองพระบาทเชิงงอน เป็นสิ่งประจำองค์พระมหากษัตริย์ และเป็นหนึ่งในห้าของเบญจราชกกุธภัณฑ์ หรือรองเท้าของพระมหากษัตริย์ที่ทำมาจากเกือกแก้ว ซึ่งหมายถึง ผืนแผ่นดินอันเป็นที่รองรับของเขาพระสุเมรุ และเป็นที่อยู่อาศัยของ อาณาประชาราษฎร์ทั่วทั้งแว่นแคว้น ฉลองพระบาทเชิงงอนนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ตามแบบประเพณีอินเดียโบราณ ![]() ![]() ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ http://www2.crma.ac.th/arm/CrownJewels.asp http://www.thaigeneralkonsulat.de/th/cu ... gnien.html http://library.stou.ac.th/ODI/Thai%20co ... lia-1.html อ่านเพิ่มเติมจากกระทู้ข้างล่างนี้ การเสด็จออกมหาสมาคมต่างจังหวัดครั้งแรก และพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=46911 พระราชดำรัสของในหลวง ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=46910 ทำไมประธานศาลฎีกา ไม่ได้ถวายพระพรชัยมงคลฯ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ นี้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=25&t=46914 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |